ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1478 สำเร็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1480 รอยยิ้มเล็กๆ 

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1479 หลอมรวมคู่ขนาน (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1479 หลอมรวมคู่ขนาน (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย ภูเขาผนึกสวรรค์

มันเคยเป็นสถานที่ผนึกร่างผีดิบอมตะของฟางหยวน

ภูเขาลูกนี้ถูกเรียกว่าภูเขาผนึกสวรรค์เพราะมันหมายถึงการผนึกเจตจำนงสวรรค์

ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศและมองลงไปที่ภูเขาผนึกสวรรค์โดยมีผมที่หกอยู่ข้างกาย

การอนุญาตให้ผมที่หกเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเป็นสิ่งที่ฟางหยวนไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว

โดยปกติมิติช่องว่างของผู้อมตะจะถูกเก็บไว้เป็นความลับเพราะมันเป็นรากฐานของพวกเขา

แต่ฟางหยวนอนุญาตให้สมาชิกนิกายเงาเข้ามาในมิติช่องว่างของเขาก่อนแล้ว ขณะที่ผมที่หกก็เป็นหนึ่งในสมาชิกนิกายเงา ดังนั้นฟางหยวนจึงมอบความไว้วางใจให้ผมที่หกเช่นกัน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผมที่หกช่วยฟางหยวนหลอมรวมวิญญาณอมตะอย่างเต็มความสามารถ ฟางหยวนสามารถเห็นถึงความตั้งใจจริงของเขาและจดจำมันไว้

เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือผมที่หกและอิงอู๋เซี่ยสามารถติดต่อกัน พวกเขาเป็นสมาชิกนิกายเงาตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นทั้งสองจึงเข้าใจมิติช่องจักรพรรดิเป็นอย่างดี เมื่ออิงอู๋เซี่ยเคยเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะซ่อนสิ่งนี้จากผมที่หกอีก

“ข้าจะเริ่มหลมอรวมวิญญาณแล้ว” ฟางหยวนกล่าว

ผมที่หกพยักหน้า “ท่านผู้นำ ข้าจะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”

การหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาในครั้งนี้มีความสำคัญมาก ฟางหยวนต้องการความช่วยเหลือจากผมที่หก

นอกจากนั้นฟางหยวนยังยืมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมมาจากนิกายหลางหยาเพื่อใช้พวกมันจัดตั้งค่ายกลวิญญาณ

โดยการใช้ลูกพลัมแดงอมตะเป็นเชื้อเพลิง ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นใช้งานในที่สุด

คลื่นแสงสีขาวอาบย้อมภูเขาผนึกสวรรค์เอาไว้ทั้งหมด

ครู่ต่อมาฟางหยวนก็ใช้ท่าไม้ตายอมตะที่เตรียมไว้

“บึม!”

เสาแสงสีทองขนาดใหญ่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและทะลวงลึกลงไปยังจุดศูนย์กลางของภูเขาผนึกสวรรค์

เสาแสงสีทองปะทะร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนและกลืนกินมันเข้าไป

หลังจากนั้นฟางหยวนก็นำสัตว์อสูรเดียวดายที่มีชีวิตออกมา

“ฉับ!”

แสงดาบพุ่งตัดศีรษะของสัตว์อสูรเดียวดายออกทันที

“พรวด!”

เลือดจำนวนมากทะลักออกมาจากลำคอที่ปราศจากศีรษะของสัตว์อสูรเดียวดายราวกับน้ำพุสีแดง

กลิ่นคาวเลือดกระจายออกไปขณะที่เลือดของสัตว์อสูรเดียวดายถูกเสาแสงสีทองดูดกลืนเข้าไป

ในไม่ช้าซากศพของสัตว์อสูรเดียวดายก็แห้งเหี่ยวลงเมื่อเลือดของมันถูกดูดออกไปจนหมด

ปรากฏร่องรอยของแสงสีแดงเลือดอยู่ภายในเสาแสงสีทอง นั่นทำให้มันดูน่ากลัวและทรงพลังมากกว่าก่อนหน้า

ฆ่า ฆ่า ฆ่า...

ฟางหยวนฆ่าสัตว์อสูรเดียวดายเจ็ดตัวอย่างไร้ปรานี

เสาแสงสีทองดูดซับเลือดของสัตว์อสูรเข้าไปทั้งหมดและเปลี่ยนเป็นเสาแสงสีแดงเลือดอย่างสมบูรณ์

ผมที่หกพยักหน้า

เขาตระหนักว่าวิธีที่ฟางหยวนใช้คือท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือดที่เรียกว่าเจ็ดสังหาร วิธีนี้มาจากนิกายหลางหยา ผมที่หกเคยได้ยินชื่อของมันแต่ไม่รู้รายละเอียด

ฟางหยวนวิเคราะห์ท่าไม้ตายนี้และนำแก่แท้ของมันมาปรับเปลี่ยนกระทั่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในครั้งนี้

แม้แต่ผมที่หกยังรู้สึกชื่นชม

ฟางหยวนควบคุมเสาแสงสีเลือดขณะที่ผมที่หกเริ่มเคลื่อนไหว

ผมที่หกมีงานใหญ่รออยู่

โดยไม่จำเป็นต้องรอสัญญาณจากฟางหยวน ผมที่หกรู้ว่าเขาต้องทำสิ่งใด

เขานำวัสดุในการหลอมรวมออกมา

มันเป็นดอกไม้หลากหลายชนิด มีดอกทานตะวันหน้าผี ดอกฝ้าย ดอกไม้สวรรค์ ดอกไม้เจ็ดสมบัติ ดอกชานม ดอกเปลือกหอยเหล็ก ดอกเรือใบ ดอกโลหิตพิษ ดอกไม้แสงหลากสี และอื่นๆ

ดอกไม้บางชนิดเป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ขณะที่บางชนิดเป็นทรัพยากรอมตะ

ผมที่หกเริ่มแปรรูปดอกไม้เหล่านี้

การจัดการวัสดุในการหลอมรวมต้องใช้ความรู้ที่กว้างขวาง

โชคดีที่ผมที่หกบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขามีประสบการณ์มากมาย ในฐานะร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ รากฐานของเขายิ่งล้ำลึกและสามารถจัดการดอกไม้เหล่านี้ได้อย่างไม่มีปัญหา

หลายนาทีผ่านไป ผมที่หกแปรรูปดอกไม้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

แก่นแท้ของพวกมันถูกสกัดออกมาและหลอมรวมเป็นหนึ่ง

ฟางหยวนควบแน่นเสาแสงสีเลือดให้เล็กลง

“ของเหลวพร้อมแล้ว” ผมที่หกส่งน้ำดอกไม้ที่ดูราวกับฟองอากาศลอยเข้าไปหาฟางหยวน

ฟางหยวนคว้ามันเอาไว้

เขาสูดหายใจก่อนที่เมฆสีดำจะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ฟางหยวนคำรามและโยนน้ำดอกไม้ขึ้นไปด้านบน

น้ำดอกไม้พุ่งเข้าสู่ก้อนเมฆสีดำและเปลี่ยนมันให้เป็นสีชมพู

สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา

ฟางหยวนแสดงออกอย่างเคร่งขรึม นิ้วของเขาขยับอย่างรวดเร็วจนสร้างเป็นภาพติดตา

ฝนสีชมพูผสานเข้ากับเสาแสงสีเลือดและหลอมรวมกับร่างผีดิบอมตะ

อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้

เสาแสงสีเลือดค่อยๆหดตัวลงและหายไปอย่างสมบูรณ์

ค่ายกลวิญญาณถูกกระตุ้นใช้งานอย่างเต็มที่

ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ยกลระดับปรมาจารย์และแสงแห่งปัญญา เขาสามารถคิดค้นค่ายกลวิญญาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหลอมรวมวิญญาณของเขา

ค่ายกลวิญญาณทำงานอย่างต่อเนื่องขณะที่ฟางหยวนนำท่อนไม้สีเหลืองอำพันที่มีลวดลายเหมือนก้อนเมฆออกมา

มันคือทรัพยากรอมตะไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายเมฆสีทอง

ฟางหยวนส่งมันเข้าไปในค่ายกลวิญญาณราวกับเชื้อเพลิง

ไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายเมฆสีทองแตกสลายไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไม้ก็ก่อตัวขึ้นบนร่างผีดิบอมตะ

ฟางหยวนสูดหายใจลึกและกล่าวกับผมที่หก “เข้าแทนที่ข้า”

หลังจากแปรรูปดอกไม้ ผมที่หกมีเวลาพักผ่อนเล็กน้อย กระทั่งเขาได้ยินคำสั่งของฟางหยวน เขาจึงเข้าควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะ

ฟางหยวนนั่งลงพักผ่อน

แม้กระบวนการทั้งหมดจะราบรื่นมาก แต่ในความเป็นจริงทุกย่างก้าวราวกับการเหยียบลงบนชั้นน้ำแข็งบางๆ เขาใช้จ่ายพลังงานอมตะไปเป็นจำนวนมากขณะที่จิตใจของเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล

แม้เขาจะมาถึงจุดนี้แต่เขาก็แทบไม่สามารถดำเนินการต่อ

มันอันตรายที่จะดำเนินการต่อไปในสภาพนี้ ดังนั้นฟางหยวนจึงเลือกที่จะพักผ่อนและปล่อยให้ผมที่หกเข้าแทนที่

หลังจากทั้งหมดการหลอมรวมวิญญาณอมตะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยปกติผู้อมตะจะไม่สามารถเข้าแทนที่ในการหลอมรวมวิญญาณของอีกคนได้โดยง่าย

เนื่องจากแต่ละคนมีแก่นแท้และกลิ่นอายที่แตกต่างกัน มันจะเกิดความขัดแย้งและข้อบกพร่องมากมายในการหลอมรวมวิญญาณ

แต่ฟางหยวนอนุมานมาอย่างชัดเจนแล้ว เขาออกแบบทุกขั้นตอนมาอย่างพิถีพิถันและจะไม่พบปัญหาดังกล่าว