WS บทที่ 178 การเปลี่ยนแปลงของจี้ห้อยคอ
อีกครั้งหนึ่ง เมอร์ลินและพ่อมดฮิลล์กลับมายังที่พักของพ่อมดเบอร์ตัน ชายชรารีบออกไปเตรียมทำยาผงม่วง ขณะที่เมอร์ลินเพิ่งได้รับส่วนผสมสำหรับน้ำยาบลูเบอร์รี่ เขาไปที่ห้องของเขาทันทีโดยไม่พูดคุยอะไรกันเพิ่มเติม
เมอร์ลินคุ้นเคยกับขั้นตอนที่จำเป็นในการทำน้ำยาบลูเบอร์รี่เป็นอย่างดีและเขาเกือบจะควบการใช้ไฟได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นอัตราความสำเร็จของน้ำยาบลูเบอร์รี่จึงจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมอร์ลินรีบคว้าส่วนผสมของน้ำยาบลูเบอร์รี่และเริ่มเตรียมยาตามคำแนะนำของเดอะเมทริกซ์
...
สามวันผ่านไป ในที่สุด เมอร์ลินก็ได้ผสมส่วนผสมชุดสุดท้ายของน้ำยาบลูเบอร์รี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว อัตราความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากส่วนผสมเก้าชุด เขาสามารถปรุงน้ำยาสำเร็จสี่ชุด ด้วยอัตราความสำเร็จนี้ เห็นได้ชัดว่าเมอร์ลินพัฒนาขึ้นอย่างมากขึ้น จากตอนที่เขาปรุงยาครั้งแรก
เมื่อเมอร์ลินดื่มน้ำยาบลูเบอร์รี่ทั้งสี่ขวด พลังจิตของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกว่าพลังจิตของเขาในตอนนี้ใกล้จะสร้างคาถาระดับหนึ่งอันที่สามได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้สามารถสร้างได้เพียงคาถาระดับหนึ่งแบบธรรมดาเท่านั้น คาถาระดับแบบพิเศษอย่างคาถาน้ำค้างเยือกแข็งกับเขตแดนแสงดำ เขารู้สึกว่ามันท้าทายเกินไป
หลังจากครุ่นคิด เมอร์ลินตัดสินใจว่าควรรอจนกว่าพลังจิตของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่จะพยายามสร้างคาถาน้ำค้างเยือกแข็งกับเขตแดนแสงดำ เมอร์ลินไม่รีบเร่งที่จะสร้างคาถาระดับหนึ่งอีก ตราบใดที่เขามีคาถาป้องกันระดับหนึ่งและคาถาโจมตีระดับหนึ่ง แค่นี้เขาก็พอที่จะเอาตัวรอดได้บ้างแล้ว
เมอร์ลินลุกขึ้นและเปิดประตู เมื่อเขาก้าวออกไปข้างนอก เขาก็รู้สึกว่าวันนี้อากาศดีมาก แสงแดดอันอบอุ่นส่องผ่านก้อนเมฆลงมา
“อ้าว พ่อมดเมอร์ลิน! สวัสดี”
พ่อมดเบอร์ตันที่นอนอยู่ในลานบ้าน เห็นเมอร์ลินเดินออกจากห้องและยิ้มให้เขา
“พ่อมดเบอร์ตัน พ่อมดฮิลล์ยังไม่ออกมาจากห้องอีกหรือ?”
เมอร์ลินมองไปทางห้องของพ่อมดฮิลล์และเห็นว่าประตูยังปิดอยู่ ดูเหมือนว่าชายชราจะยังไม่ออกมา
พ่อมดเบอร์ตันจ้องไปที่ห้องของชายชราในชุดดำอย่างจดจ่อ เขาส่ายหัวและกล่าวว่า "ฮิลล์ เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากโครงสร้างเวทมนต์ที่ไม่เสถียรมาหลายปีแล้ว แม้ว่ายาจะช่วยเขาในการรักษาความเสถียรแต่มันก็ไม่ง่ายที่เขาปรุงยาเพิ่มได้อย่างรวดเร็ว ด้วยปริมาณของส่วนผสมขอน้ำยาผงม่วงที่ข้าเตรียมไว้สำหรับเขา มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนถึงเขาจะออกมา"
เมอร์ลินพยักหน้าและยิ้ม “ฉันคิดว่าฉันจะไปเดินเล่นดูรอบ ๆ เมืองโฟลตติ้งดูสักหน่อย”
“โอ้! ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับเมืองโฟลตติ้งเป็นอย่างดี ถ้าไม่รังเกียจ ข้าขออาสาพาท่านชมรอบเมืองให้เอง” พ่อมดเบอร์ตันยิ้มขณะพูด เห็นได้ชัดว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อเมอร์ลินดีขึ้น
“พ่อมดเบอร์ตันเชิญมาแบบนี้ ฉันจะปฏิเสธได้อย่างไร”
เมอร์ลินไม่คัดค้านไมตรีจากพ่อมดเบอร์ตัน เขาเองก็ไม่อยากเดินเตร่ไปมาอย่างไร้จุดหมาย เขาต้องการทำความคุ้นเคยกับเมืองโฟลตติ้งอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้เมอร์ลินกับพ่อมดเบอร์ตันจึงออกจากลานบ้านและมุ่งข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
…
เมอร์ลินซึ่งสวมชุดคลุมสีดำเดินเล่นไปตามถนนของเมืองโฟลตติ้งกับพ่อมดเบอร์ตัน
ตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้า จึงทำให้ตัวเมืองถูกห้อมล้อมด้วยหมอก โชคดีที่มันเป็นที่พำนักของนักเวทย์ซึ่งทุกคนมีพลังจิตดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับการมองเห็น
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มอุ่นขึ้น สายหมอกก็ค่อยๆ สลายไป เหล่านักเวทย์หลายคนเริ่มออกมาซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเทมต่าง ๆ บนท้องถนน มีพวกส่วนผสมต่าง อุปกรณ์เวทมนต์หรือแม้แต่ตำราคาถาก็มีเช่นกัน
เมอร์ลินมองไปรอบ ๆ พวกส่วนผสมยาทั้งหมดนั้นเป็นของธรรมดา ส่วนอุปกรณ์เวทมนต์นั้นก็ดูเรียบง่ายเช่นกัน สำหรับตำราคาถา พวกมันส่วนใหญ่เป็นคาถาระดับศูนย์ มีคาถาระดับหนึ่งบ้างประปรายแต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นคาถาธรรมดาทั่ว ๆ ไป
เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของเมอร์ลิน พ่อมดเบอร์ตันก็หัวเราะคิกคักออกมา “พ่อมดเมอร์ลิน ของเหล่านี้มีไว้เพื่อนักเวทย์ระดับเริ่มต้นหรือนักเวทย์ระดับหนึ่งบางคน พวกมันเป็นของทั่ว ๆ ไปที่ใช้เพียงหินธาตุสองสามก้อนก็สามรถซื้อได้แล้ว บางครั้งก็มีของดีมาขายที่นี่เช่นกันแต่มันน้อยมาก หากท่านต้องการดูพวกของดี ๆ สักชิ้น ข้ามีสถานที่แห่งที่จะพาท่านไป”
เมอร์ลินพยักหน้า เขารู้สึกว่าของพวกนี้ที่ออกมาวางขายในบริเวณนี้นั้น มันทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก แน่นอนว่าในเมืองที่ใหญ่เช่นนี้ จะต้องมีสถานที่ขายของที่น่าดึงดูดมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถดึงดูดเหล่านักเวทย์จากองค์กรนักเวทย์ได้แน่นอน
เมอร์ลินตามพ่อมดเบอร์ตันไปและไม่นานพวกเขาก็มาถึงอาคารเล็กๆ
ตัวอาคารมีสามชั้น ดูจากภายนอกสถานที่แห่งนี้เหมือนกับปราสาทหลังเล็กๆ
“พ่อมดเมอร์ลิน ที่นี่คืออาคารสเตอร์ลิ่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของยา อุปกรณ์เวทมนต์ ตำราคาถาหรืออื่น ๆ ท่านสามารถหามันทั้งหมดได้ที่นี่ ที่นี่น่าจะมีของที่ถูกใจท่าน!”
เมื่อพ่อมดเบอร์ตันพูดจบ เขาก็พาเมอร์ลินเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว
เมอร์ลินเดินเข้ามาและเห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง ทุกคนสวมชุดคลุมรูน เสื้อคลุมมีลวดลายอักษรรูนลึกลับที่บ่งบอกพลังป้องกันของมัน
พวกมันอาจไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับเสื้อคลุมรูนที่มอบให้กับสมาชิกอย่างเป็นทางการของดินแดนมนต์ดำแต่พวกมันคล้ายกันมาก อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่พ่อมดพเนจรสามารถเป็นเจ้าของอุปกรณ์เวทมนต์ได้
แม้แต่เมอร์ลินเองก็ยังไม่ได้รับอุปกรณ์เวทมนต์สักชิ้นตั้งแต่เขาเข้าร่วมกับดินแดนมนต์ดำ
ทันทีที่เมอร์ลินและพ่อมดเบอร์ตันเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ก็ผู้หญิงผมสีน้ำตาลก็เข้ามาทักทายพกเขา ผู้หญิงคนนั้นมีเสน่ห์และสวมเสื้อคอกว้างเกือบจะเผยให้เห็นยอดถันที่อยู่ด้านล่าง
“ยินดีต้อนรับพวกท่านสู่อาคารสเตอร์ลิ่ง พวกท่านมีอะไรให้ฉันช่วยเหลือหรือไม่” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลซึ่งจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจ
พ่อมดเบอร์ตันไม่ขยับเขยื้อนและตอบอย่างใจเย็นว่า "พาพวกเราไปเดินชมรอบ ๆ ที"
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ถ้าอย่างงั้น ฉันจะพาพวกคุณไปดูอุปกรณ์เวทมนต์ของเรา”
เมื่อเธอพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็เดินนำทางเมอร์ลินและพ่อมดเบอร์ตันไป
"พ่อมดเบอร์ตัน เธอคือนักเวทย์ใช่ไหม" เมอร์ลินถามด้วยเสียงเบา
พ่อมดเบอร์ตันพยักหน้า “ใช่ ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเข้ามาที่น่ำได้ ดังนั้นเธอจะต้องเป็นนักเวทย์แน่นอน ท่านคงไม่คิดว่านักเวทย์ผู้สูงศักดิ์จะมาทำอะไรแบบนี้สินะ ฮ่าฮ่า ท่านไม่ควรประมาทพวกเขา พ่อมดพเนจรหลายคนใฝ่ฝันที่จะมาสถานที่แห่งนี้ ที่นี่มีทรัพยากรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตำราคาถา อุปกรณ์เวทมนต์ น้ำยาและอื่น ๆ ขอแค่ท่านเป็นสมาชิกของอาคารสเตอร์ลิ่ง ท่านก็จะเพลิดเพลินกับของพวกนั้นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
การเป็นสมาชิกของที่นี่ ก็ไม่ต่างกับเป็นสมาชิกขององค์กรนักเวทย์เลย"
เมื่อได้ฟังคำอธิบายอย่างละเอียดของพ่อมดเบอร์ตันเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกของอาคารสเตอร์ลิ่ง เมอร์ลินรู้สึกตกใจ เขารู้สึกเหลือเชื่อมากว่าการเป็นสมาชิกของสถานที่แห่งนี้ก็ได้รับประโยชน์เช่นเดียวกับสมาชิกองค์กรนักเวทย์!
ตอนนี้เมอร์ลินได้เข้าร่วมในฐานะสมาชิกชั่วคราวของดินแดนมนต์ดำ การเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการนั้น เขาจะต้องเลื่อนขั้นเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งภายในสามปี
สำหรับองค์กรอื่น ๆ ก็น่าจะมีหลักเกณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน การเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่สถานที่ที่นี้ให้การปฏิบัติต่อสมาชิกของพวกเขาซึ่งเกือบจะเทียบเท่ากับนักเวทย์ขององค์กรจะได้รับความสนใจจากพ่อมดพเนจรมากมาย แม้แต่เขาเองก็เช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวทรงเสน่ห์ก็พาเมอร์ลินและพ่อมดเบอร์ตันเข้าไปในห้องโถงใหญ่บนชั้นสองซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทมนต์มากมาย
ที่นี่มีแขกคนอื่น ๆ อีกสองสามคนอยู่ด้วย พวกเขาก็มีหญิงสาวคอยให้คำแนะนำพวกเขาเช่นกัน
“ท่านนักเวทย์ ทำไมท่านไม่ลองดูไม้เท้าเวทมนตร์ดูล่ะ ไม้เท้านี้สามารถเพิ่มระยะของคาถาของท่านได้แล้วช่วยให้ท่านโจมตีได้อย่างแม่นยำด้วย”
เมอร์ลินและพ่อมดเบอร์ตันดูไม่ประทับใจ ดังนั้นหญิงสาวจึงแนะนำอุปมนต์เวทมนต์ลำดับถัดไปทันที
“แล้วเสื้อคลุมรูนล่ะ? หากท่านสวมใส่แล้ว อักษรรูนทั้งสามที่จารึกไว้ทำให้สามารถต้านทานคาถาระดับสองได้ มีข่าวลือว่าเสื้อคลุมนี้เลียนแบบมาจากศาสตร์อักษรรูนอันลึกลับของดินแดนมนต์ดำ หากท่านได้ลองเสื้อคลุมนี้ท่าจะไม่ต่างจากสมาชิกของดินแดนมนต์ดำเลย”
เมอร์ลินรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเสื้อคลุมนี้จะเลียนแบบเสื้อคลุมรูนจากดินแดนมนต์ดำ ตอนเขาอยู่ในดินแดนมนต์ดำ เขาเห็นเสื้อคลุมเหล่านี้จำนวนมากและแม้ว่ามันจะดูคล้ายกันมากแต่มันก็มีความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างไรก็ตาม หากสามารถทนต่อคาถาระดับสองทั่วไปได้จริง ๆ มันจะมีสามารถที่เหนือเสื้อคลุมรูนของแท้ของสมาชิกอย่างเป็นทางการของดินแดนมนต์ดำ
เมอร์ลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็ถามหญิงสาวทรงเสน่ห์ว่า “เสื้อคลุมตัวนี้ใช้หินธาตุเท่าไหร่?”
หญิงที่มีเสน่ห์ยิ้มอย่างเรียบ ๆ และตอบอย่างเบา ๆ ว่า "เสื้อคลุมรูนตัวนี้ไม่แพงมากนัก มันมีราคาเพียงหนึ่งพันหินธาตุเท่านั้น!"
“หนึ่งพันหินธาตุ?”
เมื่อเมอร์ลินได้ยินเรื่องนี้ เขาก็อดยิ้มพลางส่ายหัวไม่ได้ เมอร์ลินอยู่ภายใต้ความเชื่อว่าเขาเป็นเจ้าของหินคริสตัลธาตุจำนวนมาก เขาได้รับบางส่วนจากชายชราผมเงินและอีกมากจากพ่อมดวิกซ่าและพ่อมดนีล เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว เขายังเหลือหินคริสตัลธาตุอยู่ประมาณเจ็ดหรือแปดร้อยก้อนเท่านั้น
“ลืมมันไปเถอะ เราไปดูของอย่างอื่นดีกว่า” เมอร์ลินพูดอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เขายังคงส่ายหัว
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์พยายามอ่านการแสดงออกของเขา เธอสามารถบอกได้ว่าเมอร์ลินไม่มีหินคริสตัลธาตุนับพันก้อนให้ใช้ เธอจึงพาเขาไปที่ส่วนที่แสดงอุปกรณ์เวทมนต์ราคาถูก
เมื่อพวกเขามาถึงส่วนนี้ มีอุปกรณ์เวทมนต์มากมายวางเรียงเป็นระเบียบแสดงอยู่ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เมอร์ลินจะได้มองใกล้ๆ พวกเขา จี้ที่เขาสวมรอบคอนั้นก็เริ่มส่งกลิ่นไอร้อนออกมา ทำให้ เมอร์ลินรู้สึกตกใจในทันที
เนื่องจากเมอร์ลินใช้จี้สำหรับลูกไฟยักษ์ไปจนหมด ด้วยความที่มันชำรุดก่อนหน้านี้จึงทำให้หลังจากนั้นเขาไม่สามารถมันได้อีก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจี้กำลังแสดงปฏิกิริยาออกมา เมอร์ลินตกตะลึงและหันความสนใจไปที่อุปกรณ์เวทมนต์ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าเขา