195-196
5/8
Ep.195
เมื่อซูเฉินกลับมา หวู่หยางและคนอื่นๆยังคงวุ่นอยู่กับการขุดหินพลังงาน
หลังจากทักทายหวู่หยาง เขาก็ขึ้นไปบนรถศึกอัจฉริยะ นั่งลงเบื้องหน้าจอควบคุมส่วนกลาง และมองดู
เป้าหมายต่อไปคือการล่าสัตว์กลายพันธุ์
จากข้อมูลที่เพิ่งได้รับมา มีสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากอยู่ในเทือกเขาเหยกู่
ซูเฉินต้องการทราบตำแหน่งของเทือกเขาเหยกู่ตั้งแต่เนิ่นๆ
หลังจากค้นหาบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เขาก็สามารถระบุตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจงของเทือกเขาเหยกู่ได้
มองไปยังเส้นทางการเดินทาง พบว่ามันอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ถึงพันไมล์
ด้วยความเร็วในปัจจุบันของ [รถศึกอัจฉริยะ] หากสั่งให้มันขับเคลื่อนเต็มกำลัง น่าจะใช้เวลาไม่ถึงแปดชั่วโมง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูเฉินก็เอนตัวลงบนเบาะที่นั่ง หรี่ตาลง เริ่มใช้ความคิด
วันนี้ ถือเป็นวันที่สามารถกอบโกยได้มากที่สุดสำหรับเขา
อย่างแรกเลย เขาสามารถล่ากองกำลังซอมบี้ทั้งกอง ได้รับหินพลังงานและชิ้นส่วนเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังได้รับข้อมูลสำคัญมาจากหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรี ว่าเผ่าปีศาจราตรีกำลังคิดลงมือกับเผ่ามนุษย์ในทวีปเสวียนเทียน
ยังไม่พอ เรื่องราวของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ เป็นประโยชน์แก่เขามากเช่นกัน
เผ่าปีศาจราตรี , เผ่าเทพ , เผ่าอมตะ , เผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ และเผ่ามายา แต่ละเผ่าพันธุ์ล้วนแข็งแกร่งกว่าเผ่ามนุษย์เป็นร้อยเท่า
นอกจากนี้ ทุกเผ่าพันธุ์ที่กล่าวมาอาจมีผู้แข็งแกร่งที่เลเวลมากกว่า 10
ซูเฉินพอจะจินตนาการได้ ว่าในอนาคตเขาคงต้องเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์เหล่านี้อย่างแน่นอน และอาจเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากเป็นมนุษย์คนอื่น เมื่อรู้ตัวว่าตนต้องเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังมากมายขนาดนี้ เกรงว่าคงถูกความกลัวครอบงำจนทำอะไรไม่ถูก
แต่ซูเฉินหากลัวไม่!
ตัวเขาพึ่งพาการเก็บชิ้นส่วนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง และด้วยแต้มพลังงานที่สะสมได้ หากเขาใช้มันทั้งหมดแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน [คุณสมบัติอย่างเต็มรูปแบบ] บางทีอาจสามารถเลื่อนขั้นไปถึงเลเวล 7 และ 8 ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ตอนนี้เขายังไม่ได้ทำการแลกเปลี่ยนมัน
เรื่องการตัดผ่านเลเวล 10 มันถือเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อมสำหรับคนอื่นๆ
แต่สำหรับซูเฉิน มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการสังหารซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ เพื่อเก็บชิ้นส่วนให้มากขึ้น
ดังนั้น แม้สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์จะยอดเยี่ยมขนาดไหน เขาก็ไม่เก็บความกังวลเหล่านั้นมาให้รกสมองเลย
ตราบใดที่อีกฝ่ายกล้ายั่วโมโหเขา ซูเฉินจะสังหารพวกมันอย่างไร้ปราณี!
หากสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้ระดับหนึ่ง ก็น่าจะสามารถกวาดล้างเผ่าพันธุ์ของพวกมันได้
แน่นอน เขาจะไม่ปะทะกับพวกมันในเร็วๆนี้ เพราะปัจจุบันสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ยังร้ายกาจเกินกว่าจะรับมือ
แต่ขณะเดียวกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอีกฝ่ายที่จะบุกมายังเกาะเฉียนหยูเช่นกัน
และต่อให้ซูเฉินต้องการเข้าไปยังดินแดนของเผ่าพันธุ์อื่น ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้
หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องนี้แล้ว เขาจึงหันไปพิจารณา [กายาเทพอสูรนิรันดร์] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ต่อ
ปัจจุบันแต้มพลังงานมีเพียงพอแล้ว ถึงเวลาแลกเปลี่ยนซักที
แต่จะแลกเปลี่ยนอะไร เขายังลังเลเล็กน้อย
เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เลย
[เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ก็ไม่รู้อะไรมากนัก แต่คิดว่าน่าจะเป็นเทคนิคลับที่ช่วยเสริมสร้างพละกำลัง
ซึ่งซูเฉินต้องการพละกำลังอย่างน้อยหมื่นจิน มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถใช้งาน [หินบดดาราเทียนกัง] ที่มีน้ำหนักหมื่นจินได้
หลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ในที่สุดซูเฉินก็ตัดสินใจที่จะแลกเปลี่ยน [กายาเทพอสูรนิรันดร์]
เพราะถึงอย่างไร [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ปรากฏขึ้นก่อนเป็นชิ้นส่วนแรก และเขาก็อยากได้มันมานานแล้ว
ซูเฉินเปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] เลือกรายการ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] และทำการแลกเปลี่ยนโดยตรง
หลังจากแลกเปลี่ยนสำเร็จ แต้มพลังงานก็ลดเหลือเพียง 1,036 แต้ม
“เอ๊ะ? ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?‘
ซูเฉินค่อนข้างสับสนเล็กน้อย แต่แล้วคำอธิบายก็ปรากฏขึ้นในใจเขา
หลังจากอ่านมัน ซูเฉินก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เสียงหัวเราะนี้ดังมาก จนแม้แต่หวู่หยางและคนอื่นๆที่กำลังขุดหินพลังงานอยู่ข้างนอก ก็ยังสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
6/8
Ep.196
[กายาเทพอสูรนิรันดร์] หรือเรียกอีกอย่างว่าร่างอันคงกระพันในระดับเดียวกัน
หากอยู่ในเลเวลเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยเวทมนต์ , โจมตีด้วยพลังจิต สับด้วยมีด ดาบ และขวาน ใดๆล้วนมิอาจสร้างความเสียหายแก่ซูเฉินได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตัวซูเฉินในปัจจุบัน ต่อให้ยืนนิ่ง แล้วปล่อยให้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 หรือปรมาจารย์พลังจิต ทุ่มโจมตีไปเรื่อยๆจนแก่ตาย ซูเฉินก็ไม่มีทางได้รับอันตรายใดๆ
แม้ว่าจะมีคนที่เลเวลสูงกว่าหนึ่งขั้นโจมตีใส่เขา แต่เทคนิคลับนี้ก็ยังช่วยลดทอนพลังโจมตีของคู่ต่อสู้ลงได้เป็นอย่างมาก
ไม่มีทางสังหารซูเฉินได้ในกระบวนท่าเดียว อย่างมากที่สุดทำให้ซูเฉินได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
แน่นอน ว่าที่กล่าวมาคือในกรณีที่ซูเฉินยืนเฉย ปล่อยให้ผู้อื่นโจมตีเท่านั้น หากเขาตอบโต้กลับ อีกฝ่ายที่กล่าวๆมาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ซูเฉินที่ได้รับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] บุคคลที่สามารถคุกคามชีวิตเขาได้ ต้องมีเลเวลเหนือกว่าถึงสองขั้น
นอกจากนี้ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ยังคงมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายทนทานต่อเชื้อร้าย หมื่นพิษมิอาจรุกราน ก่อภูมิคุ้มกันต่อต้านพิษใดๆในโลก รวมถึงพิษจากพวกศพด้วย
อยู่ยงคงกระพันในเลเวลเดียวกัน! หมื่นพิษมิอาจย่างกราย!
ด้วยสองสิ่งนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะประกาศว่า [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เป็นเทคนิคร่างเทวะอันดับหนึ่งของโลก!
นับแต่นี้ไป ถือว่าซูเฉินได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความไร้เทียมทานอย่างแท้จริงแล้ว!
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากหินพลังงานถูกขุดเสร็จ หวู่หยางและคนอื่นๆก็ทยอยกันขึ้นไปบน [รถศึกอัจฉริยะ]
ซูเฉินรวบรวมหินพลังงาน และเติมหินพลังงานธรรมดากับหินเลเวล 1 เข้าด้วยกัน บรรจุลงใน [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)]
จากนั้นนำ [อัญมณีอัพเกรด] ออกมา อัพเกรด [ปืนใหญ่เพาส์] เป็นเลเวล 2 และเติมหินพลังงานและหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 2 ทั้งหมดที่เหลือลงไป
ด้วยวิธีนี้ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จะสามารถเลือกฆ่าซอมบี้ได้ หากเป็นซอมบี้ธรรมดาหรือเลเวล 1 ก็ใช้แค่ [(ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] แต่เมื่อเจอซอมบี้เลเวล 2 ก็จัดหนักมันด้วย [ปืนใหญ่เพาส์ เลเวล 2 ] อันทรงพลัง
“ซูเฉิน พวกเราจะไปไหนกันต่อ?” หวู่หยางถาม
ภารกิจทุกวันนี้ของพวกเขา ไม่ล่าซอมบี้ ก็เดินทางไปล่าซอมบี้
เนื่องจากซอมบี้ที่นี่ถูกฆ่าตายหมดแล้ว ฉะนั้นพวกเขาก็น่าจะออกค้นหาซอมบี้ในจุดต่อไป
หวู่หยางเริ่มปรับตัวให้ชินกับกิจวัตรประจำวันแล้ว
“วันนี้พวกเราจะพักที่นี่หนึ่งคืน และพรุ่งนี้จะออกเดินทางไปยังเทือกเขาเหยกู่เพื่อสังหารสัตว์กลายพันธุ์” ซูเฉินตอบกลับ
เทือกเขาเหยกู่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก หากขับเคลื่อนเต็มกำลังน่าจะใช้เวลาครึ่งวัน
นอกจากนี้ วันนี้มีซอมบี้จำนวนมากถูกฆ่าตาย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะได้พักผ่อนและผ่อนคลาย
“พี่เฉิน สัตว์กลายพันธุ์ชนิดไหนอยู่ในเทือกเขาเหยกู่หรอ?” หยางฮ่าวถามด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
เมื่อเทียบกับซอมบี้แล้ว เขาชอบล่าสัตว์กลายพันธุ์มากกว่า
เพราะนอกจากเรื่องหินพลังงาน สัตว์กลายพันธุ์สามารถนำไปใช้ทำบาร์บีคิวได้
เมื่อคิดถึงเนื้อย่างกลิ่นหอมหวล มุมปากของหยางฮ่าวก็น้ำลายไหลโดยไม่รู้ตัว
เขาเลยอยากรู้เป็นอย่างมาก ว่าสัตว์กลายพันธุ์ชนิดใดกันหนอที่ตั้งรกรากอยู่ในเทือกเขาเหยกู่?
ตอนเค้นสอบข้อมูล ซูเฉินก็ไม่ได้ถามละเอียดขนาดนั้น จึงกล่าวว่า “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง”
“โอ้ ..” หยางฮ่าวรับคำ ไม่ซักไซ้ต่อ
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่มันเป็นสัตว์กลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ล้วนสามารถย่างกินได้
ขอแค่รู้ว่าสามารถเสียบาร์บีคิวได้ก็พอแล้ว
ต่อมา ซูเฉินหยิบ [เตาอเนกประสงค์] ออกมาแล้วเริ่มเตรียมอาหาร
ทุกคนกินดื่มกันอย่างหนำใจ มองหาที่พักผ่อนของตัวเอง
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างค่ำคืน วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าทอแสงสดใส
“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเหยกู่ด้วยความเร็วเต็มพิกัด” ซูเฉินออกคำสั่งทันทีที่ลืมตา
ตามการคำนวณของเขา ถ้าออกไปตอนนี้ น่าจะเกือบถึงเทือกเขาเหยกู่ราวๆเที่ยง
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยความเร็วเต็มที่
ระหว่างทางไม่มีอะไรทำ ซูเฉินจึงเลือกที่จะอยู่กับตันหลินและหยางเฉียน
ก่อนหน้านี้ เขาได้ประกาศว่าตันหลินและหยางเฉียนเป็นผู้หญิงของตน ดังนั้นไม่คิดปิดบังอีกต่อไป