302 - ผู้ที่กล้าท้าทายจักรพรรดิ์ผู้ไม่ดับสูญ
1613 - ผู้ที่กล้าท้าทายจักรพรรดิ์ผู้ไม่ดับสูญ
รถม้าทองแดงถูกลากอย่างช้าๆโดยสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ ล้อโลหะทั้งสองล้อทิ้งร่องรอยอันหนักหน่วงบนทะเลทรายสีทองในชายแดนรกร้างว่างเปล่า
ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินมันทอแสงสีแดงทาบทับกองทัพอันยิ่งใหญ่จากฝ่ายต่างมิติ
ทะเลทรายกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต มีควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสามารถมองเห็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ตัดผ่านสถานที่แห่งนี้ออกเป็นสองส่วนได้
เดิมทีนี่เป็นฉากที่งดงาม แต่วันนี้สำหรับสือฮ่าวมันค่อนข้างอ้างว้างและเศร้าโศกเล็กน้อย
เขากลายเป็นนักโทษติดอยู่ในรถทองแดงคันนี้มือเท้าถูกโซ่เหล็กเส้นหนาล่ามไว้ไม่สามารถดิ้นรนได้
โซ่เหล็กทุกเส้นมีขนาดหนาประมาณแขนเด็กมันถูกสร้างมาจากโลหะชนิดพิเศษที่แม้แต่ผู้สูงสุดยังไม่สามารถหลบหนี
มีเพียงศีรษะของเขาเท่านั้นที่เผยออกมาจากรถของนักโทษ ร่างกายทั้งหมดติดอยู่ในรถม้าไม่สามารถขยับได้เลย พร้อมกันนั้นเขายังถูกผู้สูงสุดคนหนึ่งเป็นคนคุมตัวมาด้วยตนเอง
กองทัพยิ่งใหญ่ของศัตรูต่างมิติล้อวเขาไว้ทุกด้าน อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดไม่มีใครเอ่ยปากออกมา ทุกคนมีสีหน้าบึ้งตึงบรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด
คราวนี้พวกเขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดมากมายต้องตายไป มิหนำซ้ำผู้สูงสุดที่มาจากตระกูลจักรพรรดิก็ยังถูกจับตัวไปอีกด้วย
นี่เป็นความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทุกคนต่างปิดปากเงียบไม่มีกระจิตกระใจที่จะส่งเสียงออกมา
ระหว่างทางสามารถได้ยินเพียงเสียงของเกราะโลหะที่เย็นชาดังกระทบกันอยู่เรื่อยๆ ในที่สุดกองทัพอันยิ่งใหญ่ก็สามารถข้ามผ่านสวรรค์อเวจีมาได้สำเร็จ
ทันใดนั้นกองทหารก็หยุดเคลื่อนไหว เป็นเพราะว่ามีสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์หลายตนยืนอยู่หน้าแท่นบูชาโบราณ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคอยปกป้องอะไรบางอย่าง
ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
แท่นบูชาโบราณมีขนาดใหญ่มากสูงทัดเทียมได้กลับสวรรค์ มันดูเก่าแก่และงดงามสมกับที่เป็นของวิเศษชั้นราชาอมตะ
ด้านบนแท่นบูชามีพลังแห่งความโกลาหลมากมายปกคลุมอยู่ทำให้สามารถมองเห็นเพียงสิ่งมีชีวิตโบราณที่นั่งอยู่เท่านั้น
“ถวายบังคมบรรพบุรุษโบราณทั้งสองพระองค์!”
มีเสียงดังขึ้นที่หน้ากองทัพพร้อมกับทหารจำนวนมากคุกเข่าลงไปที่พื้นเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งมีชีวิตที่นั่งอยู่บนแท่นบูชาโบราณ
ไม่เว้นแม้แต่สัตว์ขี่ของพวกเขาก็ยังคุกเข่าลงแสดงความเคารพด้วย มีเพียงสือฮ่าวผู้เดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่บนรถมาอย่างองอาจกล้าหาญ
สิ่งมีชีวิตบนแท่นบูชาโบราณโบกมือให้กองทัพอันยิ่งใหญ่ลุกขึ้น
พวกเขากับทหารทั้งหลายในกองทัพนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตคนละระดับกันจึงไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาให้มากความ
“พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!”
ในเวลานี้สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ที่ยืนเฝ้าหน้าแท่นบูชากล่าวออกมาเบาๆเพราะเกรงว่าจะรบกวนจักรพรรดิ์ทั้งสอง
ทุกคนตัวสั่นสะท้านเพราะสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ รัศมีพลังของพวกเขาน่าหวาดหวั่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ตอนนี้ร่างกายของพวกเขาถูกล้อมไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลจึงทำให้ทุกคนมองเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่
ระเบียบวินัยของกองทัพใหญ่นั้นเข้มงวดมาก เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งพวกเขาทั้งหมดก็ลุกขึ้นถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
โฮ่ว!
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาจากแท่นบูชาที่สูงเสียดฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มีมือขนาดยักษ์ลายมือโจมตีเข้าใส่สวรรค์อเวจีด้วยความรุนแรง
กองทัพอันยิ่งใหญ่สั่นสะเทือนทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปที่สวรรค์อเวจี จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญทั้งสองจะบุกเข้าโจมตีเมืองจักรพรรดิหรือไม่?
จากลักษณะตอนนี้มีโอกาสเป็นไปได้อย่างยิ่งที่พวกเขาจะทำสำเร็จ! สิ่งมีชีวิตทุกคนตกตะลึง รู้สึกถึงจิตวิญญาณของพวกเขาที่กำลังสั่นไหว
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากสถานที่แห่งนี้นับหมื่นลี้รวมไปถึงยังได้รับการปกป้องจากของวิเศษอีกมากมาย แต่ก็ยังมีแรงกดดันที่แพออกมาอย่างมหาศาลทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว
ฮ่อง!
เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นบนท้องฟ้ายังมีอาวุธโบราณชิ้นหนึ่งกำลังแหวกอากาศพุ่งเข้าโจมตีสวรรค์อเวจีด้วยความรุนแรง
“หอกอันหลาน!”
นั่นคืออาวุธของบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อันหลาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครสามารถต้านรับได้
ในสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้าย มดเขาสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังถูกสังหารภายใต้หอกเล่มนี้ โลหิตของเขาฉีดกระจายไปทั่วจักรวาลทำให้ดวงดาวมากมายร่วงลงมากระแทกพื้น
คชา!
เกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น แสงหลากสีส่องประกายสวรรค์อเวจีเริ่มไม่มั่นคงมีทีท่าว่าจะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ
“สวรรค์อเวจีกำลังถูกทำลายแล้ว! พวกเราจะกลับไปถล่มเมืองแห่งนั้นให้สิ้นซาก!”
ใครบางคนในกองทัพคำรามออกมา ผู้คนมากมายเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวพวกเขาต้องการล้างความอัปยศที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
ภายในรถม้าของนักโทษ สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นเฝ้าดูทุกอย่างอย่างเย็นชาเงียบและสงบ
เกียง!
ทันใดนั้นในทิศทางของสวรรค์อเวจี ก็ปรากฏแสงหลากสีพร้อมกับปลดปล่อยหมอกเซียนอันมากมายมหาศาลออกมา
สวรรค์อเวจีหมุนวนคล้ายกับงูยักษ์พลิกตัว ก่อนจะฟาดเข้าใส่หอกอันหลานอย่างรุนแรงสายฟ้านับสิบล้านเส้นถูกฉีดออกมาจากสถานที่ที่เกิดการปะทะ
เหตุการณ์ในครั้งนี้น่าสยดสยองอย่างมาก สถานที่แห่งนั้นพร่ามัวไปในทันทีไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็น
แดง!
ในที่สุดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ก็ดังขึ้น อาวุธของอันหลานร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าก่อนจะตกเข้าใส่มือของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนแท่นโบราณ
“มันล้มเหลวเหรอ” ใครบางคนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ท้ายที่สุดต่อให้จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญลงมือโจมตีก็ไม่สามารถทำลายสวรรค์อเวจีได้ ความหวังที่พวกเขาจะล้างความอัปยศในเมืองจักรพรรดิกลายเป็นเรื่องเลื่อนลอยทันที?
“ บรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เพียงทดสอบสิ่งต่างๆเท่านั้น พระองค์ยังไม่เปิดฉากโจมตีอย่างเต็มกำลังเพราะต่อให้ทำสำเร็จ ราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ใช่สิ่งที่ดินแดนของพวกเราจะรับได้
ไม่เช่นนั้นสวรรค์อเวจีแห่งนี้คงถูกทำลายไปนานแล้ว”
สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ที่ด้านหน้าแท่นบูชาโบราณกล่าวออกมาด้วยความเยือกเย็น เขาอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กองทัพอันยิ่งใหญ่ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
เขาทำให้ทุกคนสบายใจโดยบอกพวกเขาว่าไม่จำเป็นต้องคิดมากในเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วบรรพบุรุษโบราณของพวกเขาย่อมมีหนทางที่จะข้ามไปด้วยความปลอดภัย เพียงแต่ต้องใช้เวลามากสักหน่อยเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานสถานที่แห่งนี้ก็เงียบสงบลง แท่นบูชาพร่ามัวถูกห่อหุ้มด้วยพลังแห่งความโกลาหล ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดอยู่ด้านในได้อีกต่อไป
ต๋อง!
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากใต้ดิน พร้อมกับการปรากฏของคลื่นสีดำขนาดใหญ่
ทุกคนมึนงง จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญอยู่ที่นี่ใครกล้าทำเรื่องหยาบคายเช่นนี้? เป็นไปได้ไหมว่าผู้คนจากเมืองจักรพรรดิ์ไล่ตามพวกเขามาแล้ว? นี่มันไม่ไร้สาระเกินไปหรือ
“ทุกคนระวังตัว!”
สิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ด้านหน้าแท่นบูชากล่าวออกมาด้วยความจริงจัง
กองทัพอันยิ่งใหญ่รีบตั้งขบวนรบด้วยความเร็ว แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผู้ใดมา? เขาถึงกับกล้าที่จะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญได้?
จากนั้นสิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็เกิดขึ้น เมื่อมีมือขนาดใหญ่ยื่นลงมาจากแท่นโบราณเพื่อคุ้มกันทุกคน
ทุกคนที่อยู่ในกองทัพล้วนหวาดผวา ศัตรูคือผู้ใดกันแน่? องค์จักรพรรดิถึงต้องให้การคุ้มครองพวกเขาด้วยตนเอง?
ฮ่อง!
ทันใดนั้นแสงแห่งความมืดก็ปรากฏขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งของทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ มันมีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์สีดำดวงใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
หลังจากนั้นแสงแห่งความมืดก็รวมตัวกันกลายเป็นประตูมิติแห่งหนึ่ง รัศมีที่ปลดปล่อยออกมาจากประตูมิตินั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งความตายจนทุกคนหวาดผวา
"นั่นใคร?" นี่คือสิ่งที่ทุกคนสงสัย การที่บุคคลผู้นี้กล้าแสดงพลังต่อหน้าจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญทั้งสองเขาต้องมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นหมอกสีดำก็ฟุ้งกระจายออก ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้
มันเป็นหลุมศพขนาดใหญ่ที่ปรากฏออกมาตั้งขวางทางประตูมิติไว้?!