173-174
3/10
Ep.173
การสังหารซอมบี้แค่หลักพันต้นๆ ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของซูเฉินได้
ขณะนี้ เขากำลังมองหาที่อยู่ของซอมบี้ตัวอื่น
ไม่นาน หลังจากไล่หาไปเรื่อยๆ ซูเฉินก็พบว่าบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง มีสถานชุมชนที่เรียกว่า ‘เมืองหวังเยว่’ ซึ่งมีจุดสีแดงจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ที่นั่น คำนวณคร่าวๆก็ 7,000 - 8,000 ตัว
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซูเฉินรู้สึกแปลกใจมาก
นั่นคือในเมืองหวังเยว่ ไม่ได้มีแต่ซอมบี้จำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมีมนุษย์อาศัยอยู่เช่นกัน แถมยังมีมากถึง 4,000 - 5,000 คน
ตามหลักเหตุผลแล้ว ซอมบี้และมนุษย์เป็นเหมือนน้ำกับไฟ ทันทีที่เจอหน้ากันก็กระโจนเข้าสู้ตาย ไม่มีทางอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในชุมชนโดยเด็ดขาด
แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ซูเฉินคาดเดาว่าในหมู่ซอมบี้ น่าจะมีซอมบี้ที่มีสติปัญญาปะปนอยู่ด้วย มันเลยสามารถควบคุมซอมบี้ตัวอื่นๆได้
ยิ่งไปกว่านั้น กำลังรบฝ่ายมนุษย์และกำลังรบฝ่ายซอมบี้อยู่ในสภาวะก้ำกึ่ง ยังไม่มีฝ่ายไหนสามารถโค่นอีกฝั่งได้อย่างเด็ดขาด เรียกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์เขม่นกัน
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินหันไปถามหวู่หยางว่า “หัวหน้าหวู่ คุณเคยได้ยินเรื่องเมืองหวังเยว่ไหม?”
“ฉันได้ยินมาว่าเมืองหวังเยว่เคยเป็นเมืองใหญ่มาก่อน และมันมีขนาดเล็กกว่าเมืองคิงคอง แต่สุดท้ายถูกซอมบี้เข้าโจมตีในเวลาต่อมา”
หลังตอบคำถาม หวู่หยางก็ฉุกคิดขึ้นได้ เอ่ยถามว่า “นี่พวกเราจะไปเมืองหวังเยว่กันใช่ไหม?”
ซูเฉินพยักหน้า “เมืองหวังเยว่มีซอมบี้อยู่ 7,000-8,000 ตัว ผมจะไปล่าพวกมัน”
“ปริมาณกำลังดีเลยนี่” หวู่หยางพึมพำ
การต่อสู้กับกองกำลังซอมบี้ของจิ่นเฟยซี นับว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาเขา ให้ได้แง้มออกจากกะลา เห็นโลกภายนอกกับตาตัวเอง ดังนั้นซอมบี้แค่ 7,000-8,000 ตัว ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกังวลแม้แต่น้อย
“เสี่ยวจือ ไปที่เมืองหวังเยว่ มุ่งหน้าด้วยความเร็วเต็มพิกัด” ซูเฉินสั่ง
“พี่เฉิน พวกเราจะไปล่าซอมบี้กันใช่ไหม?” หยางฮ่าวก้าวเข้ามาร่วมวงสนทนา รู้สึกฮึกเหิมขึ้นทันที
ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “ใช่ คราวนี้พวกเราจะไปที่เมืองหวังเยว่”
“พี่เฉิน ที่นั่นมีซอมบี้กี่ตัว? คราวนี้พวกเราก็จะได้ร่วมสู้ด้วยใช่ไหม?” เฉาหรานกับสือต้าหนิวก้าวเข้ามาเช่นกัน
‘เจ้าพวกนี้เปลี่ยนไปรึเปล่านะ?’ ซูเฉินงึมงำกับตัวเอง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาพบว่าหยางฮ่าวและอีกสองคน เริ่มสนใจที่จะล่าซอมบี้มากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่พัฒนาขึ้น เลยต้องการแสดงฝีมือใช่หรือไม่?
เขาสับสนไปพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็คร้านจะคิดหาความจริงจากมัน อธิบายว่า “ครั้งนี้เป็นซอมบี้ 7,000 - 8,000 ตัว พวกนายน่าจะได้แสดงฝีมือ”
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของหยางฮ่าวและอีกสองคนเป็นประกาย
ทั้งสามเดินแยกออกมาล้อมวงกัน กล่าวกระซิบกระซาบ แต่ก็ยังเสียงดังพอให้ซูเฉินได้ยิน
“คราวนี้มาแข่งกันว่าใครจะฆ่าซอมบี้ได้มากที่สุด!”
“ครั้งก่อนฉันชนะ ถ้าครั้งนี้ฉันชนะอีก ก็ยอมรับได้แล้วว่าพวกนายมันกาก!”
“หยุดพูดเถอะ ครั้งก่อนเพราะนายมีค้อนสวรรค์หรอก แต่พวกเราไม่มีอาวุธวิเศษอยู่ในมือเลย ไม่แปลกที่จะฆ่าได้น้อยกว่า”
“ใช่ คราวนี้มาแข่งกัน”
“แข่งก็แข่งดิ ใครกลัว!”
…
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินก็หัวเราะอย่างว่างเปล่า ดูเหมือนทั้งสามคนกำลังประชันกันว่าใครจะฆ่าซอมบี้ได้มากกว่ากัน
เขาถอนหายใจ แล้วเลิกสนใจอีก
ซูเฉินเดินไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่นั่งคนขับ เตรียมจะพักผ่อน
แต่ในตอนนั้นเอง สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น
“คำเตือน ปรากฏฝูงซอมบี้อยู่ข้างหน้า ห่างออกไปราวๆ 1 ไมล์ มีจำนวนประมาณร้อยตัว”
ซูเฉินเหลือบมองไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลาง และในไม่ช้าก็เห็นจุดสีแดงนับร้อยจุด
อีกทั้งกลางวงล้อมจุดสีแดง ยังมีจุดสีน้ำเงินอีกราวๆสิบจุดปะปนอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซูเฉินรู้สึกประหลาดใจ
เขาพบว่าจุดสีแดงบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางหายไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จุดสีน้ำเงินยังคงจำนวนเท่าเดิม ไม่ลดลงเลย
นี่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทั้งสิบคนเป็นผู้ฝึกฝน และพวกเขากำลังล่าซอมบี้
“เสี่ยวจือ กลุ่มซอมบี้พวกนั้นอยู่บนเส้นทางรึเปล่า?” ซูเฉินเอ่ยถาม
หากอยู่บนเส้นทาง เขาจะได้ใช้โอกาสนี้แวะไปสังเกตมนุษย์กลุ่มนั้น
แต่หากไม่ ก็แค่ปล่อยผ่าน ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมสนุกใดๆ
4/10
Ep.174
“เรียนเจ้านาย พวกเขาอยู่บนเส้นทางการเดินทางของพวกเรา ฉันกำลังเข้าใกล้กลุ่มมนุษย์และซอมบี้”
“งั้นก็แวะไปดูซะ” ซูเฉินกล่าวเบาๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] เหมือนจะขับเข้าไปในทุ่งดอกไม้
ดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกันงอกเงยอยู่ทุกหนแห่ง ชูดอกประชันความงาม ส่งกลิ่นหอมอบอวลกระจายไปทั่ว ชวนให้ผู้คนหลงใหลมึนเมา
และไม่ไกลจากที่นี่ ปรากฏฝูงซอมบี้กับกลุ่มคนนับสิบกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีหลายจังหวะที่ซอมบี้ถูกฟัน ร่วงลงกับพื้น
เนื่องจาก [รถศึกอัจฉริยะ] อยู่ใกล้เกินไป มันจึงดึงดูดความสนใจของฝูงซอมบี้ หลายสิบตัวแยกจากวงล้อม ตรงมาหาพวกเขาทันที
“พี่เฉิน ซอมบี้มาแล้ว พวกเราขอลงไปจัดการมันได้ไหม”
หยางฮ่าวกับสหายทั้งสองเตรียมพร้อม
“ทำตามใจชอบเถอะ” ซูเฉินกล่าวสบายๆ
เดิมที หากซอมบี้ไม่บุกเข้ามา ซูเฉินตัดสินใจว่าจะจอดดูเฉยๆ แต่ในเมื่อพวกมันมาที่นี่ งั้นก็ตายเสียเถอะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อย่างน้อยดรอปชิ้นส่วนสักหนึ่งหรือสองก้อนก็ยังดีไม่ใช่เหรอ?
ทันทีที่ประตูของ [รถศึกอัจฉริยะ] เปิดออก หยางฮ่าวและอีกสองคนก็กระโจนออกไปดั่งสัตว์ร้าย เริ่มเข่นฆ่าซอมบี้
“ซูเฉิน พวกเราก็อยากจะลงไปด้วย”
ตันหลิน หยางเฉียน และสือตั้วตั้วก้าวเข้ามาขออนุญาตซูเฉิน
แต่พวกเธอไม่ได้สนใจที่จะฆ่าซอมบี้ ตรงกันข้าม พวกเธอถูกดึงดูดโดยความงามของทิวทัศน์ทุ่งดอกไม้
ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลก ยากนักที่จะพบเจอสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามเช่นนี้
ซูเฉินไม่คัดค้าน ลงจากรถไปพร้อมกับพวกเธอ
ณ จุดนี้ หยางฮ่าวและอีกสองคนได้สังหารซอมบี้ที่พุ่งเข้ามาหมดแล้ว พวกเขากำลังก้มลงขุดหินพลังงาน
สามารถฆ่าซอมบี้นับสิบตัวในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงการลงมือที่ฉับไวและประสบการณ์ของทั้งสามที่ดีขึ้นมาก
ตันหลินและคนอื่นๆก้าวลงจากรถ วิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้ สาวๆพูดคุยและหัวเราะ เริ่มก้มเด็ดดอกไม้ที่สวยงาม
ซูเฉินเฝ้ามองดูพวกเธอ ก่อนเบนสายตาไปหยุดลงบนศพซอมบี้
เนื่องจากมีเศษชิ้นส่วนสีเขียวปรากฏขึ้น
น้อยนักที่จะมีการดรอปชิ้นส่วนสีเขียว ก่อนหน้านี้มันเคยปรากฏขึ้นแค่สองครั้งเท่านั้น
หนึ่งรายการที่ดรอปคือ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า]
อีกอันที่ดรอปคือ [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน]
วิชาฝึกฝนทั้งสองนี้ล้วนมีระดับเดียวกันกับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] แม้แค่ชิ้นส่วนเดียวจะไม่พอที่จะใช้ปลดล็อคได้ในขณะนี้ แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ซูเฉินต้องการ
“มาดูกันว่าคราวนี้จะเป็นอะไร”
ซูเฉินงึมงำ ก้าวไปข้างหน้าและคว้ามันไว้
“คุณได้รับ [ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/50) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
(อันนี้เคยดรอปแล้ว แต่คนแต่งน่าจะลืม)
“ไม่แลกเปลี่ยน”
หลังจากพูดจบ ซูเฉินครุ่นคิดเล็กน้อย
[ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์] ฟังจากชื่อ คาดว่าน่าจะเป็นวิชาฝึกฝนพลังแห่งจิตวิญญาณ
มูลค่าการแลกเปลี่ยนใน [ร้านค้าวันสิ้นโลก] คือ 5,000 แต้มซึ่งค่อนข้างเยอะ แต่อันที่จริงแล้ว มันก็แค่ครึ่งนึงของ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบันซูเฉินมีแต้มพลังงานมากกว่า 6,000 แต้ม เขาสามารถแลกเปลี่ยนมันได้ในทันที
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของเขาคือ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า]
ดังนั้น [ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์] จึงอยู่รองเป็นอันดับสาม
หลังจากเก็บชิ้นส่วนนี้ ซูเฉินก็ไม่มีอะไรทำ หันไปมองกลุ่มมนุษย์ที่กำลังสู้
“มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 อยู่จริงๆด้วย!” หลังจากรับชมได้ครู่หนึ่ง ท่าทีของซูเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในบรรดากลุ่มมนุษย์ มีชายแก่หลังโก่ง ท่าทางง่อนแง่น ดูก็รู้ว่าน่าจะมีอายุมากกว่า 70 ปี คนผู้นี้ไม่ค่อยลงมือ แต่ทุกครั้งที่ก้าวออกไป จักมีซอมบี้หลายตัวตายคามือ
ด้วยสายตาของซูเฉิน เขาสามารถตัดสินได้ว่าแต่ละคนมีกำลังรบมากน้อยแค่ไหน
หากให้เปรียบเทียบ กำลังรบของชายชราผู้นี้แข็งแกร่งกว่าหวงคัง แต่ไม่เท่าจิ่นเฟยซี