ตอนที่ 11 นายน้อยไม่พอใจ
ตอนที่ 11 นายน้อยไม่พอใจ
“วันนี้เองก็เป็นอุบัติเหตุงั้นเหรอ? ที่ใช้ฉันเป็นโล่นะ?”
แค่ว่าเธอคือพนักงานของเขา อวี่หนานเฉิง และเขาก็จะไม่ยอมให้เธอโดนตั้งคำถามและรังแกจากคนนอก เขาจึงช่วยเธอ
อวี่หนานเฉิงโน้มตัวเข้าหาหูเธอ เสียงของเขาเย็นเหมือนบ่อน้ำเย็น“ฉันหวังว่าวันนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอยังโยนตัวเองเข้าอ้อมแขนฉันอีก ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะจบงานเธอล่วงหน้าสามเดือน”
อวี่หนานเฉิงจ้องเธออย่างน่ากลัว เซิ่งอั้นหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ไม่สามารถสบตาเขาได้
ทันทีที่สิ้นเสียง เสียงติ้งก็ดัง ประตูลิฟต์เปิดและอวี่หนานเฉิงก็ไม่อยากอยู่อีก เขารีบเดินออกไป
ร่างกายที่เกร็งแน่นของเซิ่งอั้นหรานคลายลง
ฉันมีความประทับใจดี ๆ ให้นายใหญ่คนนี้ได้ไม่ถึงสามวินาที!
“ผู้จัดการเซิ่ง”
ทันทีที่เซิ่งอั้นหรานมาถึงแผนก เธอก็โดนหยุดโดยผู้ช่วยของเธอ วิเวียนที่วิ่งมาอย่างตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น? มีอะไร?”
วิเวียนพูดด้วยใบหน้าขมขื่น“แขกตัวน้อยในห้องสูทVIPบนชั้น 20 กำลังสร้างความวุ่นวาย เขาไม่ยอมกิน มีหลายคนเข้าไปแต่ก็โดนไล่ตะเพิดออกมา ตอนนี้ห้องเละเทะมาก ถ้าไม่จัดการให้เรียบร้อย แผนกเราจะโดนตำหนิค่ะ”
“ห้องสูทVIPบนชั้น 20? แขกตัวน้อย?”
เซิ่งอั้นหรานไม่เคยเห็นบันทึกของแขกเช่นนี้ในรายชื่อบริการของเธอ“เป็นลูกค้าใหม่งั้นเหรอ?”
ผู้ช่วยรีบพยักหน้า
“ใช่ค่ะ คุณหนูอายุ 5 ขวบ เขายังเด็กและอารมณ์ร้อน ไม่มีใครสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้ ตอนนี้ ครอบครัวของเขาไม่อยู่ และเขาก็โยนข้าวของอย่างเกรี้ยวกราด”
“ว่าไงนะ? ครอบครัวไม่อยู่? นั่นสมเหตุสมผลแล้วงั้นเหรอ?” เซิ่งอั้นหรานตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ไป พาฉันไปดู”
ผู้ช่วยรอให้เธอพูดแบบนี้อยู่แล้ว และรีบพาไป“เขาไม่ได้กินอะไรมาหนึ่งวันแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมกินอีก เกรงว่าคงมีเรื่องเกิดขึ้นและเราจะต้องรับผิดชอบค่ะ”
“พ่อแม่ไม่อยู่ มันเป็นปกติที่เด็กจะรู้สึกไม่ปลอดภัย.” เซิ่งอั้นหรานพูดขณะกดลิฟต์“ทำไมพ่อแม่ถึงทิ้งลูกตัวเองไว้ในโรงแรมคนเดียว?”
ผู้ช่วยหดหัว และพยักหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
ที่ประตูห้องสูท ทั้งคู่ได้ยินเสียงโครมคราม เสียงของถ้วยชามที่แตก ร่วมกับเสียงอุทานของพนักงานโรงแรม เจ้าหน้าที่หลายคนกำลังยืนขวางประตู
“ผู้จัดการเซิ่งมาแล้ว”
ท่ามกลางเสียงโหวกเหวก เซิ่งอั้นหรานเข้าห้องไป ห้องนั่งเล่นเละเทะมาก หมอนโซฟากับหมอนรองถูกโยนทิ้งลงพื้น น้ำผลไม้กระจัดกระจาย ผสมกับเส้นพาสต้าและจานกับถ้วยที่แตก โคมไฟตั้งพื้นข้างโซฟาล้มลง และแทบไม่มีที่ให้เดิน
เซิ่งอั้นหรานสูดหายใจ นี่เป็นฝีมือของเด็ก 5 ขวบจริงงั้นเหรอ?
“เด็กอยู่ไหน?” เธอถามเสียงเบา
ผู้จัดการอีกคนด้านหลังเธอรีบชี้ไปทางห้องนอน“เขาเพิ่งขังตัวเองในนั้น ผู้จัดการเซิ่ง คุณคิดจะทำยังไง?”
จากบริกรไปจนถึงผู้จัดการโรงแรม คนหลายสิบคนยืนสอดส่องอยู่นอกประตู แต่พวกเขาต่างอับจนหนทาง
เซิ่งอั้นหรานขมวดคิ้ว“คุณมีเบอร์ติดต่อพ่อแม่ของเด็กคนนี้ไหม?”
“ผมไม่สามารถติดต่อได้ครับ”
คนด้านหลังเขามองหน้ากัน ราวกับกำลังสื่อสารกันด้วยสายตา
“ช่างมัน” เซิ่งอั้นหรานถกแขนเสื้อ“สั่งพ่อครัวให้ทำไข่ตุ๋นก่อน และเตรียมลูกชิ้นเนื้อตุ๋นด้วย อย่าทำรสจัดนะ แล้วก็หาคนมาทำความสะอาดที่นี่ด้วย”
หลังสั่งการ เซิ่งอั้นหรานก็เดินข้ามพื้นเละเทะ ตรงไปห้องนอน
“จะปล่อยเธอไปแบบนี้เหรอ?”
“หรือว่านายจะไป?”
“ไม่เอาหรอก ถ้าฉันไปทำให้เจ้าชายน้อยโมโห ฉันคงตกงาน”
เสียงกระซิบด้านหลังเซิ่งอั้นหรานไม่ได้เข้าหูของเธอเลย
ประตูห้องนอนถูกแง้มเปิด แต่ก็มากพอให้เห็นสถานการณ์ด้านนอก
ผ้านวมถูกโยนลงพื้น และมีร่างน้อยสวมชุดนอนลายตารางสีน้ำตาลกำลังนั่งบนพื้นเย็น หันหลังให้ประตูห้องนอนเหมือนรูปปั้น
“สวัสดีจ้ะ..”
เซิ่งอั้นหรานพยายามทักทาย อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะสนใจเธอ เธอจึงเดินเข้าหา แต่หลังก้าวสองก้าว เด็กน้อยก็ขยับตัว กระแทกบางสิ่งในมือเขาออกมาใส่เธอ...