299 - ความลับถูกเปิดเผย
1610 - ความลับถูกเปิดเผย
ในตอนแรกทุกคนต่างคิดว่าเมิ่งเทียนเจิ้งที่ออกไปเผชิญหน้ากับศัตรูนับล้านจะต้องตายอย่างแน่นอน ใครจะคาดคิดว่าเขาจะสามารถมีชีวิตรอดกลับมาทั้งยังได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่?
“พลังศักดิ์สิทธิ์ของผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเจิ้งไม่มีผู้ใดเทียบได้!”
เสียงคำรามเหล่านี้เป็นความจริงใจอย่างแท้จริงเพราะหลังจากหลายปีแห่งความไม่พอใจ ในที่สุดพวกเขาก็สามารถระบายความคับข้องใจออกมา
การสังหารสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดไปมากมาย รวมทั้งยังจับเป็นผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิในครั้งนี้นับเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“เทพสงคราม!” ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนแรกที่ตะโกนสิ่งนี้ แต่แล้วหลายคนก็เริ่มตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน เสียงของพวกเขาสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และปฐพีดังกึกก้องเมืองจักรพรรดิ์
ใบหน้าของจินไท่จุนเย็นชาเป็นอย่างยิ่งนางใช้ไม้เท้าค้ำร่างตัวเองไว้ไม่ให้ล้มลง ผู้คนจากตระกูลจินล้วนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนาง
เมิ่งเทียนเจิ้งแสดงความกล้าหาญที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงในระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้ เมื่อเทียบกันแล้วการจัดการในเรื่องราวต่างๆของจินไท่จุนนับว่าอ่อนแอจนผู้คนมากมายต้องเหยียดหยาม
ผู้คนจากเมืองจักรพรรดิ์มากมายต่างเหลียวมองไปที่จินไท่จุน! เมื่อนึกถึงเรื่องที่นางใช้ฮวงไปแลกกับความสงบสุขทำให้ผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ความสำเร็จในการต่อสู้ของฮวงนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด? แต่ท้ายที่สุดเขากลับถูกคนจากฝั่งของตัวเองขายให้ศัตรู
เมื่อบางคนคิดย้อนกลับไปพวกเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นเสียงคำรามออกมาได้ มันน่าเสียใจเกินไป! พวกเขาส่งฮวงออกไปเช่นนั้นได้อย่างไร!
ใบหน้าของทุกคนในตระกูลจินตอนนี้บิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างยิ่ง ทุกคนในเมืองจักรพรรดิต่างจับจ้องมาที่พวกเขาด้วยสายตาโกรธแค้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่หน้าด้านกว่านี้ก็ไม่สามารถที่จะทนรับกับความอับอายได้
ผู้คนจากตระกูลหวังตะกูลตู้ตระกูลปี่เซียะก็ถูกนับเข้าเป็นพวกเดียวกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาสนับสนุนจินไท่จุนมาโดยตลอด แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเรื่องจะลงเอยเช่นนี้?
“พวกเจ้ามายืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร? พวกเจ้าคิดว่านี่เป็นสถานการณ์แบบไหนรีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้?!” จินไท่จุนตวาดผู้คนที่ออกมาร่วมฉลองชัยชนะ
“ผู้อาวุโสเมิ่งกำลังกลับมาด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เรากำลังรอแสดงความยินดีกับเขา!”
สิ่งที่คนในตระกูลจินไม่คาดคิดก็คือมีใครบางคนที่กล้าโต้แย้งคำพูดนางโดยตรง
เปง!
ผู้อาวุโสชิงมู่นำศีรษะของผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิไปเซ่นสรวงวิญญาณวีรชนที่แท่นบูชาบรรพบุรุษ!
ฉากนี้กระตุ้นให้เกิดความโกลาหลอีกครั้งทันที หลายคนตะโกนคำรามด้วยความสะใจ
บรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่หลายคนเสียชีวิตไปตลอดหลายชั่วอายุคน บางคนนั้นแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อแต่พวกเขาทั้งหมดก็พบกับการตายในการต่อสู้ที่ทะเลทรายด้านนอก
ในขณะเดียวกันลูกหลานของพวกเขาก็ยังคงต่อสู้อยู่ในชายแดนรกร้างมาโดยตลอด
ในฐานะลูกหลานของเหล่าวีรชนพวกนั้นตอนนี้โลหิตในร่างกายของพวกเขาล้วนเดือดพล่าน เสียงคำรามของผู้คนมากมายในเมืองจักรพรรดิดังกึกก้องออกมาแทบจะพร้อมกัน
เมิ่งเทียนเจิ้งขับไล่ความอัปยศอดสูและความคับแค้นที่วีรบุรุษในอดีตต้องเผชิญ เขาสังหารผู้สูงสุดจากต่างมิติไปมากมายพร้อมกับนำศีรษะของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิมาเซ่นสรวง
เหตุการณ์ในครั้งนี้ต่างทำให้ผู้คนในเมืองจักรพรรดิรู้สึกมีความสุขและยินดี
“ขอบคุณผู้อาวุโสเมิ่ง!” มีคนตะโกนเสียงดัง
อาจกล่าวได้ว่าในขณะนี้เมิ่งเทียนเจิ้งทำในสิ่งที่ทุกคนปรารถนาผู้คนมากมายจึงรู้สึกขอบคุณเขา
“ช่างน่าเสียดาย… ฮวง!” ในขณะนี้เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวคำเหล่านี้ด้วยความเสียใจเขาก็มองไปที่จินไท่จุนด้วยความเย็นชา
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ผู้ฝึกฝนจากตระกูลต่างๆก็รู้สึกอับอายและไม่พอใจมากยิ่งขึ้น หากพวกเขาลงมือต่อสู้อย่างเต็มกำลังตั้งแต่แรกเหตุการณ์ต่างๆคงไม่เป็นอย่างนี้
ทุกคนรู้ดีว่าฮวงสร้างผลงานมากมาย หีบไม้นั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญของต่างมิติปรารถนา แต่จุดจบของเขากับน่าสังเวชถึงขนาดนี้
เมื่อเขาข้ามไปฝั่งต่างมิติเขายังจะได้รับความสะดวกสบายได้อย่างไร? เพราะมีคนมากมายแทบจะทุกตระกูลที่เสียชีวิตจากมือของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาออกจากเมืองจักรพรรดิทุกคนได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเขาเขาสังหารผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองไปไม่น้อย
หลังจากนั้นเขาถูกผู้สูงสุดคนหนึ่งทำร้ายด้วยหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ ตอนนี้ไม่ทราบว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ฉากนั้นทำให้ทุกคนประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ ฮวงไม่ได้ก้มศีรษะให้กับศัตรูเขายังดื้อรั้นและไม่ยอมใครจนถึงที่สุด แล้วโชคชะตาของเขาจะดีได้อย่างไรในอีกด้านหนึ่ง?
จินไท่จุนพูดขึ้นโดยกล่าวว่า“ เราทุกคนรู้ดีว่าจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญจะต้องข้ามมาสักวัน ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันจะนานแค่ไหน
เรื่องของฮวงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมืองจักรพรรดิ์ทำให้เขาผิดหวัง แต่ชีวิตและความตายของเขากลับสามารถแลกความสงบสุขถึงห้าร้อยปีพวกเจ้ายังไม่พอใจหรือ!”
เมิ่งเทียนเจิ้งมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา แม้ว่าชุดเกราะสีทองที่เขาสวมจะส่องประกายแวววาว แต่ใบหน้าของเขาก็ดูหดหู่ใจและซีดสลดอย่างมาก
ร่างกายของเขาเซไม่มั่นคงเล็กน้อยพร้อมกับกระอักเลือดออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“ผู้อาวุโสเมิ่ง!” หลายคนร้องออกมาด้วยความตกใจ
พวกเขาทุกคนตระหนักว่าหลังจากที่เมิ่งเทียนเจิ้งใช้ลูกศรจันทราโลหิตยิงสังหารสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดไปมากมาย พลังชีวิตของเขาจึงได้รับผลกระทบ ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขากำลังแสดงออกมา
แสงวูบวาบผ่านดวงตาของจินไท่จุน นางเลยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า“แม้ว่าข้าจะต้องถูกผู้คนประณามว่าเป็นคนชั่วร้ายใจแคบ แต่ข้าก็ยังเลือกที่จะใช้ชีวิตของฮวงเพื่อแลกกับสันติสุขห้าร้อยปี!”
ฮ่อง!
หลังจากนั้นทั้งร่างของเมิ่งเทียนเจิ้งก็เปล่งประกายขึ้นทันที แม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โลหิตอันร้อนระอุยังคงพุ่งพล่านภายในตัวเขา
ใบหน้าของเขาปะทุด้วยความโกรธ เขาผลักผู้อาวุโสชิงมู่ที่กำลังพยุงเขาออกไปจากนั้นเขาก้าวขึ้นสู่กำแพงเมืองจักรพรรดิอย่างช้าๆ
เขาเป็นเหมือนพยัคฆ์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บร่างกายของเขารวมไปถึงเกราะสีทองล้วนอาบไปด้วยเลือด ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองหรือศัตรู
“เมิ่งเทียนเจิ้งเจ้าคิดว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร!” จินไท่จุนตะโกน ร่างของนางปลดปล่อยกดเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งจักรวาลออกมา
“เจ้าบอกว่าสิ่งมีชีวิตทรงพลังเหล่านั้นจะมาถึงเก้าสวรรค์ในห้าร้อยปี?” เมิ่งเทียนเจิ้งถามด้วยเสียงเย็นชาเส้นผมทุกเส้นของเขาตั้งชันขึ้น
ทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุดไม่เช่นนั้นเขาคงไม่บุกตะลุยไปในดงของศัตรูนับล้าน ดวงตาของเขาแดงก่ำจ้องมองไปที่จินไท่จุนอย่างเครียดแค้น
“ตระกูลจินของข้าเพื่อปกป้องเมืองจักรพรรดิ์พวกเราไม่ลังเลที่จะค้นหาสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นด้วยเวลาอันยาวนานพร้อมทั้งทรัพยากรมากมายที่สูญเสียไป!” จินไท่จุนตอบ
“เพื่อการปกป้องเมืองจักรพรรดิ์ถึงกับต้องขายวีรบุรุษอันยิ่งใหญ่คนนึงออกไปเชียวหรือ” เมิ่งเทียนเจิ้งปลดปล่อยไอสังหารออกมา
รอบๆตัวเขามีเปลวไฟสีทองโหมกระหน่ำ เขาเป็นเหมือนเทพสงครามที่อาบไปด้วยเปลวเพลิงแค้น ความกดดันทุกอย่างมุ่งตรงไปที่จินไท่จุน
"สิ่งที่ข้ารู้ยังมากกว่าเจ้าเสียอีก การที่สิ่งมีชีวิตระดับสูงเหล่านั้นจะลงมายังเก้าสวรรค์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ถึงเวลาห้าร้อยปีเลย ! สิ่งที่เจ้าจ่ายไปด้วยทรัพยากรอันมากมายมหาศาลเพียงนำมาด้วยข่าวไร้สาระเช่นนี้?!”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนตกใจ ที่เรียกว่าห้าร้อยปีนั้นเพื่ออะไร? ทุกคนจิตใจหนาวเหน็บราวกับว่าพวกเขาตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง
“สิ่งมีชีวิตอันสูงส่งเหล่านั้นเพียงต้องการเห็นพวกเราต่อสู้อย่างกล้าหาญจนถึงที่สุด! เมื่อถึงเวลาสำคัญพวกเขาจะปรากฏตัวออกมาเอง” เมิ่งเทียนเจิ้งคำราม
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาใบหน้าของทุกคนในเมืองจักรพรรดิล้วนซีดขาว ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนจากตระกูลจินและตระกูลหวัง
โชคดีที่แม้จะโกรธ แต่เขาก็ยังควบคุมตัวเองไม่ได้ทำร้ายใครมิฉะนั้นผลที่ตามมาจะเลวร้ายถึงขีดสุด
“เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระเพื่อใส่ร้ายตระกูลจินของข้า เจ้ากำลังกล่าวหาว่าพวกเราทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเห็นแก่ตัวอย่างนั้นหรือ?!”
“เจ้าทำประโยชน์อะไรให้เมืองจักรพรรดิ์บ้างตั้งแต่มาถึงที่นี่? มีเพียงสร้างความโกรธแค้นให้กับทุกคนเท่านั้น!” เมิ่งเทียนเจิ้งคำรามไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะโกรธขนาดนี้
ฮ่อง!
หลังจากนั้นเมิ่งเทียนเจิ้งก็ลงมือเริ่มโจมตี
“เจ้าต่างหากที่เป็นอย่างนั้น!” จินไท่จุนตอบโต้โดยไม่หวาดกลัวเพราะเห็นว่าเมิ่งเทียนเจิ้งได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เจ้าไม่เคยสร้างคุณประโยชน์แม้แต่น้อยแต่ยังกล้าคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ? เจ้าก็แค่ความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิ!” เมิ่งเทียนเจิ้งยื่นมืออันใหญ่โตออกไป
ทุกคนของตระกูลจินต่างสั่นสะท้านพวกเขารีบคุกเข่าลงพื้นอย่างรวดเร็วไม่กล้าลุกขึ้นยืน แม้จะมีจินไท่จุนที่เป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดของตระกูลพวกเขาก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวนางแม้แต่น้อย
ฮ่อง!
จินไท่จุนกระแทกไม้เท้าสีม่วงของนางที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหล โจมตีไปยังมือใหญ่ของเมิ่งเทียนเจิ้ง
แดง!
เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้ดึงมือกลับมา แต่เปลี่ยนจากฝ่ามือกลายเป็นกำปั้นกระแทกเข้าใส่ไม้เท้าสีม่วงนั้นจนมันแตกสลายไปในทันที