163-164
3/10
Ep.163
เกือบสองชั่วโมง ซูเฉินถึงเก็บชิ้นส่วนทั้งหมดครบ
ส่วนใหญ่ถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน จนปัจจุบันแต้มพลังงานทั้งหมดเกินเลข 3 ไปแล้ว มีอยู่มากถึง 3358 แต้มพลังงาน
“จุดหมายที่จะได้แลกเปลี่ยน [กายาเทพอสูรนิรันดร์ ] เหลืออีกไม่ไกลแล้ว” รอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากของซูเฉิน
แม้ยังเหลือช่องว่างอีกกว่า 6,000 แต้ม แต่ห้ามลืมนะว่ากองกำลังซอมบี้ของจิ่นเฟยซีมีจำนวนมากกว่า 100,000 ตัว ตราบใดที่พวกมันที่เหลือถูกฆ่าตายหมด การแลกเปลี่ยน [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ตั้งสติสักพัก ซูเฉินถอนหายใจ หันไปช่วยคนอื่นๆขุดหินพลังงาน
มีซอมบี้มากกว่าหมื่นตัวถูกฆ่าตาย หวู่หยางและคนอื่นๆแม้ก้มหน้าขมักเขม้น แต่จนถึงตอนนี้พวกเขายังขุดได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง หินพลังงานทั้งหมดก็ถูกขุดออกมา
ซูเฉินเรียกทุกคนขึ้นไปบนรถ แล้วขับออกจากที่นี่
“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปยังสถานชุมชนชางเยว่ และจอดพักเมื่ออยู่ห่างราวๆ 3 กิโลเมตร” ซูเฉินสั่ง
สถานชุมชนชางเยว่ เป็นไปได้สูงว่าอาจถูกจิ่นเฟยซียึดครองไปแล้ว ที่นั่นจะต้องมีซอมบี้เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
จุดประสงค์ของซูเฉินที่ไปที่นั่นก็เพราะต้องการฆ่าซอมบี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มืดแล้ว บวกกับการสังหารและเก็บกวาดซอมบี้นับหมื่นตัว ทุกคนล้วนเหนื่อยล้า
ดังนั้นซูเฉินตั้งใจจะพักผ่อนในคืนนี้ แล้วค่อยทำภารกิจกวาดล้างซอมบี้ในสถานชุมชนชางเยว่เมื่อรุ่งสาง
[รถศึกอัจฉริยะ] ขับออกไปอย่างช้าๆ ระหว่างนั้นซูเฉินหยิบอาวุธที่ดรอปได้ก่อนหน้านี้ แจกจ่ายทุกคน
“ตั้วตั้ว ฉันขอมอบ [ปืนพกเพาส์] ให้กับเธอ จะได้มีอาวุธคอยช่วยพี่สาวทั้งสองในอนาคต” ซูเฉินกล่าวพลางวาง [ปืนพกเพาส์ เลเวล 1 ] ลงในมือสือตั้วตั้ว
“ขอบคุณพี่เฉิน!” สือตั้วตั้วรับ [ปืนพกเพาส์ เลเวล 1 ] หันหลังวิ่งไปทางหยางเฉียนและตันหลิน ตะโกนด้วยความตื่นเต้น “พี่สาวตันหลิน พี่สาวหยางเฉียน หนูได้ปืนด้วยล่ะ!”
ยามใดที่สือตั้วตั้วเปลี่ยนอารมณ์เป็นดุร้าย เธอจะกลายเป็นนางมารน้อย กระทั่งมนุษย์ผู้ใหญ่ เด็กสาวก็ยังกล้าฆ่า
แต่ยามอยู่กับหยางเฉียนและตันหลิน เด็กสาวกลับกลายเป็นอีกลุคหนึ่ง อยู่ในฐานะน้องสาวที่น่ารักของทั้งสอง
ซูเฉินรู้ดี ว่าเด็กสาวน่ารักสดใสคนนี้ คือธรรมชาติที่แท้จริงของสือตั้วตั้ว
ทว่าท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลก สือตั้วตั้วจำเป็นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เพราะเด็กสาวรู้ดี ว่าหากเธอไม่โหดร้าย ก็จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้ได้
จากนั้น ซูเฉินหยิบ [ดาบเหล็กดาวตก] และ [มีดเหล็กทมิฬ] ออกมาพร้อมกัน มอบให้หวู่หยางและหยางหลิงเทียนตามลำดับ
ทั้งสองมีความสุขมาก ฉีกยิ้มจนขอบปากเกือบสูงขึ้นไปชนกับใบหู
“หยางฮ่าว เฉาหราน มานี่สิ” ซูเฉินกล่าว
“พี่เฉิน พวกเรามาแล้ว”
เฉาหรานกับหยางฮ่าวรู้ว่าซูเฉินกำลังจะมอบอาวุธให้พวกเขา จึงก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า
“กริซนี่เป็นของคุณ ส่วนโล่นี่เป็นของนาย”
ซูเฉินแจกจ่ายตามความเหมาะสม มอบ [กริซอเวจี] ให้เฉาหราน [โล่ชารจ์พลัง] ให้หยางฮ่าว
“พี่เฉิน เจ้าสิ่งนี้ทำงานยังไง?” หยางฮ่าวรู้สึกงงเล็กน้อย
แม้เขาจะรู้ว่าสิ่งที่ซูเฉินมอบให้ยังไงก็เป็นของดี แต่ก้มลงมองไปยังแผ่นจานขนาดเท่าฝ่ามือ เขาก็ยังรู้สึกว่ามันธรรมดาเกินไป
“ใส่หินพลังงานลงไป แล้วกดสวิตช์ …” ขณะกล่าว ซูเฉินสาธิตให้ดู
เมื่อเห็นโล่พลังงานสีฟ้าปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา หยางฮ่าวถามด้วยความประหลาดใจว่า “พี่เฉิน นี่มันมีไว้สำหรับป้องกันใช่ไหม?”
ซูเฉินพยักหน้า “มันสามารถทนต่อการโจมตีเต็มกำลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ได้”
“จริงๆหรอ?” ดวงตาของหยางฮ่าวสว่างไสวขึ้นทันที
หันไปหาหยางหลิงเทียนแล้วกล่าวว่า “คุณพ่อ พ่อช่วยทดสอบให้ผมหน่อยจะได้ไหม?”
หยางหลิงเทียนกลืนน้ำลาย มองหยางฮ่าวด้วยความว่างเปล่า แอบคิดกับตัวเองว่า ‘ทำไมบิดาต้องทำด้วย เกิดโล่พลังไม่ทำงานขึ้นมาเล่า?’
“งั้นไม่เป็นไร ลุงหวู่ ช่วยแทงผมที” เมื่อเห็นหยางหลิงเทียนไม่ขยับ หยางฮ่าวก็หันไปขอร้องหวู่หยาง
4/10
Ep.164
หวู่หยางมองไปยังซูเฉิน คล้ายถามความเห็นว่าเขาต้องการให้ทำหรือไม่
“หัวหน้าหวู่ สบายใจได้ อัดให้ยับไปเลย” ซูเฉินยิ้มเบาๆ
ได้ยินเช่นนั้น หวู่หยางก็โล่งใจ แต่ก็ยังกำชับหยางฮ่าวว่า “เตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะลงมือแล้วนะ”
“ช้าก่อนลุงหวู่”
หยางฮ่าวยื่นโล่ไว้เบื้องหน้าเขา ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย
เมื่อเห็นหยางฮ่าวพร้อมแล้ว หวู่หยางก็คว้า [ดาบเหล็กดาวตก] ขึ้นมา และฟันมันออกไป
บังเกิดเสียงเคร้ง! ดังสนั่น
ตกอยู่ภายใต้พละกำลังมหาศาล หยางฮ่าวล้มก้นกระแทกกับพื้น สภาพเขาดูตื่นตระหนกเล็กน้อย ทว่าไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
“โล่นี้สามารถทนต่อการโจมตีเต็มกำลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ได้จริงๆ” หยางฮ่าวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
กระทั่งหวู่หยางที่ใช้ [ดาบเหล็กดาวตก] โจมตี ก็ยังไม่สามารถทำลายโล่พลังงานได้สำเร็จ เท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้ว ถึงความแข็งแกร่งของ [โล่ชาร์จพลัง]
“พี่เฉิน แล้วกริซของฉันล่ะ? มันมีคุณสมบัติพิเศษอะไรไหม?” เฉาหรานเริ่มฉุกคิดขึ้นได้ เอ่ยถามซูเฉิน
แผ่นจานขนาดเล็กของหยางฮ่าวอาจดูไม่โดดเด่น แต่กลับครอบครองพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง ฉะนั้นกริซของเขาเองก็น่าจะมีคุณสมบัติพิเศษด้วยเช่นกันใช่หรือไม่?
“มีสิ มันคมมาก เหมาะสำหรับการเจาะหรือควักลูกตา” ซูเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
“เอ๋?”
เฉาหรานตะลึงงัน
แม้เขาจะเคยทำลายดวงตาของผู้อื่นถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำแบบนั้นทุกครั้งที่เจอศัตรูรึเปล่า?
นี่เขาดูเหมือนคนชอบควักลูกตาคนอื่น แล้วจับมาห้อยเป็นเครื่องประดับหรือ?
แล้วอีกอย่าง เพื่อความสะดวกในการทำลายลูกตา เขาเลยได้อาวุธเป็นกริซเนี่ยนะ?
มองไปยังสีหน้างุนงนของเฉาหราน ซูเฉินก็ไม่คิดหยอกล้อเขาอีกต่อไป เอ่ยตามจริงว่า “การทำลายลูกตาเป็นแค่คุณสมบัติอย่างนึงของมันเท่านั้น ความสามารถที่แท้จริงของมันก็คือการเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตา โดยมีรัศมีอยู่ในช่วงห้าเมตร”
“เคลื่อนย้ายในชั่วพริบตา?” เฉาหรานพึมพำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ซูเฉินขอ [กริซอเวจี] มาแล้วกล่าวว่า “คุณต้องควบคุมมันด้วยความคิด เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดู”
สิ้นเสียง เห็นแค่เพียง [กริซอเวจี] หายวับในฉับพลัน
เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปลายแหลมของใบมีดก็จ่ออยู่เบื้องหน้าตาขวาของเฉาหรานแล้ว ห่างเพียงไม่กี่มิลก็จะสัมผัสกับลูกตาเขา
“เห็นไหม? นี่แหละความสามารถในการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา” ซูเฉินกล่าวเบาๆ
“พะ .. พี่เฉิน ฉันเข้าใจแล้ว พี่ช่วยเอามันออกไปจะได้ไหม” เฉาหรานยิ้มขม
ตอนนี้ [กริซอเวจี] ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา มันทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมาก มากซะจนเหงื่อเย็นผุดพรายเต็มแผ่นหลัง
หากซูเฉินเกิดควบคุมเจ้าสิ่งนี้พลาดขึ้นมา เขาไม่กลายเป็นคนพิการไปเลยหรือ?
ซูเฉินเรียก [กริซอเวจี] กลับมา วางมันคืนในมือเฉาหราน ยิ้มและเอ่ยถามว่า “คุณคิดยังไงกับกริซนี้?”
“มันแข็งแกร่งมาก เหมาะสำหรับการลอบโจมตีทีเผลอ” เฉาหรานพยักหน้าและกล่าว
ความสามารถในการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งนัก แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะป้องกัน มันเหมาะมากๆสำหรับการลอบโจมตีโดยที่ศัตรูไม่ทันตั้งตัว
“ใช่ไหมล่ะ ฉันรู้สึกว่า [กริซอเวจี] มันเหมาะกับนิสัยของคุณมากจริงๆ” ซูเฉินตบไหล่เฉาหราน ผุดรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย
หือ?
พี่เฉินหมายความว่ายังไงกัน?
นี่เขาชมฉันใช่ไหม? หรือว่าประชดกันแน่?
เฉาหรานเริ่มสับสนงุนงงอีกครั้ง
หลังจากแจกอาวุธแล้ว ซูเฉินก็หยิบ [เตาอเนกประสงค์] ออกมา เริ่มเตรียมอาหารเย็น
ภายในรถ ไม่ช้าก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง
หลังจากกินดื่มกันเต็มคราบ ทุกคนก็หาที่พักผ่อนของตัวเอง
เนื่องจากพวกเขาอยู่ใน [รถศึกอัจฉริยะ] จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายใดๆ ผลอยหลับไปทีละคนอย่างรวดเร็ว
ในเช้าตรู่วันถัดมา [รถศึกอัจฉริยะ] ยังคงมุ่งหน้าสู่สถานชุมชนชางเยว่
ซูเฉินมองไปยังจอควบคุมส่วนกลาง พบว่ามีจุดสีแดงจำนวนมากภายในสถานชุมชน กะคร่าวๆมีราวๆ 10,000 ตัว
“ดูเหมือนจะเป็นวันที่ต้องสู้สุดเหวี่ยงกันอีกวัน”
จินตนาการไปถึงเศษชิ้นส่วนจำนวนมากที่กำลังจะดรอปลงมา มุมปากของซูเฉินค่อยๆยกยิ้มขึ้นอย่างช้าๆ