310 -ไม่มีอุปสรรค
310 -ไม่มีอุปสรรค
เอี้ยนลี่เฉียงลืมเรื่องที่เกิดขึ้นนอกคฤหาสน์กวางอย่างสิ้นเชิง!
ในช่วงไม่กี่วันนี้การบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก ในเวลานี้น้ำหนักที่เขาแบกไว้พวกนั้นแทบไม่สามารถส่งผลกระทบต่อการฝึกฝนของเขาได้อีกต่อไป
คนที่มาส่งอาหารให้เอี้ยนลี่เฉียงมาถึงตามเวลาที่กำหนด เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาสังเกตเห็นว่ามีอาหารพิเศษเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้
ไม่ว่าจะเป็นไก่ฟ้าตุ๋น น้ำโสม หรือแม้แต่เห็ดหลินจือ บางทีอาจจะเป็นเพราะหลิวกงกงเห็นศักยภาพของเขาจึงให้การดูแลเป็นพิเศษ
โดยปกติวัตถุดิบราคาแพงประเภทนี้ต่อให้เป็นคนที่ร่ำรวยก็ใช่ว่าจะสามารถหาซื้อได้ เนื่องจากห้องครัวส่งจานนี้ให้เอี้ยนลี่เฉียงเขาจึงไม่ลังเลที่จะกินทุกอย่าง
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจานเอี้ยนลี่เฉียงได้แบ่งให้โกลดี้ที่น้ำลายไหลอยู่ด้านข้างคนละครึ่ง เขาเคี้ยวโสมทั้งหมดที่อยู่ในจานนี้เรากับกระต่ายที่กินแครอท
ตามคาดเมื่อโสมเข้าไปในท้องของเอี้ยนลี่เฉียงมันก็ทำให้เกิดความอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าหากเขาสามารถกินอาหารเหล่านี้ทุกวันมันจะทำให้ผลของการฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเลยทีเดียว
……
หลังจากพักผ่อนในลานบ้านสักพักและเดินไปรอบๆเพื่อช่วยย่อยอาหาร เอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกสดชื่น ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ห้องส่วนตัวและทำการฝึกฝนอีกครั้ง
เอี้ยนลี่เฉียงตกใจกับอัตราความก้าวหน้าของการฝึกฝนของเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าฝึกฝนอยู่ที่ลานบ้านของตัวเองแต่ทำการฝึกฝนภายในห้องส่วนตัวเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากเกินไป
หากเอี้ยนลี่เฉียงเปิดเผยความเร็วในการฝึกฝนและความก้าวหน้าในหนึ่งเดือนของเขาให้ใครทราบมันอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้เขาได้
การฝึกฝนของเขานี้แทบจะเหมือนกับบุคคลในตำนานซึ่งสามารถฝึกฝนได้อย่าง 'ไม่มีอุปสรรค' ขอเพียงพลังลมปราณอยู่ในตันเถียนเพียงพอเขาจะสามารถทะลวงอาณาจักรบ่มเพาะขั้นต่อไปได้อย่างง่ายดาย
วันนี้ค่อนข้างพิเศษ อาจเป็นเพราะผลของโสมเก่านั้น เอี้ยนลี่เฉียงเพิ่งเข้าสู่การเดินลมปราณ แต่พลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพีก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่หยุด
ไม่กี่นาทีต่อมา ปรากฎการณ์ทะลุทะลวงก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเอี้ยนลี่เฉียง แสงสีทองเริ่มห่อหุ้มบริเวณโดยรอบร่างกายของเขา
ทันใดนั้น ระฆังสีทองแต่โบราณก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ต่อจากนั้น ระฆังโบราณสีทองก็กลายเป็นลำแสงและรวมเข้ากับบริเวณอวัยวะใต้ช่องท้องส่วนล่างของเอี้ยนลี่เฉียง
จากช่วงเวลาที่วิชาศีรษะเหล็กประสบความสำเร็จ นี่เป็นครั้งที่สิบสามที่วิชาระฆังทองคุ้มกายทำการทะลุทะลวง
วิชาเป้าเหล็กเป็นวิชาที่ยากที่สุดที่จะฝึกฝนให้สำเร็จในหมวดหมู่วิชาระฆังทอง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นด่านสุดท้ายที่ประสบความสำเร็จ
หลังจากนั้น ระฆังโบราณสีทองขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นที่ศีรษะ คอ หลัง แขน ไหล่ หน้าท้อง ฝ่ามือ หมัด ข้อศอก นิ้ว ขา เข่า และบริเวณเป้า
ไม่นานระฆังโบราณสีทองขนาดจิ๋วเหล่านี้ก็ค่อยๆรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อตัวเป็นระฆังที่ใหญ่ขึ้นหุ้มร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียงไว้ด้านใน ในเวลานี้ถือได้ว่าเขาฝึกฝนวิชาระฆังทองคุ้มกายขั้นต้นสำเร็จแล้ว
ในขณะนั้นเอี้ยนลี่เฉียงก็ได้ยินเสียงระฆังดังก้องอยู่ในหูของเขา เสียงระฆังก้องอยู่ในทุกเซลล์ในร่างกายของเขา ทำให้เซลล์ทั้งหมดของเขาส่งเสียงดังไปพร้อมๆกัน
เมื่อเซลล์สั่นสะเทือน ผิวของเขาก็ค่อยๆกลายเป็นสีทอง เมื่อเสียงระฆังที่แผ่วเบาเริ่มจางลง ผิวของเอี้ยนลี่เฉียงก็กลับมาเป็นปกติในที่สุด
เคล็ดวิชาระฆังทองคุ้มกายชั้นแรก สำเร็จ
อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงยังคงฝึกฝนต่อไป พลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพีอันสง่างามยังคงไหลเข้าสู่ร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียงอย่างไม่รู้จบ
หลังจากนั้นก็มีมีแสงสีขาวส่องมารอบๆตัวเขา และภายในแสงนั้น ภาพที่ชัดเจนของเมฆสี่ก้อนก็ปรากฏขึ้น หลังจากนั้นภาพเหล่านี้ก็ผสานเข้ากับขาของเอี้ยนลี่เฉียงอย่างรวดเร็ว…
ชั้นที่สี่ของสิบการเปลี่ยนแปลงของมังกรเมฆาก็สำเร็จเช่นกัน
ครึ่งชั่วยามต่อมา แสงสีฟ้าอีกดวงก็ปรากฏขึ้นรอบๆตัวของเอี้ยนลี่เฉียง แสงสีน้ำเงินนี้ดูเหมือนจะเป็นทวนยาวที่ดูสง่างาม
ทันทีที่ภาพปรากฏขึ้น ปลายทวนก็สั่นไหว ทำให้เกิดแสงสีน้ำเงินสามดวงผสานเข้ากับหน้าผาก หน้าอก และจุดตันเถียนของเอี้ยนลี่เฉียงในบริเวณช่องท้องส่วนล่าง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ทะลุทะลวงครั้งสุดท้ายสำหรับวันนี้...
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นรอบที่สาม ร่างกายของเขาก็เปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาทันที ราวกับว่าเขากำลังถูกไฟไหม้ ทั้งห้องสว่างด้วยสีแดงสดและภายในแสงสีแดง เงาของงูเหลือมขนาดใหญ่รวมไปถึงพยัคฆ์ร้ายสีขาวก็ปรากฏออกมานานกว่าหนึ่งเค่อจากนั้นมันก็จมเข้าสู่ตันเถียนของเอี้ยนลี่เฉียง
สิ่งเหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงก้าวไปสู่อาณาจักรนักรบต่อสู้ขั้นสูงสุด
……
หลังจากช่วงเวลาหนึ่งผ่านไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็ฟื้นจากสภาวะการฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
ในเวลานี้การไหลเวียนของเลือดในทุกส่วนของร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียงได้รับการเติมเต็มจนถึงขีดจำกัด พลังปราณของเขาคล้ายกับมังกร และโลหิตของเขาเปรียบเสมือนพยัคฆ์ร้าย
เมื่อจุดตันเถียนถูกสร้างขึ้นก็ถือว่าคนคนนั้นกลายเป็นนักรบต่อสู้ แต่เมื่อคนคนนั้นสามารถใช้พลังปราณของตัวเองราวกับว่าเป็นแขนขาพวกเขาจึงจะถูกพิจารณาว่าเป็นนักรบต่อสู้ขั้นสูงสุด
“นี่คือสุดยอดนักรบ?”
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีใจมาก นั่นเป็นเพราะเขาคาดหวังผลลัพธ์ไว้แล้ว ในช่วงสองสามวันนี้เขารู้สึกว่าเขาอาจจะสามารถกลายเป็นนักรบขั้นสูงสุดได้ตลอดเวลา แต่ก็น่าแปลกใจเล็กน้อยที่มันเกิดขึ้นในวันนี้
เอี้ยนลี่เฉียงเผยสีหน้าตกใจหลังจากที่เขาตรวจสอบตันเถียนของตัวเอง ในเวลานี้ภายในตันเขียนของเขามีภาพธรรมของช้างขนาดยักษ์ขึ้นมาแล้ว
ช้างตัวนี้มีสีทองสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ดูสง่างามมาก ส่วนที่น่าตกใจกว่านั้นคือช้างสีทองที่อยู่ในจุดตันเถียนของเขามีงาหกงา ยิ่งกว่านั้น งาแต่ละอันดูเหมือนทำด้วยเงินและพวกมันก็ดูสดใสและเป็นมันเงา…
ส่วนพลังปราณของเขารวมตัวกันกลายเป็นหม้อใบใหญ่ตั้งอยู่บนหลังของช้างยักษ์
เมื่อเป็นเช่นนี้มันแสดงให้เห็นว่าลมปราณศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารที่เขาฝึกฝนนั้นมาถึงระดับสูงสุดแล้ว
อย่างไรก็ตามในคู่มือลับนี้ไม่ได้บอกว่าจะเกิดภาพธรรมของช้างอยู่ในตันเถียนของเขาหลังจากฝึกฝนจนถึงระดับนักรบขั้นสูงสุด
อาจารย์ของเขาหลิวกุ้ยหยวนเคยบอกเว่าลมปราณศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารที่อยู่ในหอตำราของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงส่วนหน้า
หลังจากฝึกฝนส่วนหลังจนไปถึงระดับปรมาจารย์เท่านั้นจึงจะสามารถสร้างภาพธรรมของช้างขึ้นมาได้ และหลิวกุ้ยหยวนได้จัดเตรียมตำราพวกนั้นไว้ให้เขาแล้ว
เกิดอะไรขึ้น? เอี้ยนลี่เฉียงค่อนข้างสับสน แต่ในขณะนั้นเขาไม่สามารถหาใครมาอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้
เอี้ยนลี่เฉียงตรวจสอบร่างกายของเขาอย่างละเอียด เขารู้สึกโล่งใจเมื่อสังเกตเห็นว่าไม่มีอะไรแปลกเป็นพิเศษ แม้จะสัมผัสได้ถึงช้างหกงาที่อาศัยอยู่ในตันเถียนของเขาก็ตาม
วันรุ่งขึ้นเอี้ยนลี่เฉียงยังคงฝึกหนักเหมือนเดิม ในตอนที่เขากลับมาตอนเย็นอาหารที่เขาเจอก็เป็นไก่ฟ้าตุ๋นโสมและเห็ดหลินจืออีกครั้ง
ในวันที่ 19 เดือน 4 ในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็ออกจากคฤหาสน์กวางเพื่อกลับสู่เมืองหลวงอีกครั้ง