ตอนที่แล้ว139-140
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป143-144

141-142


1/10

Ep.141

“เฒ่าโหยวร่วมมือกันกำจัดเขา!”

หวงคังสูดหายใจลึก หันไปข้างๆ ส่งสายตาให้ชายคนหนึ่งที่ใช้ผ้าพันคอสีดำบดบังใบหน้า

เมื่อตระหนักว่าซูเฉินน่าจะเป็นผู้ฝึกฝนครบทั้งสามอาชีพหลัก หวงคังก็กระจ่างแก่ใจ  หากสู้ตัวต่อตัว พวกเขาทั้งสามไม่ว่าจะคนไหน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉิน

และหากต้องการสังหารสัตว์ประหลาดเช่นนี้ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือทั้งสามคนต้องรวมมือกัน จึงมีโอกาสสำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ หวงคังจึงมิอาจยืนเฉย ปล่อยให้ชายชุดคลุมเหลืองถูกซูเฉินฆ่าตายโดยเด็ดขาด

ชายที่ถูกเรียกว่าเฒ่าโหยวก็มองออกว่าสถานการณ์ไม่ดีเช่นกัน ร้องตะโกนว่า “ทุกคนโจมตีพร้อมกัน!”

ทันใดนั้น สมาชิกนับสิบที่หวงคังและเฒ่าโหยวนำมา ทั้งหมดตรงเข้าหาซูเฉิน มุ่งหมายสังหารเขา

แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินไวกว่าก้าวหนึ่ง เขาเริ่มโจมตีสวนกลับชายชุดคลุมเหลืองแล้ว

เห็นแค่เพียงหนึ่งหมัดที่กำแน่น ซัดแหวกอากาศ โดยปลายทางคือศีรษะของชายในชุดคลุมเหลือง

ชายในชุดคลุมเหลืองหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่เพราะถูกพันธนาการด้วยพลังจิต ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่มีเวลามากพอที่จะทานรับกำปั้นอันตรายของซูเฉิน

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต เขาตะโกนเสียงดังลั่น “แกจะฆ่าฉันไม่ได้! ฉันเป็นคนของเมืองทงเทียน!”

“ไร้สาระ! ต่อให้เจ้าเมืองทงเทียนมาอยู่ที่นี่  ฉันก็จะฆ่ามัน!”

ซูเฉินหัวเราะเย็นชา พลังอันบ้าคลั่งรุนแรงปะทุออกจากกายเขา หนึ่งหมัดประทับลงเหนือศีรษะของชายชุดคลุมเหลืองอย่างแม่นยำ

ได้ยินเพียงเสียง ‘กร๊อบ’ ของกะโหลกที่แตกหัก ศีรษะของชายชุดคลุมเหลืองยุบไปครึ่งหนึ่ง ตายอย่างไม่สามารถตายได้อีก

“สารเลว! ชีวิตแลกชีวิต! แกต้องตาย!”

ความตายของชายชุดเหลือง ทำให้เฒ่าโหยวเศร้าโศก แหงนหน้ากู่ก้องฟ้า

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะส่งแกไปอยู่เป็นเพื่อนมันเอง!” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือออกไปและหยิบ [ดาบเสริมมนตรา] ออกมาจากถุงเก็บของ

“ฆ่า!”

หวงคังถือขวานยักษ์ไว้ในมือ กระโจนเข้าหาซูเฉินก่อนเป็นคนแรก

เขาทราบดี วันนี้หากซูเฉินไม่ตาย พวกเขาก็อย่าหวังว่าจะได้พบจุดจบที่ดี

ดังนั้นขจัดสิ้นความกลัวที่มีต่อซูเฉินไปอย่างสิ้นเชิง ทุ่มสุดกำลังโจมตี

เฒ่าโหยวกุมดาบโค้งในมือ กวาดฟันคราหนึ่งจากด้านข้าง ประสานโจมตีกับหวงคัง

แม้ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ซูเฉินก็ยังคงเยือกเย็น สงบนิ่งไม่ไหวติง

จนกระทั่งหวงคังพุ่งมาถึงด้านหน้า แสงสีม่วงพลันสว่างวาบใต้เท้าซูเฉิน เสี้ยวพริบตาต่อมา เขาหายวับไปดั่งภูติผี

ในจังหวะนั้นเอง หวงคังสับขวานลงไปพอดี ทว่ามันไม่แม้จะได้สัมผัสกระทั่งชายเสื้อของซูเฉิน

“ท่าไม่ดีแล้ว!”

หวงคังตระหนักถึงอันตรายได้ทันที นั่นเพราะเขาใช้พละกำลังเกือบทั้งหมดไปกับคมขวานนี้ แต่กลับไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆแก่ซูเฉินได้เลย

ซึ่งโดยปกติแล้ว หลังจากทุ่มโจมตีสุดแรง ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งตั้งหลักใหม่ และในช่วงเวลานั้น  ซูเฉินย่อมฉวยโอกาสลอบโจมตีเขาอย่างแน่นอน ปัจจุบันหวงคังจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก

หางตาของเฒ่าโหยวกระตุก ลอบร้องในใจ “เหตุใดเขาถึงได้ว่องไวเช่นนี้!?”

เดิมทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ดังนั้นความเร็วของพวกเขาสมควรเทียบเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม ซูเฉินได้เปรียบตรงที่เขามี [รองเท้าเพิ่มความเร็ว]  ยิ่งหลังจากที่มันถูกอัพเกรด ขีดจำกัดความเร็วของมันก็ยิ่งสูงกว่าเดิมมาก

อาศัยเจ้าสิ่งนี้ ขับหนุนให้ความเร็วของซูเฉินในปัจจุบัน มันไวยิ่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เสียอีก!

จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมหวงคังถึงโจมตีไม่โดน

ในเวลาเดียวกัน ร่างของซูเฉินวูบไหว ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังหวงคัง ฟาดฟันลงไป

“รู้อยู่แล้วว่าแกต้องฉวยโอกาสนี้ ยังอ่อนหัดนัก!”

ท่ามกลางช่วงเวลาความเป็นความตาย หวงคังเกร็งแขนจนเส้นเลือดปูดโปน ตวัดขวานยักษ์ไปด้านหลัง ยกขึ้นปิดกั้นการโจมตีจากมุมอับ

เจ้าตัวคิดใช้ขวานยักษ์ในการสกัดกั้นกระบวนท่าสังหารของซูเฉิน แม้รับไม่ได้ทั้งหมด จนอาจถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีทางถึงตายอย่างแน่นอน

น่าเสียดาย ที่หวงคังดูเหมือนจะมั่นใจ และดูแคลนพลังทำลายล้างของซูเฉินมากเกินไป

ดาบในมือซูเฉินไม่เพียงแต่แฝงไปด้วยพละกำลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เท่านั้น แต่มันยังอัดฉีดไปด้วยเวทมนต์ธาตุลมอีกด้วย

นอกจากนี้ [ดาบเสริมมนตรา] ยังเป็นอาวุธวิเศษ ขวานธรรมดาจะต้านทานมันได้อย่างไร?

2/10

Ep.142

เอี๊ยดดดด ….!!

บังเกิดเสียงเหล็กเสียดสีอย่างรุนแรง สุดท้ายเป็นอาวุธของหวงคังที่พ่ายแพ้ ทั้งคนทั้งขวานถูกผ่าแยกเป็นสองซีก

เลือดมหาศาลกระเซ็นจากร่างหวงคัง บรรยากาศโดยรอบถูกย้อมไปด้วยสีแดงน่าสยดสยอง

เดิมชายชราแซ่โหยวต้องการลอบโจมตีซูเฉิน แต่พอเห็นฉากนองเลือดนี้ ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

ที่เหลืออีกสิบกว่าคน เนื่องจากไม่ได้แข็งแกร่งอะไร เลยวิ่งมาข้างหน้าช้ากว่าพวกหวงคัง แต่ยังไม่ทันถึงที่ หัวหน้าของพวกเขาก็ถูกสังหารเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เห็นจุดจบอันน่าสังเวชของหวงคัง ทั้งหมดชะงักงัน ฝีเท้าหยุดกึก จ้องมองซูเฉินด้วยความสยดสยอง

แค่ฉับเดียว .. เมื่อครู่แค่ดาบเดียวเท่านั้น ..!

แต่กลับร้ายแรงถึงขั้นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ตายในครั้งเดียว!

บรรดาลูกน้องที่ติดตามมา มีระดับการฝึกฝนสูงสุดอยู่ที่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 เท่านั้นเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เช่นซูเฉิน พวกเขายังเหลือความกล้าที่จะต่อสู้อีกหรือ?

หลังจากสังหารหวงคัง ซูเฉินสะบัดๆ [ดาบเสริมมนตรา] หลังจากสะบัดคราบเลือดส่วนใหญ่ออกได้แล้ว เขาก็หันไปมองชายชราแซ่โหยว

ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ชายชราแซ่โหยวสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันหนาวเหน็บ มันเสียดแทงลึกลงไปถึงกระดูก

“ผู้อาวุโส โปรดรับฟัง ฉันมีบางอย่างจะพูด”

ชายชราแซ่โหยวกลัวว่าหากพูดช้าเกินไปจะถูกสังหาร เลยรีบเอ่ยออกมา “พวกเราไม่มีความคับข้องใจใดๆต่อกัน ฉันแค่ถูกหวงคังลากตัวมาด้วย ขออาวุโสโปรดยั้งมือ ปล่อยพวกเราไป”

แม้ซูเฉินจะยังเด็ก แต่ความแข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าทุกคนที่นี่

ชายชราแซ่โหยวรู้สึกกระทั่งว่า ซูเฉินน่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เมื่อมีผู้แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้า เขาจึงไม่รู้สึกกระดากอายที่ต้องเรียกอีกฝ่ายอย่างสมเกียรติว่า ‘ผู้อาวุโส’

“แกกำลังหมายความว่าระหว่างพวกเรา มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดงั้นหรอ?” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างเฉยเมย

“ใช่ ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ชายชราแซ่โหยวพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ก่อนเอ่ยเสริมทับว่า “แน่นอน เรื่องนี้พวกเราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดังนั้นขอมอบหินพลังงานให้เป็นการชดใช้”

ซูเฉินถูจมูกเขา มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย

“ไม่ต้องลำบากหรอก เพราะเดี๋ยวฉันจะไปค้นมันจากศพแกเอง!”

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของชายชราแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

เขาได้รับคำตอบแล้ว ว่าจิตใจซูเฉินยังคงพยาบาท ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไป

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ เขาก็หันหลังกลับ เตรียมวิ่งหนีไปโดยไม่พูดอะไรอีก

เพียงแต่ว่า เขายังไม่ทันจะได้ยกเท้าขึ้น กลับรู้สึกว่าตรงข้อเท้าของตัวเอง ถูกบางสิ่งบางอย่างรั้งเอาไว้

ในเวลาเดียวกัน พลังมหาศาลลุกฮือไปทั่วสารทิศ บีบคั้นเขาจนหายใจไม่ออก

“เวทมนต์พันธนาการธาตุไม้! พลังจิตเลเวล 3 !”

หัวใจของชายชราแซ่โหยวเต้นครึกโครม มันหล่นฮวบลึกลงไปจนไม่เห็นก้นบ่อ

เขารู้ดี ว่าตนติดกับเวทมนต์ไม้และพลังจิต เลเวล 3 พร้อมกัน ซึ่งยากที่จะหลบหนี เริ่มร้องขอความเมตตา “ผู้อาวุโสโปรดไว้ชีวิต ฉันเป็นคนของเมืองทงเทีย--”

ฉัวะ!

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ตวัดดาบขัดจังหวะคำพูดของชายชราแซ่โหยว

ชายชราแซ่โหยวสัมผัสได้ถึงประกายเย็นเยียบสว่างวาบต่อหน้าต่อตา จากนั้นศีรษะเขาก็แยกจากลำตัว สติดิ่งวูบจมสู่ความมืดมิดอย่างสิ้นเชิง

“วิ่ง!”

ลูกน้องที่เหลืออีกสิบกว่าคนหวาดกลัวแทบตาย ทั้งหมดวิ่งขึ้นไปบนรถฐานทัพด้วยความสิ้นหวัง

“พี่ชาย นึกจะมาก็มา ตอนนี้คิดหรือว่าจะหนีไปไหนได้?” ซูเฉินเยาะเย้ย

เมื่อคนนับสิบวิ่งขึ้นรถฐานทัพ สตาร์ทเครื่องเตรียมล่าถอย ซูเฉินก็เหยียดมือ ยิงบอลสายฟ้าออกไป

ตามมาติดๆด้วยเสียงอัสนีบาต สะเทือนเลือนลั่นผืนดิน รถฐานทัพทั้งสามคันกลายเป็นขี้เถ้า

ผู้คนนับสิบที่วิ่งขึ้นไปเมื่อครู่ ถูกระเบิดไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูกให้เห็น

หวู่หยางและหยางหลิงเทียนมองหน้ากัน ทั้งสองส่งเสียง เกร๊าะ เดาะลิ้นตัวเอง

ความแข็งแกร่งของซูเฉินทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงอีกครั้ง

เผชิญหน้ากับศัตรูสามคนในเลเวลเดียวกัน แต่เป็นซูเฉินเพียงลำพังที่สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้

นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าซูเฉินคือตัวตนคงกระพันในเลเวลเดียวกัน

และยังเป็นไปได้สูง ว่าเขาอาจถึงขั้นสามารถสังหารศัตรูข้ามขั้นได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด