ตอนที่ 245 ขณะเดียวกัน
ตอนที่ 245 ขณะเดียวกัน
จากความทรงจำของวินา หลังจากนี้อีก 3 ชั่วโมงซอมบี้จะปิดฉากสงครามสุดท้ายขึ้นมา และพวกเธอทุกคนจะตาย วินาต้องหาทางออกและเธอต้องหาสิ่งที่จะช่วยพลิกสถานการณ์ให้เจอ
จนในที่สุดเธอก็เจอเส้นทางที่จะทำให้ทุกคนรอด นั้นก็คือเธอต้องได้สิ่งนั้นมาก่อนที่คนอื่นจะได้มันไป
“ทุกคนเชื่อฉันไหม” วินาหันไปถามทุกคนด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ทุกคนมองด้วยความงงกับคำพูดของวินา แต่ในตอนนั้นเองชารอนถาม “เธอไม่ได้สลบไป แต่เกิดจากความสามารถพยากรณ์ใช่ไหม”
วินาพยักหน้าด้วยท่าทีที่สงบมาก ทำให้แต่ละคนฟังวินาด้วยความตั้งใจ แม้แต่เมสันที่ดูพื้นเหล็กอยู่ก็เช่นกัน
......
ในขณะเดียวกันทางด้านของเอวาและนิเรีย ทั้งสองถูกขังอยู่ภายในกรงโลหะพิภพที่มีลักษณะเหมือนเกวียน โดยมีแรดเกราะเหล็กระดับ 5 ถึง 4 ตัวกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง
ในกรงนอกจากเอวาและนิเรียแล้วยังมีนักโทษมนุษย์อีกหลายร้อยคนที่อยู่ในกรงเช่นกัน แต่ละคนเต็มไปด้วยความกลัว นอกจากกรงที่พวกเขาอยู่แล้วยังมีกรงแบบนี้อีกกว่าร้อยกรง
“ยักษ์เถื่อนพวกนี้ มันกำลังพาเราไปที่ไหน” นิเรียถามด้วยความสงสัย กองทัพย์เถื่อนเคลื่อนตัวด้วยความรวดเร็ว
“ไม่รู้เหมือนกัน”
ขณะที่เอวาตอบกลับในตอนนั้นเองก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด ยักษ์เถื่อนจู่โจมใส่พวกเดียวกันเอง
กองทัพยักษ์เถื่อนหยุดชะงักในทันที ก่อนที่พวกเขาจะต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอาทุกคนงงกับการกระทำของพวกยักษ์เถื่อน
“พวกมันสู้กันเอง ดูนั่นยักษ์เถื่อนตนนั้นเหมือนกับในข้อมูลของพี่ชาย”
ไฮดราเรียชี้ไปที่ยักษ์เถื่อนชราซึ่งตามข้อมูลที่ไนเรลเคยบันทึกไว้ ยักษ์เถื่อนตนนี้คือ ข้ารับใช้องค์ชายใหญ่ แต่ตอนนี้นิเรียไม่เห็นว่าองค์ชายใหญ่ยักษ์เถื่อนเผ่าอัคคีจะอยู่ในการต่อสู้ด้วย
ข้ารับใช้ชราตอนนี้มีพลังถึงระดับ 7 ขั้นสูง ได้ควบคุมไฟกลายเป็นเส้นสายเหมือนกับงูนับไม่ถ้วนโจมตีเข้าไปในร่างของราชายักษ์เถื่อนเผ่าวารี
“นี่สำหรับเจ้าที่ทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเองไปช่วยระบบกักขังพวกเรา”
“นี่สำหรับเหล่าสายเลือดเทพไททันนับล้านล้านชีวิตที่ต้องสังเวยเพื่อความโลภของเจ้า”
“นี่สำหรับเชื้อสายราชวงศ์เผ่าอัคคีและปฐพีข้าที่เจ้าฆ่าไป”
“นี่สำหรับองค์ชายใหญ่ที่ตายด้วยน้ำมือเจ้า”
“บัดซบเจ้าเป็นแค่ข้ารับใช้ที่ต่ำต้อย คิดจะกบฏยึดอำนาจราชาผู้นี้อย่างนั้นเหรอ เจ้าไม่รู้เลยใช่ไหมว่าที่ข้าตกลงกับระบบเพราะต้องการพาเผ่าพันธุ์เทพไททันของเราออกไปจากกรงขังนี้ อ๊ากกก!!!” ราชายักษ์เถื่อนเผ่าวารีพยายามใช้กำแพงวารีโลหิตมาป้องกันอัคคีของข้ารับใช้ชรา แต่เพราะความต่างของพลัง น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ
“เจ้าคิดว่าเผ่าเราอ่อนแอจนขนาดยอมก้มหัวให้กับระบบนั้นอย่างนั้นเหรอ ถ้าเจ้าคิดแบบนั้นก็ไม่คู่ควรที่ต่อสายเลือดเทพไททัน” เปลวไฟที่เต็มไปด้วยความคั่งแค้นของข้ารับใช้ชราเผาผลาญร่างของราชาเผ่าว่ารีไปจนหมดสิ้น
แม้แต่ขี้เถ้าก็ยังไม่มีเหลือ เหล่ายักษ์เถื่อนเผ่าวารีต่างก็ได้ยินเสียงร้องก่อนตายของราชาตนเอง ขวัญกำลังใจในการต่อสู้ของเผ่าวารีลดต่ำลงทันที
“เผ่าวารี ตอนนี้ราชาวารีตายแล้ว พวกเจ้าคิดจะตายตามไปอย่างนั้นเหรอ” ข้ารับใช้ชราฉวยโอกาสพูดโจมตีจิตใจพวกมันทั้งหมด
หลายตนรู้สึกลังเล ยักษ์เถื่อนทั้งหมดต่างหยุดการกระทำและรอว่าตนอื่น ๆ จะทำอย่างไร ในตอนนั้นเองอัศวินเทพไททันเผ่าวารีที่ยังมีชีวิตอยู่รอดก็ถามข้ารับใชชรา
“เจ้าสังหารเชื้อสายราชวงศ์ของเผ่าเทพไททันคนสุดท้ายไปแล้ว คิดว่าตัวเจ้ามีคุณสมบัติที่จะขึ้นปกครองพวกเราอย่างนั้นเหรอ”
เผ่าวารีได้ยินก็คิดตาม สำหรับพวกยักษ์เถื่อนหรือเทพไททันแล้ว ตัวตนอย่างสายเลือดราชวงศ์คือสิ่งที่หลอมรวมอำนาจของเผ่าเทพไททันและเหมาะจะเป็นผู้นำมากที่สุด แต่ตอนนี้สายเลือดราชวงศ์เหล่านั้นตายไปหมดแล้ว
เพราะตอนที่ราชาเผ่าวารีรวบรวมเผ่าเทพไททันเขาได้ฆ่าราชวงศ์ของเผ่าอื่นจนสิ้น และสุดท้ายราชาเผ่าวารีคือตนสุดท้ายที่มีสายเลือดราชวงศ์ แต่ก็มาตายด้วยน้ำมือของข้ารับใช้ชรา
ช่างน่าขันยิ่งนัก สุดท้ายพวกเขาก็ฆ่ากันเองจนล่มสลาย
“หึ ข้ารู้สถานะตัวเองดี แต่เจ้าลืมอย่างนั้นเหรอยังมีอีกซึ่งมีเทพไททันสายเลือดราชวงศ์เหลืออยู่ และพวกนางทั้งสองคือคำตอบของคำถามที่พวกเจ้าอยากรู้” ข้ารับใช้ชราชี้ไปยังเอวาและนิเรียที่ถูกขังอยู่
ทั้งเอวาและนิเรียดูจะแปลกใจสุด ๆ อยู่ดี ๆ ก็ฆ่ากันเอง จากนั้นก็มาชี้ที่พวกตน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้โง่พอจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้อยู่บ้าง ดูเหมือนข้ารับใช้ชราจะรู้ว่าพวกเธอทั้งสองมาจากอีกโลก และที่พวกนี้ต้องการคำตอบก็คงจะเป็นเรื่องขององค์ชายใหญ่อะไรนั้นที่ไนเรลเคยพูดถึง
ในขณะนั้นเองอยู่ ๆ อุปกรณ์สื่อสารของทั้งเอวาและนิเรียก็มีข้อความแจ้งเข้ามา
“ไนเรลถูกจับอยู่ที่ปราการสุดท้าย สงครามซอมบี้กำลังเริ่มขึ้น”
ไฮดราเรียสีหน้าดูไม่ดีเป็นอย่างมาก เอวาลุกขึ้นยืนทันที เธอส่งสายตามองไปที่ข้ารับใช้ชราราวกับบอกว่าปล่อยพวกเราแล้วเราจะบอกสิ่งที่อยากรู้
หลังจากเธอออกมาก็เจรจากับข้ารับใช้ชราก่อนจะบอกเรื่องที่พวกนี้อยากรู้ ในที่สุดยักษ์เถื่อนเผ่าวารีก็ยอมแพ้ พวกเขาไม่รู้จะสู้ไปทำไมในเมื่อราชาเผ่าวารีตายไปแล้ว
“อันที่จริงแล้วที่พวกเรากำลังเดินทางไปก็คือที่ปราการสุดท้ายเพื่อฆ่ามนุษย์และช่วยเหลือซอมบี้” อัศวินเทพไททันเผ่าอัคคีบอกแผ่นการที่ราชาเผ่าวารีวางไว้ ที่จริงทหารของเผ่าวารีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของราชาวารี แต่เพราะคือราชาดังนั้นพวกตนจึงต้องทำตาม
ตอนนี้เมื่อไร้ซึ่งราชาวารีแล้วพวกเขาก็เหมือนเป็นอิสระมากขึ้นจึงอยากจะทำเพื่อชดเชยเลือดที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
“จากที่เล่ามากุญแจทั้ง 6 ดอกคงอยู่กับจักรพรรดิซอมบี้”
หลังจากทุกอย่างถูกจัดการจนหมดกองทัพยักษ์เถื่อนที่พึ่งผ่านการต่อสู้มาก็รีบมุ่งหน้าไปที่ปราการสุดท้ายโดยไม่สนใจสิ่งใด แน่นอนว่ามนุษย์คนอื่น ๆ ถูกปล่อยออกมาเพื่อเพิ่มกำลังรบ
ยักษ์เถื่อนตอนนี้มีเป้าหมายที่กุญแจทั้ง 6 ดอกเพื่อเปิดประตูไปอีกโลก แต่สำหรับสองสาวสิ่งนี้เป็นเรื่องรอง พวกเธอต้องไปช่วยไนเรลให้ได้
......
ขณะเดียวกันที่ชายขอบของดินแดนไรขอบเขตโรเลน่า ไฮดราเจ็ดเศียรกำลังเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับเหล่ากองทัพเผ่าเจ้าสมุทรหนึ่งแสนตนที่มีพลังระดับ 5 ขึ้นไป บนหลังของเจ้าไฮดราเจ็ดเศียรนอกจากเผ่าเจ้าสมุทรแล้วยังมีหญิงสาวสองคนนั่งอยู่อีกด้วย
หญิงสาวทั้งสองไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นลูน่าและสเตล่า
หลังจากที่ลูน่าสูญเสียคริสตัลวิวัฒนาการไปเพื่อช่วยชีวิตไนเรล เธอก็สลบร่วงหล่นลงจากฟ้าก่อนที่สเตล่าเข้ามาช่วยเธอไว้และทั้งสองก็เข้าไปที่ประตูเคลื่อนย้าย มาโผล่ที่อยู่สุดท้ายของเผ่าเจ้าสมุทร
ในตอนแรกหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาลูน่าคิดว่าตัวเองสูญสิ้นพลังไปจนหมดแล้ว เพราะคริสตัลพลังงานของเธอระเบิดไป
แต่ใครจะไปคิดว่าในตอนที่เธอสลบไปหลังจากระเบิดคริสตัลวิวัฒนาการที่หน้าผากกลับสามารถกระตุ้นแก่นพลังงานที่อยู่ในร่างกายขึ้นมาได้ ระดับพลังของลูน่าฟื้นขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 ขั้นกลางอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ส่วนที่ว่าเธอมีแก่นพลังงานได้อย่างไรนั้น ก็เพราะเธอเป็นลูกครึ่งมนุษย์อสูร ลูกของไนเรลและสเตล่าจึงมีทั้งคริสตัลวิวัฒนาการและแก่นพลังงานในตัว เมื่อก่อนเพราะคริสตัลวิวัฒนาการกดแก่นพลังงานไว้มันจึงไม่เคยแสดงพลังออกมา
ส่วนที่ว่าทำไมคริสตัลวิวัฒนาการสามารถสะกดข่มแก่นพลังงานได้อาจจะเกี่ยวข้องกับสายเลือดของไนเรล ซึ่งเธอคิดว่ามีแค่สิ่งนี้เท่านั้นที่พอจะอธิบายได้
สำหรับลูน่าแล้ว เธอได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับพ่อของเธอที่แม้แต่ตัวของไนเรลอาจจะไม่รู้ก็ได้
ช่วงสองร้อยปีลูน่าตามหาเบาะแสของไนเรลมาตลอด แน่นอนว่าเธอเจอมันหลายอย่าง แต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร เพราะลูน่าไม่เคยบอกกับใคร
ในตอนนั้นเองชายหนุ่มรูปงามที่ดูสภาพคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาลูน่า เขาคือ ท่านเพบีกีส ผู้ที่คุมอำนาจและนับเป็นราชาของเผ่าเจ้าสมุทรตอนนี้ก็ได้
“เจ้าทั้งสองคือคนของเผ่าเจ้าสมุทร คิดจะไปช่วยมนุษย์ผู้นั้นจริง ๆ ใช่ไหม” ท่านเพบีกีสถาม
“ใช่ เขาคือพ่อของข้า”
“ครั้งหนึ่งเผ่าเจ้าสมุทรคิดว่าการฆ่ามนุษย์จะทำให้ซอมบี้หยุดลง แต่สิ่งนั้นกลับเป็นความผิดพลาดพวกเราควรช่วยกันฆ่าซอมบี้มากกว่าที่จะฆ่ามนุษย์ ถึงจะรู้แบบนั้นแต่มันก็สายไป ซอมบี้ได้ทำลายโลกใบนี้ไปจนไม่อาจจะแก้ไขได้ โลกได้ตายซาก เผ่าเจ้าสมุทรก็ล้มตายลงด้วย เพราะพื้นน้ำแห้งเหือด ตอนนี้โลกนี้มาถึงขีดจำกัดแล้ว เผ่าเจ้าสมุทรก็เช่นกัน ข้าต้องไปเอากุญแจและพาเผ่าเจ้าสมุทรข้ามผ่านไปอีกโลกให้ได้ ดังนั้นเจ้าจะติดตามไปด้วยก็ได้” ท่านเพบีกีสกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
สมาชิกทั้งหมดของเผ่าเจ้าสมุทรเหลือกันไม่กี่แสนตนเท่านั้น หลังจากสงครามภายในของเผ่าเจ้าสมุทรที่แย่งชิงท้องทะเล พวกเขาก็ล้มตายกันจำนวนมาก แต่ที่หนักกว่านั้นคือโลกที่กำลังจะตายมันทำให้แหล่งน้ำสูญสิ้น ท้องทะเลแห้งเหือด ตอนนี้พวกเขาจึงมีกันอยู่แค่นี้
ท่านเพบีกีสยังกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยไปยังทิศทางหนึ่ง “หวังว่าเด็กสาวตนนั้นจะสืบทอดพลังของท่านผู้นำจิตวิญญาณแห่งเผ่าแมวมายาได้และทำตามแผนที่วางไว้ได้ล่ะนะ”
ในตอนนั้นเองก็มีข้อความที่ส่งผ่านอุปกรณ์สื่อสารในมือของท่านเพบีกีสโดยระบุเพียงสั่น ๆ ว่า ซอมบี้บุกโจมตีมนุษย์แล้ว ท่านเพบีกีสจึงสั่งให้เคลื่อนทัพโดยเร็วที่สุด
กรรรรร!!!!!!!!!!!
ไฮดราเจ็ดเศียรร้องคำรามมันเคลื่อนที่ราวกับบินได้ตัดผ่านท้องฟ้ามุ่งหน้าไปที่ปราการสุดท้าย
เมฆฝนอยู่สูงขึ้นไปรวมตัวเข้าหากันคอยติดตามไฮดราเจ็ดเศียรไป กองทัพเผ่าเจ้าสมุทรเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ พร้อมกับความชื้นในอากาศที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และแล้วเผ่าเจ้าสมุทรเข้าสู้กับซอมบี้