ตอนที่แล้ว133-134
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป137-138

135-136


5/10

Ep.135

มองไปยังกริชที่ะท้อนแสงวาววับ และปลายแหลมของมันที่กำลังแหย่เข้าไปในเบ้าตา ชายชรารีบอ้อนวอนขอความเมตตา “หยุดมือ! ฉันยอมแล้ว ฉันจะสารภาพทุกอย่าง”

ซูเฉินขยิบตาให้เฉาหราน บอกให้อีกฝ่ายหยุด จ้องไปที่ชายชรายอีกครั้ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกควรจะพูดความจริง ถ้ากล้าโกหก ก็เตรียมรับความเสี่ยงที่ตามมาได้เลย”

ชายชราหลั่งเหงื่อเย็น สูดหายใจเข้าลึกๆ กล่าวสารภาพราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา “ฉันมาจากนิกายวูหยิน”

“นิกายวูหยิน?” ซูเฉินทวนคำ หันไปถามหวู่หยาง

เขาไม่เคยได้ยินชื่อ ‘นิกายวูหยิน’ มาก่อน เลยอยากถามความเห็นว่าหวู่หยางรู้อะไรบ้างหรือไม่

หวู่หยางหันมาสบตาซูเฉิน ส่ายหัวเล็กน้อย

ได้คำตอบแบบนี้ ซูเฉินก็หันไปถามชายชราอีกครั้งว่า “นิกายวูหยินอยู่ที่ไหน”

“อยู่ในเขตหยูหลิน” ชายชราตอบกลับอย่างรวดเร็ว

พอได้ยิน ดวงตาของซูเฉินหรี่แคบลง เขารู้จักเขตหยูหลิน แต่ถ้าให้อธิบายชัดๆ สมควรบอกว่าเขาเคยเห็นมันใน [แท็บเล็ตแผนที่ทวีปเสวียนเทียน]

เขตหยูหลินตั้งอยู่ใจกลางเกาะเฉียนหยู

เกาะเฉียนหยูแบ่งออกเป็นสามภูมิภาคหลัก อันได้แก่ เขตหยูหลิน , เขตเตอหลิน และเขตหวงหลิน

ในบรรดาทั้งสาม เขตหยูหลินมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุด ส่วนตำแหน่งที่ซูเฉินอยู่ตอนนี้คือเขตหวงหลิน

“กำลังรบของนิกายวูหยินของพวกแกเป็นยังไง? แข็งแกร่งที่สุดเลเวลไหน?”

หลังจากทราบแล้วว่านิกายวูหยินอยู่ที่ใด ซูเฉินก็เริ่มถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

“นิกายวูหยินของเราเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่ดีที่สุดของเขตหยูหลิน ท่านประมุขเตียวหลงเป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 4”

ขณะกล่าว เขาก็ลอบสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของซูเฉิน

เดิมที ชายชราคิดจะเอ่ยชื่อ ‘ท่านเตียวหลง’ ออกมาขู่ให้ซูเฉินรู้สึกกลัว

แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวัง เพราะสีหน้าของซูเฉินยังคงเรียบเฉย ราวกับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ไม่ได้อยู่ในสายตาเขา

“จากที่ได้ฟังมา ต้องขอยอมรับว่านิกายวูหยินของพวกแกยังพอแข็งแกร่งอยู่บ้าง” ซูเฉินพยักหน้าเล้กน้อย

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 แทบจะเป็นสิ่งมีชีวิตบนยอดปิระมิดของเกาะเฉียนหยู

จากข้อมูลนี้ ช่วยให้เราสรุปได้ว่า นิกายวูหยินเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่ทรงพลังที่สุด

แน่นอน ว่านั่นสำหรับคนอื่นๆ

ในสายตาของซูเฉิน มันก็แค่สิ่งของที่สามารถทำลายล้างเมื่อไหร่ก็ได้หากต้องการ

“แล้วพวกแกมาที่นี่ มีจุดประสงค์อะไร?” ซูเฉินถาม

เขตหยูหลินอยู่ห่างออกไปหลายหมื่นไมล์ ต่อให้ขับรถฐานทัพก็ยังต้องใช้เวลาสิบวันถึงครึ่งเดือน

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกพวกซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์โจมตีเอาระหว่างทาง

ทั้งๆที่เสี่ยงและยากลำบาก แต่อีกฝ่ายกลับยืนกรานที่จะมา ดังนั้นเลยเกิดความสงสัย

ใบหน้าของชายชราแสดงออกถึงความไม่แน่ใจขึ้นมา ดูเหมือนเขาค่อนข้างลำบากใจกับคำถามนี้ แต่สุดท้ายยอมตอบว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อส่งจดหมายตามคำสั่งของประมุข”

“ส่งจดหมาย?” ซูเฉินผงะไปครู่หนึ่ง เขาหรี่ตาลง กล่าวเสียงหม่น “นี่แกไม่ได้กำลังล้อเล่นกับฉันใช่ไหม?”

เดินทางมาสุดขอบฟ้า เพื่อส่งจดหมายเนี่ยนะ?

เรื่องแบบนี้ จะให้ซูเฉินเชื่อได้อย่างไร?

“พี่เฉิน ไอ้หมอนี่มันไม่จริงใจ ฉันว่าเลาะลูกตาเขาซักข้างดีกว่า” เฉาหรานเองก็คิดว่าชายชราไม่ได้พูดความจริง เอ่ยเสนอแนะ

ชายชราตัวสั่นด้วยความตกใจ รีบอธิบายว่า “สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง และจดหมายก็อยู่กับฉัน”

“เอามันออกมาให้ดูหน่อย” ซูเฉินถอนพลังจิตของเขา ปล่อยชายชราได้รับอิสภาพกลับคืน

ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ชายชราหยิบซองจดหมายจากอ้อมแขนอย่างว่าง่าย ยื่นแก่ซูเฉิน

เมื่อลองเปิดอ่านมัน สีหน้าของซูเฉินตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย

เพราะในซองจดหมาย มีกระดาษเพียงแผ่นเดียว และมีข้อความคล้ายลูกอ๊อด เขียนเอาไว้ย่อหน้าหนึ่ง

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงกลายเป็นโง่งม ไม่เข้าใจอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะตัวอักษรบนจดหมายไม่ใช่ของโลกใบนี้

แต่ซูเฉินรู้จักมัน และเขาก็รู้ด้วยว่านี่เป็นอักษรของชนเผ่าใด มันคือภาษาของเผ่าเต่าเขียวที่เพิ่งคุยกับเขาเมื่อครู่นี้เอง

6/10

Ep.136

เนื้อหาในจดหมายเรียบง่ายมาก มีเพียงประโยคสั้นๆใจความว่า ‘เมื่อประตูเขตแดนถูกเปิดออก จงรีบมายังเขตหยูหลิน ช่วยข้าสยบอำนาจทั้งมวล รวบรวมเกาะเฉียนหยูเป็นหนึ่งเดียว’

พออ่านจบ ซูเฉินก็ใส่จดหมายลงในถุงเก็บของ เริ่มใช้สมองปั่นความคิด

เขาเดาว่า จดหมายที่ถูกเขียนโดย ‘ท่านเตียวหลง’ ฉบับนี้ น่าจะส่งถึงเผ่าเต่าเขียว

แต่ทำไม ‘ท่านเตียวหลง’ ถึงสามารถติดต่อกับเผ่าเต่าเขียวได้?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาอาจเป็นสมาชิกของเผ่าเต่าเขียวเช่นกัน?

มีเผ่าเต่าเขียวแฝงตัวอยู่ท่ามกลางเผ่ามนุษย์กระนั้นหรือ?

ชั่วขณะหนึ่ง ซูเฉินขบคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจได้ นั่นคือความทะเยอทะยานของ ‘ท่านเตียวหลง’ นั่นไม่ธรรมดาจริงๆ เขาคิดอาศัยกำลังของชนต่างเผ่าเข้ายึดครองเกาะเฉียนหยู

เรื่องอยากเป็นใหญ่ หรือยึดครองพื้นที่ทั้งหมดเป็นของตัวเอง ซูเฉินพอจะเข้าใจได้ แต่ยังไงซูเฉินก็ไม่อยากเห็นเกาะๆนี้ถูกปกครองโดยชนต่างเผ่าจริงๆ

เขาลอบสาบานกับตัวเองอย่างลับๆ ว่าหากมีโอกาส จักต้องทำลายแผนสมรู้ร่วมคิดของ ‘ท่านเตียวหลง’ ให้จงได้

“จดหมายฉบับนี้เขียนถึงใคร?” หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ซูเฉินก็เอ่ยถามอีกครั้ง

แม้เขาจะทราบดีว่ามันถูกนำมามอบให้มนุษย์เต่าเขียว แต่เขาก็ยังยืนยันเพื่อความแน่ใจ

“ฉันไม่รู้ว่าต้องส่งให้ใคร ประมุขนิกายแค่บอกว่าในเทือกเขาฮวงเจ๋อมีเหมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้อยู่ แค่โยนจดหมายนี่เข้าไปก็พอแล้ว” ชายชรากล่าวตามความสัตย์จริง

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ในตอนนี้ เขาแน่ใจแล้วว่า ‘ท่านเตียวหลง’ กำลังติดต่อกับเผ่าเต่าเขียว

“ในเขตหยูหลิน มีขุมกำลังอื่นๆอยู่อีกบ้างไหม?” ซูเฉินถามต่อ

ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าไม่ช้าก็เร็วเขาต้องได้เดินทางไปยังเขตหยูหลิน ฉะนั้นก่อนไป มันจะดีกว่าไหมหากทำความเข้าใจคร่าวๆเกี่ยวกับกองกำลังที่นั่น

“ขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดนอกเหนือจากนิกายวูหยินของพวกเรา ก็มีนิกายขวงฉี และเมืองทงเทียน ส่วนที่อ่อนแอรองลงมาก็คือ …” ชายชราไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย

หลังจากสาธยายยาวนานถึงครึ่งชั่วโมง ซูเฉินก็พอเข้าใจคร่าวๆถึงขุมกำลังน้อยใหญ่ในเขตหยูหลิน เมื่อเสร็จธุระ เขาสังหารชายชราอย่างไม่ลังเล

“ทุกคนเข้าไปในถ้ำเถอะ”

หลังจากกำจัดชายชราแล้ว ซูเฉินก็ตะโกนเรียกทุกคนที่อยู่บน [รถศึกอัจฉริยะ] เข้าไปพักผ่อนกันในถ้ำ

ข้างในถ้ำยังมีต้นแอปเปิ้ล แต่ผลไม่เหลือแล้ว คาดว่าคงถูกคนของนิกายวูหยินกินไป

เมื่อทุกคนเข้ามาในถ้ำ ซูเฉินหยิบ [เตาอเนกประสงค์] ออกมาเป็นชิ้นแรก จากนั้นนำศพหมีศิลาคลั่งออกมาสองตัว ส่งทั้งหมดให้หยางฮ่าวเตรียมอาหารเย็น

หลังจากนั้น เขาเรียกหวู่หยางและหยางหลิงเทียน แล้วหยิบขวดแก้วสองใบที่บรรจุของเหลวสีแดงออกมา

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ดวงของหยางหลิงเทียนเปล่งประกายขึ้นทันใด ลมหายใจเขาเริ่มถี่รัว

เพราะเขาสามารถจดจำได้อย่างชัดเจน ว่าคราวก่อนที่หยางฮ่าวดื่มน้ำยานี้เข้าไป ในชั่วพริบตาเดียว อีกฝ่ายได้เปลี่ยนจากคนธรรมดากลายเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1

“ถ้าดื่มมัน จะช่วยให้ฉันขึ้นเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ได้ใช่ไหม” หยางหลิงเทียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เขาติดอยู่ในเลเวล 1 มานานหลายสิบปีแล้ว และเฝ้าฝันที่จะขึ้นเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ตลอดมา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพรสวรรค์และทรัพยากรสำหรับใช้ฝึกฝนมีจำกัด เขาจึงไม่อาจบรรลุความปรารถนาได้

ตอนนี้ เมื่อเห็นซูเฉินหยิบยาวิเศษออกมา เขาก็เกิดแรงกระตุ้นอย่างไม่อาจอธิบายได้

กระทั่งสามารถรับรู้ล่วงหน้าได้อย่างเลือนราง ว่านี่คือสิ่งที่สามารถยกระดับเขาไปสู่ผูู้วิวัฒนาการเลเวล 2

“ซูเฉิน ที่คุณถือมันคืออะไร?”

หวู่หยางไม่เคยเห็น [โพชั่นกายภาพ] มาก่อน เลยขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อย

ซูเฉินมอบ [โพชั่นกายภาพ เลเวล 2 ] ให้กับหวูหยางและหยางหลิงเทียน ยิ้มเล็กน้อย “ดื่มมัน ด้วยคุณสมบัติของมัน จะช่วยให้พวกคุณกลายเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ในไม่ช้า”

“ว่ากระไร!?” ดวงตาของหวู่หยางเบิกกว้าง คิดว่าตนหูฝาดไป

เพียงดื่มของเหลวที่มีที่มาไม่แน่นอนขวดเดียว ก็สามารถยกระดับขึ้นเป็นผู้วิวัฒนาการเลเลว 2 ได้อย่างงั้นหรือ?

นี่ใช่เรื่องล้อกันเล่นรึเปล่า?

เพราะหากมีสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ในโลกอยู่จริงๆ เช่นนั้นผู้วิวัฒนาการจะไม่กลายเป็นสินค้าที่พบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนนเลยหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด