ตอนที่ 15 Godness
ร่างหุ้มเกราะเงินหลายร้อยคนรวมตัวกันท่ามกลางซากศพ และทะเลเลือดที่กระจายอยู่ทั่วพื้น พวกดเขาดูเหมือนจะเป็นกองทัพพยุหะเอลฟ์ ทริสตันสังเกตจากลักษณะหูที่แหลมยาวของพวกเขา พวกเอลฟ์ยืนกระจายกันทั่วบริเวณโดมอย่างมากมาย แต่ละตนมีทั้งธนู และดาบครบมืออยู่ทางด้านข้างและด้านหลัง ประกายแวววาวและลักษณะของคันธนูบ่งบอกได้ว่านี่ไม่ใช่คันธนูที่มาจากโลกเบื้องล่างอย่างแน่นอน ทริสตันรู้สึกประหลาดใจกับการปรากฎตัวของเอลฟ์เหล่านี้ แต่ผ่านไปครู่หนึ่งทริสตันรีบดึงสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง
ในตอนนี้พวกเอลฟ์บางส่วนได้ล้อมรอบ และต่อสู้กับออร์กที่เหลือ บางตนก็กำลังยืนสังเกตการณ์ อีกส่วนกำลังมุ่งหน้าไปทางทริสตัน หนึ่งในกลุ่มเอลฟ์ที่ควบคุมหางเสือกำลังดึงดูดความสนใจจากทริสตันเพราะพวกเขาดูโดดเด่น มันเป็นเสือขาวตัวใหญ่ที่มีเอลฟ์หญิงนั่งอยู่บนนั้น
ผมยาวสีทองสวยสง่า นัยน์ตาสีเขียวขจี เธอสวมชุดเกราะที่คลุมเพียงครึ่งตัว เผยให้เห็นผิวขาวและร่างกายที่น่าหลงใหล ทริสตันตกตะลึงกับความงามของเอลฟ์สาวที่ปรากฎตัวต่อหน้าเขา จนเกือบลืมสถานการณ์ในตอนนี้ ครู่หนึ่งเขารีบพาสติของเขาออกจากภวังค์ในทันที
เอลฟ์สาวจ้องมองมาทางทริสตันจากสัตว์ที่มีรูปร่างแข็งแรง
“ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเจ้าอยู่ที่นี่… ไอ้สารเลว!! พวกมันกลับมาแล้ว จับพวกมันซะ!” ก่อนที่เธอจะพูด ทริสตันพูดออกมาก่อน
“เจ้าเป็นใคร?” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คำพูดของทริสตันทำให้เอลฟ์สาวรู้สึกสับสน
ทริสตันเห็นการตอบสนองของเอลฟ์สาว เขาถอนหายใจออกมาจากด้านใน เห็นได้ชัดว่าตอนนี้แผนการของทริสตันเหมือนจะไม่ราบรื่นอย่างที่เขาคิดแล้ว
เนื่องจากเลห์ลาร่างที่หมดสติของน้องสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ทริสตันจะไม่หันไปต่อสู้เด็ดขาดเว้นแต่มันจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เขาตัดสินใจเดิมพันนี้กับสถานการณ์โดยพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เอลฟ์สาวสับสน
“เจ้าเป็นใครกันแน่?!”
เอลฟ์สาวยิ่งสับสนมากขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ทริสตันถามเธอกลับ นั่นคือสิ่งที่ทริสตันต้องการลวงเอลฟ์สาว
กุญแจสำคัญในการบลัฟฟ์ที่จะประสบความสำเร็จ คือการจ้องไปที่เป้าหมายด้วยความมุ่งมั่น โดยแสดงออกโดยตรงต่อสายตาของคู่ต่อสู้
“ข้าา …” เอลฟ์สาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้น
สีหน้าของทริสตันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อสังเกตได้ว่าแผนการของเขาได้ผล จู่ๆ เอลฟ์สาวหยิบอาวุธคล้ายแส้ออกมาแล้วฟาดลงกับพื้นจนเกิดเป็นรอยแตกลึกบนพื้น
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ทริสตันคิดในใจ “เห็นได้ชัดว่า เธอไม่ได้อ่อนแอกว่าฉันเลย!”
“นามของข้าคือ ซีรีน!! .. วาลคิรีคนแรกแห่งอาณาจักรวายาร์! บอกมาสิว่าเจ้าเป็นใคร และกำลังทำอะไรอยู่ในดินแดนต้องห้ามของเอซีร์!”
ทริสตันทบทวนสถาณการณ์ทั้งหมด และเปลี่ยนท่าทางของเขาทันที
เขาก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารพ และพูดอย่างใจเย็น
“วาลคิรีผู้มีเกรียรติ .. ข้าไม่รู้จริงๆ … ข้าถูกนำมาที่นี้โดยไม่ได้ตั้งใจ …. นั่น … ก็อบลินผู้นั้น ข้าได้ยินพวกเขากำลังต่อสู้กัน … ข้าได้ยินมาว่าพวกเขากำลังจะหนีไป ข้าได้แต่หวังว่าท่านจะจับพวกมันได้ อย่าให้พวกมันหนีไปได้เถิด”
การโกหกที่ดีที่สุดคือการโกหกที่มีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่อันที่จริงแล้วสิ่งที่ทริสตันพูดนั้นไม่ใช่เรื่องโกหกเลย เขาเพียงรวบรวมสถานการณ์ทั้งหมด และละเว้นสถานการณ์บางอย่างเพียงเท่านั้น
ทริสตันพยายามมองเอลฟ์สาวด้วยหางตา เขาสังเกตได้ว่าเอลฟ์สาวดูไม่มั่นใจ
“แล้วหญิงสาวคนนั้นในอ้อมแขนเจ้าล่ะ?”
แน่นอนทริสตันเตรียมคำตอบสำหรับการปรากฎตัวของเลห์ลาไว้แล้ว “เธอ.. เธอกำลังช่วยข้าหลบหนี และได้รับบาดเจ็บ ข้าเป็นหนี้ชีวิตเธอ อย่างน้อยข้าอยากให้เธอปลอดภัย”
ทริสตันพูดขณะกำหมัด และกัดฟันไว้ แสร้งเหมือนเป็นหนี้บุญคุณเลห์ลา
แน่นอนว่านี่คือเรื่องโกหก แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องโกหกชิ้นเอกของทริสตันหรอก ประสบการณ์ชีวิตของเขาในคุก ทำให้เขามีพรสวรรค์เรื่องนี้เป็นอย่างดี
เอลฟ์หญิงขยับเข้าไปใกล้ทริสตันขณะที่เธอดึงสายจูงเสือไว้ในมือ หลังจากนั้นเสือตัวใหญ่คำรามดังใกล้ใบหน้าของทริสตันในทันที
เสียงคำรามที่ดัง และน่าสะพรึงกลัวจากสัตว์ร้ายไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัวแต่อย่างใด ทริสตันยืนนิ่งเฉย และสงสัยว่าเขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า
เอลฟ์สาวจ้องมาที่ทริสตันด้วยสายตาแหลมคม “เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก รู้ไหม…” เธอพูดด้วยความมั่นใจ
“มินา .. เธอได้กลิ่นความกลัว และเธอก็ไม่ได้กลิ่นอะไรจากเจ้าอีกเลย..”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเขาถูกจับได้ว่าโกหก ในที่สุดเขาอาจจำเป็นต้องใช้ดาบ อย่างไรก็ตามก่อนที่ทริสตันกำลังจะคว้าดาบได้ จู่ๆซีรีนพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ ทริสตันชะงักมือของเขาในอากาศ
“เฉพาะคนที่มีความผิดเท่านั้นที่กลัว... ดังนั้นเจ้า… ข้าเชื่อว่าเจ้ากำลังพูดความจริง”
“…” ทริสตันยิ้มในใจ โชคดีที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มิฉะนั้น เขาอาจจะขุดหลุมฝังตัวเขาและน้องสาวในทันที!
ซีรีนตัดสินใจก้าวลงจากหลังเสือตัวใหญ่ และจ้องมองทริสตันอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง นั่นทำให้ทริสตันมองเห็นอีกด้านหนึ่งของเธอ แววตาที่จริงใจและห่วงใย ถ้าพูดตามตรงเขาค่อนข้างประหลาดใจกับความแตกต่างที่เห็นได้ชัดนี้
“หูข้างหนึ่งของเจ้า … ตาของเจ้า” ซีรีนพูดพลางถอนหายใจ “เจ้าเอลฟ์ผู้น่าสงสาร … พวกเขาทำอะไรกับเจ้า? อย่ากังวลไปเลย ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!”
ทริสตันรู้สึกประหลาดใจกับความรู้สึกใส่ใจที่มาจากคำพูดของเธอ เธอใกล้ชิดกับเขามากขึ้น ปล่อยให้ประสาทสัมผัสของเขาได้ดื่มด่ำกับร่างกายและกลิ่นที่มีเสน่ห์ของเธอ นั่นทำให้ทริสตันรู้สึกผิดที่เขาหลอกเธอในตอนนี้
ซีรีนแสดงท่าทางผ่านมือของเธอไปทางเอลฟ์ที่อยู่ด้านหลังเธอ ทันใดนั้นพวกมันรีบวิ่งไปทางเดินในทันที “เจ้าชื่ออะไร เจ้าเอลฟ์?” เธอหันกลับมาพูดกับทริสตันก่อนเดินตามลูกน้องของเธอไป
“ข้าชื่อทริสตัน …”