ตอนที่ 790 คุณคือ...เฉียวเมียนเมียนหรือเปล่า?
เขาไม่เชื่อในความบังเอิญเช่นนั้น
ในความเห็นของเขา มีความบังเอิญน้อยมาก หากใครพบเรื่องบังเอิญมากเกินไป บางทีทุกสิ่งอาจไม่เคยเป็นเรื่องบังเอิญตั้งแต่แรก
เหตุการณ์นั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
เขาต้องสืบหาความจริงให้ได้....
...
สามชั่วโมงต่อมา
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเมืองหยุนเฉิงตามเวลา
เฉียวเมียนเมียนตื่นนอนเมื่อเครื่องลงจอด
เธอถอดผ้าปิดตาและขยี้ตา เธอรู้สึกดีขึ้นมาก หลังจากได้งีบหลับ
เธอได้รับข้อความ wechat สองสามข้อความจากเหมาเยซื่อ และสายที่ไม่ได้รับสองสาย
เฉียวเมียนเมียนเปิด wechat และเห็นว่าเป็นข้อความจากเหมาเยซื่อ เขาส่งข้อความหาเธอว่า
เหมเยซื่อ : [ที่รัก ผมถึงที่ออฟฟิตแล้วนะ]
เหมเยซื่อ : [ที่รัก ผมกำลังประชุม]
เหมเยซื่อ : [ที่รัก ผมเพิ่งประชุมเสร็จ ทำไมคุณไม่ตอบผม คุณกำลังทำอะไรอยู่?]
สองสามที่ไม่ได้รับจากเจียงหลัวลี่
เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ครู่หนึ่งและส่งข้อความถึงเจียงหลัวลี่ : [หลัวหลัว เกิดอะไรขึ้น? ฉันเพิ่งลงจากเครื่องน่ะ]
เธอรอสักพัก ทว่าเจียงหลัวลี่ไม่ตอบกลับ
ขณะที่เธอกำลังจะตอบ wechat เหมาเยซื่อ เธอรู้สึกถึงสายตาที่เย็นชามองมาที่เธอ
เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นกงเซลียืนอยู่ข้างเธอด้วยท่าทางที่มืดมน ดูเหมือนว่าเขาจะละสายตาจากโทรศัพท์มือถือของเธอ
เฉียวเมียนเมียนคิดว่าเขาไม่พอใจ ที่เธอขวางทางเขา
เธอก้าวออกไปทันทีและสละตำแหน่งของเธอ
การกระทำของเธอทำให้ท่าทางของกงเซลีเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝัน
ราวกับว่าเธอทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้เขาโกรธ และการแสดงออกที่มืดมนก่อนหน้านี้ของเขากลายเป็นห้าเท่าในทัที
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด
เธอไม่ได้สละตำแหน่งของเธอให้แล้วหรอกเหรอ?
ทำไมชายผู้นี้ถึงยังดูโกรธอยู่อีก?
แต่เธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในความคิดของเธอ กงเซลีเป็นคนที่อ่อนไหวในตอนแรก ก่อนหน้านี้เขาดูเป็นคนดีและเป็นกันเองกับเธอ
ราวกับว่าบุคลิกของเขาเปลี่ยนไป
ในชั่วพริบตา เขากลับมาเป็นคนเดิมที่เธอคุ้นเคย
แต่เธอไม่ได้ตั้งใจจะผูกมิตรกับเขา ดังนั้นเธอจึงไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของเขา
เฉียวเมียนเมียนไม่สนใจเขาอีกต่อไป เธอหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นและลงจากเครื่องบินพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ
กงเซลียืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เมื่อเห็นร่างเล็กกะทัดรัดของเธอถูกบีบเข้าไปในฝูงชนและหายวับไปจากสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาก็มืดลง
เมื่อนึกถึงข้อความในโทรศัพท์มือถือของเธอ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
ทั้งที่มันก็เป็นเพียงข้อความธรรมดา
....
เฉียวเมียนเมียนลงจากเครื่องบินและเดินตามฝูงชนไปที่ทางออก
หลังจากก้าวไปได้สองสามก้าว เธอได้ยินเสียงเรียกอย่างระมัดระวังเบา ๆ อยู่ข้างหลังเธอ
“สวัสดีคะ คุณคือ...เฉียวเมียนเมียนหรือเปล่าคะ”
เป็นเสียงของเด็กสาว
เฉียวเมียนเมียนหันกลับมาด้วยความประหลาดใจและเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์
ข้างหลังเธอมีเด็กสาวอายุราว 16 หรือ 17 ปี ยืนอยู่ เธอมัดผมหางม้าสองข้าง ใบหน้าอวบเล็กน้อย เมื่อเธอยิ้ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเต่งตึง เธอดูน่ารักเป็นพิเศษ
เฉียวเมียนเมียนจ้องไปที่เด็กสาวชั่วครู่ และแน่ใจว่าเธอไม่รู้จัก
จึงรู้สึกสับสนขึ้น “คุณคือ?”
“คุณคือ เฉียวเมียนเมียนใช่ไหมคะ?”
เด็กสาวละเลยคำถามของเธอ และถามขึ้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตของเธอสแกนเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า