ตอนที่แล้วตอนที่ 499 ตำราในโลงศพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 501 ราวกับฝูงดาวตก

ตอนที่ 500 เทียนกูว


ตอนที่ 500 เทียนกูว

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ลานนีได้เอามือกุมอกในขณะที่โบกมือ ตัวเขาได้แต่โทษตัวเองเท่านั้นที่ไม่ทันได้อธิบายอะไรก่อนที่จะแสดงโลงศพขึ้นมา การกระทำเช่นนี้ในดินแดนหยานมันถือเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างยิ่ง

ลูกน้องคนหนึ่งของลานนีได้เปิดฝาครอบขึ้นมา ชายคนนั้นได้หยิบตำราเล่มหนาออกมาก่อนที่จะยื่นให้กับลู่โจวด้วยความเคารพ

ลู่โจวมองดูตำราอย่างสงสัย “นี่มันวิธีการฝึกพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ?”

มีตำราที่คล้ายกับตำรานี้ถูกวางขายอยู่ตามท้องถนนของดินแดนหยางเป็นจำนวนมาก โดยพื้นฐานแล้วตำราทั้งหมดต่างก็เป็นเรื่องหลอกลวง

ลานนีรีบพูดขึ้น “1,900 ปีก่อน บรรพบุรุษของข้าได้พบโลงศพใบนี้บนชายฝั่งทางตอนเหนือ...ตำราที่ท่านถืออยู่คือบันทึกส่วนตัวของบรรพบุรุษข้า เขาได้บอกเอาไว้ว่าในโลงศพใบนี้มีร่างของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอยู่”

หมิงซี่หยินได้พูดออกมาอย่างประชดประชัน “แน่นอน พวกเราคงเชื่อเจ้าได้แน่ๆ”

ลานนีได้พูดตอบกลับมาอย่างมั่นใจ “ข้าขอสาบานด้วยชื่อเสียงตระกูลโบน่าร์ หากคำพูดใดของข้าเป็นเท็จ ข้าและครอบครัวยินดีที่จะถูกสาปให้กลายเป็นทาสไปชั่วชีวิต!”

“ว้าว ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้...” หมิงซี่หยินยกนิ้วโป้งให้

ลานนีได้พูดอย่างช้าๆ ต่อ “ผู้ฝึกยุทธคนนั้นอยู่ที่รั่วหลี่เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน ท้ายที่สุดแล้วคนคนนั้นก็ออกจากรั่วหลี่ก่อนที่ข้าจะได้ยินว่าคนคนนั้นเดินทางมายังดินแดนหยานแห่งนี้ หลังจากนั้นแล้วข้าก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคนคนนั้นอีกเลย”

เรื่องเล่าของลานนีมีช่องโหว่มากจนเกินไป ถ้าหากเคยมีผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจริงๆ ทำไมถึงไม่มีใครยกย่องคนคนนั้นให้กลายเป็นอัจฉริยะในเมื่อ 1,900 ปีก่อนเลยล่ะ? เหตุใดถึงไม่มีประวัติศาสตร์เล่มไหนพูดถึงเรื่องนี้? แม้แต่ข่าวลือในโลกยุทธภพเองก็ยังไม่มีเช่นกัน

แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะลบล้างคำกล่าวอ้างของลานนี ตัวเขาตัดสินใจเปิดตำราแทน วิธีการฝึกยุทธในหน้าแรกคล้ายกับวิธีการที่ชาวหยานฝึกฝน ในแง่ของทฤษฎีการฝึกตน มันมีความคล้ายคลึงกับของชาวลัทธิขงจื๊อ, ชาวพุทธ และชาวลัทธิเต๋า ลู่โจวรีบเปิดข้ามไปยังส่วนของพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ แต่น่าเสียดาย กระดาษหน้านั้นเปื้อนไปด้วยหมึก มันเป็นหน้ากระดาษที่ลู่โจวแทบจะอ่านอะไรไม่ออก มีเพียงแค่บรรทัดเดียวเท่านั้นที่ลู่โจวสามารถอ่านจับใจความได้ “ผู้คนล้วนอ่อนแอ แต่ที่นี่จะปลอดภัย ข้าหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป” คำเหล่านี้ถูกเขียนโดยภาษาของดินแดนหยาน

ลู่โจวขมวดคิ้ว ตัวเขาได้พลิกดูหน้าอื่นๆ แต่สุดท้ายลู่โจวก็อ่านมันไม่ออก อีกครั้งที่ตัวเขาเห็นข้อความในแบบเดียวกัน ข้าหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป

“ข้าหวังว่าจะไม่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ ข้าหวังว่าจะไม่มีพลังอวตารดอกบัวสิบกลีบในโลกนี้อีก”

“ข้าชอบทอง...แต่ไม่ชอบแดง”

ไม่มีวิธีการฝึกยุทธแต่อย่างใด มีเพียงข้อความที่ถูกขีดฆ่าที่ดูไม่ต่อเนื่อง มันดูเหมือนกับสิ่งที่ปรารถนามากกว่าที่จะเป็นบันทึก

ลู่โจวมองดูลานนีที่ยืนอยู่บนห้องโถงใหญ่

ลานนีได้โค้งคำนับ “ปกตำราเล่มนั้นผุกร่อนไปตามกาลเวลา แต่ก็เพราะมันยังมีเขตแดนพลังพิเศษจารึกเอาไว้ เพราะแบบนั้นมันจึงยืดอายุขัยของตำราเล่มนี้ได้”

ลู่โจวปิดตำราเล่มนั้นไป ตัวเขาเห็นร่องรอยของเส้นเขตแดนพลังที่อยู่ตามปกหนังสือ น่าเสียดายที่ร่องรอยส่วนใหญ่เริ่มจางหายไป มีเพียงไม่กี่จุดเท่านั้นที่ยังคงเป็นสีแดง ในทันใดนั้นเองลู่โจวก็นึกถึงสิ่งที่ได้อ่านเจอ “ข้าชอบทอง แต่ไม่ชอบแดง”

นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวมองเห็นเส้นเขตแดนพลังสีแดง ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นได้เอามือทาบเข้าใส่ตำรา!

ตู๊ม!

เส้นเขตแดนพลังได้ปลดปล่อยพลังลึกลับออกมา

สัญลักษณ์สีแดงได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า มันได้กระจัดกระจายไปรอบๆ ราวกับผีเสื้อ เป็นเพราะอายุขัยที่ผ่านมานานจึงทำให้สัญลักษณ์สีแดงที่ได้เห็นดูอ่อนพลัง พลังที่กักเก็บเอาไว้มันแทบที่จะหมดลงแล้ว

ลู่โจวได้กระแทกฝ่ามือลงบนตำราอีกครั้ง ตัวเขาได้ส่งพลังลมปราณเข้าไปในเส้นเขตแดนพลัง ท้ายที่สุดแล้วมันก็ส่องประกายแสงสีทองออกมา เมื่อเส้นเขตแดนพลังได้รับการเชื่อมต่อ เส้นเขตแดนพลังสีแดงถูกแทนที่ด้วยเส้นเขตแดนพลังสีทองแทน

ลานนีพยักหน้า “ที่ปกตำรามีเส้นเขตแดนพลังอยู่ 100 เส้น เขตแดนพลังทุกเส้นสามารถรักษาอายุขัยของตำราได้ถึง 20 ปี เส้นเขตแดนพลังที่ไร้พลังงานจะจืดจางลง”

ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้นมาอีกครั้ง ตัวเขายังคงเคลื่อนไหวเช่นเดิม แต่ครั้งนี้ลู่โจวรู้สึกตกใจ อันที่จริงตำราเล่มนี้มีอายุขัยเกือบถึง 2,000 ปีแล้ว!

“แล้วเจ้ารู้ไหมว่าคนในโลงศพตอนนี้อยู่ที่ไหน?” ลู่โจวถามออกมา

ลานนีที่ได้ฟังแบบนั้นส่ายหัว “ครอบครัวของข้าได้ปกป้องของสิ่งนี้มากว่าหลายชั่วอายุคน ข้าเองก็ตามหาเขาคนคนนั้นเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไม่เคยได้ล่วงรู้อะไรกับข้อมูลของคนคนนั้นจนถึงตอนนี้”

ลู่โจวลูบเคราของตัวเองก่อนจะครุ่นคิด โลกใบนี้ไม่เคยขาดแคลนผู้ที่อยากจะไขความลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องความลับของพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบและพลังอวตารดอกบัวสิบกลีบเช่นนี้

ลานนีได้พูดต่อ “นี่คือความจริงทั้งหมดที่ตระกูลโบน่าร์มี...ข้ายินดีที่จะมอบทุกอย่างให้กับชาวศาลาปีศาจลอยฟ้า”

ของทั้งหมดนี้ถูกใช้เป็นของขวัญนั่นเอง แต่การที่จะใส่มันมาในโลงศพก็ยังคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะความใจเย็นของลู่โจว ต้วนมู่เฉิงก็คงจะโจมตีคนจากรั่วหลี่ต่อไป

ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นตอบกลับมา “ข้าจะยอมรับของพวกนี้เอาไว้ก็ได้...” ดวงตาของเขาเหลือบมองไปที่ลานนี “แล้วเจ้าต้องการอะไรกัน?”

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ลู่โจวคงจะไม่มีทางจะได้รับของขวัญโดยที่ลานนีไม่ต้องอะไรเป็นการตอบแทนแน่

ลานนีคารวะลู่โจวก่อนที่จะพูดออกมาอย่างสุภาพ “ข้าไม่กล้าที่จะเรียกร้องขอสิ่งใด สิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงความปรารถนาแค่อย่างเดียวเท่านั้น”

“พูดมา”

“พวกเราอยากที่จะเห็นพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ!”

ลู่โจวเดินลงมาจากบันได ตัวเขาในตอนนี้ยังคงเอามือไขว้หลัง “ชาวรั่วหลี่ยังคงทะเยอทะยานเฉกเช่นหมาป่าอยู่เสมอ พวกเจ้าบุกรุกดินแดนของพวกเรามาหลายครั้งแล้ว ข้าเกรงว่าสันติภาพที่เจ้ากำลังจะหยิบยื่นให้มีเพื่อให้เจ้าต้องการยืนยันอะไรบางอย่างก็เท่านั้น”

ลานนีรีบคุกเข่าลง “ท่าน...ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว!”

‘การ์ดปลอมแปลงมีค่าถึง 10,000 แต้มบุญ ฉันจะต้องเสียการ์ดปลอมแปลงให้กับชนเผ่าอื่นง่ายๆ ได้ไงกัน?’

น่าขัน!

ลู่โจวก้าวไปที่ด้านหน้า

ในเวลานั้นเองก็มีเสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้น

ฮรู๊วว!

หมิงซี่หยินรีบพูดขึ้น “เจ้าสัตว์เลี้ยงไม่เชื่องนั่น!” หมิงซี่หยินรีบวิ่งออกจากห้องโถงใหญ่

บนท้องฟ้ามีสัตว์ร้ายบินได้ขนาดยักษ์ ปีกของมันกำลังกระพืออยู่นอกม่านพลัง

“เจ้าสัตว์เลี้ยงไม่เชื่องกำลังบ้าคลั่งสินะ ข้าจะทำให้มันเชื่องด้วยมือข้าเอง” ลานนีรีบพูด

ลูกน้องทั้งสี่รีบตามลานนีออกจากห้องโถงใหญ่

ลู่โจวโบกมือของตัวเอง “ต้วนมู่เฉิง”

“ครับ ท่านอาจารย์”

“จัดการซะ”

“ครับ!”

แม้ว่าลู่โจวจะไม่รู้ว่าพวกชนเผ่าอื่นเชื่อถือได้มากแค่ไหน แต่เป็นเพราะพวกเขากล้าที่จะมาหลอกล่อศาลาปีศาจลอยฟ้าจนถึงที่แบบนี้ ในฐานะที่ลู่โจวเป็นเจ้าของศาลาปีศาจลอยฟ้า เป็นธรรมดาที่ตัวเขาจะไม่อนุญาตให้ชาวรั่วหลี่ทั้งหมดจากไป

หลังจากที่ได้ยินคำสั่ง ต้วนมู่เฉิงก็รีบหยิบหอกราชันย์ไล่ตามทุกคนไป

พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!

“ยอมแพ้ซะเถอะ!” ต้วนมู่เฉิงไม่คิดที่จะฟังข้อแก้ตัวอะไร ตัวเขาได้ใช้เงาของหอกนับ 100 เล่มก่อนที่จะจู่โจมเข้าใส่ผู้มาเยือนทุกคน

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

ลานนีรีบสะบัดฝ่ามือทั้งสองข้างออกมา พลังลมปราณที่อัดแน่นได้ควบแน่นกันจนกลายเป็นม่านพลัง มันป้องกันพลังเงาของหอกทั้งหมดได้ ลานนีที่ป้องกันพลังพลิกตัวกลับก่อนที่จะล้มลงบนพื้น

“พวกเรามาที่นี่ด้วยความจริงใจ เหตุใดท่านปรมาจารย์ถึงต้องการเป็นศัตรูกับพวกเราด้วย?” ดวงตาของลานนีเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ลู่โจวเดินผ่านโลงศพมาอย่างช้าๆ ตัวเขาสงสัยว่าลานนีโบน่าร์คนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกัน?

ลู่โจวมองไปที่โลงศพอย่างช้าๆ ตัวเขาเห็นเส้นเขตแดนพลังที่ปกคลุมโลงศพอย่างแน่นหนา เส้นเขตแดนพลังทั้งหมดล้วนแต่มีสีแดงเข้ม

เส้นเขตแดนพลังแห่งการป้องกัน? เส้นเขตแดนพวกนี้มันซับซ้อนและทรงพลังกว่าเส้นเขตแดนในตำราซะอีก

ลู่โจวออกมาจากห้องโถงก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น

นกตัวยักษ์เริ่มจู่โจมม่านพลัง

ตู๊ม!

ระลอกคลื่นของพลังได้กระจายไปทั่วม่านพลัง

หมิงซี่หยินรีบพูดออกมา “หยุดเสแสร้งได้แล้วล่ะ แม้แต่นกของเจ้าก็ยังไม่อาจทนได้อีก”

ลานนีขมวดคิ้ว ตัวเขาเหลือบมองเทียนกูว ‘นี่มันเป็นไปได้ยังไง?’

ตู๊ม!

เทียนกูวได้พุ่งชนม่านพลังของภูเขาทองอีกครั้ง

ต้วนมู่เฉิงไม่สามารถยืนเฉยได้อีก ตัวเขารีบก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กับหอกราชันย์

การต่อสู้เกิดขึ้นที่หน้าห้องโถงใหญ่ในทันที

ต้วนมู่เฉิงตอ่สู้กับคู่ต่อสู้ทั้งห้าตามลำพัง

หมิงซี่หยินไม่ได้รีบร้อนที่จะต่อสู้ ตัวเขากำลังสังเกตเทียนกูวที่อยู่บนฟ้าแทน

ในตอนนั้นเองลูกศรพลังงานหลายลูกถูกยิงออกมาจากศาลาทางใต้ ลูกศรพลังงานทั้งหมดกระทบเข้ากับร่างขนาดยักษ์ของเทียนกูว

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

การโจมตีเหล่านี้มาจากฮั๊วยู่จิง แต่น่าเสียดาย การโจมตีของนางทำได้เพียงถอนขนของเทียนกูวได้เท่านั้น

ฮรู๊วว!

ร่างอันใหญ่ยักษ์ของมันดูกระวนกระวายมากกว่าเดิม

“นี่มันอะไรกัน?” หมิงซี่หยินเบิกตากว้าง

ฮั๊วยู่จิงเป็นถึงยอดมือธนูผู้มีพลังอวตารดอกบัวสามกลับ แต่ถึงแบบนั้นนางก็ไม่อาจโจมตีสัตว์ร้ายจนบาดเจ็บได้

ลานนีหันไปมองลู่โจวในขณะที่ต่อสู้อยู่ “ท่านปรมาจารย์ ท่านเข้าใจพวกข้าผิดแล้ว!”

ลู่โจวลูบเคราของตัวเองในขณะที่จ้องมองนกตัวใหญ่ ในตอนที่ลู่โจวกำลังใช้อาวุธนิรนามเปลี่ยนให้มันเป็นธนูเพื่อจู่โจมสัตว์ร้าย ในตอนนั้นเองเสียงขลุ่ยอันไพเราะก็ได้ดังขึ้น

ท่วงทำนองของมันทั้งเชื่องช้าและฟังดูไพเราะ มันทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกผ่อนคลายราวกับกระแสน้ำที่ไหลเย็น

เมื่อท่วงทำนองดังขึ้น นกตัวใหญ่ยักษ์ก็เริ่มที่จะสงบลง ดูเหมือนมันจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

ดวงตาของลานนีเบิกกว้าง “เป็นไปไม่ได้!”

ท่วงทำนองยังคงถูกบรรเลงต่อไป...

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด