ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 159 ไม่มีชีวิตใครสำคัญเท่าชีวิตของตนเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 161 หลักฐานที่ชัดเจน (อัปเดตเพิ่มเติม 1)

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 160 นายหวูผู้สง่างาม


ตอนที่ 160 นายหวูผู้สง่างาม

ประตูของรถทั้งสองคันเปิดออก ฉินหยู่นำคนหกคนรีบลงจากรถพร้อมปืนในมือ วิ่งเหยาะมุ่งหน้าตรงไปยังถนนถู่จ้า

ครึ่งนาทีต่อมา

ที่ทางเข้าห้องหมากรุกและห้องไพ่ขนาดใหญ่ หวูเย่าคาบบุหรี่อยู่ในปากกำลังจะเข้าไปในรถ ทันใดนั้น จูเหว่ยรีบวิ่งขึ้นมาจากด้านหลังแล้วจิกผมของเขาดึงไว้ทันที “อย่าขยับ”

“อัก เหี้ยอะไรวะ!”

หวูเย่าสาปแช่งด้วยความเจ็บปวดและหันศีรษะไปทางด้านข้าง “แกจะทำอะไรฉัน?!”

“ฮูร่า!”

ฉินหยู่และคนอื่นๆ รีบวิ่งเข้ามา จับแขนของเขาเหยียดไพล่มาด้านหลัง และตีศอกเต็มแรงลงที่หลังหัวหวูเย่าสองครั้ง

หวูเย่าก้มลงและตะโกนอย่างดุร้าย “ไอ้พวกระยำ แกทำอะไรกันวะ?”

“กองกำกับการมีเรื่องจะคุยคุณ” ฉินหยู่ตบหัวหวูเย่า “โปรดให้ความร่วมมือ”

“จะคุยกับฉัน จำไม่ผิดหรือเปล่า? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” หวูเย่าคำรามด้วยความโกรธ

“ฉันขอให้คุณร่วมมือ ทำไมยังไม่เข้าใจอีก” ฉินหยู่คว้าด้ามปืนของเขาตีหัวหวูเย่าหลายครั้งราวกับสายฟ้า จากนั้นหันกลับมาและตะโกน “ถอย! เร็วเข้า”

ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที หวูเย่าก็ถูกนำตัวออกจากถนนถู่จ้าและยัดเข้าไปในรถตำรวจทันที

“ไปที่แผนกนิติเวช ด่วน!” ฉินหยู่เร่งเร้าขณะที่เขาเข้าไปในรถ

“พวกแกมาจากแผนกไหนกัน บ้าไปแล้ว?” หวูเย่าอ้าปากค้างและมองไปที่ฉินหยู่ “ฉันเป็นบุคคลดีเด่นแห่งเขตเจียงหนานและเป็นสมาชิกสภาเขต แกมีสิทธิ์อะไรมาจับกุมฉัน”

ฉินหยู่เพิกเฉยต่ออีกฝ่าย เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์สองเครื่องในกระเป๋ากางเกงหวูเย่าออกมา ปิดเครื่องแล้วโยนลงในถุงหลักฐาน

“แกทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

“แกกล้าให้ฉันโทรศัพท์สองครั้งไหมล่ะ?”

“...!”

หวูเย่าถ่มน้ำลายและถามคนที่นั่งอยู่ในรถทีละคนด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

จูเหว่ยรู้สึกรำคาญ เขาจึงหันไปต่อยหวูเย่าสองครั้ง “ถ้าแกจ้ออีกที ฉันจะยัดกางเกงในของแกเข้าปากแกเอง เข้าใจมั้ย?”

แก้มของหวูเย่าบวมแดงหลังจากถูกทุบตี  ถึงตอนนี้เขาไม่มีแรงจะพูดอะไรแล้ว ได้แต่นั่งเงียบพร้อมแววตาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน

……

แผนกนิติเวชสังกัดกรมตำรวจ

จูเหว่ยเข้าพบเพื่อนสนิทและพูดรวบรัดอย่างสนิทสนม “ฉันขอให้นายช่วยเร่งทำงานในเรื่องนี้และแจ้งผลให้เราทราบโดยเร็วที่สุดนะ”

“คนอยู่ที่ไหน?” เพื่อนในเสื้อคลุมสีขาวถามขึ้น

“มันอยู่ในทางเดิน”

“โอเค ลากเขาเข้าไปเลย” เพื่อนโบกมือ

สิบวินาทีต่อมา ทุกคนก็พาหวูเย่าเข้ามาในห้อง ฉินหยู่สั่งทันที “ฉีกเสื้อผ้าเขาออก”

หวูเย่าตกตะลึง จากนั้นก็โวยวายด้วยความโกรธอีกครั้ง “เฮ่ย เฮ่ย! ที่พวกนายทำกับฉันนี่มันผิดกฎหมายและเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรง…”

ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที หวูเย่าในร่างเปลือยเปล่าถูกใส่กุญแจมือข้างเตียงเหล็ก มืออีกข้างของเขากุมเป้าระหว่างขาไว้ขณะมองทุกคนด้วยความรู้สึกขายหน้า ใบหน้าของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยความอับอาย

จูเหว่ยมองไปที่เป้าของอีกฝ่ายและขมวดคิ้วสาปแช่ง “แม่ง แค่กุ้งตัวน้อยสามารถสร้างพายุลูกใหญ่ได้ไงวะ”

“ไอ้พวกสารเลว!” หวูเย่ารู้สึกขายหน้าและโกรธมากจนเขาพ่นกลิ่นอ้วกฟุ้งออกมาพร้อมกับน้ำลายกระเซ็นไปทั่ว

เพื่อนของจูเหว่ยสวมหน้ากาก โบกมือแล้วพูดกับฉินหยู่ “ให้คนสองคนคอยเฝ้าระวังเขาไว้ ฉันจะเก็บลายนิ้วมือ เส้นผม และน้ำลายของเขาก่อน คิดว่าจะใช้เวลาสองวันอย่างเร็วที่สุดจึงจะได้ผลลัพธ์นะ”

ฉินหยู่คิดอยู่นาน “เอาล่ะ พวกเรามีแปดคนทำงานเป็นสองกะ จูเหว่ยจะนำทีมหนึ่งและฉันจะนำอีกทีม ก่อนที่ผลลัพธ์จะออกมาเราจะปล่อยให้เด็กคนนี้ละสายตาของเราไม่ได้”

“นายกังวลขนาดนั้นเลยเหรอ?” เพื่อนนิติเวชแปลกใจมากชั่วครู่หนึ่ง

“ผู้ชายคนนี้มีภูมิหลัง ฉันจะไม่ละสายตาไปจากเขาเพราะกลัวฝ่ายตรงข้ามหรอก” ฉินหยู่อธิบายด้วยรอยยิ้มประชดประชัน

เมื่อแพทย์นิติเวชได้ยินเช่นนั้นจึงมองไปที่หวูเย่า และถามด้วยแววตาขยะแขยง “นายคือไอ้สารเลวที่ฆ่าหนุ่มสาวคู่นั้นเหรอ?”

หวูเย่าสะดุ้งราวกับว่าเขาคิดอยู่แล้วว่าทำไมเขาถึงถูกจับกุมในครั้งนี้

“เพียะ!”

แพทย์นิติเวชตบมือของหวูเย่าที่กุมเป้าของเขา และดุเขาด้วยสีหน้ารังเกียจ “เอามือไปข้างหลัง ยืนหน้าตรงเข้าหาฉัน มีอะไรให้ปิดนักหนาวะ กะอีแค่กุ้งตัวกระจิ๋วหลิว?”

หวูเย่าตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่หลังจากพยายามตั้งสติคิดอย่างรอบคอบอยู่ชั่วครู่ เขาก็ทำตามแต่โดยดี

“เฮ้ เสี่ยวไหวมานี่หน่อย ตรวจดูว่ามีอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาที่เกิดขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาหรือเปล่า แล้วถ่ายรูปไว้ด้วย” แพทย์นิติเวชสั่งเพื่อนร่วมงานของเขาที่ห้องด้านหลัง แล้วทีมแพทย์ก็เริ่มทำงานกันอย่างวุ่นวาย

ในขณะที่หวูเย่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจ ฉินหยู่ก็อยู่ใกล้ๆ เขา แม้จะกินข้าว เขาก็ไปนั่งอยู่ที่ทางเดินด้านนอกประตู เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

……

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

หยวนเค่อโทรหาหวูเย่าตามเวลาที่ตกลงกันไว้แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หลังจากรอสักพัก เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงติดต่อไปที่ผู้คนรอบๆ หวูเย่า

เพราะอย่างนี้ทำให้ทุกคนเริ่มรู้ว่าหวูเย่าหายไปทีละคน พวกเขาจึงเริ่มใช้คอนเน็กชันตนเองเพื่อตามหาหวูเย่าเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานหลังจากนั้นเรื่องการจับกุมของเล่อเล่อก็ถูกกล่าวถึงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อหยวนเค่อได้สอบถามผ่านคอนเน็กชันของเขากับหัวหน้าตำรวจเฮ่ยเจีย จึงได้รู้เรื่องราวคร่าวๆ ว่า ทำไมหวูเย่าถึงหายตัวไป

หยวนเค่อเป็นนักฉวยโอกาสมือฉมัง หลังจากที่เขารู้ว่าเสี่ยวหวูอาจประสบอุบัติเหตุ เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่อาจเป็นโอกาสที่ดีในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับตระกูลอื่นให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงสั่งไม่ให้ใครแจ้งหวูเหวินเชิ่ง พ่อของหวูเย่า แต่เขาจะพาทีมงานของเขาขับรถไปที่สำนักงานของตระกูลหวูเอง

ถึงแม้สภาเขตจะครอบครองพื้นที่ขนาดเล็กและอาคารสูงเพียง 3 ชั้น แต่ก็มีพื้นที่สำนักงานอิสระ และตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของเขตเจียงหนาน

หยวนเค่อลงทะเบียนอย่างสุภาพที่แผนกต้อนรับ และบอกว่าเขากำลังมองหาหวูเหวินเชิ่ง เพราะเกิดเหตุฉุกเฉินที่บ้าน พนักงานต้อนรับจึงโทรไปที่สำนักงานให้ทันที

ประมาณสิบนาทีต่อมา

หยวนเค่อขึ้นมาที่สำนักงานอิสระบนชั้นสาม เข้าเคาะประตูห้องทำงานของสมาชิกสภาหวูอย่างไม่ลังเล

“แอ๊ด…”

ประตูเปิดออก และชายวัยกลางคนศีรษะโกนล้านเลี่ยน สวมเสื้อเชิ้ตรัดรูปสีน้ำเงินและมีผิวสีเข้ม เขาขมวดคิ้วมองที่หยวนเค่อและเอ่ยปากขึ้น “คุณเป็นลูกคนที่สองของตระกูลหยวนใช่ไหม?”

“ใช่...ฉันกำลังมองหา...ส.ส.หวู”

“คุณไม่รู้จักฉันเหรอ?” ชายวัยกลางคนถามอย่างตรงไปตรงมา

หยวนเค่อตกตะลึงและยื่นมือออกไปทันทีแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ สวัสดีสมาชิกสภาหวู”

“เข้ามา” หวูเหวินเชิ่งพยักหน้าแล้วหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้อง

หยวนเค่อเดินตามหวูเหวินเชิ่งเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากสมาชิกสภาหวูคนนี้ดูติดดินเหลือเกิน เสื้อผ้า ท่าทาง และกิริยาท่าทางของเขา ดูเหมือนเจ้าของธุรกิจการค้าและงานธุรกิจต่างๆ มากกว่านักการเมืองเสียอีก

“แผนกต้อนรับบอกว่าคุณมาหาฉันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเสี่ยวเย่า?” หวูเหวินเชิ่งนั่งบนโซฟาและถามเรียบๆ “เขาเป็นอะไรหรือ?”

หยวนเค่อรู้สึกตัวและตอบอย่างสุภาพ “คุณลุง เขาถูกจับได้”

“ถูกจับ? จับโดยใคร?” หวูเหวินเชิ่งดูประหลาดใจเล็กน้อย

“เขาถูกตำรวจกองกำกับการเฮ่ยเจียจับกุม” หยวนเค่อเล่าสั้นๆ ว่า “ฉันขอให้คนรู้จักสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เสี่ยวเย่าก่อเหตุที่คลับบาร์บี้เมื่อสี่ห้าเดือนที่แล้ว”

หวูเหวินเชิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีสีหน้าประหลาดใจเป็นพิเศษ และเขาไม่ได้ริเริ่มถามหยวนเค่อว่าหวูเย่ามีปัญหาอะไรที่บาร์บี้

“ฉันไม่ใช่กัปตันของตำรวจเฮ่ยเจียอีกต่อไปแล้ว แต่ฉันมีเพื่อนที่ดีอยู่ที่นั่น ฉันถามพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง และได้ความว่าผู้สืบสวนได้เตรียมการอย่างดีที่จะจับกุมเสี่ยวเย่าในครั้งนี้ เพราะเล่อเล่อมักจะอยู่กับเสี่ยวเย่า จึงถูกจับเข้าไปก่อน” หยวนเค่อพูดอย่างใจเย็นและเล่าสถานการณ์อย่างเป็นกลาง “ฉันเกรงว่าคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งจะไม่จับกุมโดยบังเอิญ แต่พวกเขาจ้องมองเสี่ยวเย่ามาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นฉันกลัวว่าสิ่งต่างๆ จะล่าช้า ฉันเลยถือโอกาสมาแจ้งให้คุณทราบโดยเร็วก่อน”

หวูเหวินเชิ่งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น และสาปแช่งด้วยน้ำเสียงหนักหน่วง “ไอ้เด็กเหี้ยคนนี้...ตัวมันก็ไม่ใหญ่ แต่มันมีความสามารถมากในการสร้างปัญหาแบบนี้ให้อยู่เสมอ”

หยวนเค่อตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายดังกล่าวออกมาจากปากของหัวหน้าสภาเขต

……

เวลาประมาณสองทุ่ม

โทรศัพท์ของฉินหยู่ จูเหว่ย และคนอื่นๆ ดังขึ้นแทบจะไม่หยุด ผู้ที่ติดต่อพวกเขาเข้ามาล้วนเป็นผู้นำรุ่นเยาว์ที่มีตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา หรือเป็นผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าพวกเขาเสียอีก

…………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด