ตอนที่ 14 รุมล้อม
เอลฟ์ ออร์ก ก็อบลิน และอัศวินอวกาศ
“น้องสาวของฉัน และฉันถูกโยนเข้ามาในโลกแบบไหนกันเนี่ย?”
ทริสตันเดินเข้าไปที่จอคอมพิวเตอร์ เพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกนั้น เขาสังเกตเห็นว่าในตอนนี้รอบๆโดมมีสิ่งมีชีวิตสวมชุดเกราะสีเงินหลายร้อยตัวล้อมรอบอยู่ ประกายยิบยับที่ชุดเกราะแผ่ออกมา ทำให้ทริสตันสงสัยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหลังจากนี้
เมื่อเขาเชื่อมโยงสิ่งที่เคอร์แซคพูดก่อนหน้านี้ นั่นทำให้สับสนอย่างบอกไม่ถูก
“พวกเขาไม่ได้อยู่ข้างเจ้าหรือ? พวกเขาต้องการอะไร?”
เหตุผลที่ทริสตันถามคำถามนั้นออกไป เนื่องจากเขาสังเกตได้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน เมื่อมองดูท่าทาง และอาวุธในมือของพวกเขา เขาค่อยข้างมั่นใจอย่างยิ่งว่าเอลฟ์เหล่านั้นไม่ได้มาเพื่อเจรจา และช่วยเขาเป็นแน่
“ไม่ ไม่ เจ้าเห็นไหม .. พวกเขาเป็นผู้อาศัยที่แท้จริงของโลกใบนี้ สำหรับข้าแล้ว..เจ้าสามารถเรียกข้าว่า...นักเดินทางที่ผ่านเข้ามาก็ได้!... ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ก๊อบลินกล่าว
ทริสตันสามารถเดาได้ว่าก็อบลินผู้นี้จะต้องสร้างปัญหาในทุกที่ที่เขาไปอย่างแน่นอน เฉกเช่น “นักเดินทาง” ที่เขาใช้เรียกแทนตัวเอง
“หากเจ้าฉลาดพอ เจ้าไม่ควรยุ่งกับพวกมันและหนีไปซะ!!” ก็อบลินรีบพูดแทรก
สีหน้าของก็อบลินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้ทริสตันปฏิบัติตามคำแนะนำของเขาอย่างจริงใจ และแน่นอนไม่มีทางที่ทริสตันจะเชื่อคำพูดของก๊อบลินได้อย่างง่ายดาย เขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วก็อบลินมีแผนอะไรกันแน่
ในตอนนี้ทริสตันสัมผัสได้ว่าหญิงสาวในอ้อมแขนเขาเริ่มรู้สึกตัว เขารีบวางน้องสาวลงบนพื้น และตรวจสอบร่างกายของเธออย่างความระมัดระวัง ทริสตันรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าร่างกายของเธอร้อนกว่าปกติ ทริสตันได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาเบาๆจากเลห์ลาขณะที่เธอมีสติเพียงครึ่งหนึ่ง
“เจ้าทำอะไรกับเธอ!!!” ทริสตันหันไปทางก็อบลิน พลางกัดฟันพูดขึ้นอย่างโกรธจัด
ทันทีที่เขาเห็นสีหน้าของทริสตัน ทำให้ก็อบลินผมขาวรู้สึกตกใจอย่างหนัก “ไม่นะ ไม่มีอะไร!!” มันรีบพูดตอบ “ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น! เหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดที่เธอเป็นแบบนั้นเพราะว่ามนุษย์มักพึ่งพาสสารมากเกินไปไงละ”
ในตอนนี้ทริสตันรู้ว่าเคอร์แซคหมายถึงอะไร เมื่อสังเกตเห็นริมฝีปากแห้ง และใบหน้าซีดของเลห์ลา สิ่งที่ก็อบลินพูดอาจเป็นเรื่องจริง เขาคิด
“ไม่มีเวลาแล้ว! พวกเราควรไปจากที่นี่ .. ตอนนี้.. ข้ารู้วิธีแล้ว..” ก็อบลินพูดอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับฟังดูเหมือนข้ออ้างจากปากของมัน
ก่อนที่ทริสตันจะตอบสนองต่อคำพูดของก็อบลิน จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากนอกห้อง ทริสตันรีบหันไปมองทางประตู เขาเห็นคนกลุ่มนึงปรากฎตัวขึ้น และกำลังเดินเข้ามาในห้อง พวกเขาคืออัศวินอวกาศที่เหลืออีกสี่คน และมีพลทหารหญิงที่บาดเจ็บอยู่บนหลังของพลทหารอีกคนหนึ่ง
อัศวินอวกาศเล็งปืนมายังทริสตัน ก็อบลิน และเลห์ลาในทันที “หยุด! ห้ามเคลื่อนไหว!” กัปตันซิกฟรีดตะโกนขึ้น
ขณะนี้น้องสาวของเขานอนอยู่บนพื้นอย่างไร้สติ คราวนี้ทริสตันไม่สามารถประมาทได้แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายก็ตาม เขาหันหน้าไปมองยังกัปตันอัศวินอวกาศ
“ถ้าคุณไม่ทำให้ฉันลำบากใจ ฉันก็ไม่อยากทำเช่นนั้นเหมือนกัน” ทริสตันพูดอย่างใจเย็นพลางจ้องมองไปที่กัปตัน
ชายร่างกำยำที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้านิ่งเงียบไป เมื่อเห็นว่าทริสตันใจเย็นเพียงใด “เราสามารถระงับข้อโต้แย้งของเราได้ในภายหลัง พวกเอลฟ์พวกนั้นกำลังฆ่าพวกออร์กของคุณ! ในตอนนี้พวกเรากำลังโดนพวกมันล้อม! บอกเราว่าจะหนีจากที่นี่ได้อย่างไร!” ซิกฟรีดพูด ขณะที่อาวุธของเขายังคงเล็งมาทางทริสตัน
“ถ้าคุณมาที่นี่ด้วยเหตุผลนั้น แสดงว่าคุณมาถูกที่แล้ว! ก็อบลินตนนี้รู้ทางออก!” ทริสตันพูดและชี้นิ้วไปยังก็อบลินผมขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ
ในตอนนี้ทริสตันคิดว่าหากเขานำอัศวินอวกาศไปกับเขาด้วยจะทำให้ก็อบลินหลอกเขาได้ยากขึ้น เคอร์แซคดูเหมือนจะไม่พอใจกับการกระทำของทริสตันมากนัก แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมทำตามคำสั่งของทริสตัน
“พวกเราต้องไปที่ปีกตะวันออก รถของข้าอยู่ที่นั่น แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่ามันจะใช้การได้! เพราะฉะนั้นต้องมีคนถ่วงเวลาพวกเขาไว้!”
หนึ่งในอัศวินอวกาศที่ได้รับบาดเจ็บก้าวไปข้างหน้า เขาอาสาทำหน้าที่นั้น “กัปตันผมขออาสา! ผมยอมเสียสละเพื่อทีมของเรา!”
“คุณสามารถยื้อเวลาได้แค่ไหน?!” ทริสตันพูดแทรกก่อนกัปตันซิกฟรีดจะตอบโต้
ทริสตันปฏิบัติตามคำพูดของเขา “ผมจะทำมัน!” เขาย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ผมสามารถยื้อได้เท่าที่คุณต้องการ! ในตอนนี้คุณก็รู้ว่าผมเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้”
สีหน้าของอัศวินอวกาศเหล่านั้นรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวของทริสตันยิ่งไปกว่านั้นเหล่าทหาร และทริสตันต่างเป็นปรปักษ์กัน แต่นั่นก็ต้องยอมรับว่าทริสตันแช็งแกร่งมากจริงๆ นอกจากนี้ทริสตันยังทำให้พวกเขาทั้งห้าบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว
เคอร์แซคดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของทริสตัน ทริสตันยกร่างของน้องสาวของเขาขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้า “คุณ.. คุณควรมอบผู้หญิงคนนั้นกับเรา!” กัปตันอวกาศหยุดเขา เมื่อเห็นทริสตันกำลังเดินไปที่ประตู
“ฝากเธอไว้กับพวกคุณหรอ? ไม่สิ! เธอน่าจะปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่กับผม!”
“ข้าต้องการเวลาแค่สิบถึงสิบห้านาทีเท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าต้องรีบไปหาพวกเราที่ปีกตะวันออก” ก็อบลินรีบตะโกนบอก ก่อนที่ทริสตันจะเดินออกจากห้องไป
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทริสตันเหลือบมองก็อบลินเพียงครู่หนึ่งด้วยหางตา ในขณะที่อัศวินอวกาศกำลังเดินออกจากบริเวณนั้นไป ทริสตันเดินไปตามทางเดินไปยังด้านนอกอาคารพร้อมน้องสาวของเขาในอ้อมแขนของเขา ซึ่งเป็นที่ที่มีซากศพและเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนกองอยู่ ในที่สุดเอลฟ์หลายสิบตัวก็หยุดฝีเท้าของเขาไว้อย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเจ้าอยู่ที่นี่… ไอ้สารเลว!! พวกมันกลับมาแล้ว จับพวกมันซะ!”