ตอนที่ 13 ความโกรธ
หัวใจของทริสตันเต้นแรงราวกับกำลังจะระเบิดขณะที่เขากำลังค้นหาใบหน้าที่คุ้นเคยของผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ในที่สุดหัวใจของเขาก็เริ่มสงบลงเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง หญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้ม ในตาสีฟ้าเป็นประกาย ‘เลห์ลา’ น้องสาวของเขา
ทริสตันปล่อยตัวก็อบลินโดยไม่รู้ตัวทันทีที่เห็นน้องสาวของเขา เขารีบเดินเข้าไปหาเลห์ลาในทันที ในทางกลับกันขณะที่ทริสตันเดินเข้ามาใกล้ทุกคนรอบตัวเธอ รวมถึงเลห์ลาเองกลับรู้สึกหวาดกลัว
ทุกคนรีบต่างรีบวิ่งไปกันคนละทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับทริสตัน ในขณะที่เลห์ลาทำได้เพียงก้มหน้าลงบนพื้น ตัวและมือของเธอสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
ทริสตันรู้สึกเสียใจกับการกระทำสิ้นคิดของเขาก่อนหน้านี้ เมื่อจู่ ๆ เขาทำลายประตูเหล็กด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง พร้อมกวาดสายตามองไปทั่วทั้งห้องด้วยสายตาที่โกรธแค้น นั่นทำให้ผู้คนข้างในห้องขังต่างหวาดกลัวเกินคำบรรยาย
เขาลืมไปว่าตอนนี้เขาไม่ใช่ทริสตันในร่างมนุษย์ พูดให้ถูกต่อหน้าคนเหล่านี้ ทริสตันอาจดูน่ากลัวพอๆ กับพวกออร์ก และสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆก็ว่าได้
ในตอนนี้ทริสตันไม่ได้คาดหวังว่าเลห์ลาจะจำเขาได้ ทริสตันชะลอฝีเท้าของเขา และค่อยๆ เดินช้าๆ ขณะที่เขาเริ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ “เลห์ลา ...”
เมื่อได้ยินชื่อของเธอที่ถูกเรียกขึ้น เลห์ลาเงยหน้าขึ้น ก่อนจะมองไปที่คนที่เรียกชื่อเธอ
“เลห์ลา.. ฉันเอง… พี่ชายของเธอ ทริสตัน!”
คงไม่ต้องสงสัยคำพูดนั้นคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่หญิงสาวคาดว่าจะมาจากร่างที่น่าสะพรึงกลัวนั้น
“อะ...อะไรนะ!?” เลห์ลาพูดอย่างติดขัด
“ใช่ ฉันเอง มันเป็นเรื่องที่อธิบายยากเลห์ลา แต่ฉันคือทริสตัน พี่ชายของเธอจริงๆ” ทริสตันพูดด้วยรอยยิ้มที่เคร่งขรึม
เลย์ลาเงียบไป เธอพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเธอ ในตอนนี้แปลกที่ความโกรธกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ พร้อมกับ… ความโศกเศร้า
“ไม่!! ไม่! แกทำอะไรพี่ชายของฉัน ไอ้สัตว์ประหลาด!!”
เลห์ลาพุ่งไปหาร่างตรงหน้าเพื่อโจมตีเขา โดยลืมความกลัวทั้งหมดที่เธอมีก่อนหน้านี้
แขนเล็กๆ ที่กระทบหน้าอกของเขาไม่สามารถทำร้ายทริสตันได้เลย แต่การกระทำนั้นมันกลับทำร้ายความรู้สึกของเขาได้เป็นอย่างดี
ทริสตันเข้าใจจริง ๆ ว่าสภาพที่เขาอยู่ในตอนนี้นั้นยากอย่างยิ่งที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้ เขาเห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้านั่นทำให้เขารู้สึกโกรธกับสิ่งที่โชคชะตามีให้เขาในตอนนี้
“ปล่อยเธอนะ ไอ้สัตว์ประหลาด!!” จู่ๆชายวัยกลางคนในชุดสูทก็ตะโกนขึ้น
ทริสตันเหลือบมองชายคนนั้น ความโกรธในตัวเขาเพิ่มขึ้นในทันที เขาจำชายคนนั้นได้ดี เขาคือคนที่ผลักทริสตันก่อนหน้านี้ และในตอนนี้เขากลับพยายามทำตัวเป็นฮีโร่งั้นเหรอ?
ความหน้าซื่อใจคดของเขายิ่งทวีความโกรธของทริสตันขึ้น เขาตะคอกออกไป พร้อมยกดาบยักษ์ขึ้น เขาเหวี่ยงมันออกไปทางชายวัยกลางคนอย่างไม่รู้ตัว ไม่ช้าร่างของชายคนนั้นแยกออกเป็นสองส่วน เลือดนองทั่วพื้นห้อง และบางส่วนกระเซ็นไปบนใบหน้าของเลห์ลาในทันที
ไม่ว่าจะเป็นเลือด การเปิดเผยของ ‘ พี่ชาย ‘ ของเธอ หรือภาพที่ปรากฏต่อหน้าเธอในตอนนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้เลห์ลาตกใจอย่างพูดไม่ออก ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งเธอก็หมดสติไปในทันใด
ทริสตันจับร่างที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะกระแทกพื้น และดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทริสตันรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อเห็นสภาพของผู้หญิงในอ้อมแขนเขา ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้อง เริ่มกรีดร้องด้วยความสยดสยองเมื่อเห็นร่างที่แยกออกเป็นสองส่วนของชายวัยกลางคน
ทริสตันเมินเฉยต่อเสียงกรีดร้องบาดหูรอบๆตัว เขามองไปที่ประตูทางเข้าและดูเหมือนว่าระหว่างที่เขากำลังสนใจน้องสาวของเขา ก็อบลินผมขาวได้หายตัวไปแล้ว ทริสตันออกไล่ตามก็อบลินอย่างรวดเร็ว เขาจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ก็อบลินทำกับเขาในตอนนี้ ทริสตันมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบจากเคอร์แซค เขารีบวิ่งข้ามทางเดินพร้อมกับเลห์ลาที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทันใดก็ตามที่เขาเห็นก็อบลิน หรือออร์ก เขาจะฆ่าพวกมันให้หมดในทันที ลึกๆแล้วทริสตันเพียงจะหวังว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้ความโกรธของเขาเย็นลงได้
หลังจากนั้นไม่นานทริสตันก็กลับมาถึงห้องปฎิบัติการทดลองของพวกมัน ภายในห้องก็อบลินผมขาวกำลังพยายามควบคุมคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งอย่างเร่งรีบ เคอร์แซคสัมผัสได้ว่าทริสตันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
“อ๊ะ!! ในตอนนี้น้องสาวของคุณยังมีชีวิตอยู่ และสบายดี ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องรักษาคำพูด และปกป้องข้าแล้ว!” มันรีบพูดเมื่อสังเกตเห็นความโกรธในสายตาของทริสตัน
“ข้าจะรักษาคำพูดของข้า!”
ทริสตันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น “ข้าไม่เห็นคนที่พยายามทำร้ายเจ้าเลย จริงไหม!” ทริสตันถามพลางค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ก็อบลินช้าๆ
“ถ้าอย่างนั้น ก็ออกไปฆ่าพวกมันซะ!” เคอร์รีบสวนกลับหลังเห็นสีหน้าของทริสตัน
“ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเข้าใจผิด ข้าบอกว่าข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายเจ้า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า!” ทริสตันพูดอย่างใจเย็น
“ไม่มีทาง! เจ้าไม่กล้าหรอก! ข้าเป็นคนสร้างเจ้าขึ้นมา และเจ้าต้องการข้า!”
สิ้นสุดคำพูดของก็อบลิน ทริสตันหยุดเดินในทันที “บางทีเจ้าอาจพูดถูก.. ข้าต้องการเจ้า! ข้าต้องการให้เจ้าทำให้ข้ากลับไปเป็นเหมือนเดิม!” ทริสตันตะโกนใส่ก็อบลินด้วยความเจ็บปวด
เคอร์แซคชะงักกับคำพูดของทริสตันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ ราวกับว่าคำพูดของทริสตันเป็นเรื่องตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!! ทำไมเจ้าถึงอยากกลับไปเป็นขยะนั่นอีกล่ะ!” เคอร์แซคกล่าวพลางชี้ไปยังซากศพซึ่งนอนอยู่บนพื้น
ทริสตันเพ่งมองไปยังพื้นที่เคอร์แซคชี้ เขาชะงัก และตกใจมากเมื่อเขาเห็นร่างของเขานอนอยู่บนพื้นนั้นเหมือนกับซากศพของคนอื่นๆ เมื่อเห็นร่างกายที่ไร้ชีวิตของตัวเอง ทริสตันรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วครู่ ลมหายใจขาดห้วง สายตาพร่ามัว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าร่างของเขาได้หายไป รวมถึงเขาอาจจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
ภายในความโกรธแค้นในใจของเขา ทริสตันได้ยินเสียงในหัวของเขา เสียงมันค่อยๆดังขึ้น และในที่สุดเขาก็ไม่ได้ยินเสียงนั้นอีก
ฆ่ามัน.. ฆ่ามัน.. ฆ่าก็อบลินสกปรกนั่น..
ทริสตันยกดาบเล่มใหญ่ขึ้นพร้อมที่จะฟันก็อบลินออกเป็นสองท่อน แต่จู่ๆ เขาก็หลุดออกจากภวังค์ เขาชะงัก ขณะที่ในมือของเขากำลังจับดาบไว้แน่น!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. นี่คือสิ่งที่ข้าหมายถึงมนุษย์ที่มีสมองที่เหนือกว่า ลืมร่างกายที่ไร้ค่าที่อ่อนแอของเจ้าไปซะ ตอนนี้เจ้าคือราชา ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่พวกเขาทั้งหมด!”
ทริสตันเงียบไป เขาพยายามประมวลผลทุกอย่างที่ได้ยิน เขาระงับความโกรธในตัวเขาชั่วคราว “บอกข้าทีว่าเราอยู่ที่ไหน ...แล้วข้าจะกลับได้อย่างไร?” เขาเอ่ยถาม
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า. … เจ้ามาจากโลกเบื้องล่างใช่ไหม? อ่า จริงสิ แม้ว่าข้าจะบอกเจ้าไป เจ้าก็คงไม่เข้าใจหรอก… เอาเป็นว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในโลกที่โกลาหล จะกลับไปยังไงงั้นเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า .. ข้า ข้า เกรงว่ามันจะเป็นเที่ยวเดียวนะสิ ฮ่าฮ่า!” ก็อบลินเอ่ยอย่างเย้ยหยัน
“ก็บอกให้เจ้าส่งข้ากลับไง!”
“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ? .. ฮ่าฮ่าฮ่า … คำตอบของเจ้าอยู่ในหินทรงสูงสีดำนั่นไง ข้าสร้างมันไว้เพื่อความแม่นยำในการทดลองของข้าไงล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ทริสตันจำหินสีดำทรงสูงที่มีสัญลักษณ์ และการแกะสลักที่ลึกลับนั่นได้ดี เมื่อเขามาถึงที่นี่ เขาสังเกตเห็นมันตั้งอยู่ตรงกลางทุกสิ่งของที่นี่ เขานึกถึงซากศพทั้งหมด รวมถึงทะเลเลือดที่เขาเจอ นั่นทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นอีกครั้งในทันที
“ไอ้สารเลว! ถ้าเจ้าไม่รู้อะไรเลย.. ให้เหตุผลข้าสิว่าทำไมข้าไม่ควรตัดหัวของเจ้าในตอนนี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของทริสตัน ใบหน้าของเคอร์แซคก็เปลี่ยนไปในทันที “ไม่! เจ้าฆ่าข้าไม่ได้! ข้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับที่เจ้าอยู่ในตอนนี้!”
เคอร์แซคมองดูใบหน้าที่ไม่มั่นใจของทริสตัน มันพยายามโน้มน้าวใจของทริสตันต่อ เพียงครู่หนึ่ง ก๊อบลินดูเหมือนจะจำบางสิ่งได้ และมันพูดขึ้นทันที “จิตวิญญาณ! จิตวิญญาณเอลฟ์! เขาคุยกับเจ้าหรือยัง!”
คำพูดของเคอร์แซคทำให้ทริสตันตกใจ มันหมายถึงร่างเลือดนั่นหรือ? ดูเหมือนว่าจะมีความลึกลับมากกว่าที่ก๊อบลินรู้ ก่อนที่ทริสตันจะตอบคำถามของก็อบลิน เสียงเตือนที่เขาคุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้งในทันใด เคอร์แซครีบตรวจสอบอย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นผ่านคอมพิวเตอร์ที่อยู่ข้างหลังเขา
“บัดซบ! อัศวินอวกาศพวกนั้นทำให้คนเหล่านั้นมาที่นี่!!”
“ใครคือ ‘ คนเหล่านั้น ‘ ที่เจ้ากำลังพูดถึงคือใคร?”
“พวกเอลฟ์!”