298 - หลิวกงกง
298 - หลิวกงกง
เอี้ยนลี่เฉียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งขณะที่เกาคางและมองดูเงาของเหลียงอี้เจี๋ยที่กำลังจางหายไป
“เป็นไปได้ไหมที่พี่เหลียงกำลังเตือนข้าให้คว้าโอกาสในการเกาะขาของผู้มีอิทธิพล? คนที่มีสถานะใหญ่โตมากที่สุดของที่นี่คือขันทีหลิวซึ่งเป็นบุคคลจากวังหลวง ดูท่าเห็นจะเป็นเช่นนั้น”
ถ้าสือต้าเฟิงอยู่ที่นี่และได้ยินว่าพ่อบ้านใหญ่ของคฤหาสน์กวางเป็นขันทีจากวัง เขาคงจะรู้สึกรังเกียจอยู่ในใจ อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงเป็นบุคคลสมัยใหม่ที่มีความเคารพเรื่องเพศของบุคคลจึงไม่ได้คิดอะไร
ในขณะเดียวกันประวัติศาสตร์มากมายของประเทศจีนล้วนมีความเกี่ยวข้องกับขันทีผู้ยิ่งใหญ่อยู่ไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าดูถูกขันทีพวกนี้
เอี้ยนลี่เฉียงไม่แน่ใจว่าทำไม แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเว่ยเสี่ยเป่า(อุ้ยเสี่ยวป้อ) เรื่องราวในนิยายนั้นคือเหมาสือปาได้พาเว่ยเสียวเป่าออกจากซ่องโสเภณีในหยางโจวมาที่เมืองหลวงโดยไม่ได้ตั้งใจ
เว่ยเสี่ยเป่าพบว่าตัวเองอยู่ในพระราชวังซึ่งเขาไม่ได้คาดหวังว่าชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เอี้ยนลี่เฉียงสงสัยว่าเขาจะโชคดีเหมือนกับเว่ยเสี่ยวเป่าหรือไม่
"หยุด! เจ้าเป็นใครจะไปที่ไหน?"
ทหารคนหนึ่งตะโกนทันทีเมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงจูงม้าเดินเข้ามา
“ข้าคือเอี้ยนลี่เฉียง วันนี้มารายงานตัวที่คฤหาสน์กวางขอพี่ใหญ่โปรดไปแจ้งหลิวกงกงให้ด้วย!” เอี้ยนลี่เฉียงทักทายทหารที่อยู่ด้านนอกคฤหาสน์กวางอย่างสุภาพ
“เจ้าคือเอี้ยนลี่เฉียง?”
นายทหารหนวดเคราครึ้มอายุสามสิบซึ่งกำลังยืนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าออกมาข้างหน้ามองเอี้ยนลี่เฉียงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใช่ ข้าเอง!”
“ดี งั้นตามข้ามา!”
“ข้านำม้าและสุนัขมาด้วย พวกมันได้รับอนุญาตให้เข้ามาด้วยหรือไม่” เอี้ยนลี่เฉียงถามอย่างอดทน
“เจ้าคิดว่าคฤหาสน์กวางคือที่ไหน? ทิ้งม้าของเจ้าไว้ที่นี่ ที่นี่มีคอกม้าอยู่แล้วแต่สำหรับสุนัขของเจ้าหากมันกล้าเข้าใกล้คฤหาสน์กวางอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของนายทหาร โกลดี้ซึ่งติดตามเอี้ยนลี่เฉียงมาที่นี่ก็แยกเขี้ยวของมันออกทันทีก่อนที่เขาจะพูดจบ
มันส่งเสียงคำรามใส่นายทหารที่กล่าววาจาแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อเขา สิ่งนี้ทำให้นายทหารคนนั้นประหลาดใจ
“โกลดี้ไปเล่นที่อื่นสักพัก เดี๋ยวอีกหน่อยข้าจะออกมาหาเจ้า…” เอี้ยนลี่เฉียงสั่งโกลดี้ โกลดี้เหลือบมองที่เอี้ยนลี่เฉียง จากนั้นหันหลังกลับและวิ่งเข้าไปในป่าสนที่อยู่ใกล้เคียง
หลังจากที่โกลดี้วิ่งออกไป เอี้ยนลี่เฉียงก็เดินตามนายทหารไปที่คฤหาสน์กวาง
เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงทันทีที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์กวาง ความยิ่งใหญ่ตระหง่านของสวนหลวงแห่งนี้หาที่เปรียบมิได้กับที่อื่นทั่วไป
อิฐทุกก้อน กระเบื้องทุกแผ่น ต้นไม้ และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกคัดสรรและออกแบบมาอย่างดี
หลังจากเลี้ยวหลายครั้ง ในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็มาถึงนอกลานบ้านซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางร่มเงาของต้นไม้ มีทหารสองคนอยู่นอกลาน เมื่อพวกเขาเห็นนายทหารกับเอี้ยนลี่เฉียงทั้งสองก็รีบเข้ามาขวางทันที
“แจ้งหลิวกงกงว่าคนที่เขารอมาถึงแล้ว!” นายทหารป้องหมัดให้กับทหารยามทั้งสอง
ทหารหนึ่งในสองเดินกลับเข้าไปในลานบ้านใ ครึ่งนาทีต่อมา เขาออกมาและเพียงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรกับนายทหารที่คุ้มกันเอี้ยนลี่เฉียงที่นี่ และพาเอี้ยนลี่เฉียงไปที่ลานบ้าน
มีสะพานและลำธารไหลอยู่ภายในลานบ้าน นกกำลังร้องเพลงและดอกไม้ก็ส่งกลิ่นหอม ใต้ต้นแพรที่เขียวชอุ่มและเก่าแก่ ขันทีเฒ่าผมหงอกขาวนั่งบนเก้าอี้โยก
เขาสวมชุดสีม่วง ตาของเขาปิดและเขากำลังนอนอาบแดดอย่างสบายๆในยามเช้า ขันทีที่อายุน้อยกว่าอีกสองคนรับใช้ขันทีชราที่อยู่เคียงข้างเขา
หนึ่งในนั้นหมอบลงครึ่งหนึ่งกำลังโยกเก้าอี้ราวกับว่าเขาเป็น 'เครื่องยนต์มนุษย์' ขันทีอีกคนกำลังเป่าเตาขนาดเล็กและกำลังต้มน้ำอยู่บนเตา
ทหารยามที่พาเอี้ยนลี่เฉียงเข้ามาก็โค้งคำนับและรายงานว่า
“หลิวกงกงเขามาถึงแล้ว…”
“เอาล่ะ เจ้าถอยไปได้…”
เมื่อขันทีชราซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ได้ยินเสียง เขาค่อยๆหันศีรษะไปด้านข้างและลืมตาขึ้น เขาโบกมือให้ทหารยามถอยกลับ
“งั้นเจ้าคือเอี้ยนลี่เฉียง?” ขันทีเฒ่าถามอย่างเฉยเมย
“คารวะหลิวกงกง!” เอี้ยนลี่เฉียงโค้งคำนับขันทีเก่าด้วยความเคารพ
เขาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองขันทีชราอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เอี้ยนลี่เฉียงได้พบกับขันทีตัวเป็นๆ นอกจากไม่มีหนวดเคราและขนคิ้วบนใบหน้าแล้วขันทีพวกนี้ก็ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป
แม้ว่าเสียงของเขาจะแหลมสูงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เจาะหูจนเกินไป ตรงกันข้าม มันค่อนข้างไพเราะและน่าฟัง
“เจ้าชงชาเป็นหรือเปล่า” หลิวกงกงถามเอี้ยนลี่เฉียงด้วยคำถามที่ไม่คาดคิด
“ข้าสามารถทำได้แต่ไม่เชี่ยวชาญ…” เอี้ยนลี่เฉียงตอบอย่างใจเย็น
“ชุนน้อย ถอยออกไป ให้เขาชงชามาให้ข้า!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของขันทีชรา ขันทีตัวน้อยที่กำลังดูแลเตาเล็กๆ ก็ยืนขึ้นและยื่นพัดที่เขาถืออยู่ให้เอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงไม่พบสิ่งใดที่ไม่อาจยอมรับได้เป็นพิเศษเกี่ยวกับการชงชาให้ขันทีชรา และเขาก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอับอายอะไร
ในตอนที่เขาเป็นพนักงานขายในชาติที่แล้วเขาต่างก็ทำสิ่งต่างๆเพื่อเอาใจลูกค้า
เขาไม่เพียงชงชาให้ลูกค้าเท่านั้นแม้กระทั่งการซ่อมท่อประปาและอุ้มญาติผู้ใหญ่ที่แก่ชราของพวกเขาไปโรงพยาบาลก็เคยทำมาแล้ว
เมื่อเทียบกับประสบการณ์เหล่านั้น การชงชาถือเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ถ้าหลิวกงกงเป็นลูกค้าของเขา เขาจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สำคัญมากอย่างแน่นอน ในความเป็นจริงหลิวกงกงไม่เพียงแต่เป็นลูกค้ารายใหญ่แต่ยังเป็นหัวหน้าของเขาอีกด้วย
น้ำบนเตาขนาดเล็กเริ่มเดือด เอี้ยนลี่เฉียงประมาณเวลา เมื่อน้ำบนเตาเล็กๆเดือดจนได้ที่และเขาปล่อยให้มันเดือดต่อไปอีกห้านาทีก่อนจะยกกาต้มน้ำขึ้น
ด้วยประสบการณ์การดื่มชาในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาค่อยๆล้างมือด้วยน้ำที่ด้านข้าง จากนั้นจึงหยิบชุดน้ำชาขึ้นมา
ก่อนอื่นเขาล้างภาชนะทั้งหมดด้วยน้ำร้อน ล้างใบชา เติมกาน้ำชาอีกครั้ง และปิดฝาไว้ก่อนที่จะเทลงในถ้วยดื่ม จากนั้นเขาก็ยกถ้วยชาที่เตรียมไว้มาให้ขันทีชรา
เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ว่าเขาเพิ่งชงชาชนิดใด แต่อาจเป็นชาที่มีราคาแพงมาก เมื่อนำใบชาไปแช่ในน้ำเดือด ใบชาจะม้วนตัวในน้ำเหมือนใบไผ่ที่ละเอียดอ่อน
แม้แต่กลิ่นของมันก็ยังหอมเหมือนฤดูใบไม้ผลิ
“กงกง ชาพร้อมแล้ว…”
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงกำลังชงชา ขันทีหลิวยังคงนอนอยู่บนเก้าอี้เอนกายและอาบแดด