119-120
9/10
Ep.119
แม้ยังคงมีซอมบี้จำนวนมากอยู่ในเหมือง แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้กระจุกตัวกันหนาแน่นเหมือนกับครั้งแรกที่เคยชะโงกหน้าดู
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังมีอยู่อีกมากกว่า 10,000 ตัว
เมื่อตั้งสติได้ ซูเฉินก็พร้อมที่จะล่อซอมบี้อีกครั้ง
เพื่อที่จะดึงดูดพวกมันให้ขึ้นมาครั้งละมากๆ แทนที่จะโยนหินใส่เหมือนคราวที่แล้ว ครั้งนี้ซูเฉินตัดสินใจยิงลูกไฟลงไปตรงๆ
เกิดเสียงระเบิดดังตูม!
ลูกไฟตกลงไปกลางดงซอมบี้ มีหลายสิบตัวตายทั้งๆที่อยู่ใต้เหมือง
“ฮือออออ!”
ถูกโจมตีอย่างไม่คาดฝัน พวกซอมบี้โกรธจัด กรีดร้องและพากันวิ่งขึ้นไปยังปากทางออกเหมือง
ซูเฉินหรี่ตาลง จากที่กะโดยสายตา คาดว่าจำนวนซอมบี้ที่พุ่งออกมานั้น น่าจะเกือบถึงหลักพัน ซึ่งเขาค่อนข้างพอใจกับปริมาณนี้
ระหว่างรอพวกซอมบี้วิ่งขึ้นมา เขาก็ค่อยๆถอยห่างออกไป
จนกระทั่งห่างจากอุโมงค์ 500 เมตร เขาจึงหยุดลง
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกซอมบี้โผล่พ้นอุโมงค์พอดี พวกมันเบียดเสียดกันวิ่งไปข้างหน้า มองไกลๆคล้ายคลื่นทะเลที่ซัดกระหน่ำ กลิ่นอายดุร้ายรุนแรง
ซูเฉินเลียริมฝีปากเขา กำ [ดาบเสริมมนตรา] ในมือแน่น
เพื่อที่จะจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เขาตัดสินใจใช้กระบวนท่าสังหารพวกมัน
เฝ้ารอจนกระทั่งซอมบี้จำนวนมากเข้ามาใกล้ [ดาบเสริมมนตรา] ก็ตวัดสวนออกไปในแนวนอน
เห็นแค่เพียงเงาสีเทารูปทรงเคียวยักษ์กวาดออกไป ซอมบี้หลาบสิบตัวถูกสังหารลงในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ซอมบี้ล้มลง ลำแสงสามสายปรากฏขึ้นบนศพของพวกมัน
เห็นสิ่งนี้ สีหน้าของซูเฉินก็ยิ่งดูตื่นเต้น อัดฉีดพลังเวทย์ธาตุลมเข้าไปอีกครั้ง เชือดเฉือนออกไปอีกครา ซอมบี้หลายสิบตัวจบชีวิตลง
ในชั่วพริบตา ลำแสงหลายสายสว่างขึ้นอีกครั้ง
ยิ่งเห็นชิ้นส่วนดรอปลงมากเท่าไหร่ ซูเฉินก็ยิ่งกระตือรือร้นมากเท่านั้น
พลังเวทย์ของแต่ละธาตุถูกอัดฉีดเข้าไปใน [ดาบเสริมมนตรา] อย่างต่อเนื่อง เสมือนดั่งเครื่องจักรสังหาร คอยเก็บเกี่ยวชีวิตซอมบี้ทุกครั้งที่ฟาดฟัน
ไม่กี่ลมหายใจ บนพื้นดินก็เต็มไปด้วยซากศพของซอมบี้ ประมาณการคร่าวๆ คาดว่ามีหลายร้อยตัวตกตายภายใต้อานุภาพของ [ดาบเสริมมนตรา]
อีกด้านหนึ่ง [นักรบจักรกล] ก็ไล่ตัดหัวซอมบี้ไม่หยุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวมันจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ครอบครองกระบวนท่าสังหารเช่นซูเฉิน ดังนั้นสามารถไล่ฆ่าได้ทีละตัว ความเร็วในการล่าน้อยกว่าซูเฉินมาก
ภายใต้สภาวะประสานงานกันโจมตี ถ้าให้อธิบายคร่าวๆก็คือ หากซูเฉินฆ่าซอมบี้ได้ร้อยตัว[นักรบจักรกล] จะฆ่าได้สิบกว่าตัว
หวู่หยางที่อยู่ไกลออกไป เห็นซูเฉินเก็บเกี่ยวชีวิตซอมบี้ราวกับเกี่ยวข้าวสาลี สีหน้าแววตาของเขาสั่นคลอน
ก่อนหน้านี้ เขาเคยเห็นซูเฉินฆ่าซอมบี้มาแล้ว แต่ซูเฉินในเวลานั้น มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าตอนนี้มาก
เขายังจำได้ดี ว่าซูเฉินกับตันหลินเคยถูกฝูงซอมบี้แค่ร้อยนิดๆห้อมล้อมจากทุกทิศทาง เวลานั้นพวกเขายังเอาตัวไม่รอดเลย จำเป็นต้องให้ตนเข้าช่วยเหลือ ใช้เวลาสู้อยู่พักหนึ่ง จึงสังหารซอมบี้ทั้งหมดลงได้
ทว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ปัจจุบันซูเฉินกลับมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารซอมนับพันตัวเพียงลำพังแล้ว
ความเร็วในการยกระดับนี้ มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 , ปรมาจารย์มนตรา เลเวล 2 , ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 2 … สัตว์ประหลาด … เขามันสัตว์ประหลาดขนานแท้ อ๊าาา!”
หวู่หยางจ้องมองซูเฉินด้วยแววตาลุกโชน สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
ในตอนแรก เขาไม่ทราบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซูเฉิน แต่ต่อมา หลังจากได้รู้ข้อมูลจากการสนทนากับหยางหลิงเทียน มันทำให้เขาต้องอ้าปากกว้างจนกรามเกือบค้าง
สามอาชีพหลักในคนๆเดียว ปรมาจารย์มนตราที่เชี่ยวชาญทุกธาตุ หวู่หยางไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าในอนาคต ความสำเร็จของซูเฉินจักสูงไปมากถึงขนาดไหน?
…
“ทุกคนดูนั่น! ข้างในมีซอมบี้ตัวนึงสามารถใช้เวทมนต์ได้!” หยางฮ่าวตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
“ฉันก็เห็นเหมือนกัน ซอมบี้ตัวนั้นมันยิงลูกไฟ” สือตั้วตั้วชะโงกมองและร้องตาม
ซอมบี้ที่สามารถใช้เวทมนต์ได้ พวกเขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน
ขณะนี้จึงเริ่มเกิดข้อสงสัย และกังวลถึงความปลอดภัยของซูเฉิน
หวู่หยางอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวลไป พวกมันคือซอมบี้กลายพันธุ์ ก็เหมือนกับมนุษย์เรานั่นแหละ จำนวนซอมบี้กลายพันธุ์มีน้อยมาก นอกจากนี้ เวทมนต์ที่ปล่อยออกมา ส่วนใหญ่เป็นแค่เวทย์เเลเวล 1 ทำอะไรซูเฉินไม่ได้หรอก”
เขาเคยเห็นซูเฉินคว้าลูกไฟเลเวล 2 ด้วยมือเปล่ามาแล้ว ฉะนั้นลูกไฟเลเวล 1 ไม่มีทางสะกิดซูเฉินได้อย่างแน่นอน
10/10
Ep.120
พอได้ฟังคำอธิบายของหวู่หยาง ทุกคนก็โล่งใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตันหลินและหยางเฉียน ที่ตอนนี้ประหม่าจนเหงื่อผุดขึ้นเต็มฝ่ามือ
อีกด้านหนึ่ง ระหว่างที่ซูเฉินกำลังฆ่าซอมบี้อยู่ เขาก็สังเกตเห็นลูกไฟหลายลูกพุ่งเข้ามา
เจ้าตัวไม่เคยเจอซอมบี้ที่ใช้เวทมนต์มาก่อน
แต่ตกใจก็ส่วนตกใจ เมื่อถูกโจมตีก็ต้องรู้จักแก้สถานการณ์ [เกล็ดแขนทองคำ] ถูกเปิดใช้งาน ไล่ทำลายลูกไฟทีละลูก
ต่อให้เวทย์ลูกไฟไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่อย่างน้อยมันก็สร้างความรำคาญ
เขาเลยสั่งให้ [นักรบจักรกล] ไปออกล่าซอมบี้ตัวนั้น
เนื่องจาก [นักรบจักรกล] ทั้งตัวทำจากโลหะแข็ง จึงสามารถบุกฝ่าเข้าไปกลางดงซอมบี้ได้ ต่อให้ถูกกัด มันก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
ประจวบกับความแข็งแกร่งที่มันมี ต่อให้อยู่ท่ามกลางซอมบี้ ก็เปรียบเสมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ในดินแดนที่ไม่มีผู้ใดอาศัย
ไม่นาน ซอมบี้กลายพันธุ์ที่มีเวทย์ไฟก็ถูกสะบั้นศีรษะ
พอหมดปัญหา ซูเฉินก็สามารถหันมาจดจ่อกับการล่าซอมบี้ได้อย่างสบายใจ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเฉิน และ [นักรบจักรกล] ร่วมมือกันจนสามารถสังหารซอมบี้ได้เกือบพันตัว
เฝ้ามองไปยังเศษชิ้นส่วนนับร้อยที่ตกบนพื้น ซูเฉินระงับความตื่นเต้นของเขา โบกมือส่งสัญญาณไปในทิศทางป่าโปร่ง
“พี่เฉินเรียกพวกเราแล้ว” หยางฮ่าวตะโกน และวิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น
สือต้าหนิวกับเฉาหรานเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า วิ่งตามหยางฮ่าวไปติดๆ
“แค่ครึ่งชั่วโมง แต่สามารถสังหารซอมบี้ได้นับพันตัว ..!” แม้จะได้เห็นกับตาตัวเอง แต่หวู่หยางก็ยังอดกลืนน้ำลายไม่ได้
ความเร็วในการกำจัดซอมบี้ของซูเฉิน เขาเพิ่งเคยพบพานมันเป็นครั้งแรกในชีวิต
หวู่หยางบังเกิดความรู้สึกว่า ต่อให้มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 หลายคนร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่น่าจะฆ่าฝูงซอมบี้เร็วเท่ากับซูเฉิน
“พี่หวู่ พวกเราก็ไปกันเถอะ”
คนอื่นๆวิ่งไปหาซูเฉินกันหมดแล้ว เหลือแค่หวู่หยางยังตะลึงอยู่ที่เดิม หยางหลิงเทียนก็ยิ้มและเตือนเขา
“โอเค ไปที่นั่นกัน” หวู่หยางได้สติ วิ่งออกไปพร้อมหยางหลิงเทียน
…
“เสี่ยวตี๋ นายรับผิดชอบเฝ้าระวัง หากมีซอมบี้ตัวไหนเข้ามาใกล้ ฆ่าทิ้งทันที” ซูเฉินออกคำสั่งและเริ่มก้มเก็บชิ้นส่วน
ชิ้นแรกที่ดรอปเป็นชิ้นส่วนหลากสี
“คุณได้รับ [อัญมณีฟิวชั่น] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“ปลดล็อค”
คุณค่าของ [อัญมณีฟิวชั่น] นั้นสูงมาก ซูเฉินไม่มีความคิดที่จะแปลงมันเป็นแต้มพลังงาน
หลังจากได้รับ [อัญมณีฟิวชั่น] ซูเฉินก็สามารถติดตั้ง [ปืนใหญ่เพาส์ เลเวล 1] ลงบน [รถศึกอัจฉริยะ] ได้แล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังโจมตีของ [รถศึกอัจฉริยะ] คงก้าวกระโดดไปอีกขั้น
ใส่ [อัญมณีฟิวชั่น] ลงในถุงเก็บของ ซูเฉินหันไปเก็บชิ้นส่วนอื่นต่อ ชิ้นที่สองยังคงเป็นชิ้นส่วนหลากสี
“คุณได้รับ [อัญมณีอัพเกรด] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“ปลดล็อค”
คุณค่าของ [อัญมณีอัพเกรด] ยังคงสูงกว่า [อัญมณีฟิวชั่น] และซูเฉินยังคงมีอีกหลายอย่างที่รอการอัพเกรด ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่แปลงมันเป็นแต้มพลังงาน
มองไปยังอัญมณีสีเขียวในมือ ซูเฉินเริ่มสงสัยว่าควรอัพเกรดของชิ้นไหนดี ถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด
ตามหลักเหตุผลแล้ว การอัพเกรด [นักรบจักรกล] เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด [นักรบจักรกล] ตอนนี้มีเลเวล 2 หลังจากอัพเกรด มันจะกลายเป็น เลเวล 3 ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้ทัดเทียมเลเวล 4
อย่างไรก็ตาม เมื่อ [นักรบจักรกล] เข้าสู่เลเวล 3 มันจะต้องใช้หินพลังงานเลเวล 3 หรือหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 (คุณสมบัติเหมือนกับหินพลังงาน มีอธิบายในภายหลัง) เพื่อขับเคลื่อน
ซึ่งหินพวกนั้น ซูเฉินไม่มีเลยแม้แต่ก้อนเดียว
ในกรณีนี้ [นักรบจักรกล] ที่ได้รับการอัพเกรดแล้วคงไม่ต่างอะไรจากกองเศษเหล็ก ไม่มีประโยชน์ใดๆอีก
สำหรับถุงเก็บของและ [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ซูเฉินรู้สึกว่าพวกมันสามารถใช้งานได้เพียงพอแล้วในเวลานี้
หลังจากลองทบทวนดู เขาตัดสินใจเก็บไว้ก่อน เอาไว้เขาเก็บหินพลังงานเลเวล 3 หรือหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 ได้เมื่อไหร่ ค่อยว่ากันใหม่
ถ้าได้มันมา แน่นอนว่าสิ่งที่ใช้อัพเกรดย่อมเป็น [นักรบจักรกล]
แต่ถ้าไม่ได้มันมา ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะอัพเกรดของชิ้นอื่น