117-118
7/10
Ep.117
แม้ชายชราจะปิดซ่อนความรู้สึกได้เป็นอย่างดี แต่เจตนาฆ่าที่เปิดเผยในดวงตาเขา ก็ยังถูกซูเฉินสังเกตเห็นได้
นอกจากนี้ ในเมื่อเป็นปู่ของโจวกวง ซูเฉินย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไป
“รับทราบ”
เมื่อได้รับคำสั่ง [นักรบจักรกล] ทะยานไปข้างหน้าอย่างดุดัน
ชายสามคนจากสถานชุมชนซีอาน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ทั้งสิ้น
ขณะที่ [นักรบจักรกล] ได้รับการอัพเกรดเป็นเลเวล 2 เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมีความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เลย
ทันทีที่การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มขึ้น ก็มีแนวโน้มว่าจักเป็นการสังหารอยู่ฝ่ายเดียว
เสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้นไม่กี่ที ชายทั้งสามก็ถูกปลิดชีพลงอย่างง่ายดาย
“หุ่นเชิดเลเวล 2!”
หัวใจของหวู่หยางเต้นแรง
เขาเคยเห็นหุ่นเชิดมาก่อน แต่หุ่นเชิดที่แข็งแกร่งเฉกเช่น [นักรบจักรกล] เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย
“คุณลุง พวกซอมบี้ไปไหนหมดแล้ว?” ซูเฉินเดินไปหาหยางหลิงเทียน เอ่ยถามเสียงต่ำ
ครั้งนี้ นอกจากมารับตัวหยางหลิงเทียนกับคนอื่นๆแล้ว จุดประสงค์หลักของซูเฉินคือการล่าซอมบี้
แต่ตอนนี้ พวกมันทั้งหมดกลับหายไป ทำให้เขาไม่มีความสุขมาก
หยางหลิงเทียนส่ายหัว ส่งสัญญาณว่าไม่รู้เหมือนกัน
การเคลื่อนไหวของพวกซอมบี้ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ดังนั้นเขาไม่ทราบว่าพวกมันหายไปไหน
ซูเฉินเหม่อมองไปรอบด้าน ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดลงในทิศทางเหมือง
เขาเกิดความสงสัย ว่าคลื่นซอมบี้ในตอนแรกใช่ออกมาจากเหมืองหรือไม่ ในเมื่อหายไปแล้ว ทั้งหมดสมควรกลับลงไปในเหมืองรึเปล่า?
“พี่เฉิน คุณเป็นคนฆ่าซอมบี้ทั้งหมดที่นี่หรอ?”
เห็นซากศพซอมบี้นับพันตัวนอนกองกับพื้น หนังศีรษะของเฉาหรานรู้สึกด้านชาเล็กน้อย
ซูเฉินพยักหน้า รอยยิ้มที่มีความหมายผุดขึ้นตรงมุมปากเขา “นี่แค่ส่วนน้อย ในอนาคตคุณจะได้เห็นยิ่งกว่านี้อีก”
ได้ยินเช่นนี้ เฉาหรานกลืนน้ำลายอึกใหญ่โดยไม่รู้ตัว
ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรอีก เรียกทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกัน
หลังจากนั้นทั้งหมดก็ช่วยกันขุดหินพลังงาน
ตรากตรำทำงานหนักเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง หินพลังงานทั้งหมดก็ถูกขุดออกมา
กลับเข้าไปในถ้ำ ซูเฉินเริ่มจัดเตรียมอาหาร
เนื่องจากมีคนมากเกินไป เขากลัวว่าอาหารจะไม่เพียงพอ จึงนำหมีศิลาคลั่งออกมาถึงสองตัว
นอกจากนี้ อาหารกระป๋องและอาหารอื่นๆเหลืออีกไม่มากแล้ว เขาจึงนำทั้งหมดออกมาเช่นกัน
ไม่นานหลังจากนั้น กลิ่นของบาร์บีคิวก็ลอยฟุ้งไปทั่วถ้ำ
ฝูงชนรวมตัวดื่มกินกัน
“พี่ต้าหนิว นานแค่ไหนแล้วที่พี่ไม่ได้กินเนื้อย่าง?” หยางฮ่าวถือเนื้อเสียบไม้ และยื่นให้สือต้าหนิว เอ่ยถามด้วยความอยากรู้
ตั้งแต่กัดคำแรกลงไป สือต้าหนิวไม่เคยหยุดกินอีกเลย ราวกับว่ากระเพาะของเขาไม่มีวันถูกเติมเต็ม
จนหยางฮ่าวที่เป็นปรมาจารย์ย่างบาร์บีคิวไม่อาจตอบสนองความต้องการของเขาได้ทัน
สือต้าหนิวเกาหัว เผยยิ้มซื่อๆ “ตั้งแต่จำความได้ ฉันไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย”
ข้างๆเขา สือตั้วตั้วกัดเนื้อ เคี้ยวไม่กี่ครั้ง น้ำตาก็ไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
คำพูดของสือต้าหนิว เธอรู้ซึ้งดีแก่ใจ
สมัยก่อนไม่ต้องพูดถึงเนื้อย่าง แค่การได้กินอาหารให้อิ่มซักมื้อยังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ณ ตอนนี้ เธอรู้สึกขอบคุณซูเฉินเป็นอย่างมาก
หากซูเฉินไม่ช่วยพวกเธอไว้ และยอมให้ติดตามมาด้วย พวกเธอคงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังร่อนเร่อยู่ที่ไหน บางทีอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้
ในความเป็นจริง สถานการณ์ของพี่น้องตระกูลสือเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆในวันสิ้นโลก
มีคนมากมายตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพวกเขา มีไม่น้อยที่แย่กว่าด้วยซ้ำ
“งั้นก็กินให้เยอะๆเถอะ” หลังจากได้ยินคำพูดของสือต้าหนิว หยางฮ่าวรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย ปลอบโยนว่า “ต่อไปนี้ถ้าติดตามพี่เฉิน พวกคุณก็จะมีโอกาสได้กินบาร์บีคิวอีกหลายครั้ง สามารถกินมันได้เรื่อยๆจนกว่าจะอ้วกกันไปข้าง”
“ฉันยินดีตายเคียงข้างพี่เฉิน ในชีวิตนี้ ฉันจะไม่ยอมห่างเขาแม้เพียงครึ่งก้าว!” สือต้าหนิวพยักหน้าดุเดือด
“พูดได้สวย! การติดตามพี่เฉินเป็นเรื่องที่ถูกต้อง! คนที่ฉัน เฉาหรานผู้นี้ เทิดทูนมากที่สุดก็คือพี่เฉิน!” เฉาหรานหยิบเนื้อขึ้นมากัดคำหนึ่ง เอ่ยเสียงงึมงำ
…
หลังจากกินดื่มกันจนอิ่มแปล้ ซูเฉินเรียกหวู่หยางและหยางหลิงเทียนมาข้างๆเขา
สามสาว ตันหลิน , หยางเฉียน และสือตั้วตั้ว ล้อมวงพูดคุยกันสนุกสนาน
สามหนุ่ม สือต้าหนิว , หยางฮ่าว และเฉาหราน สนทนาเฮฮา ราวกับสหายเก่าที่ไม่พบเจอกันมาหลายปี
8/10
Ep.118
“ซูเฉิน แล้วคุณมีแผนที่จะทำอะไรต่อไป?” หวู่หยางถาม
แม้เขาจะแก่กว่าซูเฉิน แต่ในวันสิ้นโลก ผู้ที่ได้รับความเคารพคือผู้แข็งแกร่ง
หลังจากเห็นถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน เขาก็ได้วางตำแหน่งซูเฉินในฐานะผู้นำ รับหน้าที่เป็นหัวขบวนเป็นที่เรียบร้อย
“นับจากนี้ไป ผมจะออกล่าซอมบี้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งจำนวนซอมบี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด จะดีกว่าถ้าเป็นคลื่นฝูงซอมบี้ขนาดเล็ก” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างหนักแน่น
สำหรับเขา การล่าซอมบี้และไล่เก็บชิ้นส่วน เป็นวิธีที่ตรงและสะดวกที่สุดในการเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง
“ออกล่าคลื่นฝูงซอมบี้ขนาดเล็ก?” หวู่หยางเบิกตากว้าง จ้องมองซูเฉินอย่างตกตะลึง ลอบร้องในใจว่า ‘ซูเฉินใช่ละโมบเกินไปหรือไม่? คลื่นซอมบี้ขนาดเล็กที่ว่า มันเท่ากับซอมบี้นับหมื่นตัวเลยนะ’
“พี่หวู่ ด้วยความแข็งแกร่งของซูเฉิน ประจวบกับที่มีพวกเราคอยหนุนหลัง การออกล่าคลื่นซอมบี้ขนาดเล็กไม่ใช่ปัญหาใหญ่” เมื่อเห็นถึงความกังวลของหวู่หยาง หยางหลิงเทียนอธิบาย
ฟังจากคำพูดของหยางหลิงเทียน มันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเชื่อมั่นในตัวซูเฉินอย่างสุดหัวใจ
หลิงจากได้ยินคำยืนยันจากปากหยางหลิงเทียน หวู่หยางก็นึกย้อนไปถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวของซูเฉิน ที่อาศัยกำลังของตนเพียงลำพังสะกดข่มทั้งเมืองได้
“คลื่นซอมบี้อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง อีกอย่างแถวนี้ยังมีกองกำลังซอมบี้ของจิ่นเฟยซีอยู่ใกล้ๆ”
แต่เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าของหวู่หยางแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า “ซูเฉิน อย่าบอกนะว่าคุณสนใจที่จะล่าจิ่นเฟยซี?”
จำนวนซอมบี้ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของจิ่นเฟยซีมีมากกว่าแสนตัว รีบร้อนออกไปล่า เป็นเรื่องอันตรายมาก
“ปล่อยจิ่นเฟยซีให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักสองสามวัน ตอนนี้ผมมีที่ๆดีกว่านั้นแล้ว” ซูเฉินกล่างด้วยรอยยิ้ม
“หรือคุณกำลังหมายถึงอุโมงค์เหมือง?” ดวงตาของหยางหลิงเทียนเป็นประกาย
มีซอมบี้อยู่หลายหมื่นตัวในเหมือง และปริมาณของมัน ผ่านเกณฑ์ที่จะถูกเรียกว่าคลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ การล่าซอมบี้ที่นั่นมีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือแทนที่จะต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ทีเดียวนับหลายพัน ซูเฉินสามารถล่อพวกมันออกมาทีละฝูงได้ เรื่องนี้ช่วยให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัวและพักหายใจได้อย่างเต็มที่
ด้วยวิธีนี้ จะสามารถล่าซอมบี้ได้เป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องพบเจออันตรายใดๆ
หลังวางแผนกันดีแล้ว ทั้งสามสนทนากันอีกครู่หนึ่ง ก่อนซูเฉินจะลุกขึ้นและเดินไปหาตันหลิน
เดิมเขาต้องการคุยกับตันหลินคนเดียวสักพัก แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตันหลินกับหยางเฉียนตัวติดกันตลอดเวลา ทั้งสองดีต่อกันเหมือนพี่สาวน้องสาว
หยางเฉียนมีใจให้เขา ซูเฉินตระหนักถึงมันได้ไม่มากก็น้อย คราวนี้หากปล่อยให้เวลาผ่านไป ไม่ทราบว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างไร
แต่เมื่อโอกาสไม่เป็นใจ เขาจึงหันไปเข้าร่วมวงกับพวกสือต้าหนิวแทน
....
พักผ่อนหนึ่งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เริ่มขับเคลื่อน มุ่งหน้าไปยังทางเข้าอุโมงค์เหมือง
เนื่องจากมีคนเยอะมากเกินไป ซูเฉินรู้สึกว่าพื้นที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงอัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] อีกรอบ
[รถศึกอัจฉริยะ] หลังจากที่อัพเกรดแล้ว ความยาวของมันเพิ่มเป็น 20 เมตร กว้าง 5 เมตร และสูง 3 เมตร มีสภาพเดียวกับตู้ขบวนรถไฟ
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จอดลงที่ป่าเล็กๆ ห่างจากอุโมงค์เหมืองหลายร้อยเมตร
ซูเฉินยังคงจำได้ ว่าในตอนที่เขามาที่นี่ครั้งแรกเพื่อล่าซอมบี้ เขาก็อยู่ในป่าโปร่งแห่งนี้
พอลงจากรถ ซูเฉินเหลือบมองไปรอบๆ แต่กลับไม่พบซอมบี้เลย
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด วังเวงจนดูน่าขนลุกเล็กน้อย
“ทำตามแผน ฉันจะไปล่อซอมบี้ พวกคุณรออยู่ที่นี่” หลังจากกำชับ ซูเฉินกับ [นักรบจักรกล] ก็ค่อยๆเดินเข้าไปในเหมือง
ระหว่างทางมาที่นี่ พวกเขาทั้งหมดได้ตกลงกันแล้ว ว่าซูเฉินกับ [นักรบจักรกล] จะรับหน้าที่สังหารซอมบี้ทั้งหมด ส่วนคนอื่นๆรับผิดชอบในการขุดหินพลังงาน และซ่อนตัวเท่านั้น
มาถึงขอบอุโมงค์เหมือง ซูเฉินกวาดสายตามองลงไป แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้ว พึมพำเล็กน้อย “ทำไมจำนวนของพวกมันถึงลดลง ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน”