98
4/6
Ep.98
“ตาย!!”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินกล้าที่จะคว้าลูกไฟด้วยมือเปล่า ปรมาจารย์มนตราเลเวล 2 ก็แสดงออกถึงความตื่นเต้น
ต้องรู้นะว่าเวทมนต์ลูกไฟเลเวล 2 นั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก กระทั่งผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ก็ยังไม่กล้าแตะต้องมันตรงๆ
ในความคิดของเขา ต่อให้ซูเฉินจะไม่ตายในการโจมตีนี้ แต่ก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส
เห็นภาพตรงหน้า หัวใจของหวู่หยางหล่นวูบ
ใช้ร่างกายเปล่าๆต้านทานการโจมตีจากเวทมนต์เลเวล 2 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการแส่หาที่ตาย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมซูเฉินถึงทำเช่นนี้?
ใบหน้าของเฉาหรานกลายเป็นน่าเกลียดเช่นกัน คล้ายกับว่าเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นซูเฉินถูกระเบิดตาย ถึงขั้นหลับตาลง
หลี่เหลียงที่อยู่ข้างๆ เดิมต้องการจะวิ่งหนี แต่เมื่อเห็นฉากนี้ เขาหยุดฝีเท้า พึมพำในใจอย่างชั่วร้าย “ซูเฉิน มาดูกันว่าคราวนี้แกจะรอดไปได้ยังไง!”
ขณะที่ฝูงชนคิดกันไปต่างๆนาๆ ทันใดนั้นเอง แขนของซูเฉินพลันระเบิดแสงสีทองออกมา
ในเวลาเดียวกัน เกล็ดสีทองผุดขึ้นตามผิวหนังเขา ห่อหุ้มแขนและฝ่ามือทั้งหมดเอาไว้ในทันที
สิ่งที่ซูเฉินเปิดใช้งานมิใช่ใดอื่น เป็น [เกล็ดแขนทองคำ]
หน้าที่หลักของเทคนิคลับนี้คือการป้องกัน มันสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงกว่าเลเวลของผู้ใช้หนึ่งขั้นได้
ฉะนั้น แค่ทานรับลูกไฟเลเวล 2 นี่มันเรื่องขี้ปะติ๋ว
วินาทีต่อมา ซูเฉินคว้าลูกไฟด้วยมือเดียว กำมันแน่น บดขยี้จนแหลกในพริบตา
ฉากนี้สะท้อนในแววตาของทุกคน ทั้งหมดรู้สึกราวกับไม่ใช่เรื่องจริง
เวทมนต์ลูกไฟอันทรงพลัง กลับถูกบดขยี้ง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกทั้งตอนระเบิด มันไม่แม้จะสร้างคลื่นทำลายเป็นวงกว้าง
นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
ตาฝาดไปรึเปล่า?
หรือบางทีจะเป็นร่างของซูเฉินที่แข็งแกร่งมากเกินไปจนสามารถเพิกเฉยต่อเวทมนต์เลเวล 2 ได้?
ทุกคนลืมหายใจไปชั่วขณะ จ้องมองซูเฉินด้วยสายตาราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด
ซูเฉินสะบัดนิ้ว ท่าทีราวกับว่าที่เพิ่งทำไปเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย หลังจากบดขยี้ลูกไฟจนมันกลายเป็นขี้เถ้า เขาก็มองไปทางปรมาจารย์มนตราเลเวล 2
ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ปรมาจารย์มนตราเลเวล 2 สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
เขารู้ดี ว่าความแข็งแกร่งของซูเฉินเกินกว่าที่คาดไว้ แบบนี้เกรงว่าต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ก็คงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
หากยังรั้งอยู่ต่อไป หายนะแน่ๆ
คิดได้แล้วก็ไม่รีรอ หันหลังหนีทันที
เพียงแต่ว่า เขาเป็นปรมาจารย์มนตรา สมรรถภาพทางกายภาพของเขาดีกว่าคนทั่วไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วแบบนี้จะหนีรอดไปจากเงื้อมมือของซูเฉินได้อย่างไร?
ใบมีดสายลมพุ่งหวือจากฝ่ามือซูเฉิน ปรมาจารย์มนตราเลเวล 2 วิ่งไปได้แค่สามก้าว ก็ถูกไล่ตามทัน คมมีดเฉือนเนื้อจากเบื้องหลัง ตวัดผ่านลำคอตายไปทั้งๆอย่างนั้น
อีกด้านหนึ่ง หลี่เหลียงตระหนักได้ว่าจบสิ้นแล้ว เขาพยายามที่จะลอบหนีไปอย่างเงียบๆ แต่ถูกซูเฉินจับได้ เท้าของเขาถูกรัดพันด้วยเถาวัลย์เขียว ตรึงร่างแน่นอยู่กับที่
หลังจากกำจัดปรมาจารย์มนตราเลเวล 2 และคุมตัวหลี่เหลียงได้แล้ว ซูเฉินก็หันกลับมามองหวงจวินหลินอีกครั้ง กล่าวเยาะหยัน “ตายกันเรียบ คราวนี้ก็ถึงตาแกแล้ว”
“แกจะฆ่าฉันไม่ได้!” หวงจวินหลิน รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เหงื่อเย็นหยดย้อยเต็มตัวเขา ริมฝีปากสั่นระริก “พ่อฉันเป็นเจ้าเมืองจิงกัง เขาเป็นผู้วิวัฒนากาารเลเวล 3 ..”
กระทั่งหวู่หยางยังช่วยเกลี้ยกล่อม “ซูเฉิน อย่าเพิ่งฆ่ามัน”
ซูเฉินชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยถาม “ทำไม?”
หวู่หยางรีบอธิบาย “เพราะหวงคังมีลูกชายเพียงคนเดียว หากเราสามารถเอาผู้สืบสกุลเขาเป็นตัวประกันได้ ด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกเรามีโอกาสที่จะหลบหนีไปจากเมืองจิงกังโดยปลอดภัย”
เมื่อเห็นหนทางรอด หวงจวินหลินกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ท่านพ่อน่ะรักฉันมากที่สุด ตราบใดที่แกไม่ฆ่าฉัน แกก็จะสามารถออกจากเมืองจิงกังได้อย่างปลอดภัย”
“อ้อหรอ ฟังดูมีเหตุผลดีนี่” ซูเฉินปาดจมูก จากนั้นหักคอของหวงจวินหลินอย่างไม่ลังเล