294 - จักรพรรดิ
294 - จักรพรรดิ
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงและเหลียงอี้เจี๋ยพักอยู่ในห้องผู้ติดตามนอกวัง ซุนปิงเฉินก็เข้าไปในวังแล้ว โดยการนำทางของขันทีชราคนหนึ่ง
พวกเขาเดินผ่านประตูและทางเดินนับไม่ถ้วนก่อนที่พวกเขาจะมาถึงห้องทรงอักษรอันเงียบสงบภายในวัง
“เจ้ากรมซุน ฝ่าบาทรออยู่ที่ด้านในทรงมีบัญชาว่าไม่ต้องรายงานหากเจ้ากรมซุนมาถึงให้เข้าไปได้เลย!”
“ขอบคุณ เสวี่ยกงกง!”
"เป็นเกียรติของข้า!" ขันทีที่นำท่านซุนปิงเฉินมาที่นี่ยิ้มจนตาหรี่แล้วกล่าวเสริมว่า
“พวกเราทุกคนทำงานรับใช้ฝ่าบาท ข้าน้อยรู้ดีว่าเจ้ากรมซุนที่ออกเดินทางไปข้างนอกนั้นมีอันตรายมากแค่ไหน!”
ซุนปิงเฉินพยักหน้า จากนั้นจึงผลักประตูห้องทรงอักษรเข้าไปข้างใน เสวี่ยกงกงปิดประตูห้องหลังจากซุนปิงเฉินเดินเข้าไปข้างใน
“เจ้ากรมซุนกำลังเข้าเฝ้าฝ่าบาท! ผู้ใดก็ตามที่อยู่ในระยะห้าสิบวาให้ถอยออกไปให้หมด! ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจะถูกตัดศีรษะ…!”
เสวี่ยกงกงตะโกนออกไป จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากประตู
ชายผู้มีใบหน้าหล่อเหลาและละเอียดอ่อนแต่งกายด้วยชุดมังกรสีทองนั่งอยู่หลังโต๊ะ บนโต๊ะมีกองฎีกามากมาย ทันทีที่เขาเห็นซุนปิงเฉินผลักประตูเข้ามาเขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีและมองไปที่ซุนปิงเฉินอย่างตื่นเต้น
“ถวายบังคมฝ่าบาท…” ซุนปิงเฉินโค้งคำนับจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฮั่น
“เจ้ากรมซุน ไม่ต้องมากพิธี!”
จักรพรรดิออกมาจากด้านหลังโต๊ะทันทีและเดินไปข้างหน้าซุนปิงเฉิน
เมื่อมองดูซุนปิงเฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาระงับอารมณ์และถามด้วยเสียงสั่นเล็กน้อยว่า
“บุคคลนั้น…ท่านพบเขาแล้วหรือยัง…?”
“ฝ่าบาทเป็นผู้ปกครองอาณาจักร จักรวาลอยู่ในกำมือของพระองค์ ฝ่าบาทไม่ควรแสดงความถึงเต้นมากเกินไป!” ซุนปิงเฉินค่อนข้างสงบเสงี่ยม
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้ากรมซุนกลับมาตั้งแต่เมื่อวาน ในระหว่างนี้ข้านอนไม่หลับทั้งคืน หากไม่ใช่ว่าจะทำให้ผู้คนมากมายตื่นตัวข้าคงเรียกท่านมาเข้าเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว…!”
จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฮันผู้ยิ่งใหญ่เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจยาว ความกังวลฝังอยู่บนใบหน้าของเขา
“ ท่านซูเสียสละอายุขัยสิบปีเพื่อสำรวจความลับของสวรรค์ ถ้อยคำที่เขาทิ้งไว้ให้ข้าคือ 'แม่น้ำและภูเขายาวกว่าหมื่นลี้ไม่มีแม้แต่วิญญาณที่เหลืออยู่ ชาติอาบเลือดและมังกรแตกเป็นเสี่ยงๆ '
ความหวังของเราอยู่ในบุคคลนี้ อาณาจักรฮั่นมีปัญหาจากความขัดแย้งภายในและการรุกรานจากภายนอก ภัยจากอนาคตที่ไม่รู้จัก จะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร…?”
ซุนปิงเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพยักหน้าช้าๆเขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ด้วยบารมีของฝ่าบาท บ่าวผู้ต่ำต้อยสามารถค้นพบคนผู้นั้นแล้ว!”
จักรพรรดิรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้งและไม่สามารถยับยั้งตัวเองจากการคว้ามือของซุนปิงเฉิน
“คนผู้นั้นอยู่ในเมืองหลวงของหรือเปล่า…?”
“บ่าวพาเขาเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่ด้านนอกวังหลวงนี่เอง!”
เมื่อได้ยินคำตอบของซุนปิงเฉินใบหน้าของจักรพรรดิก็แดงก่ำด้วยความยินดี
“แล้วทำไมท่านซุนไม่พาเขาเข้ามาในวังเพื่อให้ข้าพบเขา!”
“ฝ่าบาท เขาเป็นเพียงเด็ก และปัจจุบันเขาเป็นเพียงผู้ติดตามของข้าอีกทั้งยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทหารอย่างเป็นทางการ แล้วเขาจะเข้ามาในวังได้อย่างไร? หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเกรงว่าศัตรูของเราจะไหวตัวก่อน!”
“ใช่ๆๆ เรื่องนี้ข้าใจร้อนเกินไป อันที่จริงเราต้องไม่ประมาทการขาดความอดทนในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้แผนการใหญ่เสียไป…”
จักรพรรดิกำหมัดของเขาในขณะที่เขาพยายามระงับความตื่นเต้นในใจ จากนั้นเขาก็ถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“เด็กคนนั้นชื่ออะไร? เขาอายุเท่าไหร่? ภูมิหลังครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร”
“เด็กคนนี้แซ่เอี้ยนและชื่อของเขาคือลี่เฉียง เขาอายุได้สิบห้าปีในปีนี้และเป็นลูกชายของช่างตีเหล็กจากเมืองผิงซีในแคว้นกาน…”
“แซ่เอี้ยน… ที่แท้ก็คือเอี้ยนนี่เอง…” จักรพรรดิพึมพำกับตัวเอง แล้วปรบมือเสียงดัง
“ทำไมข้าถึงไม่ทันคิด! 'โอ้อวดอย่างกล้าหาญกลืนกินสวรรค์ในสองคำ'…ตัวอักษร 'เอี้ยน' ไม่ใช่ว่ามีปากสองปากหรอกหรือ!” เมื่อจักรพรรดิพูดถึงจุดนี้ เขาก็หันไปหาซุนปิงเฉินด้วยความกระตือรือร้นอีกครั้ง
“เด็กคนนี้มีความพิเศษอะไรหรือไม่”
“เขาเป็นคนพิเศษจริงๆ เขารั้งอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกของทดสอบศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลเมื่อปีที่แล้ว ไม่เพียงแค่นั้น ข้ายังได้ยินบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับเขาทันทีที่มาถึงเมืองผิงซี!”
"มันเกี่ยวกับอะไร?"
“ชาวบ้านบอกว่าเด็กคนนี้ได้พบกับเทพในความฝันของเขา และเขาได้รับวิธีการมหัศจรรย์ที่เทพประทานให้เพื่อช่วยคนที่จมน้ำ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
และเหยื่อที่สิ้นหวังจำนวนมากที่จมน้ำก็ฟื้นขึ้นมาได้สำเร็จด้วยวิธีการอันมหัศจรรย์นี้ วิธีการนี้แพร่กระจายไปในเมืองผิงซีเมื่อปีที่แล้ว และมีการกล่าวกันว่าได้ช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน นับเป็นผลงานที่น่าอัศจรรย์จริงๆ…”
ทันทีที่จักรพรรดิได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาแทบจะเป็นประกาย
“ใครจะไปคิดว่าจะมีคนได้พบกับเทพในความฝันและรับคำสอนอันน่าอัศจรรย์? วิธีการมหัศจรรย์ช่วยชีวิตนี้คืออะไรกันแน่? เจ้ากรมซุนเคยทดสอบวิธีการนี้หรือไม่”
“วิธีมหัศจรรย์นั้นเกี่ยวข้องกับการรนแท่งอ้ายเย่ที่สะดือของเหยื่อที่จมน้ำซึ่งหยุดหายใจไปแล้ว ในตอนที่ข้าไปถึงแคว้นกานอากาศก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วจึงไม่มีใครว่ายน้ำ
ดังนั้นข้าจึงไม่พบผู้ประสบภัยจมน้ำ อย่างไรก็ตามข้าได้สั่งให้อี้เจี๋ยผู้ติดตามส่วนตัวของข้าไปเยี่ยมหมู่บ้านชนบทในเมืองผิงซีเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ เขาพบเด็กสองสามคนที่ได้รับการช่วยเหลือด้วยวิธีนี้ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านี่เป็นเรื่องจริง!”
“อัศจรรย์! ข้าไม่ไม่คิดว่าวิธีนี้จะทำได้จริงๆ หากวิธีนี้สามารถเผยแพร่ไปทั่วอาณาจักร ไม่รู้ว่าจะช่วยชีวิตคนได้มากน้อยแค่ไหน และโศกนาฏกรรมของครอบครัวที่แตกสลายก็สามารถป้องกันได้ …”
"ใช่. นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าบอกว่าวิธีนี้ยอดเยี่ยมน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่สำคัญที่สุด หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงได้ช่วยชีวิตคนด้วยวิธีดังกล่าวเขายังถ่ายทอดความรู้ให้กับชาวบ้านทั่วไปโดยไม่หวงแถมวิชาไว้กับคนเดียว!”
“การอ้างสิทธิ์ในการรับคำสอนจากเทพในความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร”
“ข้าได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ตามที่แพทย์และผู้เห็นเหตุการณ์ในแคว้นผิงซีซึ่งเห็นเอี้ยนลี่เฉียงใช้วิธีนี้เป็นครั้งแรก คำพูดนี้มาจากตัวเอี้ยนลี่เฉียงเองหลังจากที่เขาช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายในตอนนั้น…”
“แล้วเจ้ากรมซุนค้นพบเขาได้อย่างไร”
“ในเรื่องนั้นเป็นเพราะบารมีของฝ่าบาทอย่างแท้จริง ในตอนที่บ่าวเฒ่ารับคำสั่งจากฝ่าบาทให้ไปภาคตะวันตกเฉียงเหนือข้าก็อับจนปัญญาอยู่บ้างไม่รู้จะใช้วิธีการใดจัดการกับตระกูลเย่
ไม่คิดว่าตอนที่ไปถึงแคว้นกาน ข้าก็พบกับเหตุการณ์ใหญ่ในเมืองผิงซี ไม่เพียงเท่านั้น เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ ฝ่าบาทคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้วใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิพยักหน้า “ข้าได้อ่านฎีกาแล้ว!”
“แล้วฝ่าบาทควรรู้ว่าเหตุการณ์ของตระกูลเย่ในเมืองผิงซีได้รับการเปิดเผยจากเอี้ยนลี่เฉียง…”
"โอ้?" จักรพรรดิเลิกคิ้วทันที “ทำไมถึงเป็นเขาอีกล่ะ”
ซุนปิงเฉินเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเอี้ยนลี่เฉียงเข้ามาเกี่ยวข้องอีกครั้ง...
หลังจากได้ยินเกี่ยวกับสายตาที่แหลมคมของเอี้ยนลี่เฉียงซึ่งทำให้เขามองเห็นชายชาตูที่ปลอมตัวได้เพียงชำเลืองมองเพียงครั้งเดียว
จากนั้นจึงไล่ตามเขาไปที่อุโมงค์ของเย่เซียวก่อนที่จะแจ้งเตือนคนทั้งเมืองในที่สุด จักรพรรดิก็อดไม่ได้ที่จะสรรเสริญเกี่ยวกับความกล้าหาญและความเฉลียวฉลาดของเขา
หลังจากได้ยินวิธีที่ซุนปิงเฉินทดสอบเอี้ยนลี่เฉียงด้วยภาพวาดเป็นครั้งแรก รวมถึงวิธีการที่เขาจัดการโจรวายุทมิฬจักรพรรดิก็ตกตะลึง
"อะไร? เจ้ากรมซุน ท่านกำลังพูดว่าเอี้ยนลี่เฉียงสามารถสังหารศัตรูนับร้อยในสนามรบ? ลูกศรที่เหมือนพระเจ้าที่เขาปล่อยนั้นเร็วเหมือนสายฟ้า และเขาได้บรรลุถึงชั้นสวรรค์ที่สามในศิลปะการยิงธนูแล้ว? …”