107-108
7/10
Ep.107
ระหว่างที่ซูเฉินกำลังเก็บชิ้นส่วน ผู้คนนับสิบที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ก็กลับมา พวกเขารวมตัวกัน อยู่ห่างจากซูเฉินและคนอื่นๆไปหลายร้อยเมตร
“ท่านผู้นำ พวกเราเองก็ฆ่าซอมบี้ไปตั้งหลายตัว จะปล่อยให้พวกมันรับทรัพย์ทั้งหมดไปฝ่ายเดียวหรือ?”
ชายวัยกลางคนที่มีผิวคล้ำ เมื่อเห็นหวู่หยางและคนอื่นๆก้มหน้าก้มตาขุดหาหินพลังงานอย่างต่อเนื่อง ก็เอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
คนข้างๆเป็นชายสูงวัยผมหงอกขาว ใบหน้าแดงระเรื่อ เขาหรี่ตาลง เอ่ยพลางครุ่นคิดว่า “พวกเขาฆ่าซอมบี้ไปตั้งมากมาย พวกเราเข้าไปแย่ง มันจะได้ไม่คุ้มเสียนะ”
“ท่านพ่อคิดมากเกินไปแล้ว”
ข้างหลังชายสูงวัยผมหงอก เป็นสาวสวยในชุดสีแดงรัดรูป เธอมีร่างกายอวบอิ่ม สาวเจ้าแค่นเสียงด้วยความเหยียดหยาม จากนั้นกล่าวว่า “ที่พวกเขาฆ่าซอมบี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะรถฐานทัพสีเงินขาวคันนั้นต่างหาก คนไม่ได้ลงมาสู้ด้วยซ้ำ จริงๆแล้วพวกเขาคงไม่ได้แข็งแกร่งอะไร!”
“คุณหนูใหญ่พูดได้ถูกต้อง!”
ชายผิวคล้ำกล่าวคล้อยตาม ดวงตากลับกลอกอย่างดื้อรั้น “ท่านผู้นำ สถานชุมชนเฟยเหนียวของพวกเราถูกพวกซอมบี้ยึดไปแล้ว ตอนนี้พวกเรากลายเป็นคนไร้บ้าน ถ้าเราสามารถฉวยโอกาสนี้ยึดเอารถฐานทัพมาได้ พวกเราก็จะมีทุนรอนไว้ใช้งาน เพื่อกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง”
ทันทีที่ประโยคนี้เอ่ยออกมา ก็ได้รับเสียงตอบรับจากคนอื่นๆ
พลังป้องกันของ[รถศึกอัจฉริยะ] เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกสายตา หากสามารถนำมาครอบครองเป็นของตนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องเอาแต่มุดหัว ซ่อนตัวจากพวกซอมบี้อีกต่อไป
“ผู้ใดที่สามารถเป็นเจ้าของรถฐานทัพทรงพลังเช่นนี้ได้ พวกเจ้าคิดว่าคนผู้นั้นจะเป็นคนธรรมดาหรือ?” ชายสูงวัยหงอกขาวยังคงกังวลอยู่
คนธรรมดามักถูกละเลย ขณะที่ผู้มากพรสวรรค์มักถูกผู้อื่นริษยาเช่นนี้แล
ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลก หากไม่มีความแข็งแกร่งที่มั่นคง ต่อให้มีสมบัติดีๆอยู่ในครอบครองสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจรักษามันเอาไว้ได้
ความจริงข้อนี้ผู้นำแห่งสถานชุมชนเฟยเหนียวทราบเป็นอย่างดี
ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวชุดแดงรัดรูปกับชายผิวคล้ำก็หันมามองหน้ากัน ก่อนตกอยู่ในความเงียบ
คล้ายยังไม่อยากยอมแพ้ หญิงสาวชุดแดงเงยหน้าขึ้น กล่าวทันควัน “ท่านพ่อ นี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิต มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง”
“ฉันมีความคิดดีๆแล้ว” ชายผิวคล้ำฉุกคิดแผนหนึ่งขึ้นมาได้ อธิบายว่า “พวกเราถือโอกาสนี้กลับไปขุดหินพลังงาน ระหว่างนั้นก็ลอบสังเกตพวกเขา ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งมาก เราก็แค่ถอย แต่ถ้าไม่ …”
กล่าวถึงประโยคนี้ รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา อธิบายคำที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยต่อได้อย่างชัดเจน
“วิธีนี้ฟังดูไม่เลว” ดวงตาของชายสูงวัยเป็นประกาย เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าในกลุ่มนั้นมีแต่พวกอ่อนแอ พวกเราจะลงมือ แต่หากยังไมได้รับอนุญาตจากฉัน ห้ามใครทำอะไรทั้งนั้น”
“รับทราบ”
คนอื่นๆตอบกลับ
…
หวู่หยางกำลังขุดหินพลังงาน อยู่ดีๆก็พบว่ากลุ่มคนที่หนีไปก่อนหน้านี้วกกลับมา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที ตะโกนบอกซูเฉิน “ซูเฉิน คนกลุ่มนั้นกลับมาแล้ว”
หลังจากเก็บชิ้นส่วนสีเหลืองขึ้นมา ซูเฉินก็เงยหน้าขึ้น เห็นคนกลุ่มเดิมกำลังวิ่งมาทางพวกเขา
ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายกลับมาด้วยจุดประสงค์อะไร เขาจึงเรียกคนอื่นๆในกลุ่มเข้าไปต้อนรับ
ไม่นาน ชายสูงวัยหงอกขาวกับคนอื่นๆก็หยุดฝีเท้า เว้นระยะห่างจากพวกซูเฉินราวๆ 5 เมตร
หลังจากทั้งสองฝ่ายมองสำรวจกันและกันๆ ซูเฉินก็เป็นคนแรกที่เอ่ยปาก “ไม่ทราบว่าทุกท่านมีธุระอะไร?”
ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายมาเพื่อแสดงความขอบคุณ เพราะอย่างไรเสีย เป็นซูเฉินที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
“แน่นอน พวกเรามาที่นี่เพื่อขุดหินพลังงาน” ชายผิวคล้ำตอบตามตรง
ก่อนจะมา เขามีความกังวลเล็กน้อย แต่หลังจากเห็นใบหน้าของซูเฉินและคนอื่นๆในกลุ่มแล้ว ความกังวลก็มลายหายไปสิ้น
เพราะในบรรดากลุ่มของซูเฉิน หากไม่นับหวู่หยางที่ดูมีอายุเล็กน้อยแล้ว คนอื่นๆเป็นแค่วัยรุ่นอายุราวๆ 20 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กน้อยอย่างสือตั้วตั้วอีก
อีหรอบนี้ คนกลุ่มนี้จะแข็งแกร่งได้อย่างไร?
“ซอมบี้พวกนี้เป็นฝีมือพวกเราฆ่า คุณมีสิทธิอะไรมาขุดหินพลังงาน? ช่างหน้าไม่อาย!” เฉาหรานเริ่มเดือดดาล ตวาดพร้อมถลึงตาใส่ชายผิวคล้ำ
8/10
Ep.108
“ไอ้หนู หุบปากซะ!”
ชายผิวคล้ำหน้าบูดบึ้ง ส่งเสียงฮึ่มๆในลำคอ “ซอมบี้ส่วนใหญ่ที่นี่เป็นฝีมือพวกเราต่างหาก พวกแกแค่ตามมาเก็บซากทีหลัง พวกฉันก็แค่กลับมาเอาของที่เป็นสิทธิ์ของตัวเอง มันผิดตรงไหน?”
“ฉันว่าฉันเคยเห็นคนหน้าด้านมาเยอะแล้วนะ แต่แกเป็นคนแรกเลยที่ทำคะแนนนำคนอื่นๆ” มุมปากของเฉาหรานสั่นระริกด้วยความโกรธ
เรื่องที่ชายผิวคล้ำและกลุ่มของอีกฝ่ายฆ่าซอมบี้นั้นเป็นความจริง แต่มากสุดแค่ไม่กี่สิบตัวเท่านั้น
ยังไม่พอ เมื่อการต่อสู้จบลง อีกฝ่ายกลับเอ่ยอย่างไม่อายปาก ว่าซอมบี้ส่วนใหญ่เป็นฝีมือพวกเขา
ระดับความหน้าด้านนี้ ทะลุลิมิตเกินจะกล่าวจริงๆ
สือต้าหนิงและคนอื่นๆก็ไม่พอใจเช่นกัน
สือตั้วตั้วตะโกนด้วยความโกรธ “เห็นๆกันอยู่ว่าซอมบี้พวกนี้ถูกรถฐานทัพของพี่เฉินชนตาย พวกคุณตาบอดหรอ?”
โดนดูถูกโดยเด็กน้อยอายุ 6-7 ขวบ ชายผิวคล้ำรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง
เขาจับจ้องสือตั้วตั้วด้วยความเย็นชา ตะคอกดุดัน “สวะตัวน้อย รีบร้อนอยากไปยมโลกแล้วใช่ไหม?”
ขณะกล่าว เขาต้องการตรงเข้าไปมอบบทเรียนให้สือตั้วตั้ว แต่ถูกสายตาของชายสูงวัยหงอกขาวที่อยู่ข้างๆปรามเอาไว้เสียก่อน
“ท่านผู้นำ พวกเขาไม่รู้จักดีชั่ว ไม่จำเป็นต้องไว้ไมตรีอีก” ชายผิวคล้ำไม่เข้าใจว่าเหตุใดชายสูงวัยถึงหยุดเขา
อย่างไรก็ตาม ชายสูงวัยหงอกขาวข้ามผ่านเหตุการณ์ต่างๆมานับไม่ถ้วน เขามีประสบการณ์อย่างลึกล้ำ เมื่อเห็นซูเฉินและคนอื่นๆใจกล้าไม่หวั่นเกรง ในหัวใจก็เกิดระลอกคลื่นของความไม่มั่นใจ
ตามหลักเหตุผลแล้ว ด้วยวัยของซูเฉินและคนอื่นๆ ต่อให้มีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เก่งเท่าเขาอย่างแน่นอน
เพราะสิ่งที่เรียกว่าการฝึกฝน ไม่ใช่อะไรที่สามารถสำเร็จได้ในวันเดียว มันต้องใช้เวลาวันแล้ววันเล่า ปีแล้วและปีเล่า ตรากตรำพยายามอย่างหนัก
ขณะที่ซูเฉินและคนอื่นๆยังเด็กเกินไป ไม่น่าจะมีเวลาฝึกฝนมากมายขนาดนั้น ดังนั้นแข็งแกร่งสู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชายสูงวัยกลับสัมผัสได้รางๆถึงร่องรอยของจิตสังหาร ที่กำลังแผ่นซ่านไปทั่วบริเวณ
และสิ่งที่ชักนำความรู้สึกนี้มาให้เขา เป็นชายหนุ่มที่มีสีหน้าเฉยเมยตั้งแต่ต้นจนจบผู้นี้ มิใช่ใครอื่น เป็นซูเฉิน
ชายสูงวัยเหม่อลอยไปชั่วขณะ แต่เมื่อยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด เขาจะไม่ยอมให้ชายผิวคล้ำทำอะไรบุ่มบ่าม
ชายสูงวัยพินิจมองซูเฉิน ค่อยๆเอ่ยอย่างช้าๆ “พวกเราเองก็สังหารซอมบี้ไปมากเช่นกัน เรื่องนี้เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ การกลับมาขุดหินพลังงาน ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว”
หากปล่อยให้ตกอยู่ในสภาวะงงงันเช่นนี้ต่อไปมันคงไม่ดี ชายสูงวัยจึงตัดสินใจที่จะลองทดสอบดู
“ฮะๆ” ซูเฉินหัวเราะเย็นชา กล่าวเหยียดหยัน “ถ้าพวกเรามาไม่ทันเวลา ชีวิตน้อยๆของพวกแกคงหายไปแล้ว พอซอมบี้ตายหมด ดันวกกลับมาเก็บสินสงคราม คิดหรือว่าฉันจะยอม?”
“สามหาว!” หญิงสาวชุดแดงแทรกตัวมาข้างหน้า ตวาดด่าชี้หน้าซูเฉิน
จากนั้นเธอก็กล่าวด้วยสีหน้าเย็นเยียบว่า “อาศัยแค่ความแข็งแกร่งของพวกเรา ก็สามารถฆ่าซอมบี้ฝูงนี้ได้ ไม่เห็นต้องการความช่วยเหลือจากพวกแก!”
แม้ทุกคำที่หลุดจากปาก น้ำเสียงจะหนักแน่นและมั่นคง แต่เธอรู้ดีแก่ใจ ว่าสิ่งที่ซูเฉินพูดนั้นถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าหินพลังงานจำนวนมาก เธอก็ทำใจไม่ได้หากต้องทิ้งมันไป
และเหตุผลที่เธอกล้าแสดงออกขนาดนี้ เป็นเพราะรู้สึกว่าซูเฉินและคนอื่นๆในกลุ่มไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งอะไร
“ดูเหมือนว่ายังไงพวกแกก็จะหาเรื่องพวกเราให้ได้สินะ” ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ในแววตาสะท้อนประกายเย็นเยียบ
เห็นบรรยากาศในสนามรบตึงเครียด ชายสูงวัยหงอกขาวหัวเราะ “ในเมื่อพวกคุณไม่ยินดีที่จะมอบหินพลังงานให้แก่เรา งั้นฉันมีข้อเสนอ”
กล่าวถึงจุดนี้ เขาเบนสายตาไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] เปล่งวาจาเคร่งขรึมว่า “พวกเราไม่เอาหินพลังงานก็ได้ แต่ขอแลกรถฐานทัพเป็นค่าชดเชย”
“เหอ เหอ” ซูเฉินส่งเสียงในลำคอด้วยความโกรธ
ที่แท้ฝ่ายตรงข้ามก็แค่คิดใช้หินพลังงานเป็นข้ออ้าง เพื่อชิงรถฐานทัพของเขา!
เมื่อล่วงรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินก็ไม่คิดสุภาพกับพวกเขาอีกต่อไป
ซูเฉินเหยียดมือไปทางชายสูงวัย ชายผิวคล้ำ และหญิงสาวชุดแดง เอ่ยเสียงขรึม “พวกแกสามคนต้องตายที่นี่ ส่วนคนอื่นๆที่อยู่ข้างหลัง จงตัดแขนข้างหนึ่งของตัวเองเสีย แล้วฉันจะยอมปล่อยไปแบบมีชีวิต!”