103-104
3/10
Ep.103
ในร้านค้า ชายหลายคนที่แต่งตัวเหมือนบริกร สะดุ้งตกใจกับเสียงอึกทึกนี้
เมื่อเห็นว่าผู้ที่พังประตูร้านเป็นคนแปลกหน้า พวกเขาก็เริ่มโกรธเกรี้ยว
“เจ้าหนู มุดออกมาจากรูไหนกัน? ถึงกล้ามาก่อเรื่องกับหอการค้าถงฟู่ของพวกเรา!” ชายคนหนึ่งตวาดลั่น ชี้หน้าซูเฉิน
ซูเฉินไม่พล่ามไร้สาระกับเขา เหยียดมือออกไป ยิงใบมีดสายลม ผ่าชายคนนั้นออกเป็นสองซีก
“ปรมาจารย์มนตรา!”
คนที่เหลือเห็นซูเฉินลงมือ สังหารพวกพ้องในพริบตาอย่างไร้ปราณี แถมยังโจมตีโดยใช้เวทมนต์ สีหน้าของแต่ละคนก็เริ่มซีดเผือดด้วยความกลัว
“ฉินหลางอยู่ที่ไหน!” ซูเฉินถลึงตามอง ตวาดถามเสียงดัง
ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน คนเหล่านี้รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัว หนึ่งในนั้นแขนสั่นกึกๆ แต่ก็พยายามยกมันจนได้ ชี้ขึ้นไปที่ชั้นบน
“ข้างล่างเอะอะโวยวายอะไรกัน?”
แต่ในเวลานั้นเอง ชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาลามกอนาจารได้เดินลงมา
เมื่อเขาเห็นความโกลาหลที่ชั้นล่าง และหนึ่งในลูกน้องตนถูกฆ่าตาย สีหน้าของเอาก็เปลี่ยนเป็นอึมครึม
หอการค้าถงฟู่ลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองจิงกังมาหลายปี ทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ดีที่สุด แต่กลับมีคนกล้ามาเคาะประตูถึงที่ ไม่สิ! พังประตูถึงที่ต่างหาก นี่มันไปกินหัวใจหมีดีเสือมาหรืออย่างไร!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นว่าซูเฉินอายุยังน้อย ชายวัยกลางคนก็ไม่คิดปกปิดเจตนาฆ่าในสายตาเขา
“พี่เฉิน นั่นล่ะฉินหลาง” สือต้าหนิวกำหมัดแน่น บอกซูเฉินด้วยความโกรธ
“อ้อ ที่แท้ก็แกนี่เอง”
ฉินหลางจำสือต้าหนิวได้ เขาแค่นเสียงเย็นชา เดินลงจากบันได สายตาจับจ้องไปที่ซูเฉินอีกครั้ง “เด็กน้อย แกมาที่นี่เพื่อช่วยมันหรือ?”
“ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าแก!”
รอยยิ้มเยาะผุดขึ้นตรงมุมปากของซูเฉิน จากนั้นปลดปล่อยพลังจิตเข้าควบคุมฉินหลาง
รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกรัดพันด้วยพลังที่มองไม่เห็นเสียแล้ว ฉินหลางดิ้นรนสุดชีวิต แต่ก็ไร้ประโยชน์
“ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 2!” ฉินหลางอุทานด้วยความตกใจ
ตัวเขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1คนประเภทเดียวที่สามารถพันธนาการเขาโดยไม่ต้องออกแรง มีเพียงปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 2 เท่านั้นถึงจะทำได้
เมื่อตระหนักว่าตัวเองดันไปล่วงเกินศัตรูที่แข็งแกร่งเข้าให้แล้ว แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ อ้อนวอนเสียงสั่นว่า “สหาย ได้โปรดเมตตา ฉันยินดีที่จะชดใช้”
“ที่แกต้องชดใช้ไม่ใช่ฉัน!” ซูเฉินเบ้ปาก สั่งสือต้าหนิวที่อยู่ข้างๆว่า “ต้าหนิว ฆ่าเขาซะ!”
ฉินหลางถูกพันธนาการไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหว ดังนั้นสามารถถูกสังหารได้ทุกเมื่อ แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสือต้าหนิวจะกล้าลงมือรึเปล่า
“อย่าฆ่าฉัน! ได้โปรดอย่า!” สีหน้าของฉินหลางเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ร้องโวยวายเสียงดัง
“น่ารำคาญ!”
ซูเฉินฟาดฝ่ามือไปที่คางของฉินหลาง ตบทีเดียวกระดูกกรามหลุด คางห้อยย้อยลงมา
“พี่เฉิน พี่จะฆ่าเขาจริงๆหรอ?”
สือต้าหนิวรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มือที่กุมมีดสั่นสะท้าน
แม้ต้าหนิวจะเคยฆ่าซอมบี้มาแล้วนักต่อนัก แต่เขาไม่เคยสังหารมนุษย์มาก่อนเลย
“นายไม่ต้องทำก็ได้” ใบหน้าของซูเฉินมืดมน กล่าวเสียงหม่น “แต่จะบอกอะไรให้นะ ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลก ถ้านายไม่สามารถแม้จะจัดการกับศัตรูของตัวเอง นายก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีคุณสมบัติที่จะติดตามฉัน!”
เมตตาต่อศัตรู เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเอง
หากสือต้าหนิวไม่กล้าแม้จะเข่นฆ่าคู่อาฆาตของตน ซูเฉินก็ไม่ยินดีที่จะให้อีกฝ่ายมาอยู่เคียงข้าง
“พี่เฉิน ฉันเข้าใจแล้ว” สือต้าหนิวกัดฟัน จ้วงมีดแทงลงตรงท้องของฉินหลาง
“ดีมาก ทำต่อไป” ซูเฉินพยักหน้า
ฉินหลางเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 พลังชีวิตของเขาแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก ประจวบกับตำแหน่งที่แทงลงไม่ได้อันตรายถึงตาย เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถสังหารได้ในมีดเดียว
สือต้าหนิวชักมีดออก ขณะที่เขากำลังจะแทงมันลงไปอีกครั้ง สือตั้วตั้วพลันโร่เข้ามา
“พี่คะ ให้หนูทำเถอะ!”
4/10
Ep.104
สือตั้วตั้วปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ซูเฉินประหลาดใจเล็กน้อย
และฟังจากที่สือตั้วตั้วพูด ดูเหมือนว่าเธอจะออกมาจากรถเพื่อฆ่าฉินหลาง
แต่ปีนี้เธอเพิ่งอายุแค่ 7 ขวบไม่ใช่หรอ? มั่นใจได้เลยว่าต้องไม่เคยฆ่าใครมาก่อน
ขนาดสือต้าหนิว ถ้าไม่ถูกบังคับยังไม่กล้าเลย แล้วเธอจะทำได้หรือ?
อย่างไรก็ตาม ฉากต่อมาทำให้เขาต้องตกตะลึง
เห็นแค่เพียงสือตั้วตั้วถือมีดขนาดเล็กในมือ วิ่งสุดกำลังเพื่อเพิ่มเรี่ยวแรงในการแทง จ้วงปลายมีดแหลมลงบนคอของฉินหลาง
ความเด็ดเดี่ยวและโหดเหี้ยมของการโจมตีนี้ ราวกับนางมารน้อยผู้โหดร้ายได้จุติจากนรกภูมิ
อย่างไรก็ตาม เธออายุแค่ 7 ขวบเท่านั้น แล้วจะสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ได้อย่างไร?
แม้จะใช้ออกด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี เธอก็ทำได้แค่ทิ้งบาดแผลตื้นๆไว้บนคอของฉินหลางเท่านั้น
“บ้าจริง!”
สือตั้วตั้วมุ่ยปาก คล้ายไม่ค่อยพอใจนัก เด็กสาวยกมีดขึ้นอีกครั้ง จ้วงแทงลงไปอีกที
เฉกเช่นเดียวกับมีดแรก ผลลัพธ์ยังคงล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม จะเรียกว่าดื้อรั้นหรือมีความตั้งใจมากก็ได้ เธอตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าฉินหลาง มีดเดียวไม่เป็นผล งั้นก็จัดไปอีกหนึ่งมีด สองมีดไม่ได้ผล ก็จัดไปมีดที่สาม
กระบวนการนี้วนเวียนหลายรอบ คล้ายไม่มีที่สิ้นสุด
“อื้อฮือ!” ซูเฉินรู้สึกประทับใจเล็กน้อย
สือตั้วตั้นแสดงด้านที่โหดเหี้ยมออกมาให้เห็น อีกทั้งมันยังดีกว่าเฉาหรานซะอีก
นี่ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ ว่าหากมีการสร้างห้องทรมานขึ้นจริงๆ ตกลงแล้วตำแหน่งหัวหน้าจะตกเป็นของใคร?
…
สือตั้วตั้วแทงไปหลายสิบมีดติดต่อกัน เหงื่อหลั่งรินไปทั้งตัว หอบหายใจแฮ่กๆ
“พอแล้วตั้วตั้ว ให้ฉันทำเอง” สือต้าหนิวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก จับจ้องสือตั้วตั้วด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
ณ จุดนี้ เขารู้สึกว่าน้องสาวของตัวเองแปลกไป
อันที่จริงเขาไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าเหตุใดสือตั้วตั้วจึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ในความเป็นจริงแล้ว สือต้าหนิวยังไม่ทราบ ว่าทั้งหมดเป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบตายด้วยน้ำมือของซอมบี้ หากไม่ใช่เพราะเวลานั้นซูเฉินเข้าช่วยเหลือได้ทัน ต่อให้สองพี่น้องไม่ตาย ก็กลายเป็นซอมบี้อยู่ดี
และผู้ร้ายที่ขับไล่พวกเขาไปสู่สถานการณ์อันตรายเช่นนั้น คือฉินหลางนั่นเอง
เลยเป็นธรรมดาที่สือตั้วตั้วจะเกลียดชังเขา
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญกว่า นั่นคือคำพูดของซูเฉิน ที่กล่าวว่าหากฉินหลางไม่ถูกฆ่า พวกเธอสองพี่น้องจะโดนขับไล่อีกครั้ง
ซูเฉินไม่เพียงแต่เป็นพระผู้ช่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงผู้ที่มีความสามารถในการเอาชีวิตรอดท่ามกลางหายนะในวันสิ้นโลกอีกด้วย
ฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องช่วยสือต้าหนิวสังหารฉินหลางให้จงได้
“ฮือ .. ฮือ ..”
ฉินหลางพยายามดิ้นรน ร่ำไห้ในใจ ‘ได้โปรดเถอะ ขอให้ฉันได้ไปสบายซักที!’
ตอนแรกเขายังพอมีหวังริบหรี่ว่าจะรอดชีวิตอยู่หรอก แต่หลังจากถูกสือตั้วตั้วทรมานนับครั้งไม่ถ้วน เขาก็สูญสิ้นความคิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แค่อยากตายไปให้พ้นๆ เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
สือต้าหนิวช่วยเติมเต็มความปรารถนาของเขา กระซวกมีดแทงลงบนหน้าอกฉินหลาง จบชีวิตบาปหนาของอีกฝ่าย
“พี่เฉิน พี่ชายหนูฆ่าฉินหลางแล้ว เท่านี้พวกเราก็อยู่กับคุณต่อได้ใช่ไหม” สือต้าหนิวเงยหน้าขึ้น มองซูเฉิน
ซูเฉินพยักหน้า ยิ้มตอบ “แน่นอนอยู่แล้ว”
การกระทำของสือตั้วตั้วนับว่าเกินความคาดหมายไปมาก ในอนาคตหากจับมาฝึกฝนสักเล็กสักน้อย เธอจะสามารถกลายเป็นดั่งแขนขาของเขาได้อย่างแน่นอน
“ดีจังเลย ขอบคุณพี่เฉิน!”
สือตั้วตั้วกระโดดโลดเต้นด้วยความสุข กลับมาดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอีกครั้ง ภาพนางมารน้อยเมื่อครู่สลายไปสิ้น
ซูเฉินลูบหัวสือตั้วตั้ว หันกลับไปตะโกนให้คนข้างนอก “หัวหน้าหวู่ ทุกคนลงมาให้หมด”
เฉาหรานเป็นคนแรกที่วิ่งลงมา ใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้ม “พี่เฉิน มีอะไรให้รับใช้?”
“ยกเค้าร้านค้านี้ อยากได้อะไรก็หยิบตามใจชอบเลย” ซูเฉินขยิบตาให้ จากนั้นเอ่ยเสริมว่า “แต่หินพลังงานมีประโยชน์สำหรับฉัน ช่วยรวบรวมมันมาให้ด้วย”
“น้อมรับคำสั่ง” ดวงตาของเฉาหรานแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
หอการค้าถงฟู่มีอาวุธและอุปกรณ์ฝึกฝนชั้นยอดมากมาย การที่เขาสามารถหยิบฉวยได้ตามต้องการ เป็นสิ่งที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน