บทที่ 20 ความตื่นเต้นของพ่อหนุ่มลู่อัน
บทที่ 20 ความตื่นเต้นของพ่อหนุ่มลู่อัน
ฮะ… ฮะ… ฮะ… ฮะ…
ลู่อันไม่รู้ว่าเขาต่อสู้กับซอมบี้มานานแค่ไหนแล้ว และเขาก็ไม่สนใจแล้วว่ามันจะนานแค่ไหน สิ่งที่อยู่ในใจของเขาตอนนี้มีเพียงการพักผ่อนเท่านั้น
เขายืนนิ่งโดยที่ไหล่ของเขาตกลงไปข้างหน้า พลังงานระบายออกจากร่างกายของเขาจนหมดตัว อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ดีว่าการต่อสู้ยังไม่จบ เขาค่อยๆหันหัวไปทางที่เสียงที่เขาได้ยิน
ลู่อันเห็นว่าบอสของเขายังคงต่อสู้กับซอมบี้กลุ่มสุดท้ายอยู่ และเขาก็เห็นบอสกำลังเหวี่ยงขวานศึกขนาดใหญ่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ฮะ… ฮะ… ฮะ… ฮะ…
“ฉัน… อ่า… ฮะ… ยังคง… ฮะ… ตามหลัง… อยู่ไกล… ฮะ…” ลู่อันพยายามพูดออกมา “ฉัน… กำลัง… ฮะ… จะไป… ช่วย…”
เขาพยายามขยับเท้าเท่าที่จะทำได้ แต่เท้าของเขาก็ไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย ลู่อันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาถึงขีด จำกัดแล้ว และไม่ว่าเขาจะพยายามอีกสักแค่ไหน ร่างกายของเขาก็ปฏิเสธคำสั่งของสมองให้เคลื่อนไหว
ในขณะที่ลู่อันกำลังพยายามขยับร่างกาย เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่อยู่ไม่ไกลจากเขา เขาหันศีรษะไปทางนั้น จากนั้นเขาก็พบซอมบี้ตัวผู้ ซึ่งอยู่ห่างจากเขาไปประมาณสิบเมตร ซอมบี้ตัวผู้ถูกตัดท่อนล่างแล้ว และมันก็กำลังคลานเข้ามาหาเขา
มันทำให้เกิดเสียงบางอย่างในขณะที่มันคลาน ทันใดนั้น ดวงตาของลู่อันก็หดเกร็งด้วยความสยดสยอง ดวงตาที่เหนื่อยล้าและอ่อนเพลียของเขาขยายใหญ่ขึ้นด้วยความสยดสยองในขณะที่เขาพยายามขยับจะร่างกาย
ซอมบี้ค่อยๆคลานเข้าหาลู่อัน มันตะเกียดตะกายร่างที่ซ้อนทับกันของสหายของมัน มันทำให้ระยะห่างระหว่างมันกับลู่อันสั้นลงเรื่อยๆ และหลังจากตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง ลู่อันก็ตระหนักได้ถึงความจริงที่ว่าการที่เขายังยืนอยู่ได้นั้นก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว
เขาเห็นด้วยตาของเขาเองว่าซอมบี้กำลังค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาเขา และเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากมองดูซอมบี้ค่อยๆเข้ามาใกล้ ในเวลานี้ มันมีแต่ความเสียใจและความสิ้นหวังเท่านั้นที่เติมเต็มหัวใจของเขา
' ถ้าฉันแข็งแกร่งขึ้นอีกนิด! แค่นิดหน่อย…' ลู่อันหลับตาลงด้วยความเสียใจที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำพูดของบอส เขาไม่ได้ฆ่าซอมบี้อย่างบ้าคลั่งเหมือนที่ถังเส้าหยางทำ '... บางทีฉันอาจจะต้องตายที่นี่…'
เมื่อเขาหลับตาลง ซอมบี้ตัวผู้นั้นก็อยู่ห่างจากเขาไปเพียงสองเมตร มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ซอมบี้จะกินเขา
ในขณะที่เขาคิดว่าซอมบี้ตัวผู้กำลังจะมาถึงเขา มันมีเสียงที่ดังก้องอยู่ข้างเขา พื้นดินสั่นสะเทือน จากนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในหูของเขา
“ทำอะไรน่ะไอ้หนู นายยอมแพ้แล้วหรอ?”
ลู่อันค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เขาทำคือตรวจดูซอมบี้ที่คลานเข้ามาหาเขา มันอยู่ไม่ไกลจากเท้าของเขา เขาเห็นมือของซอมบี้ที่พยายามจะเอื้อมมาที่เท้าของเขา แต่ซอมบี้ตัวผู้ก็ไม่สามารถเข้าถึงเขาได้เพราะมีปลายขวานศึกขนาดใหญ่ที่ตรึงร่างของมันเอาไว้กับพื้นอยู่
ตอนนี้เขาสามารถรอดมาได้อย่างหวุดหวิด บอสช่วยเขาอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นและแน่นอนว่าบอสของเขาก็กำลังเดินมาหาเขาด้วยร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยเลือด เลือดที่มาจากซอมบี้ที่เขาฆ่า
จากนั้นลู่อันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในขณะที่เขาส่ายหัวเป็นคำตอบ
“โฮะโฮะ เหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้รึไง” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะความอ่อนล้า
ลู่อันส่ายหัวเป็นคำตอบ
“อ๋อ ไม่ใช่แค่ขยับไม่ได้ แต่ยังพูดไม่ได้ด้วยหรอ?” ถังเส้าหยางถามด้วยความสงสัยในขณะที่ลู่อันทำเพียงแค่พยักหน้ากับส่ายหน้า
“มะ-ไม่… ฉันพูดได้ แต่ฉันไม่อยาก… มันจะทำให้กระหายน้ำมากขึ้น… ฉันขอโทษ บอส…” ลู่อันตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
“โฮ่ อย่างนั้นเองหรอ งั้นเราก็มาพักกันก่อนแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า!” ถังเส้าหยางเดินไปที่ด้านข้างของลู่อัน
เขาดึงขวานศึกขึ้นมาแล้วทุบไปที่หัวของซอมบี้ด้วยด้ามขวานในทันที หลังจากนั้น เขาก็วางขวานรบไว้บนไหล่ขวาในขณะที่แบกลู่อันไว้บนไหล่ซ้าย พวกเขากำลังมุ่งหน้ากลับไปยังที่สถานประกอบการฉางโจว
เดินท่ามกลางกองซากศพของซอมบี้ มันก็ให้บรรยากาศดูน่าขนลุก ยิ่งไปกว่านั้น พระอาทิตย์ก็เกือบจะตกดินแล้ว และพวกเขาก็ต่อสู้กับพวกซอมบี้มาโดยตลอดตั้งแต่เที่ยงวัน
มันใช้เวลาเดินสิบห้านาทีเพื่อไปยังสถานประกอบการฉางโจว ถังเส้าหยางนำลู่อันไปที่อาคารด้านขวา ฉางโจวพลาซ่า แม้ว่าเมืองจะเต็มไปด้วยซอมบี้ แต่มันก็ยังโชคดีที่ไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่
ถังเส้าหยางพาลู่อันไปที่ชั้นสาม มันเป็นชั้นที่เน้นขายเฟอร์นิเจอร์ เขาโยนลู่อันลงบนเตียงและพูดว่า “รอที่นี่ ฉันจะไปเอาอาหารมากิน!”
“บะ บอส… ยะ อย่าทิ้งฉัน… มันเกิดอะไรขึ้นถ้ามีซอมบี้อยู่ที่นี่?” อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาก็ล้มเหลวในการไปถึงบอสของเขาในขณะที่ถังเส้าหยางเดินกลับไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นร้านขายของชำ
ลู่อันตื่นตระหนกมากขณะที่เขาเหลือบมองไปทางซ้ายและขวา เขากังวลว่าจู่ๆซอมบี้ก็อาจจะโผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และกัดเขา เขายังไม่อยากตาย
ถังเส้าหยางตรวจสอบเรียบร้อยแลวว่าพื้นที่ชั้นสามนี้ปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตอบกลับลู่อันไป อย่างไรก็ตาม ลู่อันที่ไม่รู้ถึงเรื่องที่ก็ทำได้แค่นอนรอถังเส้าหยางกลับมาอย่างใจสั่น
ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
จากนั้นเงาๆหนึ่งก็กระโดดออกมาจากบันไดเลื่อนซึ่งทำให้เขาตกใจ และทำให้เขาลุดขึ้นยืนขึ้นมาในทันที แต่เมื่อเขาเห็นว่านั่นเป็นบอสของเขา ลู่อันก็รู้สึกโล่งใจ
ถังเส้าหยางลืมไปว่าการกระทำเมื่อกี้นี้อาจจะสร้างความตกใจให้กับลูกน้องของเขา อย่างไรก็ตาม เขาก็ดีใจที่ได้เห็นลู่อันสามารถยืนขึ้นได้
“โอ้ นายยืนขึ้นได้แล้วหรอ ดี… ดี…” ถังเส้าหยางแสดงความคิดเห็นด้วยรอยยิ้มกว้างในขณะที่เขานำราเมนกล่องใหญ่ ไข่ กะหล่ำปลี และเบคอนออกมา เขาเททุกอย่างไว้ข้างๆลู่อัน รวมทั้งเครื่องดื่ม เมื่อเห็นดังนั้นลู่อันก็รับพวกมันไปในทันที
“ฟู่ว! ความกระหายกำลังจะฆ่าฉัน! ขอบคุณบอส!”
“รอที่นี่ ฉันจะไปหาเตาแบบพกพามา…” หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็หันกลับไปและพึมพำ “เครื่องนั้นควรจะอยู่ชั้นที่ห้า… หรือชั้นหกนะ?”
“อ่า ดูเหมือนบอสจะคุ้นเคยกับที่นี่นะ…” ลู่อันได้ยินที่บอสของเขาพึมพำ “อืม แต่เขาบอกว่าที่นี่จะเป็นฐานของเรา…” ลู่อันมองไปรอบๆ และแสดงความคิดเห็นว่า “อืม ไม่เลว…”
ในไม่ช้าถังเส้าหยางก็กลับมาพร้อมกับเตาแบบพกพาในขณะที่เขานำมีดมาตัดกะหล่ำปลี จากนั้นเขาก็จัดโต๊ะและเริ่มปรุงราเม็งในทันที
แน่นอนว่าลู่อันรู้สึกไม่สบายใจที่จะให้บอสของเขาทำอาหาร เขาอยากที่จะเสนอตัวเองในการทำอาหาร แต่มันก็ดูเหมือนว่าบอสของเขาจะอ่านใจเขาได้ “ไม่เป็นไร ครั้งนี้นายจะได้ชิมอาหารฝีมือฉัน!”
เริ่มต้นที่เขาลวกเส้นราเม็งก่อนจากนั้นก็เทผงปรุรสกับกะหล่ำที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็ใส่เบคอนลงไปปิดท้ายจากนั้นก็ปิดฉากการทำอาหารด้วยการใส่ไข่ลงไป
ไข่สีเหลืองทองที่อยู่ตรงกลางนั้นยังไม่สุกเต็มที่
ลู่อันรู้สึกประหลาดใจเพราะการทำชุบนั้นดูดีอย่างน่าประหลาดใจ หรืออย่างน้อย ราเม็งนี้ก็ดูดีกว่าราเม็งที่เขาทำเมื่อตอนเช้านี้ สิ่งแรกที่ลู่อันทำคือจิ้มไข่สีเหลืองทอง
ไข่สีเหลืองทองมีไข่แดงไหลออกมาจากจุดที่เขาแหย่ เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาก็อยากจะจุ่มเบคอนลงในไข่แล้วเขาก็ทำมัน เมื่อเขาเอาเบคอนเข้าปาก รสชาติอร่อยก็ไหลทะลักเข้าท่วมในปากเขา
“มันเป็นสูตรง่ายๆที่อร่อยมาก…” ลู่อันไม่ตระหนี่กับคำชมของเขา
“นายก็พูดไป มันก็แค่สูตรมั่วๆ!” ถังเส้าหยางกลอกตาในขณะที่เขาเอาราเม็งเข้าปากไป
ลู่อันนอนหลับในทันทีหลังจากที่เขาดื่มน้ำซุปในชามที่สามเสร็จ ถังเส้าหยางส่ายหัวเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาวางแผนให้พวกเขานอนในโรงแรมระดับห้าดาว แต่เมื่อมองไปที่ลู่อันที่เหนื่อยล้า ถังเส้าหยางก็รู้สึกขี้เกียจที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน
เขาเลือกเตียงแบบสุ่มๆแล้วเขาก็ผล็อยหลับไปเช่นกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังเส้าหยางตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่กระฉับกระเฉง การพักผ่อนหนึ่งคืนล้างความอ่อนล้าของเมื่อวาน ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น เขาก็ได้กลิ่นราเม็งที่เขากินไปเมื่อคืนนี้
“เฮ้ บอส ตื่นแล้วหรอ” ลู่อันทักทายในขณะที่เขากำลังเคี้ยวบะหมี่ ทันทีที่เขาตื่น ลู่อันก็ทำอาหารเช้าและชามปัจจุบันเป็นชามที่สองของเขา “คุณต้องการราเม็งไหม?”
ถังเส้าหยางส่ายหัว “การกินราเม็งทันทีมันไม่ดีต่อสุขภาพ… อืม แต่ฉันก็สงสัยว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของเราจริงๆหรือเปล่า…”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเขาเลเวลอัพ แต่เขาก็อยากรู้เช่นกันว่าเขาจะยังป่วยได้หรือไม่เมื่อเขาไปถึงเลเวลที่สูงขึ้น
ถังเส้าหยางส่ายหัวกับความคิดเหล่านั้นในขณะที่เขาเดินไปที่ชั้นสอง เมื่อเขากลับมา เขาก็นำขนมห่อหนึ่งและกล่องนมมาด้วย
เขานั่งถัดจากลู่อันแล้วถามว่า “แล้วการเก็บเกี่ยวของเมื่อวานเป็นไงบ้าง นายได้พรสวรรค์หรือยัง?”
เมื่อถังเส้าหยางพูดถึงเรื่องพรสวรรค์ ลู่อันก็ทำหน้าเศร้า “ ฉันยังไม่มีพรสวรรค์ของฉันเลยและตอนนี้ฉันก็เลเวล 13 แล้ว!”
“มันแปลกแหะ ฉันมีพรสวรรค์ตั้งแต่เลเวล 5 หรือ 6 ประมาณนั้น…” ถังเส้าหยางลูบคางขณะคิดหาวิธีหาพรสวรรค์ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“แน่ใจนะว่านายไม่ได้พลาดการแจ้งเตือนอะไรไป” เขาถามขึ้นอีกครั้งเมื่อคิดว่าลู่อันอาจจะพลาดการแจ้งเตือนไปในขณะที่ต่อสู้กับฝูงซอมบี้เมื่อวานนี้
ลู่อันส่ายหัวในขณะที่เขาแน่ใจว่ามันไม่มีการแจ้งเตือนว่าเขาได้รับคะแนนพรสวรรค์
เนื่องจากถังเส้าหยางเองก็ไม่รู้วิธีอื่นแล้ว ดังนั้นเขาจึงเปิดหน้าจอค่าสถานะของเขาขึ้นมา เขาจะได้ว่าเขาก็ยังไม่ได้จัดสรรค่าคุณสมบัติของเขาเลย
-----------------------------------------
ขื่อ: ถังเส้าหยาง
อายุ: 26
สังกัด: ไม่มี
เลเวล: 25
พรสวรรค็: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 8
ความแข็งแกร่ง: 86
ความว่องไว: 34
พลังชีวิต: 46
สตามิน่า: 39
พลังเวทย์: 26
ประสาทสัมผัส: 7
สกิล: การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน
--------------------------------------
ถังเส้าหยางจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติสี่คะแนนไปที่ค่าความแข็งแกร่ง และจัดสรรที่เหลือให้กับค่าพลังชีวิต
เมื่อสังเกตเห็นว่าลู่อันที่มีท่าทีเศร้าสร้อย เขาจึงแตะไหล่ของเด็กชาย “อย่าท้อแท้ ฉันเชื่อว่านายจะได้รับพรสวรรค์ในภายหลัง สำหรับตอนนี้ เราก็ไปดูฐานทัพใหม่ของเรากัน มันคือโรงแรมห้าดาวนะ รู้ไหม!”
ถังเส้าหยางค่อนข้างตื่นเต้นกับฐานทัพใหม่ของเขา ก่อนที่เกมนี้จะเริ่มต้นขึ้น เขาก็ไม่สามารถมีโอกาสเข้ามาที่นี่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันก็เปลียนไปแล้ว
ลู่อันเองก็ตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาตามบอสของเขาไปในทันที พวกเขาเดินลงไปและมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่ตรงกลาง
เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้า ประตูกระจกก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ ล็อบบี้หรูหราขนาดใหญ่รออยู่ข้างหน้าพวกเขา น่าแปลกใจที่โรงแรมไม่ได้มีความเสียหายอะไร จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปในโรงแรมด้วยรอยยิ้มที่กว้างในทันที
[ คุณได้เข้าสู่อาณาเขตของผู้อยู่อาศัยแล้ว! ]
[ คุณเปิดมินิเกมแล้ว! ]
[ มินิเกม: ฆ่าหรือถูกฆ่า ]
[ ภารกิจ: โปรดฆ่าผู้ดูแลอาณาเขตเพื่อจบมินิเกม หมายเหตุ: ในระหว่างเกม คุณจะไม่สามารถออกจากอาคารได้! ขอให้โชคดี ผู้เล่นถังเส้าหยาง! ]
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็หายไปในทันทีเมื่อเขาได้รับการแจ้งเตือนที่ดังอยู่ในหูของเขา