บทที่ 18 การแบ่งปัน
บทที่ 18 การแบ่งปัน
ถังเส้าหยางมองเข้าไปในคฤหาสน์ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือโถงทางเดินที่มืดมิด เขาสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง เขาก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ขณะที่ลู่อันเดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิดจากด้านหลัง
หลังจากสามก้าวสั้นๆ ถังเส้าหยางก็หยุดเดิน เขากำลังรอเสียงหุ่นยนต์
ลู่อันไม่รู้ว่าบอสของเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่รู้ว่าถังเส้าหยางเคยมีประสบการณ์อะไรมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกงุนงงกับการกระทำอย่างระมัดระวังของถังเส้าหยาง พวกเขาเพิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ และเมื่อมองไปทางโถงทางเดินที่มืดมิด คฤหาสน์ก็ดูเหมือนจะว่างเปล่าเช่นกัน
ลู่อันคิดไม่ออกว่าทำไมบอสถังจึงระมัดระวังตัว แต่เขาก็ไม่ได้ถามเช่นกัน ถ้าถังเส้าหยางต้องการจะบอกเขาจริงๆ เขาก็จะไม่จำเป็นต้องถาม เขาเพียงแค่รออย่างเชื่อฟังอยู่ข้างหลังขณะมองตรวจสอบข้างหน้าพวกเขา
เมื่อไม่ได้ยินเสียง ถังเส้าหยางก็โล่งใจ ไม่ใช่ว่าเขากลัวมินิเกม แต่เขาไม่อยากจะต่อสู้ในตอนนี้ ตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่การพักผ่อนเท่านั้น
ไม่มีมินิเกม ถังเส้าหยางก้าวไปได้อย่างง่ายดาย เขาเดินไปตามทางเดินมืดที่พาเขาไปยังห้องโถงใหญ่ แม้จะมีแสงไฟสลัว แต่ถังเส้าหยางก็สามารถเห็นทุกอย่างได้ มันเป็นห้องโถงใหญ่ที่ว่างเปล่า และข้างหน้าเขาประมาณสิบเมตรก็เป็นบันไดที่นำไปสู่ชั้นสอง
ดูเหมือนคฤหาสน์จะว่างเปล่า มันไม่มีใครอยู่ที่นี่แม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ในขณะที่ถังเส้าหยางต้องการจะก้าวขึ้นไปชั้นสอง โคมระย้าที่แขวนอยู่ตรงกลางห้องโถงก็สว่างขึ้น
ถังเส้าหยางหันกลับมามองในทันที จากนั้นเขาก็เห็นผู้กระทำความผิด ลู่อันเป็นผู้กระทำความผิด เมื่อถูกบอสจ้อง ลู่อันก็ยิ้มอย่างขอโทษในขณะที่เขาตระหนักได้ว่าการกระทำของเขาทำให้บอสถังตกใจ
“วันนี้เราจะนอนที่นี่และเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้!” หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว ถังเส้าหยางก็แยกตัวออกไป เขาอยากจะอาบน้ำให้เร็วที่สุด เลือดที่ผสมปนกับเหงื่อติดอยู่ทั่วร่างกายของเขาและทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
ในขณะที่เขามองหาห้องน้ำเพื่อล้างตัว ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา ก่อนหน้านี้เขาอิจฉาคนรวยที่ซื้อคฤหาสน์หรูแบบนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็สามารถเดินชมได้อย่างอิสระในคฤหาสน์สุดหรูแห่งนี้
ถ้าเขาอ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ คฤหาสน์แห่งนี้ก็จะเป็นของเขา มันค่อนข้างตลก แต่มันก็เป็นความจริงในปัจจุบัน สังคมได้ล่มสลายแล้ว มันไม่มีใครสนใจคำกล่าวอ้างของเขาในขณะที่ผู้คนพยายามเอาชีวิตรอดจากซอมบี้
โดยปกติแล้ว คฤหาสน์หลังใหญ่แบบนี้ก็จะมีห้องอาบน้ำอยู่ในห้องนอนทุกห้อง ถังเส้าหยางเข้าไปในห้องๆหนึ่งแบบสุ่มๆซึ่งบังเอิญเป็นห้องรับแขกและแน่นอนว่ามันก็มีห้องอาบน้ำอยู่ข้างใน
ถังเส้าหยางใช้เวลาในการทำความสะอาดร่างกายของเขา เขาทำความสะอาดร่างกายของเขาสามครั้งก่อนที่เขาจะพอใจ หลังจากนั้นเขาก็เข้านอนในทันที โชคดีที่แม้จะไม่มีใครอยู่ที่นี่ แต่คฤหาสน์ก็ยังสะอาด
เตียงยังถูกหุ้มด้วยพลาสติก ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดเตียง เขาดึงพลาสติกออกแล้วโยนร่างของเขาลงบนเตียง
“อ้า ... เตียงราคาแพงนี่มันแตกต่างกันจริงๆ ...” ถังเส้าหยางพึมพำก่อนที่เขาจะผล็อยหลับไป
วันรุ่งขึ้นเขาตื่นขึ้น เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก เขาอาบน้ำเย็นก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องโถง เขาไม่เห็นลู่อันที่นี่ แต่เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากอีกด้านหนึ่ง
ในขณะที่เขาต้องการจะตรวจสอบ ลู่อันก็โผล่ออกมาพร้อมกับชามสองใบในมือของเขา ไอร้อนอบอ้าวลอยออกมาจากชาม เมื่อลู่อันสังเกตเห็นถังเส้าหยาง ริมฝีปากของเขาก็ยิ้มกว้าง “บอสตื่นแล้วเหรอ คุณต้องการราเม็งไหม?”
ถังเส้าหยางไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอในขณะที่เขาหยิบชามออกมาจากมือของลู่อัน เขานั่งลงบนโซฟาแล้วถามว่า “นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันจะตื่นในเวลานี้”
ลู่อันเกาศีรษะด้วยความเขินอายและตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่รู้สิ เมื่อคืนผมอาบน้ำเสร็จแล้วผมก็ผล็อยหลับไปในทันที และเมื่อตื่นขึ้นมาผมก็หิวมาก…”
ลู่อันหยุดพูดไปกลางคัน และแม้ว่าเขาจะพูดไม่จบ แต่ถังเส้าหยางก็เข้าใจได้ดีว่าชามที่สองนี้มันไม่ใช่ของเขา และเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ตะเกียบที่กำลังจะเข้าปากเขาก็หยุดลง
“ฉันควรทำราเม็งเองไหม” ถังเส้าหยางรู้สึกอึดอัดราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าทรราชที่กินอาหารของผู้ใต้บังคับบัญชา
“ไม่ ไม่ ไม่… คุณกินได้เลยบอส ฉันทำอาหารมากกว่านี้ได้ถ้าชามนี้ยังไม่พอ!” ลู่อันส่ายหัวและโบกตะเกียบในทันที เขาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมาก
ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งคู่จึงเพลิดเพลินไปกับราเม็งที่เป็นอาหารเช้า หลังจากทานชามแรกเสร็จ ลู่อันก็ตั้งใจจะกลับไปที่ห้องครัวเพื่อไปทานชามที่สองของเขา
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปในครัว เขาก็ถามอย่างอายๆ “บอส คุณจะเอาราเม็งเพิ่มไหม?”
ถังเส้าหยางไม่ได้พิธีรีตองในขณะที่เขาพยักหน้า “อืม!” หลังจากทานชามแรกเสร็จ ชามที่สองและสามก็จะง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งคู่จึงมีราเม็งกึ่งสำเร็จรูปสองชามเป็นอาหารเช้า
หลังจากดื่มน้ำหนึ่งขวด ลู่อันก็เปิดปากขึ้น “เจ้าของคฤหาสน์นี้แปลกมาก มันไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่ แต่มันก็กลับมีราเม็งสำเร็จรูปอยู่มากมาย...”
ถังเส้าหยางทำเพียงยักไหล่ “บางทีมันอาจจะเป็นของผู้ดูแลคฤหาสน์?”
ลู่อันพยักหน้าอย่างเข้าใจในขณะที่เขาพบว่าคฤหาสน์นั้นค่อนข้างสะอาดแม้จะไม่มีใครอยู่ที่นี่ หลังจากนั้นลู่อันก็เปิดหน้าจอค่าสถานะของเขา เมื่อมองไปที่หน้าจอนี้ เขาก็มั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้นคือเรื่องจริง
เมื่อเห็นเลเวลของเขา ลู่อันก็หันไปทางบอสของเขาที่ดื่มน้ำส้มหนึ่งแก้วอยู่ ฉากที่บอสของเขาต่อสู้กับลิงตัวใหญ่เพียงลำพังเมื่อวานยังคงติดตราตรึงใจเขา
' เขามีเลเวลเท่าไหร่กันแน่นะ? ฉันควรจะถามเขาดีไหม... ?' อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกลังเลเพราะเลเวลนั้นควรจะเป็นความลับ แล้วนับประสาอะไรกับในช่วงเวลาแบบนี้ การบอกเลเวลให้คนอื่นฟังก็เหมือนกับการบอกว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน อย่างไรก็ตาม กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกอยากรู้อยากเห็นจริงๆ
ช่องว่างระหว่างเขากับบอสนั้นไกลมากถึงมากโครตๆ ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าบอสของเขาอาจจะมีเลเวลเกิน 30 ไปแล้วหรือไม่ หลังจากพิจารณาอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะถามออกไป
“บอส คุณจะว่าอะไรไหม…” ลู่อันหยุดกลางคันในขณะที่เขายังคงลังเลที่จะถาม
“มันคืออะไร ถามมาเลย!”
ลู่อันสูดหายใจเข้าลึกๆครั้งสุดท้ายก่อนจะถาม “บอส ฉันของทราบเลเวลของคุณจะได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่อันก็สังเกตเห็นว่าถังเส้าหยางกำลังจ้องมองไปในอวกาศ เขาคิดว่าบอสไม่ต้องการที่จะบอกเขาและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “บอส ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะบอฉัน งั้นมันก็ไม่เป็นไร... ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ”
“อืม ฉันเลเวล 21!” ถังเส้าหยางไม่ได้คิดที่จะบอกเลเวลของเขาให้กับลูกน้องฟัง แต่เขาก็ต้องการให้ลู่อันได้รู้เลเวลของเขา อย่างน้อยๆในตอนนี้เขาก็คิดว่าลู่อันคงจะไม่สามารถทรยศเขาได้
และเมื่อกี้ที่เขามองไปในอากาศก็ป็นเพราะเขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าหลังจากการต่อู้เมื่อวานจบลง เขาก็ยังไม่ได้ตรวจสอบเลเวลของเขาเลย ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบมันชั่วครู่
-----------------------------------------
ชื่อ: ถังเส้าหยาง
อายุ: 26
สังกัด: ไม่มี
เลเวล: 21
พรสวรรค์: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 4
ความแข็งแกร่ง: 76
ความว่องไว: 29
พลังชีวิต: 40
สตามิน่า: 35
พลังเวทย์: 22
ประสาทสัมผัส: 7
สกิล: การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน
--------------------------------------
ถ้าลู่อันรู้ว่าเขาแข็งแกร่ง ลูกน้องของเขาก็จะไม่กล้าทรยศเขา มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการข่มขู่ลู่อัน และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่รังเกียจที่จะบอกเลเวลของเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วเลเวลของเขาก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
วันนี้เขาอยู่ที่เลเวล 21 และบางทีหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาก็อาจจะไปถึงเลเวล 30 ก็ได้ และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่คิดที่จะปกปิดเลเวลของเขา
อย่างไรก็ตาม มันก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาคำนวณผิด การบอกเลเวลของเขากับลู่อันนั้นไม่ได้ข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเลยแม้แต่น้อย กลับกัน ลู่อันกลับมองเขาด้วยความชื่นชมแทน
' ว้าว บอสฆ่าซอมบี้ไปแล้วกี่ตัวกันเขาถึงได้มีเลเวล 21... ฉันจะต้องทำงานหนักเช่นกัน เพื่อที่บอสจะได้ไม่ทิ้งฉันไว้ข้างหลัง!'
ถังเส้าหยางไม่รู้ว่าคำพูดของเขานั้นส่งผลอะไรต่อลู่อัน ต่ากกเท่าที่เขาสังเกต เขาก็คิดว่ามันเป็นไปในทางี่ดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
เมื่อพูดถึงเลเวล ถังเส้าหยางก็นึกขึ้นได้เกี่ยวกับพรสวรรค์ เขาสงสัยว่าลูกน้องของเขามีพรสวรรค์เหมือนกับเขาหรือเปล่า
“แล้วพรสวรรค์ล่ะ? นายได้รับพรสวรรค์มาไหม?” เขาถามในขณะที่เขาจำได้ว่าเขาได้รับคะแนนพรสวรรค์มาสามแต้มจากการฆ่าซอมบี้หนึ่งพันตัว
" พรสวรรค์?" ลู่อันชะงักไปเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แถบพรสวรรค์ของเขาไม่มีอะไรเลยและเขาก็รู้สึกละอายใจที่ไม่มีพรสวรรค์ เขาเกาศีรษะและก้มศีรษะลงพร้อมกับบอกบอสว่าเขาไม่มีพรสวรรค์
' ฉันไม่มีพรสวรรค์หรือความสามารถ... ฉันมันไร้ประโยชน์? ฉันหวังว่าบอสจะไม่ทิ้งฉันไว้ข้างหลัง…' ลู่อันรู้สึกกลัวเล็กน้อยว่าถังเส้าหยางจะทิ้งเขาไว้ข้างหลังหลังจากที่รู้ว่าเขาไม่มีพรสวรรค์
“อืม… นายควรจะไปฆ่าซอมบี้ให้มากกว่านี้เพื่อรับคะแนนพรสวรรค์ จากนั้นนายก็จะสามารถแลกเปลี่ยนแคะแนนพรสวรรค์เป็นพรสวรรค์ได้ ฉันได้พรสวรรค์ของฉันมาหลังจากที่ฉันฆ่าซอมบี้ไปหนึ่งพันตัว!” ถังเส้าหยางแบ่งปันสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับพรสวรรค์
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่อันก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาพยายามทำความเจ้าใจสิ่งที่บอสพูดกับเขา หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หลุดออกมาจากภวังค์ของเขาและถามว่า “คุณสามารถได้รับพรสวรรค์มาได้อย่างงั้นหรอ!?”
“อืม แต่นายจะได้รับคะแนนพรสวรรค์มาก็ต่อเมื่อนายฆ่าซอมบี้ไปแล้วหนึ่งพันตัว” ถังเส้าหยางพยักหน้าและลุกขึ้นจากโซฟา เขาแตะไหล่ของลู่อันแล้วพูดว่า “ทำงานให้หนัก พรสวรรค์จะเพิ่มค่าคุณสมบัติให้กับนายเป็นอย่างมาก!”
หลังจากพูดอย่างนั้น ถังเส้าหยางก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อเก็บอาวุธและกล่าวทิ้งท้ายว่า “เตรียมตัวให้พร้อม เราจะออกเดินทางไปยังฐานทัพในอนาคตในอีกสิบห้านาที!”
“ครับบอส!!!” ลู่อันตอบเสียงดังฟังชัดในขณะที่เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าเขาเองก็สามารถได้รับพรสวรรค์มาได้เช่นกัน