ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 154 พี่เซียวคิดบัญชี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 156 หนีไปเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 155 คดีชัดเจนที่แก้ไขไม่ได้


ตอนที่ 155 คดีชัดเจนที่แก้ไขไม่ได้

คลับเมืองบันเทิงบาร์บี้ ในห้องส่วนตัวชั้น 3

ด้วยฤทธิ์แรงกล้าของแอลกอฮอล์ หวูเย่าทุบตีและบังคับเธอ ผลักเด็กสาวลงบนโซฟา เขาไม่สนใจเสียงร้องเสียงตะโกนของฝ่ายหญิงแม้แต่นิดเดียว สะท้อนให้เห็นด้านเลวร้ายที่สุดในธรรมชาติของมนุษย์ออกมาอย่างสุดขั้ว

เขามีผู้หญิงข้างกายไม่เพียงพอจริงหรือ? เขาสามารถยืนพิงด้านนอกประตูและฟาดเงินสองพันดอลลาร์พร้อมตะโกนเรียกหญิงคนไหนก็ได้ตามที่เขาต้องการ แต่ทำไมเขาต้องมาเลือกทำรุนแรงกับผู้หญิงที่มีครอบครัวด้วย?

แท้จริงแล้วเมื่อเขาข่มเหงผู้ใด เข้าได้รับความตื่นเต้นจากการข่มเหงนั้น ชีวิตของเขาแตกต่างจากฉิงจื่อหาว ฉิงจื่อหาวใช้ชีวิตอย่างเก็บกดเกินไปที่บ้าน ทำให้เขากลายเป็นคนมีบุคลิกภาพสองด้าน เขาปลดปล่อยความเสแสร้งทั้งหมดที่ต้องแสดงต่อพ่อและพี่ชายออกไปข้างนอก ควบคู่ไปกับการทำลายล้างของยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เขากลายเป็นเหมือนผู้ป่วยทางจิต

แต่หวูเย่าแตกต่างออกไป บุคลิกภาพของเขาได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัวล้วนๆ เพราะชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมและได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ชีวิตของเขาจึงไร้ความกดดันใดๆ ผ่อนคลายตลอดเวลาอยู่เป็นปกติ จนถึงจุดที่เมื่อกินดื่มสนุกสนานกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เขาจะยังมีความตื่นเต้นอะไรในชีวิตอีก?

ไม่มีอีกแล้ว

เพราะเหตุนั้นเขาจึงต้องการสิ่งที่น่าตื่นเต้นเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับชีวิตของเขา เหมือนอย่างเช่นเกมวิปริตที่เขาคิดขึ้นในห้องเลี้ยงส่วนตัวซึ่งทำให้หยวนเค่อสะอิดสะเอียน หรือการที่เขารังแกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ความพยายามที่จะครอบครองเธอด้วยกำลัง และความสุขอันเลวร้ายที่เขาได้รับจากการรู้ว่าสามีของเธอทำงานที่นี่ด้วย…

การทำผิดขณะเมาเป็นเพียงข้อแก้ตัวเสมอ เพราะถ้าทำผิดได้ ก็ต้องมีสติ

หวูเย่าเพิกเฉยต่อคำวิงวอนของหญิงสาวโดยสิ้นเชิง เขากดแขนของเธอด้วยขาของเขา และก้มศีรษะลงเพื่อปลดเข็มขัดของเขา

“ปัง!”

ประตูห้องส่วนตัวเปิดออกอย่างแรง ชายหนุ่มร่างผอมสวมชุดพนักงานพรวดพราดเข้ามา

หวูเย่าหันกลับมา

“เมียของฉัน!” ชายหนุ่มตะโกนพร้อมรีบวิ่งเข้าไปด้วยความโกรธและผลักหวูเย่าออกไป “ไปให้พ้นจากเมียฉันนะ!”

หญิงสาวปิดหน้าและร้องไห้อย่างขมขื่นอยู่บนโซฟา

เมื่อชายหนุ่มเห็นภรรยาของเขาเช่นนี้ เขาก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้ เขาเอื้อมมือไปคว้าคอของหวูเย่าแล้วพยายามต่อยเขา

หวูเย่าหอบเล็กน้อยและหรี่ตามองดูอีกฝ่ายแล้วพูดว่า “แกแน่ใจแล้วเหรอว่าจะต่อยฉัน แกจะเชื่อหรือไม่ฉันไม่สน ฉันไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากด้วยซ้ำ ถ้าฉันไม่มาจ่ายเงินที่นี่สักสามวัน เจ้านายของแกจะเจอสาเหตุด้วยตัวเอง แล้วแกจะโดนไล่ออกทั้งคู่”

ชายหนุ่มตกตะลึง

“แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม ไม่เอาแล้ว?” หวูเย่ายิ้มและพูดเยาะเย้ย “มันยากแค่ไหนสำหรับคนอย่างแกที่จะหางานใหม่ตอนนี้”

ชายหนุ่มกัดฟันเงื้อแขนค้างสั่นระริก

“ออกไป และปิดประตูให้ฉัน แล้วฉันจะหาเงินมาให้แกทีหลัง” หวูเย่าผลักชายหนุ่มออกไป

“ไปลงนรกซะไป!”

ชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบหกหรือยี่สิบเจ็ด ซึ่งเป็นวัยที่เต็มไปด้วยพลัง หากอีกฝ่ายหยุดกระทำ เขาอาจจะกลืนความโกรธเพื่อสองงานที่นี่ก็เป็นได้ แต่น้ำเสียงและการแสดงออกกับสายตาของหวูเย่า ทำให้เขารู้สึกถึงความอัปยศอดสูเพราะการดูถูกเหยียดหยามของอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา เขาจึงหมดความอดทนและต่อยเข้าไปอย่างแรง

หวูเย่าถูกต่อยเซไปและตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง

“อย่าทะเลาะกัน อย่าทะเลาะกัน...” หญิงสาวลุกยืนขึ้นเพื่อหยุดเขา “ลืมไปเถอะ ไปเถอะ อย่าทะเลาะกัน”

“เราออกไปจากที่นี่กัน อย่างแย่ที่สุด ฉันจะไปทำงานหนักในพื้นที่รังสีนิวเคลียร์ก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอมันอีกต่อไป” ดวงตาของชายหนุ่มสะท้อนความโกรธเคืองอย่างแรงกล้า และเขาก็พุ่งเข้าต่อยหวูเย่าที่หัวอีกครั้ง

“หยุดทะเลาะกัน!” หญิงสาวใช้กำลังทั้งหมดพยายามดึงชายหนุ่มกลับมา

หวูเย่าถูกต่อยหลายครั้งจนริมฝีปากแตก เลือดไหลกระเซ็นตามแรงหมัด

ชายหนุ่มเหนื่อยหอบและชี้หน้าด่าไปที่หวูเย่า “ถ้าแกกล้ารังควานเมียฉันอีกครั้ง ฉันจะกระทืบแกให้ตาย!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” หวูเย่ายิ้มใหญ่

“ไป ไปกันเถอะ” หญิงสาวคว้าแขนของชายหนุ่มด้วยมือทั้งสองแล้วดึงเขาออกมาอย่างสุดกำลัง

ชายหนุ่มหันกลับมามองหวูเย่า แล้วหันกลับมาถอดเสื้อคลุมของเขาสวมให้ภรรยา จากนั้นคู่หนุ่มสาวก็รีบเดินจ้ำเพื่อออกจากห้องส่วนตัว แต่ก่อนที่จะพ้นประตูห้องส่วนตัวออกมา

“โพล๊ะ!”

เสียงกระแทกเนื้อดังขึ้น

ชายหนุ่มหยุดเดินกะทันหัน ร่างกายแข็งทื่อไป เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากด้านหลังศีรษะ

“ระยำเอ๊ย ไอ้พวกคนชั้นต่ำไร้ค่าอย่างแก กล้าดียังไงมาหาเรื่องฉัน” ดวงตาของหวูเย่าเป็นสีแดงก่ำ ในมือของเขาถือขวดไวน์ที่แตกครึ่งขวดไว้ในมือขวาแล้วแทงมันลงไปอีกที

“สวบ!”

ไม่ว่าหวูเย่าจะตั้งใจหรือไม่ หรือว่าเขากังวลจริงๆ และแทงเข้าไปแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ขวดไวน์ครึ่งหนึ่งเข้าไปปักติดอยู่บนคอของชายหนุ่มแล้วเต็มๆ

“อา!”

หลังจากนั้นภายในไม่กี่วินาที เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่ออกมาจากห้องส่วนตัวนั้น

……

ในบ้านอิฐทรุดโทรมที่สร้างโดยแผนกบรรเทาทุกข์ ฉินหยู่ขมวดคิ้วและถามชายแก่ “ลุงเล่าเรื่องละเอียดขนาดนี้ มันจินตนาการของคุณเองหรือคุณมีหลักฐานจริงกันแน่”

“เรื่องของลูกชายฉันไม่ได้ซับซ้อนเลยจริงๆ คุณสามารถไปที่คลับบาร์บี้ และถามใครได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น พวกเขาจะอธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียดเหมือนฉันแน่ๆ” ชายแก่มองดูฉินหยู่แล้วพูดต่อ “ถึงเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในห้องส่วนตัว ผู้คนภายนอกจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนและการต่อสู้ขัดขืนได้ยังไง! ในเมืองบันเทิงบาร์บี้ทั้งหมด มีใครไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นบ้าง? แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่ฉันจะเดาสุ่มเอาล่ะ?”

ฉินหยู่เงียบฟัง

“ฉันไม่มีหลักฐานหรอก ฉันถามรายละเอียดเรื่องทั้งหมดจากคนมากมายที่นั่น” เมื่อชายแก่น้ำตาคลอพูดเรื่องนี้ขณะมองฉินหยู่ “แต่ถ้าคุณต้องการสืบสวนเรื่องนี้จริงๆ เพื่อช่วยชาวบ้านอย่างพวกเรา คุณก็จะหาพยานได้อย่างน้อยหลายสิบคนในเรื่องนี้ เพราะลูกชายและลูกสะใภ้ของฉันไม่ได้ออกมาจากห้องนั้น มีคนบอกฉันว่าตอนที่ทะเลาะกัน ในห้องนั้นมีแต่เพื่อนของหวูเย่ารีบเข้าไป ส่วนคนอื่นๆ ไม่กล้าเข้าไปถาม ต่อมามีรถสองคันมาตรงชั้นล่าง มีคนเห็นกับตาว่าพวกเขาโยนคนลงไปจากหน้าต่างชั้นสาม แล้วหวูเย่าก็เดินลงไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“แล้วคุณไม่มีพยานที่จะไปอธิบายเหตุการณ์ให้ผู้กำกับเจียงหนานฟังเหรอ?” จูเหว่ยถาม

“หลังจากเกิดเรื่องกับลูกชายและเมียเขาแล้ว ฉันคุกเข่าขอร้องคนอื่นอย่างน้อยสี่สิบห้าสิบครั้ง พอเจอคนที่เข้าใจสถานการณ์ก็ก้มหัวขอร้องให้เขาช่วย… เพราะไม่มีเงินไม่มีหนทางจะตอบแทน ฉันเลยทำได้แต่ขอร้องให้พวกเขาเมตตา” ชายแก่ปาดน้ำตาแล้วตอบว่า “แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครกล้าออกมาช่วยเป็นพยานเล่าเหตุการณ์วันนั้นเลย ไม่มี…”

ทุกคนเงียบไปตามๆ กัน

ชายแก่เงยหน้าขึ้น “จริงๆ แล้วฉันเข้าใจได้ว่าคนที่รู้เรื่องกลัวหวูเย่า แต่ฉันไม่กลัวมันอีกต่อไปแล้ว ลูกชายและลูกสะใภ้ของฉันจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่งกับปู่และย่า เมียฉันก็ล้มป่วยนอนอยู่ในห้องนั้น เราสองคนคุยกันว่า ถึงเราจะตาย เราก็จะตายระหว่างฟ้องร้อง ฉันไม่ขอให้หวูเย่าชดใช้เงินทองหรือมาขอโทษ ฉันแค่อยากให้กฎหมายตัดสินให้ยุติธรรมที่สุด และฉันก็ต้องการรู้ว่าศพลูกชายของฉันอยู่ที่ไหน พวกฉันจะได้ไปเยี่ยมหลุมศพของเขาสักวันหนึ่ง”

ฉินหยู่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับชายแก่ “คุณลุง ฉันจะช่วยคุณสืบสวนคดีนี้”

“คุณช่วยได้หรือ?” ชายแก่สับสนเล็กน้อย

“ถ้าฉันหาคำตอบไม่ได้ คดีนี้ก็จะตาย” ฉินหยู่ถอนหายใจก่อนจะตอบ

เมื่อชายแก่ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาก็ลุกโชนด้วยความหวังอีกครั้ง “ข ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆ!”

……

เจียงโจว

หมาเหล่าเอ้อยืนอยู่ในดินแดนรกร้าง เผาเหรียญทองลงนรกเซ่นผู้เฒ่าหม่า

แมวแก่หันมามองเขา “อย่างน้อยนายก็ยังมีชีวิตอยู่”

หมาเหล่าเอ้อจุดไฟแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ไม่…ตราบใดที่ไม่มีใครดูแลที่บ้าน ฉันจะกลับไปซงเจียง”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด