295 - ความแข็งแกร่งที่แท้จริง
1606 - ความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ร่างกายของฉีปู้สั่นสะท้าน ไหล่ของเขาถูกยิงจนขาดออกจากร่างเลือดสูงสุดของเขาทะลักออกมาไม่หยุด มันเป็นภาพที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง
ฉากนี้ทำให้ทุกคนในสนามรบตกใจจนร่างกายเย็นเฉียบ ต้องเข้าใจว่านี่คือคนจากตระกูลจักรพรรดิเป็นที่รู้กันดีว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ไร้พ่ายเสมอมา!
แม้แต่ในฝั่งอาณาจักรของพวกเขา ฉีปู้ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญอย่างยิ่ง วันนี้เขาได้รับเชิญให้มาที่นี่เพื่อเป็นการข่มขู่ผู้คนจากเมืองจักรพรรดิ์ แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและอาจจะเสียชีวิตที่นี่วันนี้
สภาพของฉีปู้นั้นน่าสังเวชเกินไป ร่างกายของเขาถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งมิหนำซ้ำรากฐานของเขายังได้รับความเสียหายร้ายแรงอีกด้วย
โฮ่ว!
ร่างกายของฉีปู้เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เลือดของเขาพุ่งออกมาแสดงให้เห็นถึงความสดใสห้าสี นี่คือเลือดชนิดพิเศษของตระกูลจักรพรรดิ
ร่างกายของเขากำลังรักษาอาการบาดเจ็บด้วยความเร็วที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้แต่แขนที่ถูกตัดขาดก็ยังงอกออกมาใหม่
“ไม่ใช่ว่าข้าบอกแล้วหรือว่าจะยืมหัวของเจ้าไป ครั้งนี้มันต้องถูกตัดออกอย่างแน่นอน!” เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวอย่างเย็นชา
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะซีดเซียวไม่มีสีสัน แต่เขาก็คงสง่างามอยู่เช่นเดิม ใบหน้าของเขาเหมือนชายหนุ่มอายุยี่สิบปีที่เต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญอย่างน่าอัศจรรย์
ชุดเกราะสีทองที่แหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยๆ ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนเทพสงครามมากขึ้นไปอีก สายฟ้าเย็นยะเยือกสั่นไหวภายในดวงตาของเขาทำให้ฉีปู้รู้สึกเลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้ากล้าเหรอ!”
ผู้สูงสุดจากต่างมิติคนหนึ่งตะโกนขึ้น เขาใช้อาวุธชั้นเซียนของตนเองออกมาเพื่อทำการขัดขวางการโจมตีของเมิ่งเทียนเจิ้ง
แต่ผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิก็ยังคงอยู่ครบทุกคน แม้ว่าจำนวนของพวกเขาจะน้อยกว่า แต่อาวุธเซียนในมือของพวกเขาก็มีมากกว่าเล็กน้อย มิหนำซ้ำทุกชิ้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ฮ่อง!
พลังแห่งความโกลาหลพุ่งขึ้นสู่สวรรค์ ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง
"ฆ่า!"
ในที่สุดผู้สูงสุดจากต่างมิติอีกหลายคนก็เข้าร่วมการต่อสู้ แม้ว่าในมือของพวกเขายังไม่มีอาวุธชั้นเซียน แต่หากเป็นอาวุธระดับครึ่งเซียนพวกเขากลับมีอยู่ไม่น้อย
ในจำนวนนี้มีผู้สูงสุดสองคนพุ่งทะยานเข้าใส่ผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งหมายขัดขวางการโจมตีของเขาและช่วยเหลือฉีปู้ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดด้วยกัน แต่สถานะของฉีปู้นั้นพิเศษเกินไป
เขาคือผู้สืบเชื้อสายของจักรพรรดิแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดบรรพบุรุษโบราณจากฝั่งของพวกเขา หากเขาถูกสังหารที่นี่จะมีปัญหาใหญ่ตามมาและพวกเขาทุกคนย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้
“ใครกล้าเข้ามาข้าจะฆ่าทิ้งทันที!” แน่นอนว่าในขณะนี้ เมิ่งเทียนเจิ้งเป็นเหมือนราชาปีศาจที่กำลังคุ้มคลั่งถึงขีดสุด เขาชักธนูออกมาอีกครั้งและยิงไปทางผู้สูงสุดทั้งสองที่กำลังพุ่งเข้ามา
คราวนี้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมากไม่มีการรวบรวมพลังอีกแล้ว
โลหิตแก่นแท้ยังคงไหลทะลักออกมาจากหน้าอกของเขาทำให้ใบหน้าของเขาซีดลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามไอสังหารของเขากลับรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เขาคำรามออกมา
“ฆ่า!”
รัศมีโลหิตพุ่งเข้าสู่สวรรค์พลังของลูกศรนี้ยอดเยี่ยมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดทั้งสองต่างรีบเร่งเข้ามาช่วยชีวิตฉีปู้ พวกเขาไม่ได้มีความระมัดระวังมากพอเพราะเห็นว่าเมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เนื่องจากร่างกายของพวกเขาถูกกักขังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ปู!
ลูกศรนี้พุ่งตรงไปที่ช่องว่างระหว่างคิ้วของทั้งสอง มันทำลายวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาทันที
จากนั้นร่างกายของพวกเขาก็เริ่มแตกออกจากกันทีละนิ้วก่อนจะสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นวิชาที่รุนแรงอะไรอย่างนี้?” ตอนนี้ผู้สูงสุดจากต่างมิติเหลือไม่มากแล้ว ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“สังหารมนุษย์ สังหารปฐพี สังหารสวรรค์ สังหารผู้อมตะ จากนั้นค่อยสังหารตัวเอง!” ในระยะไกลผู้อาวุโสชิงมู่ถอนหายใจด้วยความกังวล
เพราะเขารู้ว่าธนูโลหิตนั้นน่ากลัวเพียงใด เมื่อเมิ่งเทียนเจิ้งสังหารศัตรูเขาก็ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวจะทำให้เขาตายด้วยความคับแค้น!
“เจ้าคิดว่าจะหนีรอดหรือ!” เมิ่งเทียนเจิ้งตะโกน เป็นเพราะตอนนี้มีผู้สูงสุดที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธเซียนกำลังหลบหนีออกจากสนามรบ
เมิ่งเทียนเจิ้งไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาทุบหน้าอกตัวเองเพื่อให้โลหิตหลั่งออกมา ก่อนจะยิงลูกศรออกไปอย่างรวดเร็ว
ปู!
เป็นไปตามการคาดคำนวณของทุกคน เมื่อลูกศรนี้ถูกยิงออกไปมันก็พุ่งทะลุทางด้านหลังศีรษะของผู้สูงสุดคนนั้น วิญญาณดั้งเดิมของเขาไม่สามารถหลบหนีมันถูกทำลายสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว
“คนผู้นี้เป็นบ้าไปแล้ว เขามุ่งมั่นในการสังหารผู้อื่นโดยไม่สนใจแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง!” ผู้สูงสุดคนหนึ่งจากต่างมิติมีใบหน้าซีดเผือด หัวใจของเขาสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เทพขวางสังหารเทพ พุทธะขวางสังหารพุทธะ!
นี่คือสิ่งที่ทุกคนให้การประเมินแก่เมิ่งเทียนเจิ้ง
“ตอนนี้ได้เวลาของเจ้าแล้ว!” เมิ่งเทียนเจิ้งดึงลูกศรโลหิตออกมาจากอกของเขา ลูกศรนี้ไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไปแต่มันกลายเป็นสีดำที่มืดสนิทยิ่งกว่าหมึก
“โลหิตแก่นแท้ของเจ้าหมดสิ้นแล้วมาดูกันว่าเจ้าจะดิ้นรนไปได้อีกนานแค่ไหน! มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเจ้าอย่างไร!” ฉีปู้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและลึกล้ำ
“ข้าเป็นคนที่ทำตามคำพูดเสมอ และหัวของเจ้าข้าจะต้องเอามาให้ได้!” เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวอย่างเย็นชา เขาคลายสายธนูและส่งลูกศรศักดิ์สิทธิ์นี้ซึ่งไม่ใช่สีแดงบินออกไป
“อ๊ะ?” ฉีปู้ตื่นตระหนกทันที ลูกศรนี้ในตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีพลังแก่นแท้อีกต่อไป แต่ความแข็งแกร่งของมันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยทำให้ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว
"หยุดให้ข้า!"
เขาคำรามออกมา โดยไม่มีทางเลือกเขาได้แต่พ่นโลหิตแก่นแท้ออกมา มันเปล่งประกายด้วยแสงห้าสีแพรวพราวน่ากลัวสุดขีด
ในความเป็นจริงเลือดห้าสีภายในกายของเขามีไม่มากนัก ตอนนี้มันถูกพ่นออกมาเป็นจำนวนมากทำให้รากฐานของเขาได้รับผลกระทบไม่น้อย
มันมีรัศมีพลังของผู้ไม่ดับสูญอย่างมากมายมหาศาลจนล้นทะลักออกมา
นี่คือโลหิตบรรพบุรุษโลหิตล้ำค่าที่จะตกทอดมาจากตระกูลของจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญเท่านั้น
ปู!
ลูกศรโลหิตถูกหยุดลงและจากนั้นมันก็สูญเสียความเปล่งประกายไปเรื่อยๆจนกระทั่งสูญสลายไป!
“โลหิตแก่นแท้ของข้าได้รับการตกทอดมาจากบรรพบุรุษ! แม้ว่าข้าจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่โลหิตแก่นแท้ของเจ้าจะนำมาเปรียบเทียบ!” ฉีปู้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ปู!
ทันทีที่ลูกศรโลหิตระเบิดรอยยิ้มของฉีปู้ก็หยุดนิ่ง เป็นเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาถูกฉีกเป็นสองส่วนค่อยๆแยกออกจากกัน!
"ทำไม?" เขาไม่เข้าใจ แก่นแท้โลหิตห้าสีของเขาได้ทำลายลูกศรไปอย่างแน่ชัด เรื่องนี้เขาเห็นด้วยตาของตัวเองจะผิดพลาดได้อย่างไร?
ฉีปู้ยังไม่ตาย แต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้ร่างกายของเขาถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ โลหิตแก่นแท้ของเมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้เข้าสู่ร่างกายของเขา แต่คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวได้กัดกินพลังชีวิตของเขาไปเรื่อยๆ
“ สายเลือดของเจ้านั้นทรงพลังอย่างแท้จริง สมควรที่จะเป็นผู้สืบเชื้อสายของจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญ
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก สิ่งที่สำคัญคือความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของตนเอง ข้าเอาชนะเจ้าได้เพราะข้ามีความแข็งแกร่งมากกว่าเจ้า ไม่ใช่เพราะว่าสายเลือดของข้าแข็งแกร่งกว่าสายเลือดของเจ้า”เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวอย่างเย็นชา
เขาก้าวไปข้างหน้าและใช้กระบี่เซียนตวัดออกไปหนึ่งครั้ง ศีรษะของฉีปู้หลุดออกจากร่างกายทันที!
“ศีรษะนี้ข้าขอยืมก็แล้วกัน!”เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เขาจะใช้ศีรษะของผู้สูงสุดตระกูลจักรพันธ์เพื่อทำการเซ่นสรวงดวงวิญญาณของเหล่าวีรชนที่เสียชีวิตไปในสงครามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!