บทที่ 16 ป่าหมอก 3
บทที่ 16 ป่าหมอก 3
ลู่อันตกตะลึงกับการโจมตีที่ไม่คาดคิดและขนาดของวานรเมฆาที่ใหญ่ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เขาตกอยู่ในความงุนงงในขณะที่มองดูมัน มันมีเงาขนาดใหญ่จำนวนมากที่มีขนาดใกล้เคียงกับลิงยักษ์ตัวนี้
ขณะที่เขากำลังจะชักมีดออกมา มันก็มีแรงมหาศาลดึงเขาออกจากหมอก ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากบอสของเขา
“วิ่ง!”
ถังเส้าหยางดึงร่างเล็กของลู่อันแล้วโยนเขาไปข้างหน้า
“วิ่ง! วิ่งตรงไป!” ถังเส้าหยางตะโกนอีกครั้งในขณะที่เขาวิ่งไปยังทิศทางที่เขาโยนลู่อันออกไป
ลู่อันคุกเข่าลงและชูมือไปข้างหน้า หลังจากได้ยินเสียงตะโกน เขาก็พยุงร่างกายของเขาขึ้นมาในทันทีและทำตามคำสั่งของถังเส้าหยาง เขาวิ่งตรงไปข้างหน้า โชคดีที่ทางข้างหน้าเป็นหญ้าที่ไม่มีต้นไม้
ในขณะที่เขาต้องการจะมองย้อนกลับไป มันก็มีเงาแวบอยู่ข้างๆเขา ลู่อันตกใจ จากนั้นมันก็มีเสียงดังมาจากเงาข้างๆเขาว่า “อย่าหันหลังกลับ วิ่งออกไปอย่างสุดกำลัง!”
ถังเส้าหยางเตือนสติลู่อันอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเตือนลู่อันไม่ให้เขามองย้อนกลับไป แต่เขาก็ยังคอยตรวจสอบด้านหลังของเขา น่าแปลกที่ลิงที่กลายพันธุ์นั้นกลายเป็นกอริลลานั้นสามารถตามความเร็วของพวกเขาได้ทัน
นอกจากนี้เขาก็ยังพบว่ามันมีกอริลล่าสองสามตัวที่ตามลู่อันอยู่ พวกมันเข้าใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆ และอีกไม่นานกอริลลาก็คงจะตามทัน เมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ ถังเส้าหยางก็ลดความเร็วลง
ทันทีที่เขาลดความเร็วลง กอริลลาหกตัวก็หันมาพุ่งเข้าใส่เขา ถังเส้าหยางเหวี่ยงขวานศึกออกไปในแนวนอนในทันที การกระทำของเขารวดเร็ว แต่ลิงกลายพันธุ์เหล่านี้ก็มีปฏิกิริยาตอบโต้เร็วมาก
กอริลลาสองตัวกระโดดไปข้างหน้าและกอริลลาอีกสองตัวก็ก้มลงเพื่อหลีกเลี่ยงขวานศึกที่เข้ามา มันมีเพียงกอริลลาสองตัวที่ไม่สามารถโต้ตอบได้ทันเวลาและถูกขวานศึกผ่า กอริลลาสี่ตัวที่รอดตายไม่สนใจสหายของพวกมันในขณะที่พวกมันกระโจนเข้าใส่ถังเส้าหยางทันทีที่ตั้งหลักได้
สองตัวพุ่งมาจากด้านบนและอีกสองตัวก็พุ่งตรงมาที่เขา ความจริงที่ว่าลิงได้กลายพันธุ์นั้นไม่ได้ทำให้ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังทำให้ความสามารถในการต่อสู้และวิธีในการต่อสู้ของพวกมันเปลี่ยนไปอีกต่างหาก พวกมันเริ่มมีความพยายามที่จะหลบรโจมตีของถังเส้าหยาง
โชคดีที่แม้ว่าพวกมันจะกลายพันธุ์แล้ว แต่พวกมันก็ยังด้อยกว่ความสามารถของถังเส้าหยางอยู่ดี
แม้จะมีขวานศึกที่หนัก แต่ถังเส้าหยาก็ยังสามารถถอยหลังสองก้าวได้อย่างง่ายดายและหลีกเลี่ยงการโจมตีของกอริลลาทั้งสี่ตัวที่พุ่งเข้ามา
นี่คือเหตุผลหลักที่ถังเส้าหยางกระตุ้นให้ลู่อันหนีไป เพราะในการโจมตีครั้งแรกของเขา เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าลิงพวกนี้นั้นแข็งแกร่งขึ้นประมาณสี่ถึงห้าเท่า และหากกอริลล่าล้อมรอบพวกเขาได้สำเร็จ คนที่รอดมันก็อาจจะเหลือเพียงแค่ถังเส้าหยางคนเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เอง เหตุผลที่เขาเลอกที่จะวิ่งหนีออกมาจึงเป็นเพราะลู่อันไม่ใช่เขา
เมื่อเขาก้าวถอยหลังไป มือซ้ายของเขาก๋เอื้อมมือไปหากอริลล่าตัวหนึ่ง ถังเส้าหยางจับคอของกอริลลาไว้แน่น
กร๊าก! กร๊าก! กร๊าก!
ถังเส้าหยางหักคอของกอริลลาและเสียงกระดูกแตกหักก็ดังขึ้น หลังจากนั้น เขาก็โยนกอริลลาในมือไปหากอริลล่าอีกสามตัวที่เหลือ กอริลลาสองในสามตัวหลบศพที่เข้ามาโดยการกระโดด
ถังเส้าหยางยิ้มให้กับฉากนี้ ลิงอาจจะมีการวิวัฒนาการก็จริง แต่มันก็ยังเป็นมือใหม่ในการต่อสู้ ลิงมีพละกำลัง ลิงมีการเคลื่อนไหวที่ว่องไว แต่น่าเสียดายที่พวกมันยังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ดุเดือด
เมื่อสังเกตเห็นกอริลล่าสองตัวกระโดดขึ้น ถังเส้าหยางก็ปล่อยมือของเขาจากขวานศึก หลังจากนั้น เขาก็รีบวิ่งไปหากอริลลาทั้งสองตัวที่ยังคงอยู่ในอากาศ เขาเอื้อมมือออกไปที่เท้าของกอริลล่าและจับพวกมันทั้งสองทุ่มกระแทกลงกับพิ้น
จ๊าก! จ๊าก! จ๊าก! จ๊าก!
กอริลล่าทั้งสองปล่อยเสียงครวญครางแปลกๆออกมา แต่ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของถังเส้าหยาง เสียงครวญครางของกอริลล่าทั้งสองก็จึงหยุดลง ถังเส้าหยางกระโดขึ้นไปและกระทืบไปที่คอของพวกมัน สิ่งนี้ทำให้คอของกอริลล่าทั้งสองพังทลายลงในทันที และเลือดก็พุ่งออกมาจากคอของพวกมัน
หากเป็นซอมบี้ ถังเส้าหยางก็อาจกลัวที่จะต้องต่อสู้ด้วยมือของเขาเพราะเขาไม่รู้ว่าซอมบี้นั้นแพร่เชื้อมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขาเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่มีการวิวัฒนาการ
เขาไม่มีความกังวลและความกังวลใดๆที่จะฆ่ากอริลล่าด้วยมือเปล่า หลังจากฆ่ากอริลลาไปแล้วสองตัว เขาก็ไล่ตามลิงกอริลลาอีกตัวหนึ่งที่หลบไปทางซ้าย
กอริลลาผู้รอดชีวิตเพียงตัวเดียวรู้สึกประหลาดใจกับความเร็วของถังเส้าหยาง แต่มันก็สามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเหวี่ยงแขนยาวไปทางถังเส้าหยาง
สำหรับถังเส้าหยางแล้ว เขาก็ไม่ได้แปลกใจกับปฏิกิริยาของกอริลลา เขาก้มศีรษะหลบแขนยาว และร่างของเขาก็พุ่งเข้าหาร่างของกอริลลา หลังจากที่กอริลลาล้มลงไป เขาก็กระโดดขึ้นไปบนตัวมันและใช้เข่ากดแขนมันเอาไว้
น่าเสียดายที่ถังเส้าหยางมองข้ามความจริงที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นลิง มันไม่ใช่กอริลลาจริงๆ ดังนั้นแม้ว่าวานรเมฆาจะวิวัฒนาการให้มีรูปร่างคล้ายกับกอริลลา แต่ลิงก็มีแขนขาที่ยาวกว่ากอริลล่า
เข่าของเขาอาจจะกดทับแขนมันไว้ก็ริง ตแต่มันก็ไม่ใช่ที่เท้า ในขณะที่เขากำลังจะทุบคอของกอริลลาด้วยมือของเขา เท้าของกอริลลาก็ได้มาะนรอบคอของเขา เท้าของมันขดรอบคอของเขาและพยายามดึงเขากลับไป
“อ๊ากกกกก!”
ถังเส้าหยางปล่อยเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ผ่อนปรนหรือพยายามจะสลัดเท้าของมันออกมา เขากำหมัดแล้วต่อยเข้าไปที่จมูกของกอริลลาโดยตรงแทน ในการชกครั้งแรก เท้าที่พันรอบคอของเขาอยู่ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่หยุดต่อยกอริลลา ยิ่งเท้าของมันรัดคอเขาแน่นมากเท่าไหร่ หมัดที่ซัดเข้าไปที่เบ้าหน้าของกอริลลาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ในเวลาเพียงห้าวินาที หมัดประมาณสิบสองหมัดก็ได้พุ่งเข้ากระแทกกับใบหน้าของกอริลลาแล้ว
ในการชกครั้งสุดท้าย เท้าของมันก็ไม่ได้พันรอบคอเขาอีกต่อไป หลังจากนั้น ถังเส้าหยางก็ไม่ยังไม่หยุดนิ่ง เขากลับไปหยิบขวานศึกและไล่ตามลู่อันไป
ด้วยเลเวลในปัจจุบันของเขาและความว่องไวในปัจจุบันของเขา ถังเส้าหยางจึงสามารถติดตามความเร็วของลู่อันทันได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็มุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ทันได้สังเกตถังเส้าหยางที่อยู่ข้างหลังที่จัดการกับลิงกอริลลาเสร็จแล้ว
พวกเขาต้องเผชิญกับเส้นทางหมอกที่ไม่มีที่สิ้นสุดกับพื้นหญ้า พวกเขาวิ่งไปเป็นเวลาสิบนาที และพวกลิงก็ยังคงไล่ตามพวกเขา ดังนั้นถังเส้าหยางจึงจะชะลอตัวลงสองสามรอบเพื่อจัดการกับพวกลิง
ขณะที่การไล่ล่ายังคงดำเนินเต่อไป ถังเส้าหยางก็ฆ่าลิงไปเป็นจำนวนหนึ่ง และทุกครังหลังจากที่เขาฆ่าพวกมันเสร็จ เขาก็จะสังเกตเห็นว่าพวกมันจะวิ่งกลับมาด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิม
และขณะที่เท้าของเขาขยับ จู่ๆก็มีความคิดปรากฏขึ้นในใจ ' อย่าบอกนะว่าพวกมันวิวัฒนาการโดยการกินซากศพ'
เขาลองมองย้อนกลับไป ลิงจะหยุดการจู่โจมอย่างดุเดือดหลังจากที่พวกของมันตายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อพวกเขาสังเกตรอบตัวอีกที ศพของลิงก็หายไปหมดแล้วและพวกมันก็หยุดเข้ามาจู่โจมพวกเขา
หลังจากนั้นผ่านไปสิบชั่วโมง ลิงก็เปิดฉากโจมตีอีกครั้ง ดังนั้นถังเส้าหยางจึงคิดว่าในช่วงเวลาสิบชั่วโมงที่ผ่านไป ลิงพวกนี้ก็จะต้องไปกินซากศพเพื่อวิวัฒนาการแน่ๆ
แม้ว่าเขาจะไม่เห็นซากศพที่ถูกลิงพากลับไป แต่การเปลี่ยนแปลงของลิงก็ชัดเจน และหลังจากผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ถังเส้าหยางก็มั่นใจว่าลิงได้วิวัฒนาการโดยการกินศพ
ลิงจำนวนมากสามารถตามความเร็วของลู่อันได้ทัน และแม้ว่าร่างกายของพวกมันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่การเปลี่ยนแปลงก็ปรากฏชัดในเรื่องของค่าคุณมบัติของพวกมัน
' ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกลิงมันก็อาจจะไล่ตามลู่อันได้ทันและเขาก็คงจะไม่รอดแน่ๆ...'
แน่นอน ถังเส้าหยางไม่ต้องการที่จะเสียคนของเขาไป ยิ่งไปกว่านั้น ลู่อันคนนี้ก็เป็นชายคนแรกที่เต็มใจจะติดตามเขา นอกจากนี้ ลมหายใจของลู่อันก็เริ่มหนักหน่วงแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะสูญเสียความเร็วไป
ในขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเขา เงาสองเงาก็พุ่งเข้าหาลู่อันจากด้านข้าง ถังเส้าหยางดึงร่างเล็กของลู่อันออกมาอย่างง่ายดายในทันที
แบม!
ลิงทั้งสองตัวพุ่งเข้าชนกันเอง จากนั้นถังเส้าหยาก็กระทืบเท้าเข้าใส่หัวของพวกมันจนพวกมันหัวระเบิดออกมา ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะถังเส้าหยาง ลู่อันก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้
เพื่อช่วยลู่อัน ถังเส้าหยางจึงต้องหยุดเดินและประชันหน้ากับกลุ่มของลิงที่อยู่เบื้องหลัง เขารู้ว่าถ้าลู่อันยังอยู่ที่นี่นานกว่านี้ เขาก็อาจจะตายจริงๆได้
ถังเส้าหยางหายใจเข้าลึกๆ เขาโยนร่างเล็กของลู่อันออกไปอย่างสุดกำลังของเขา เขาไม่รู้ว่าข้างหน้าของพวกเขาเป็นอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็เชื่อว่ามันยังมีโอกาสที่ลู่อันจะสามารถรอดไปได้ถ้าเขาเป็นคนต้านพวกลิงเอาไว้
โว้ว!
ร่างกายของลู่อันบินไปบนอากาศ ลู่อันเองก็หลับตาลงในทันที
ถังเส้าหยางได้ทำดีที่สุดแล้วเพื่อช่วยลู่อัน ตอนนี้ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับลู่อันเท่านั้น เมื่อลู่อันหายตัวไปจากสายตาของเขา รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของถังเส้าหยาง เขาเลียริมฝีปากและเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ออกไปในทันทีหลังจากนั้น