บทที่ 15 ป่าหมอก 2
บทที่ 15 ป่าหมอก 2
ถังเส้าหยางไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของผู้ติดตามของเขา เขามุ่งความสนใจไปที่ลิง
ว้าว!
ถังเส้าหยางเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ของเขาไปที่ลิง ฝูงลิงพุ่งเข้าหาถังเส้าหยาง พวกมันเข้ามาอยู่ในวงสวิงของเดสทรอยเยอร์อย่างน้อยสิบถึงสิบสามตัว จากนั้นถังเส้าหยางก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังพบกับปัญหาแล้ว ลิงเหล่านี้ไม่มีความกลัว
แม้ว่าพรรคพวกของพวกมันจะถูกฆ่าตายอย่างโหดร้าย แต่พวกมันก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าหรือวิ่งหนีไปด้วยความกลัวเลย พวกมันยังคงพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไม่ลดละท่ามกลางการเข่นฆ่า
ปัญหาคือน้ำหนักของเดสทรอยเยอร์ เขาสามารถเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ไปอย่างต่อเนื่องได้ แต่กระนั้นความเร็วในการเหวี่ยงของเขาก็ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของพวกมัน และหากเขาช้าไปแม้เพียงไม่กี่วินาที ฟันที่แหลมคมเหล่านี้ก็อาจจะฉีกกระชากเนื้อของเขาได้
เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะอยากลองดูว่าฟันของลิงจะฉีกร่างของเขาได้หรือไม่ ถ้าลิงมีจำนวนน้อย ถังเส้าหยางก็มั่นใจในการใช้เดสทรอยเยอร์
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีทางรู้จำนวนลิงได้เพราะหมอก การมองเห็นของเขามีจำกัด และเขาไม่สามารถคำนวณจำนวนลิงได้ด้วยซ้ำ
' เดสทรอยเยอร์ไม่ใช่อาวุธที่เหมาะสมกับลิง…' หลังจากสรุปเรื่องนี้เสร็จ ถังเส้าหยางก็ได้ปักขวานศึกของเขาไว้ข้างๆ
แบม!
หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็ดึงท่อเหล็กสองอันที่เอวของเขาออกมา ลิงพวกนี้ว่องไวมาก แต่มันก็ยังอ่อนแอกว่าซอมบี้ ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การฆ่าลิงด้วยการฟาดท่อเหล็กเพียงครั้งเดียวนั้นจึงเป็นไปได้
บัก! บัก! บัก! บัก!
ถังเส้าหยางต่อสู้กับลิงต่อโดยไม่ลังเล เขาเล็งท่อเหล็กไปที่ลิงที่ปรากฏอขึ้นมาในสายตา เป้าหมายของเขาคือบริเวณหัวของลิง แต่ถ้าเขาไม่สามารถเอื้อมไปถึงหัวมันได้ เขาก็จะตีทุกอย่างที่เขาจะตีได้
' โชคดีที่ฉันไม่ได้ทิ้งท่อเหล็กไป มันยังคงมีประโยชน์แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้…' ถังเส้าหยางแอบดีใจที่เขาไม่ได้ทิ้งอาวุธของเขาไปหลังจากได้รับเดสทรอยเยอร์มา
ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของลิงที่มีหมอก ถังเส้าหยางก็ได้ตอบโต้อย่างไร้ความปราณี ศพของลิงล้อมรอบตัวเขา และส่วนใหญ่ศพเหล่านี้ก็ไม่มีหัว มันยังมีลิงอีกสองสามตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ร่างกายของพวกมันก็มีรอยบุบปรากฎอยู่ทั่วทุกที่
มีลิงหยางตัวที่นอนกองอยู่กับพื้นในสภาพที่ไร้แขนขา แต่มันก็ยังคงหายใจอยู่ นอกจากนี้มันก็ยังมีลิงที่มีแขนขาที่บิดเบี้ยวซึ่งมันก็ดูพิพลลพการเป็นอย่างมาก และแน่นนอน มันก็ยังหายใจอยู่
อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางและลู่อันก็ไม่ได้สนใจฉากที่น่าสยดสยองรอบตัวพวกเขา ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่ลิงตรงหน้า พวกเขาไม่สามารถลดการ์ดลงได้ ไม่อย่างงั้นลิงพวกนี้ก็อาจจะฉีกร่างของพวกเขาเป็นชินๆได้
การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และตอนนี้จำนวนของลิงก็ลดลงไปอย่างมากแล้ว ในเวลานี้ ลมหายใจของลู่อันก็ไม่คงที่ในขณะที่เขาหายใจถี่มาก ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดมือ
ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้น ลิงก็หยุดการโจมตี ถึงกระนั้นลู่อันและถังเส้าหยางก็ยังหันหลังให้กัน พวกเขามองดูหมอกอย่างระมัดระวัง ในตอนนี้ดวงตาสีแดงสดก็ยังคงมองเห็นได้ภายในหมอก
นี่หมายความว่าลิงยังคงล้อมรอบพวกเขาอยู่ และพวกเขาก็ยังคงสบตากันกับมัน อย่างไรก็ตาม จู่ๆดวงตาสีแดงสดก็หายไป หมอกโดยรอบกลับมาเป็นปกติและการมองเห็นของถังเส้าหยางก็กลับไปเป็นสิบเมตรเหมือนเดิม
“หมอกนี้เป็นของลิงพวกนั้นสินะ…” ถังเส้าหยางพึมพำด้วยเสียงต่ำ แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หมอก ลิงอาจโต้กลับมาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวได้
อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็กลับทำตรงกันข้าม ทันทีที่เขาสังเกตเห็นดวงตาสีแดงสดหายไป เขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นในทันที เขาไม่สนใจว่าถนนลาดยางจะเปื้อนเลือดหรือไม่ในขณะที่เขานอนลงกับพื้น
“ฮะ… ในที่สุด… ฮะ… พวกมัน… ฮะ… ก็ไป…”
ขณะที่เขานอนลง ความง่วงก็เข้ามากระทบเขา ลู่อันต้องการหลับตา แต่ถังเส้าหยางเตะเขา
“ไอ้บ้า! แกทำอะไรอยู่? ถังเส้าหยางดุลู่อัน ” ถ้าลิงมันโต้เรากลับล่ะ นายอยากจะเป็นอาหารของพวกมันอย่างงั้นหรอ?”
เมื่อลู่อันได้ยินดังนั้นเขาก็รีบดีดตัวขึ้นมานทันที เขาไม่ได้มองการไกลขนาดนั้น ดังนั้นเขาเลยคิดว่าการต่อสู้นี้จะจบลงแล้ว
เขาคิดว่าตั้งแต่เขาและบอสถังจัดการโต้กลับลิงได้แล้ว พวกมันก็จะไม่กลับมาอีก แต่ลิงถือเป็นสัตว์ที่ฉลาด และถ้าลิงพวกนี้ฉลาดขึ้นหลังจากการกลายพันธุ์ล่ะ?
พวกมันอาจจะวางแผนเอาไว้แล้ว ถอยทัพเพื่อกลับมาโจมตีใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว ใช่แล้ว มันเป็นไปได้ เมื่อเขาคิดจะหลับ ลิงพวกนี้ก็อาจจะโจมตีกลับได้ ลิงพวกนี้จะฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฟันของพวกมัน
เมื่อคิดเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขณะที่เขาสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ด้วยความช่วยเหลือของระบบที่ไม่รู้จัก เส้นทางใหม่ก็ถูกเปิดขึ้น เขาไม่อยากตายก่อนทั้งๆที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย
“มีบางอย่างแปลกๆ…” ลู่อันกวาดสายตาไปรอบๆ และพบว่ามันมีสิ่งแปลกปลอม เพียงแค่มองไปรอบๆ เขาก็สามารถบอกได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ในขณะที่ลู่อันกำลังสับสน ถังเส้าหยางก็ตอบเขา “ซากศพ ซากลิงหายไปแล้ว!”
“ใช่แล้ว ซากศพ ฉันแน่ใจว่าฉันฆ่าลิงไปหลายตัวแล้ว แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนกัน” ลู่อันโพล่งออกมาด้วยความสับสน เขามองไปรอบๆ แต่เขาก็พบแต่เลือดที่ยังไม่แห้งแต่ศพก็หายไปแล้ว
เขาแน่ใจว่าเขาฆ่าลิงไปหลายตัว และต้องขอบคุณลิงพวกนี้ที่ทำให้เขาได้เลเวลอัพ และการที่เขาเลเวลอัพนั้นก็หมายความว่าลิงได้ถูกฆ่าไปแล้วจริงๆ แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนล่ะ?
ก่อนหน้านี้เขาจดจ่ออยู่กับลิงและไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมของเขา เช่นเดียวกับถังเส้าหยาง เขาก็จดจ่ออยู่กับศัตรูของเขาและไม่ทันได้สังเกตเห็นซากศพที่หายไปเหมือนกัน
“มันมีสัตว์ตัวอื่นนำศพไปหรือเปล่า แต่ทำไมมันถึงไม่โจมตีเราล่ะ?” ลู่อันเริ่มเดาอย่างบ้าคลั่งแต่มันก็ไม่มีทางที่จะยืนยันได้
“หรือว่าสัตว์ตัวนั้นจะคิดว่ามันมีอาหารเพียงพอแล้วมันจึงไม่ทำร้ายเรา?” ยิ่งเขาคาดเดา เขาก็ยิ่งคิดว่าเขาพูดถูก
“ไม่เป็นไร เราจะเดินทางกันต่อ การออกไปให้เร็วที่สุดคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด” ถังเส้าหยางไม่ต้องการเสียเวลาคาดเดาสิ่งที่เขาไม่มีทางยืนยันได้ เขาหยุดเกมทายปริศนาของลู่อันในขณะที่ลู่อันก็พยักหน้า
ลู่อันเห็นด้วยในทันที แม้ว่าเขาจะเหนื่อยและต้องการการพักผ่อนอย่างมาก แต่เขาก็ต้องการออกจากสถานที่ที่น่าขนลุกแห่งนี้โดยเร็วที่สุดเช่นกัน
ถังเส้าหยางเป็นผู้นำในขณะที่เขาเดินไปตามถนนลาดยาง เพราะหมอกและลิง การไปตามถนนลาดยางจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
ด้วยทัศนวิสัยที่จำกัดและอันตรายที่ไม่รู้จักภายใต้หมอก พวกเขาจึงไม่กล้าวิ่งตรงไปข้างหน้า และถ้าเขาจำไม่ผิด มันก็มีทะเลสาบเทียมอยู่กลางสวนด้วย ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามันจะต้องมีสัตว์กลายพันธุ์อื่นนอกจากลิงอยู่แน่ๆ
สัญชาตญาณของเขากำลังบอกเขาว่ามันจะต้องมีสัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่ทรงพลังมากกว่าลิงแน่ๆ และเขาก็เชื่อว่าทะเลสาบเทียมแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในรังของสัตว์กลายพันธุ์ ด้วยเหตุนี้เอง การหลีกเลี่ยงทะเลสาบเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด อย่างน้อยๆมันก็เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ
ในชั่วโมงถัดมา พวกเขาก็ยังไม่พบสัตว์กลายพันธุ์หรืออันตรายอื่นใด อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังคงไม่สามารถไปถึงอีกด้านหนึ่งของเซ็นทรัลปาร์คได้ พวกเขาควรจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมงเพื่อไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่เขาเข้ามาในนี้
ถังเส้าหยางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในตอนแรก แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เดินช้าลงเพราะมีหมอก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติหากพวกเขาจะใช้เวลานานกว่าจะไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง
สองชั่วโมงต่อมา
ในเวลานี้แม้แต่ลู่อันก็ตระหนักได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ ถังเส้าหยางตัดสินใจในทันทีและเลือกที่จะหยุดพัก
ในตอนนี้พระอาทิตย์ได้ตกและพระจันทร์ก็ได้ลอยขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะมีม่านหมอก แต่ก็ต้องขอบคุณแสงจันทร์ที่จะพอทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นได้
“เรามาพักที่นี่กันเถอะ!” ถังเส้าหยางชี้ไปที่หญ้าสีเขียวสั้นๆ “นายนอนก่อน แล้วเราจะผลัดกันทีหลัง!”
“แต่…” ลู่อันไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของถังเส้าหยาง ในความเห็นของเขา การออกจากสวนสาธารณะโดยเร็วที่สุดก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าการนอนในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกนี่ ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะเดินทางต่อไป
“พักผ่อนซะ!” ถังเส้าหยางขึ้นเสียงและลู่อันก็หุบปากไปในทันที เขาทำตามคำสั่งของบอสและนอนลงบนหญ้าเย็น
แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาชอบที่จะเดินทางต่อไป แต่เขาก็ผล็อยหลับไปทันทีเมื่อร่างของเขาแตะกับพื้นหญ้า ลู่อันมาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ถังเส้าหยางตัดสินใจหยุดพัก
สิบชั่วโมง ทั้งคู่หยุดอยู่ที่เดิมเป็นเวลาสิบชั่วโมง โชคดีที่ลิงไม่ได้โจมตีพวกเขาอีก ลู่อันและถังเส้าหยางนอนหลับไปคนละห้าชั่วโมงตามลำดับ สีหน้าของลู่อันเองก็ดีขึ้นมากหลังจากตื่นนอน
ทั้งคู่ทานอาหารง่ายๆ กินบิสกิต ช็อคโกแลต และน้ำเปล่า ลู่อันไม่อยากอาหาร แต่ถังเส้าหยางบังคับให้เขากิน หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางต่อ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่อันก็รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าเขาหลงทางในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกแห่งนี้ แม้จะเดินตามถนนลาดยางแล้วแต่มันก็ยังไม่สามารถออกจากสวนได้
“บอส…” ลู่อันตื่นตระหนก แต่จากนั้นถังเส้าหยางก็เอานิ้วชี้ไปที่ปากแล้วส่งเสียง “ชู่ว!”
เขาบอกให้ลู่อันหุบปากและลู่อันก็ปิดปากไปในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง ไม่นานหลังจากเสียงนั้น เขาก็รู้สึกว่าพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงังขึ้นราวกับกองทัพทหารม้าโจมตี แต่ลู่อันก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่กองทัพทหารม้า จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเสียงนั้นกำลังมาถึงพวกเขาและในไม่ช้าสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังก็ปรากฏขึ้น
มันเป็นลิงตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม… สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ใหญ่กว่า แขนขาทั้งสี่ของมันดูแข็งแรงมาก ลิงตอนนี้ดูเหมือนลิงกอริลลามากกว่าลิง
โฮก!
กอริลลาคำรามใส่เขาและลู่อันก็แข็งค้างไปในทันที เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะมาถึง แขนมันใหญ่พอๆกับร่างกายของเขา จากนั้นขวานศึกที่คุ้นเคยก็กวาดไปที่กอริลลา
แบ้มมม!
กอริลลากระโดดหลบไปได้อย่างายดายและไม่ได้รับบาดเจ็บ
“วิ่ง!” ถังเส้าหยางตะโกนใส่หูของลู่อัน