292 - ผู้สูงสุดสิ้นชื่อ
1603 - ผู้สูงสุดสิ้นชื่อ
ฮ่อง!
เมิ่งเทียนเจิ้งถือกระบี่เซียนไว้ในมือร่างกายเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโจมตีเข้าใส่ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิคนนั้นอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนั้นเองที่ผู้สูงสุดสามคนจากเมืองจักรพรรดิ์ได้มาถึงสนามรบพอดี ในขณะเดียวกันนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิ์ก็เข้าร่วมการต่อสู้อย่างดุเดือด
“ฆ่า…”
เสียงโห่ร้องของพวกเขาดังกึกก้องทั่วทั้งสนามรบ
ปู!
ความองอาจกล้าหาญของเมิ่งเทียนเจิ้งนั้นไม่มีใครเทียบได้ แม้ว่าจะเผชิญกับสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิเขาก็ยังคงสงบนิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้เขาได้ฟันร่างของผู้สูงสุดจากต่างมิติคนหนึ่งจนขาดออกจากกันเป็นสองท่อน ทำให้เกิดฝนเลือดกระจายไปในทุกทิศทาง
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในสนามรบตกใจเป็นอย่างมาก ต้องเข้าใจว่าเขากำลังต่อสู้กับผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิในขณะเดียวกันก็ป้องกันการโจมตีของผู้สูงสุดอีกหกคนอย่างแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังสามารถมีความสำเร็จเช่นนี้ได้!
แม้ว่าจะมีผู้สูงสุดสามคนจะพุ่งออกมาจากเมืองจักรพรรดิ์เพื่อแบ่งเบาความกดดันของเขา แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะมาถึงในทันที!
“พวกเจ้าอยู่เฉยๆ เมื่อตระกูลจักรพรรดิปรากฏตัวพวกเราจะไม่ร่วมมือกับคนอื่น!” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิตะโกนออกมา
เขาไล่ผู้สูงสุดคนอื่นออกไป ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเขากับเมิ่งเทียนเจิ้ง
“ผู้อาวุโสเมิ่งไม่มีใครเทียบได้!” ผู้คนมากมายตะโกนออกมาจากกำแพงเมืองจักรพรรดิ พวกเขารู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่ปะทุอยู่ภายในใจ
ในอดีตตระกูลจักรพรรดิไม่เคยมีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ได้ อย่างไรก็ตามวันนี้เมิ่งเทียนเจิ้งถึงกับไล่กดดันเขาอยู่ในทุกการกระทำ
ปู!
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดกระบี่เซียนตัดแยกท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน รัศมีกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวฟาดฟันเข้าใส่ลำคอของผู้สูงสุดคนหนึ่งจนศีรษะของเขาบินออกไป ทุกคนที่อยู่ในสนามรบต่างหยุดนิ่งลืมแม้กระทั่งการต่อสู้ระหว่างความเป็นความตายของตนเอง
โฮ่ว!
ผู้สูงสุดคนนั้นคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวเขายังไม่ตายแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขากระเด็นออกไปพร้อมกับฝนเลือดที่โปรยปรายลงสู่สนามรบ
ใบหน้าของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามายุ่ง แต่ในที่สุดเมื่อคนเหล่านั้นลงมือช่วยเหลือกลับถูกเมิ่งเทียนเจิ้งทำร้ายจนเกือบเสียชีวิต
เกียง!
กระบี่เซียนปลดปล่อยแสงแพรวพราว ในขณะที่ทุกคนตกตะลึงเมิ่งเทียนเจิ้งก็ทะยานไล่ตามศีรษะที่กระเด็นออกไปของผู้สูงสุดคนนั้น
“เจ้ากล้าเหรอ!” ผู้สูงสุดคนอื่นๆรีบสกัดกั้นเขาด้วยการโจมตีที่ทรงพลัง
ทันใดนั้นแสงสดใสก็ครอบคลุมร่างของเมิ่งเทียนเจิ้งไว้ ประตูลึกลับมากมายถูกเปิดขึ้นภายในกายของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในการใช้ร่างกายเป็นเมล็ดพันธุ์ แต่เมื่อมันถูกผสานเข้ากับคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ก็ทำให้ข้อเสียทั้งหมดที่เคยมีถูกลบหายไป
ทันใดนั้นเสียงหงก็ดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือขนาดใหญ่บินเข้าหาศีรษะของผู้สูงสุดที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้น!
ปู!
ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของผู้สูงสุดมากมาย ศีรษะของผู้สูงสุดคนนั้นถูกฝ่ามือของเมิ่งเทียนเจิ้งกระแทกเข้าใส่จนระเบิดออกจากกันอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นฝนสีเลือดก็โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าน้ำพร้อมกับพุสีแดงที่พุ่งขึ้นมาจากทะเลทรายอันแห้งแล้ง
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่าสวรรค์และปฐพีร่ำไห้จากการเสียชีวิตของผู้สูงสุด สิ่งเหล่านี้เคยปรากฏขึ้นมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง
“ศักดิ์ศรีที่ยึดมาจากการเข่นฆ่า ผู้อาวุโสเมิ่งไม่มีใครเทียบได้!” หลายคนที่ด้านบนของกำแพงเมืองจักรพรรดิส่งเสียงตะโกนดังลั่น
“หลังจากนี้ห้ามพวกเจ้าสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยว! ข้าจะจัดการกับเขาด้วยตัวคนเดียว!” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหารสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
โดยปกติแล้วการปรากฏตัวของเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ์นั้นยิ่งใหญ่และโอ่อ่า พวกเขาจะเต็มไปด้วยความมั่นใจเสมอ
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเก้าสวรรค์ขาดแคลนศีรษะของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิมาเส้นสรวงให้กับวิญญาณของผู้ตายพอดี ต้องขอบคุณเจ้าที่เสนอตัวมาเอง!” เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวพร้อมกับชี้กระบี่ไปที่ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิคนนั้น
สังหารใครบางคนจากตระกูลจักรพรรดิ์? คำพูดของเมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้มีเสียงดังมากนัก แต่ใจความของมันกับดังกึกก้องเหมือนเสียงฟ้าร้อง ผู้คนจากทั้งสองฝั่งต่างสั่นสะท้านหวั่นไหว
หลังจากสิ้นสุดสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้าย ก็ยังไม่เคยมีทายาทของตระกูลจักรพรรดิที่ได้รับอันตรายด้วยน้ำมือของสิ่งมีชีวิตจากเก้าสวรรค์ คนเหล่านี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไร้พ่ายซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้ไร้เทียมทานในโลกนี้!
แน่นอนว่าคนปกติย่อมไม่สามารถพบปะกับผู้ที่มาจากตระกูลจักรพรรดิได้ อีกทั้งบุคคลระดับผู้สูงสุดยิ่งไม่ปรากฏตัวมาเป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว
บุคคลที่มีสถานะสูงส่งเช่นพวกเขามักจะเก็บตัวในดินแดนของบรรพบุรุษอย่างยาวนาน เพื่อที่จะพยายามก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ
โดยปกติแล้วจะมีเพียงทายาทรุ่นเยาว์ของพวกเขาเท่านั้นที่ปรากฏตัวออกมาในทุกๆหมื่นปี เพื่อให้ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ของตระกูลราชาได้มีโอกาสท้าทายพวกเขา
และทุกครั้งที่บุคคลเหล่านี้ปรากฏตัวออกมาก็จะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้
“ฮ่าฮ่า…” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิคำรามพร้อมกับเสียงหัวเราะ เขาสวมชุดเกราะสีดำที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลทำให้ร่างกายของเขาพร่ามัวมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
เสียงหัวเราะของเขาดังกึกก้องราวกับคลื่นยักษ์ทำให้ทุกคนในสนามรบนี้สั่นสะท้านเหมือนกับว่าร่างกายของพวกเขาจะระเบิดออกจากกันได้ทุกเมื่อ
“ไม่เคยมีใครกล้าพูดคำเหล่านี้กับข้า ให้ข้าฉีปู้ดูว่าเจ้ามีความสามารถมากแค่ไหนกัน!” ฉีปู้ผู้สูงสุดตระกูลจากจักรพรรดิกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เฉี้ยง!
ริ้วแสงสีเงินถูกซัดออกมาอาวุธสีดำสนิทปรากฏขึ้นในมือของเขา มันคือหอกสวรรค์เล่มใหญ่ที่มีรัศมีความเย็นแผ่ออกไปด้านนอก
กา!
เขาชี้หอกเล่มนั้นไปที่เมิ่งเทียนเจิ้ง สวรรค์และปฐพีเกิดการสั่นสะเทือนหอกสวรรค์กวาดผ่านทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ราวกับพายุทรายอันบ้าคลั่งของวันสิ้นโลก
เวง!
หอกสวรรค์กวาดไปทุกทิศทุกทางด้ามหอกที่เป็นโลหะสั่นสะเทือนเล็กน้อย ทะเลทรายอันยิ่งใหญ่กลายเป็นทุ่งน้ำแข็งในทันทีเช่นเดียวกับโลกใต้พิภพที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแช่แข็งภายใต้รัศมีของหอก
จิ!
เมิ่งเทียนเจิ้งชักกระบี่ของเขาออกมา พร้อมกับปลดปล่อยรังสีกระบี่สีทองอันน่าอัศจรรย์โจมตีเข้าใส่ฉีปู้ผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิคนนั้นด้วยความรุนแรง
ด้วยเสียงดังสนั่นสนามรบอันกว้างใหญ่เริ่มสั่นสะเทือนเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างจะพลิกคว่ำ รอยแยกของมิติที่เกิดจากรัศมีของอาวุธทั้งสองมีมากมายหลายสิบล้านเส้น
โชคดีที่ผู้คนมากมายในสนามรบต่างรู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้มันจะรุนแรงมากแค่ไหน พวกเขาจึงถอยห่างออกจากรัศมีการโจมตีให้มากที่สุด
เห็นได้ชัดว่าหอกสวรรค์เล่มนี้มีความพิเศษอย่างยิ่งเพราะมันเคยเป็นอาวุธของผู้ไม่ดับสูญคนหนึ่งในอดีต ตราบใดที่ฉีปู้สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะได้ อาวุธของเขาก็จะเลื่อนระดับกลายเป็นอาวุธชั้นเซียนทันที
เฉียงเฉียง…
ประกายไฟปลิวออกไปทุกทิศทาง เมิ่งเทียนเจิ้งถือกระบี่เซียนครึ่งท่อนต่อสู้กับฉีปู้อย่างดุดันอำมหิต ทั้งสองแลกเปลี่ยนการโจมตีอย่างรวดเร็ว
เพียงเวลาไม่นานทั้งคู่ก็ต่อสู้กันมากกว่าหมื่นกระบวนท่าเข้าไปแล้ว พวกเขาใช้ออกด้วยญาณวิเศษอันทรงพลังร่างกายของพวกเขาแฉลบไปมาเหมือนกับสายฟ้า
เกียง!
กระบี่เซียนตัดผ่านพื้นที่อันว่างเปล่ามาถึงหน้าผากของฉีปู้เตรียมจะทำลายวิญญาณดั้งเดิมของเขา
แดง!
นิ้วของฉีปู้ชี้ออกไปกระทบเข้าที่ส่วนหนาของกระบี่จนส่วนคมของมันเบี่ยงเบนออก ทันใดนั้นแสงสีทองแพรวพราวก็ปะทุขึ้นพร้อมกับโซ่คำสั่งเทพเจ้ามากกว่าสามพันเส้นผุดออกมาจากความว่างเปล่า
“ดัชนีตัดเซียน!” ผู้สูงสุดคนหนึ่งจากต่างมิติอุทานออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
วิชาลับนี้เคยถูกใช้สังหารราชาอมตะไร้สิ้นสุดโดยการลงมือของจักรพรรดิแดง นี่เป็นญาณวิเศษอันยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงเลื่องลือในต่างมิติ
แม้ว่าวิชานี้จะเผยแพร่ไปในโลกภายนอก แต่กลับไม่มีผู้ใดสามารถใช้ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ญาณวิเศษชนิดนี้จะต้องถูกใช้ออกด้วยผู้คนจากสายเลือดตระกูลฉีเท่านั้นถึงจะแสดงพลังของมันได้อย่างสูงสุด!