290 - วิญญาณบรรพบุรุษ
290 - วิญญาณบรรพบุรุษ
สิ่งมีชีวิตตนนั้นปลดปล่อยเสียงคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าใส่เมิ่งเทียนเจิ้งด้วยความเร็วทันที
แขนของมันยื่นเข้าหาเมิ่งเทียนเจิ้งอย่างโหดเหี้ยม โดยต้องการที่จะจับเขาไว้ก่อน
รัศมีพลังประเภทนี้น่ากลัวเต็มไปด้วยความอำมหิต แม้แต่ผู้สูงสุดบางคนของเมืองจักรพรรดิยังเกิดความรู้สึกว่าวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาสั่นสะเทือนไม่มั่นคง
บนกำแพงเมืองจักรพรรดิใบหน้าของผู้สูงสุดทั้งห้าซีดเผือดลงทันทีด้วยความหวาดกลัว เป็นเพราะพวกเขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตตอนนี้มาบ้าง เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองพวกเขาจึงไม่สามารถรักษาความสงบไม่ได้อีก
สำหรับกองทัพจากต่างมิติที่อยู่ห่างไกลพวกเขาทุกคนต่างโห่ร้องอย่างตื่นเต้น พวกเขามีโอกาสได้เป็นสักขีพยานในการโจมตีของสิ่งมีชีวิตตนนั้น
เป็นเพราะนี่คือร่างจำแลงของจักรพรรดิแดงเมื่อครั้งที่บรรลุความเป็นอมตะใหม่ๆ
วัตถุประสงค์ของมันมีเพียงสิ่งเดียวคือจับสิ่งมีชีวิตที่เป็นศัตรูเข้าไปในเตาหลอมราชันย์แดงและทำการหลอมกลั่นศัตรูให้กลายเป็นพลังของตนเอง
ในอดีตร่างนี้เคยหลอมละลายร่างกายของผู้สูงสุดจากเก้าสวรรค์มาไม่น้อยความแข็งแกร่งของมันเป็นที่ทราบได้
ฮ่อง!
เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างเต็มที่พร้อมกับฟาดฟันกระบี่ไปข้างหน้าอย่างดุดัน
ยิ่งไปกว่านั้นมืออีกข้างหนึ่งของเขายังประสานอินเพื่อปลดปล่อยญาณวิเศษระดับเทพเจ้าออกมา
ฝ่ามือและนิ้วของเขาเปล่งประกายด้วยคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้เขาใช้มันโจมตีตามหลังกระบี่เซียนเพียงเล็กน้อย
“เจ้าเป็นเพียงวิญญาณอาฆาตของบรรพบุรุษผู้หนึ่งของเรา ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีก!” เมิ่งเทียนเจิ้งตวาดด้วยเสียงดัง
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เตาหลอมราชันย์แดงนี้เป็นอาวุธของจักรพรรดิแดงมันเคยถูกใช้เพื่อสังหารราชาอมตะ
ถ้าสิ่งมีชีวิตร่างสีแดงนี้ไม่ใช่ร่างจำแลงของจักรพรรดิแดงตามที่เล่าลือ ย่อมหมายความว่าเป็นวิญญาณอาฆาตของสิ่งมีชีวิตที่เคยถูกมันสังหาร?
เมื่อพวกเขาทุกคนไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนพวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกหนาวสั่นไปถึงหัวใจ หากเป็นอย่างที่พวกเขาคิดผู้ใดจะกล้าเผชิญหน้ากับมัน
โชคดีที่นี่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นจากกฎธรรมชาติซึ่งเป็นญาณวิเศษชนิดหนึ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วทุกคนได้แต่หลบหนีเอาชีวิตรอด
แดง!
กระบี่ที่มีเพียงครึ่งเล่มตัดผ่าแยกเตาล้อมสีแดงขาดออกจากกันเป็นสองส่วน
นอกจากนี้ฝ่ามือของเมิ่งเทียนเจิ้งยังเปล่งประกายด้วยแสงแห่งสวรรค์พร้อมกับฟาดเข้าใส่ร่างสีแดงซึ่งถูกคุมขังไว้
"ตื่นขึ้น!" ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกน
"ตื่นขึ้นเดี๋ยวนี้!" ในเวลาเดียวกันบนกำแพงเมืองจักรพรรดิ ดวงตาของหลายๆคนก็กลายเป็นสีแดงก่ำเป็นเพราะทุกคนทราบแล้วว่านี่คือดวงวิญญาณของราชาอมตะของพวกเขา!
ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นบรรพบุรุษของเก้าสวรรค์สิบพิภพ เขาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนจนตัวตาย แต่นี่หรือคือจุดจบของวีรบุรุษคนหนึ่ง
มีตำนานมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำในชายแดนรกร้าง มีแม้กระทั่งร่องรอยการต่อสู้ของเขาในอดีตเขาเป็นวีรบุรุษของเก้าสวรรค์สิบพิภพอย่างแท้จริง
ในฐานะผู้คนของเก้าสวรรค์ทุกคนจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร
หลังจากที่ถูกเมิ่งเทียนเจิ้งตวาดใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งมีชีวิตตนนั้นก็ลืมตาขึ้นมาราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีที่คุ้นเคยเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
หลังจากนั้นดวงตาสีแดงก่ำของเขาก็มีประกายความโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด ก่อนที่เขาจะระเบิดพลังอันรุนแรงออกมาเพื่อทำลายเตาหลอมราชันย์แดงไปพร้อมกับวิญญาณของตนเอง
บูม!
ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ แม้แต่เศษซากของเตาหลอมก็ยังสูญสลายเป็นเถ้าธุรี
ผู้คนในกองทัพจากต่างมิติสะท้านหวั่นไหว เมิ่งเทียนเจิ้งเป็นคนที่น่ากลัวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสามารถทำลายเตาหลอมราชันย์แดงของตระกูลจักรพรรดิได้จริงๆ?
“ชายผู้นี้แข็งแกร่งจริงๆ เขาใช้วิธีการอันทรงพลังและรวดเร็วที่สุดเพื่อปลุกวิญญาณของบรรพบุรุษเก้าสวรรค์ให้ตื่นขึ้นมา” ผู้สูงสุดคนหนึ่งจากฝั่งต่างมิติกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“ แม้ว่าชายคนนี้จะแข็งแกร่งเกินกว่าสามัญสำนึกทั่วไป ถึงกับสามารถปลดปล่อยวิญญาณบรรพบุรุษเก้าสวรรค์ให้หลุดพ้นไปได้
แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็ไม่ใช่เตาหลอมราชันย์แดงที่แท้จริง มันเป็นเพียงญาณวิเศษของจักรพรรดิแดงเท่านั้น” ผู้สูงสุดอีกคนรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ
โดยไม่รอช้าผู้สูงสุดหกคนก็ปรากฏตัวออกมาล้อมเมิ่งเทียนเจิ้งไว้ตรงกลางอย่างรวดเร็ว!
หากไม่ใช่ว่าคนเหล่านี้คอยควบคุมสถานการณ์อยู่ กองทัพอันยิ่งใหญ่นับล้านของพวกเขาไม่ทราบว่าจะสูญเสียไปเท่าไหร่
หากปล่อยให้เมิ่งเทียนเจิ้งทำตามอำเภอใจอยู่อย่างนี้ พวกเขาคงไม่มีหน้ากลับไปพบจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญได้
ฮ่อง!
แต่ทันใดนั้นผู้สูงสุดทั้งหกก็กระโดดถอยไปด้านหลังเพื่อหลบหลีกจากคลื่นมหาศาลที่แผ่ออกมาจากด้านหลังของทะเลทรายอันกว้างใหญ่
ปรากฏเป็นธงสงครามที่มีขนาดใหญ่กว้างนับแสนลี้ ลอยลงมาจากท้องฟ้าปกคลุมทะเลทรายแห่งนี้ไว้
มันเป็นธงผืนเก่าคร่ำคร่าที่อาบด้วยโลหิตสีแดง มันตกลงครอบคลุมสิ่งมีชีวิตในกองทัพศัตรูต่างมิติไว้ด้านใน!
“ธงสงครามเลือดเหล็กในอดีต!” มีใครบางคนจากฝั่งต่างมิติกรีดร้องด้วยความตกใจ
มันไม่ใช่เพียงแค่ธงสงครามเท่านั้น แต่ยังเคยถูกใช้เป็นผ้าห่อศพราชาอมตะถึงสองคนเพื่อส่งร่างกายของพวกเขากลับคืนสู่เก้าสวรรค์
เมื่อโลหิตกันแท้ของราชาอมตะไหลซึมลงสู่ธงสงครามที่เก่าคร่ำคร่ามันจึงกลายเป็นของวิเศษขั้นเซียนขึ้นมา
ความสำคัญของธงสงครามผืนนี้ยิ่งใหญ่อย่างถึงที่สุด มันเป็นตัวแทนจากการต่อสู้อันข่มขืนในสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้าย
เมิ่งเทียนเจิ้งน้ำมันติดตัวมาด้วยพร้อมกับเปิดใช้งานอย่างลับลับ ตั้งแต่ที่เขากระโดดลงมาจากกำแพงเมืองจักรพรรดิครั้งแรก
โดยหวังที่จะใช้มันสร้างความปั่นป่วนในกองทัพของศัตรูเพื่อทำการช่วยเหลือสือฮ่าวออกมา
ฮ่อง!
ธงสงครามปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตออกมา แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงแต่ทุกสิ่งมีชีวิตของเก้าสวรรค์ล้วนให้ความเคารพมันอย่างสูง
"ฆ่า!"
“สังหารปีศาจต่างมิติให้หมด!”
ทันใดนั้นมีร่างวิญญาณอันพร่ามัวเดินออกมาจากธงสงครามทีละคนๆ กายเนื้อของพวกเขาแหลกสลายไปหลายล้านปีแล้วแต่ถึงกระนั้นความตั้งใจที่จะทำการสู้รบของพวกเขายังคงอยู่เสมอ
แม้ว่าจะตายไปนานหลายปีแต่วิญญาณของพวกเขาก็ไม่ยอมเข้าสู่กฏวัฏสังขาร พวกเขาสิงสถิตอยู่ในธงสงครามผืนนี้เพื่อรอวันที่จะได้ต่อสู้กับศัตรูต่างมิติอีกครั้ง
ปุ๋ปุ๋ปุ๋…
ธงสงครามกระพือสะบัดอย่างรุนแรง รัศมีพลังของมันกวาดผ่านกองทัพต่างมิติพร้อมกับมีศีรษะของศัตรูลอยขึ้นฟ้าหลายหมื่นหัว
"ฆ่า!"
บนกำแพงเมืองจักรพรรดิเลือดของผู้คนเริ่มเดือดพล่านเมื่อพวกเขาได้เห็นฉากนี้
ตั้งแต่พวกเขาเกิดมาไหนเลยจะเคยเห็นการสังหารศัตรูอย่างสมใจขนาดนี้มาก่อน?
“เปิดประตูเมืองเราจะออกไป!”
“เราจะเข่นฆ่าไอ้ปีศาจพวกนี้ให้หมด!”
นักรบผู้ยิ่งใหญ่หลายทุกคนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น พวกเขาพร้อมที่จะออกไปช่วยเหลือผู้อาวุโสใหญ่ทำการกวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก
"ฆ่า!" แม้แต่ผู้สูงสุดคนหนึ่งก็ยังเกิดอารมณ์ร่วมไปกับทุกคน
หง!
ในส่วนลึกของทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ธงสงครามเลือดเหล็กกวาดไปรอบๆกองทัพของศัตรูราวกับพายุอันบ้าคลั่ง
กองทัพขนาดใหญ่ถูกสังหารร่วงลงกับพื้นราวกับใบไม้ เลือดของพวกเขากระจายไปทั่วทุกหน เมื่อธงกวาดไปที่ใดก็จะมีผู้คนล้มตายอย่างไม่สิ้นสุด
แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเพราะเมื่อมันบินเข้าใกล้สือฮ่าวห่างเพียงไม่กี่จ้างเท่านั้น ก็มีพลังความโกลาหลอันมากมายมหาศาลพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
ถุงสวรรค์และพิภพปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าเพื่อขัดขวางไม่ให้ธงสงครามเลือดเหล็กเข้าถึงตัวของสือฮ่าวได้
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็รู้แจ้งในวัตถุประสงค์ของเมิ่งเทียนเจิ้งอยู่ตั้งแต่แรก สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดคนหนึ่งจึงเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
"ฆ่า!"
บนกำแพงเมืองจักรพรรดิประมุขของหลายตระกูลต่างตะโกนเพื่อให้การสนับสนุนผู้อาวุโสใหญ่ ตอนนี้เลือดของหลายคนเริ่มเดือดพล่านจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาถูกจุดขึ้นมาแล้ว
มีผู้คนมากมายกระโดดลงมาจากกำแพงเข้าสู่ค่ายกลเคลื่อนย้ายพวกเขาต้องการเดินทางออกไปช่วยเหลือผู้อาวุโสใหญ่
“ได้โปรดเปิดประตูเมืองให้เราไป!” นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่ขี่สัตว์อสูรกลืนสวรรค์ตะโกนออกมา
ทุกสายตาจับจ้องไปยังผู้สูงสุดที่เป็นอาจารย์ของฉีหง เป็นเพราะว่าเขาคือผู้ควบคุมค่ายกลเคลื่อนย้ายของเมืองจักรพรรดิ์
ผู้สูงสุดหลายคนของเมืองจักรพรรดิมองหน้ากันเพื่อขอคำปรึกษา เมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านอาจารย์ของฉีหงจึงกล่าวขึ้นว่า
“เราจะออกจากเมืองเพื่อไปช่วยเหลือสหายเต๋าเมิ่งเทียนเจิ้ง!” ปรมาจารย์รถศึกห้าวิญญาณเป็นผู้นำกองทัพออกไปด้วยตนเอง