ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 12
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 12
หลังจากลงมือลอบสังหารได้สำเร็จ ร็อดก็ได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมากจากการสังหารคู่ต่อสู้ระดับผู้กล้า จากการใช้ค่าประสบการณ์เหล่านั้น ระดับของร็อดในปัจจุบันคือ ขั้นที่หนึ่ง ทหารอาสา เลเวล 10 ซึ่งนับได้ว่าเป็นขั้นมาตราฐานระดับสูง
เดิมทีร็อดนั้นไม่คิดที่จะรีบร้อนเพิ่มขั้นในตอนนี้ หลังจากการต่อสู้นี้จบลงแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือวางแผนการสำหรับสายอาชีพที่จะมุ่งไปในอนาคต พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียก่อนจะเลื่อนขั้น
แต่ภายใต้สถานการณ์อันบีบคั้น ค่าประสบการณ์เหล่านี้จึงจำต้องใช้ออกเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่จะโค่นล้มศัตรูที่เบื้องหน้า
ตรงตำแหน่งที่เคยแสดงตัวเลขค่าประสบการณ์นั้น ตอนนี้กลับปรากฏลูกศรชี้ขึ้นด้านบน ซึ่งนี่คือสิ่งที่ร็อดจะต้องทำการตัดสินใจเลือก
-----------------------------------------------------
[ขั้นที่ 2 ทหารยาม]
ความต้องการของอาชีพก่อนหน้า: ทหารอาสา
สกิลที่ต้องการ: ไม่มี
ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนขั้น: 100
-----------------------------------------------------
-----------------------------------------------------
[ขั้นที่ 2 นักดาบ]
ความต้องการของอาชีพก่อนหน้า: ทหารอาสา
สกิลที่ต้องการ: ชำนาญดาบระดับสูง
ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนขั้น: 200
-----------------------------------------------------
-----------------------------------------------------
[ขั้นที่ 2 พลสอดแนม]
ความต้องการของอาชีพก่อนหน้า: ทหารอาสา
สกิลที่ต้องการ: ชำนาญดาบระดับต่ำ, ตาเหยี่ยวระดับต่ำ, สอดแนมระดับต่ำ
ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนขั้น: 200
-----------------------------------------------------
"......."
ไม่มีเวลาให้เลือกดูมากนัก ร็อดรีบเลือกอาชีพนักดาบทันที
"คุณใช้ค่าประสบการณ์จำนวน 200 หน่วย ค่าประสบการณ์ที่เหลืออยู่คือ 185 ระดับชั้นของตัวละครได้เลื่อนขั้นเป็น ขั้นที่ 2 นักดาบ เลเวล 1...."
"ได้รับแต้มคุณสมบัติจำนวน 1 แต้ม ได้รับแต้มสกิลจำนวน 1 แต้ม...."
-----------------------------------------------------
[นักดาบ] ความสามารถพิเศษ: ความเสียหายที่สร้างได้จะเพิ่มขึ้นโดยอิงจากระดับของความชำนาญดาบในปัจจุบัน
ระดับของความชำนาญดาบในปัจจุบัน: ระดับสูง โบนัสความเสียหาย 15%
-----------------------------------------------------
"คุณได้เรียนรู้สกิล [ดับเบิ้ลแสลช]"
-----------------------------------------
[ดับเบิ้ลสแลช ระดับ 1]: ใช้ค่าความอึด 5 หน่วย และปลดปล่อยการโจมตีสองครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว การฟันแต่ละครั้งสร้างความเสียหาย 80% ของพลังโจมตีพื้นฐาน
-----------------------------------------
"สกิล [เฮฟวี่แสลช ระดับ 2] ได้เลื่อนระดับเป็น [เฮฟวี่แสลช ระดับ 3]"
"คุณได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง [เริ่มต้นออกเดินทาง]"
-----------------------------------------
[เริ่มต้นออกเดินทาง]: เลื่อนเป็นอาชีพขั้นที่ 2
โบนัสพื้นฐาน: ค่าความสามารถทั้งหมด+1,
โบนัสเพิ่มเติมเมื่อสวมใส่: ค่าความเสียหายเพิ่มขึ้น 5%
-----------------------------------------
ร็อดรีบลงแต้มคุณสมบัติไปที่ค่าความแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ใช้แต้มสกิล 3 แต้มเรียนรู้ชำนาญดาบ ระดับเชี่ยวชาญ
-----------------------------------------
[ชำนาญดาบ ระดับเชี่ยวชาญ]: การขัดเกลาตนเองในวิถีแห่งดาบมาอย่างยาวนานทำให้คุณกลายเป็นปรมาจารย์แห่งการใช้ดาบ ดาบที่คุณถืออยู่ในมือจะแฝงไว้ด้วยพลังเวท คุณจะสามารถควบคุมมันได้ด้วยปลายนิ้ว ค่าความเสียหายที่สร้างจากดาบจะเพิ่มขึ้น 40%
-----------------------------------------
เมื่อนึกได้ว่ายังเหลือค่าประสบการณ์เพียงพอจะเพิ่มเลเวลได้อีกเลเวล ร็อดก็เตรียมจะลงมือ ทว่าร่างสถิตย์มานาได้พุ่งมาถึงตัวร็อดแล้ว เขาจึงได้แต่หันไปรับมือกับมันก่อน
เพราะมีตัวอย่างเช่นนักรบโครงกระดูกให้เห็นแล้ว ร็อดจึงไม่คิดที่จะต้านรับการโจมตีจากร่างสถิตย์มานา เขาจะป้องกันก็ต่อเมื่อหมดทางเลือกเท่านั้น
อันเดดที่อยู่โดยรอบค่อยๆโอบล้อมเข้ามา เนื่องเพราะร็อดเอาแต่หลบหลีกโดยไม่ตอบโต้ เป้าหมายของร่างสถิตย์มานาจึงเบนออกจากร่างของร็อด มันเริ่มหันไปโจมตีพวกอันเดดที่อยู่โดยรอบแทน
ร็อดรีบใช้โอกาสนี้ลงค่าประสบการณ์ไปอัพเลเวล
"คุณใช้ค่าประสบการณ์จำนวน 100 หน่วย ค่าประสบการณ์ที่เหลืออยู่คือ 85 ระดับชั้นของตัวละครได้เลื่อนขั้นเป็น ขั้นที่ 2 นักดาบ เลเวล 1 เป็น เลเวล 2...."
"ได้รับแต้มคุณสมบัติจำนวน 1 แต้ม ได้รับแต้มสกิลจำนวน 1 แต้ม...."
ร่างสถิตย์มานาต่อยใส่อันเดดเพียงครั้งสองครั้งก็สังหารพวกมันได้ จำนวนของพวกอันเดดเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
มันเป็นการไล่สังหารอยู่เพียงฝ่ายเดียว การต่อสู้ของมันนั้นไม่เหมือนกับร็อดที่พึ่งพาวิชาดาบ ร่างสถิตย์มานาเพียงพึ่งพากำลังกายที่เกิดจากการปะทุของมานาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การโจมตีโดยไม่สนใจสิ่งใดทำให้มันน่ากลัวอย่างมากในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เนื่องเพราะใช้ร่างกายอย่างเกินขีดจำกัด มันจึงเป็นการสร้างความเสียหายต่อทั้งศัตรูและตนเอง
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ไหนๆก็ไม่ต้องการให้มานาปะทุขึ้นภายในร่างกันทั้งนั้น ต่อให้มันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความน่าสะพรึงของการที่เส้นเลือดถูกระเบิดอย่างต่อเนื่องนั้นก็มีแต่พวกอันเดดที่ไร้ความรู้สึกเท่านั้นที่ทนได้
แม้ว่าร็อดจะไม่ได้มองดูการต่อสู้ของร่างสถิตย์มานา แต่เขาก็รู้ว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานนักก่อนที่ร่างสถิตย์มานาจะตายเพราะขาดมานา หรือไม่แน่มันก็อาจจะร่วงลงไปก่อนเพราะไม่เหลือร่างกายให้ถลุงใช้ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ร็อดก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถกำจัดอันเดดทั้งหมดได้ก่อน เขาจะไม่ยอมปล่อยค่าประสบการณ์อันแสนล้ำค่าหลุดมือไปเด็ดขาด!
หลังจากลงแต้มคุณสมบัติไปที่ค่าความแข็งแกร่ง ร็อดก็เริ่มวางแผนจัดการร่างสถิตย์มานา ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
ดาบในมือตวัดฟันอันเดดสองสามตัวที่อยู่ใกล้ๆล้มลงไป ขณะอันเดดส่วนใหญ่ต่างมุ่งเป้าไปที่ร่างสถิตย์มานา ร็อดก็ลอบเคลื่อนตัวไปทางด้านหลังของร่างสถิตย์มานา
ร่างสถิตย์มานายังคงรับมือกับพวกอันเดดที่อยู่ด้านหน้า หมัดของมันบดขยี้ฝ่ามือและหน้าอกของซอมบี้ตัวหนึ่งไปพร้อมกัน ขณะที่แขนของร่างสถิตย์มานาทะลวงแผ่นหลังของซอมบี้ตัวนั้น แขนของมันเองก็มีโลหิตสาดกระจายเพราะการปะทุขึ้นของมานา
เห็นแบบนั้น ร็อดก็รู้แล้วว่าร่างสถิตย์มานาคงยืนหยัดอยู่ได้อีกไม่นาน อย่างไรเสียร่างกายนั้นก็เป็นเพียงร่างกายขั้นที่สอง ทั้งยังถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงโดยไม่มีการหยุดพัก ดังนั้นร่างกายจึงมาถึงขีดจำกัด
ขณะที่ร่างสถิตย์มานากำลังโจมตีซอมบี้ ร็อดก็ยกโล่เหล็กขึ้นมาและพุ่งร่างออกไป
ในขณะที่อยู่ในสภาวะมานากลายสภาพนั้น ร่างกายของผู้ใช้จะแข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้า ก่อนหน้านี้มันก็ใช้แขนกันคมดาบมาได้หลายต่อหลายครั้ง อาจกล่าวได้ว่า คมอาวุธนั้นแทบจะไม่ระคายผิวของมัน
ด้วยเหตุนี้ร็อดจึงเลือกที่จะไม่ใช้ดาบโจมตีใส่ร่างสถิตย์มานา แต่ใช้โล่เหล็กแทน วิธีจัดการที่ได้ผลที่สุดก็คือการใช้อาวุธไร้คมโจมตีเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการพังทลายเร็วขึ้น
สกิลที่ได้รับผ่านสกิลตาเหยี่ยวนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ตลอด และเพื่อจะเพิ่มความเสียหายให้กับการโจมตีนี้ ร็อดจึงเรียนรู้สกิล [ชิลด์แสลม]
-----------------------------------------
[ชิลด์แสลม ระดับ 1]: ใช้ค่าความอึด 10 หน่วย ใช้โล่ที่อยู่ในมือคุณพุ่งกระแทกศัตรูอย่างรุนแรง สร้างความเสียหาย 120% ของพลังโจมตีพื้นฐาน และมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะมึนงง ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนระดับคือ 20
-----------------------------------------
เพื่อทำให้แน่ใจว่าการโจมตีนี้จะได้ผล ร็อดจึงใช้ออกด้วยทุกสกิลเท่าที่เขาจะใช้ได้
[ชาร์จ] [เบิร์ส] [ชิลด์แสลม] ทั้งสามสกิลถูกใช้ออกพร้อมกัน ซึ่งนั่นต้องใช้ค่าความอึดจำนวนมาก หากว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่เป็นไปตามคาด ด้วยพลังกายที่เหลืออยู่แล้ว ร็อดก็คงยากจะสู้ศึกต่อ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสังหารร่างสถิตย์มานา ร็อดจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป แม้โอกาสสำเร็จจะมีเพียงน้อยนิด แต่ร็อดก็จะคว้ามันไว้ให้ได้
เรียกใช้สามสกิลติดต่อกัน ประกอบกับเจตจำนงอันแน่วแน่ ร่างที่อาบรัศมีพลังหลากหลายสีสันของร็อดก็พุ่งตัวออกไป แม้จะสวมเพียงเกราะหนังเก่าขาด แม้โล่ที่ถืออยู่จะมีแต่รอยร้าว หากแต่สภาวะของร็อดในเวลานี้ได้เหนือกว่าการพุ่งชาร์จของทหารเกราะหนักไปแล้ว!
เกิดเสียงดังโครม และร่างสถิตย์มานาก็กระเด็นไปข้างหลัง มานาที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในร่างพลันถูกกระตุ้น ตามร่างกายของร่างสถิตย์มานาเริ่มบังเกิดรอยแตก
ร็อดควบคุมร่างกายให้หยุดลง จากนั้นจึงก้าวเท้าออกไปพลางเหวี่ยงฟาดโล่ใส่แผ่นหลังของร่างสถิตย์มานา
จากนั้นจึงโจมตีต่อไปโดยไม่ปล่อยให้ร่างสถิตย์มานาได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ
แรงกระแทกจากทั้งภายนอกและภายในทำให้ในที่สุดร่างกายของร่างสถิตย์มานาก็ทนไม่ไหว แม้จะยังมีมานาหลงเหลืออยู่ภายในร่าง แต่ร่างสถิตย์มานาก็หมดสภาพและล้มลงบนพื้น......