บทที่ 7 ตายเถอะ ขอร้องง..
บทที่ 7 ตายเถอะ ขอร้องง..
แขนสองข้างทิ่มทะลุกำแพง มันห่างจากแก้มของถังเส้าหยางเพียงไม่กี่เซนติเมตร โชคดีที่เขาสามารถหลบได้ในวินาทีสุดท้าย
มันเป็นการโจมตีที่เฉียดฉิวมาก หัวของเขาเกือบจะถูกแทงทะลุด้วยกรงเล็บอันน่ากลัวของคลาวเลอร์ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด คลาวเลอร์ยังมีชีวิตอยู่ มันอ้าปากและเผยให้เห็นถึงฟันเคี้ยงที่ดูหยาบและแหลมคม
ถังเส้าหยางหมอบลงในทันทีและหลบเลี่ยงการกัดของคลาวเลอร์ไปได้อย่างเฉียดฉิว เขาก็เลือกที่จะกลิ้งออกจากพื้นที่ของคลาวเลอร์และกำมีดไว้มือทั้งสองข้าง
ในขณะที่แขนของคลาวเลอร์ติดอยู่บนผนัง ถังเส้าหยางก็ฟันมีดเข้าไปที่คอของคลาวเลอร์
ถังเส้าหยางยิ้มเยาะขณะที่เขาคิดว่าเขาได้ชนะการต่อสู้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีดแล่เนื้อไปถึงคอของคลาวเลอร์ รอยยิ้มของถังเส้าหยางก็หยุดนิ่งไปเมื่อมีดเด้งกลับ
คอของคลาวเลอร์เป็นเหมือนก้อนหินแข็งที่ฟันไม่เข้า ขณะที่คลาวเลอร์ยังคงพยายามดึงมือออกจากกำแพง ถังเส้าหยางก็ใช้โอกาสนี้ลองตัดคอของคลาวเลอร์อีกครั้ง
เช่นเดียวกับความพยายามครั้งแรกของเขา มีดเด้งกลับมา มีดไม่สามารถทะลุชั้นผิวหนังของคลาวเลอร์ได้
ถังเส้าหยางถอยกลับทันทีหลังจากนั้น เขาสร้างระยะห่างจากคลาวเลอร์ ขณะที่มันเกือบจะดึงแขนทั้งสองออกจากผนังได้ เขาเสียโอกาสที่จะฆ่าคลาวเลอร์ไปและประสบปัญหามากขึ้น มีดไม่สามารถตัดคอของคลาวเลอร์ได้
ถ้ามีดแล่เนื้อตัดคอของคลาวเลอร์ไม่สำเร็จ แล้วเขาจะฆ่าคลาวเลอร์ได้ยังไง? เขามีวิธีรับมือกับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของคลาวเลอร์แล้ว แต่เขายังไม่มีวิธีที่จะฆ่ามัน
อาวุธที่คมที่สุดที่เขามีไม่สามารถตัดคอของคลาวเลอร์ได้ ถังเส้าหยางกำลังคิดหาวิธีที่จะฆ่าคลาวเลอร์ ในขณะที่เขาเดินไปที่กำแพงอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันคลาวเลอร์ก็ดึงแขนทั้งสองข้างออกจากกำแพงและมองไปที่ถังเส้าหยางด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จากนั้นมันก็วิ่งเข้าหาเขาเร็วขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ได้เตรียมตัวสำหรับสิ่งนี้แล้ว
เขากลิ้งหลบทันทีและหลีกเลี่ยงการกระโจนของคลาวเลอร์ และนั่นก็ทำให้แขนทั้งสองข้างของมันติดอยู่กับกำแพงอีกครั้ง
ถังเส้าหยางรีบตั้งหลักและฟันมีดไปที่แขนของคลาวเลอร์ เมื่อเขาตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถตัดคอของคลาวเลอร์ได้ คราวนี้เขาจึงเล็งไปที่แขนเพื่อทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลงแทน
“ฉันตัดคอแกไม่ได้ งั้นฉันจะตัดแขนแกแทนก็ได้!”
เขากวัดแกว่งมีดไปอย่างสุดกำลัง
ปุป!
ของเหลวสีเขียวพุ่งออกมาจากแขนของมัน ถังเส้าหยางเล็งมีดไปที่มืออีกข้างของคลาวเลอร์โดยไม่ลังเล เขากวัดแกว่งมีดออกไปอย่างสุดกำลัง
ปุป!
สีเขียวพุ่งออกมาจากแขนอีกข้างของคลาวเลอร์ ตอนนี้มันสูญเสียแขนทั้งสองข้างไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ปล่อยเสียงใดๆออกมา ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด
ถังเส้าหยางถอยกลับในทันที เขาสร้างระยะห่างที่ปลอดภัยจากคลาวเลอร์อีกครั้ง
เขาอยู่ห่างจากคลาวเลอร์ไปประมาณ 10 เมตร จากนั้นเขาก็เห็นคลาวเลอร์ยังคงจับตาดูเขาอยู่ มันต้องการพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง แต่มันก็สูญเสียแขนทั้งสองข้างไปแล้ว มันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเหมือนเมื่อก่อน และเมื่อเป็นเช่นนั้น คลาวเลอร์ก็เดินกะโผลกกะเผลกเข้าหาเขา
มันช้าลงไปมากเมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ เมื่อถังเส้าหยางมองไปที่คลาวเลอร์ ถังเส้าหยางก็ยิ้มเยาะออกมา ตอนนี้คลาวเลอร์เป็นเหมือนสัตว์สี่เท้าที่สูญเสียแขนขา มันยังคงล้มไปข้างหน้าขณะที่มันพยายามจะพุ่งไปที่ถังเส้าหยาง
ถังเส้าหยางรีบวิ่งไปข้างหน้าและอ้อมไปทางข้างหลังของคลาวเลอร์ความคล่องตัวที่อ่อนแอของคลาวเลอร์ไม่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของถังเส้าหยางได้ทัน และนั่นก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันไปอย่างกะทันหัน มันถึงคราวของคลาวเลอร์แล้วที่จะไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของถังเส้าหยางได้ทัน
ถังเส้าหยางหันกลับมาและตัดเท้าของคลาวเลอร์ เขาใส่กำลังทั้งหมดลงในมีดและตัดแขนขาที่เหลือของคลาวเลอร์
หลังจากตัดแขนขาที่เหลือของคลาวเลอร์เสร็จ ถังเส้าหยางก็ถอยกลับ เขาค่อนข้างหวาดระแวงและไม่ลดความระมัดระวังลงแม้ว่าคลาวเลอร์ก็สูญเสียแขนขาทั้งสี่ของมันไปแล้วก็ตาม
คลาวเลอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาจากซอมบี้ธรรมดา ดังนั้นมันจึงอาจจะมีอาวุธลับที่มันยังไม่เคยใช้เช่น ลิ้นที่สามารถพุ่งออกมาพันคือเหยื่อแล้วดึงเหยื่อเข้าไปในปากของมัน หรือบางทีมันก็อาจจะทำให้แขนขาทั้งสี่ของมันงอกกลับมาได้
ถังเส้าหยางมีมีดอยู่ในมือขวาและท่อเหล็กอยู่ในมือซ้าย เขาเตรียมพร้อมและค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ของคลาวเลอร์ได้(หากมันมี)
เขาถอยห่างออกไปในขณะที่คลาวเลอร์ที่ไร้แขนก็โบกแขนด้วนๆของมันมาหาเขา มันคล้ายกับหนอน แต่เห็นได้ชัดว่าคลาวเลอร์นั้นไม่คุ้นเคยกับการเดินโดยไม่มีแขนขา
หลายนาทีผ่านไปนับตั้งแต่คลาวเลอร์สูญเสียแขนขา แต่มันก็ยังไม่มีวี่แววว่าแขนขาของมันจะงอกขึ้นใหม่หรือยื่นลิ้นออกมาหาเขา
ถังเส้าหยางโล่งใจกับผลลัพธ์นี้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือต้องคิดหาวิธีที่จะฆ่าคลาวเลอร์ในตอนนี้ เขามองไปที่ท่อเหล็กในมือและมองกลับไปที่หัวของคลาวเลอร์ที่กำลังดิ้นรน
เขาเดินเข้าหาคลาวเลอร์อย่างระมัดระวัง หากคลาวเลอร์มีการเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจ เขาก็จะสามารถหลบได้ทัน
ถังเส้าหยางเคลื่อนไปหามันอย่างช้าๆและไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันหรือการเคลื่อนไหวลับที่เขากังวล มันแค่ดิ้นไปมาบนพื้นและพยายามจะเอื้อมแขนด้วนๆไปหาเขา สิ่งนี้ทำให้ถังเส้าหยางรู้สึกโล่งใจอย่างแท้จริง
เขาวางท่อเหล็กลงและถือมีดเขียงไว้ในมือทั้งสองข้างของเขา
ว้าว!
ถังเส้าหยางฟันมีดเขียงไปที่หัวของคลาวเลอร์โดยไม่ลังเล เหมือนเดิม มีดเด้งกลับมา อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้หยุด เขายังคงฟันมีดของเขาไปที่หัวของคลาวเลอร์ต่อไปอย่างบ้าคลั่งแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ มีดสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มันมีของเหลวสีเขียวไหลออกมาจากหัว แต่นั่นก็เท่านั้น ถังเส้าหยางไม่สามารถบดขยี้หัวคลาวเลอร์ได้ ในระยะเวลาอันสั้น เขาก็ไม่สามารถฆ่าคลาวเลอร์ด้วยมีดได้
มันยังคงดิ้นไปมาอย่างกระฉับกระเฉงบนแอ่งของเหลวสีเขียว การสูญเสียแขนขาไปไม่ได้ทำให้มันสูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้กับถังเส้าหยาง
ในขณะเดียวกัน ถังเส้าหยางก็ขมวดคิ้ว เขาคิดหาวิธีที่จะระเบิดหัวซอมบี้ตัวนี้
“ถ้าฉันมีค้อนหรือขวาน บางทีฉันก็อาจจะสามารถบดขยี้ไอ้หัวดอนี่ได้…” ถังเส้าหยางพูดขณะคิดออกมา
เขาวางมีดลงบนพื้นแล้วเดินกลับไปยังที่ที่เขาวางท่อเหล็กไว้ เขาหยิบท่อเหล็กขึ้นมาและเดินเข้าไปใกล้คลาวเลอร์ที่กำลังบิดตัวไปมา
จากนั้นเขาก็เริ่มทุบหัวของคลาวเลอร์ด้วยท่อเหล็กในมือของเขา
บัก! บัก! บัก!
มันทำให้เกิดเสียงแปลกๆ แต่ถังเส้าหยางก็ไม่ได้สนใจ เขายังคงทุบหัวของคลาวเลอร์อย่างสุดกำลัง หากคลาวเลอร์สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด มันก็อาจจะส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดออกมาแล้วก็ได้
ห้านาทีผ่านไป ถังเส้าหยางก็ยังไม่ได้หยุดทุบหัวของคลาวเลอร์ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะตายในเร็วๆนี้ มันดิ้นไปมาอย่างดุเดือดขณะที่พื้นด้านล่างก็เต็มไปด้วยเลือดของมัน
“ตายซะ! ตายซะ ตายซะ!”
“ไอ้นรกเอ้ย ไปตายสักทีสิวะ!!!!!!”
สิบห้านาทีผ่านไป หัวของคลาวเลอร์แตก แต่มันก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว มันยังมีชีวิตอยู่!
“ไอ้เชี่ยเอ้ย นี่มึงเป็นอมตะอย่างงั้นหรอ? ทำไมมึงยังไม่ยอมไปตายสักทีวะ ไอ้ชาติซอมบี้!”
คำสาปแช่งของถังเส้าหยางดังก้องห้องโถงใหญ่ นอกจากเสียงแปลกๆที่เกิดจากท่อเหล็กที่กระแทกหัวของคลาวเลอร์แล้ว มันก็จะมีเพียงเสียงที่น่ารำคาญของถังเส้าหยางที่สะท้อนก้องไปมาอยู่ในห้องโถง
ในที่สุดแล้ว น้ำเสียงของถังเส้าหยางก็เปลี่ยนเป็นแหบแห้งและน่าเวทนาเหมือนขอทาน เขากราบขอร้องคลาวเลอร์ “ได้โปรด ไปตายสักที ฉันอยากพักผ่อนแล้ว ไปตายเถอะ แกคงจะไม่อยากถูกทรมานแบบนี้ใช่ไหมล่ะ เรื่องทั้งหมดนี่มันจะจบแน่ถ้าแกยอมไปตายซะ”
หลังจากอ้อนวอนอยู่หลายนาที ในที่สุดถังส้าหยางก็กลับมาทุบหัวของคลาวเลอร์ต่อ รูปลักษณ์ของมันกลายเป็นบิดเบี้ยวหลังจากถูกทุบตีมาเป็นเวลาหลายสิบนาที สภาพมันในตอนนี้กับตอนแรกนั้นผิดกันอย่างสิ้นเชิง มันมีรอยบุบปรากฎทั่วหัวของมัน
อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ยังสามารถเห็นร่างของคลาวเลอร์ที่ยังคงดิ้นไปมาได้
ยี่สิบนาทีผ่านไปนับตั้งแต่ถังเส้าหยางกลับมาเริ่มทุบหัวของคลาวเลอร์
“ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรดตายสักที นี่จะเป็นการดีสำหรับเราทั้งคู่ แกจะเป็นอิสระจากการถูกทรมานและฉันก็จะได้นอนหลับฝันดี ดังนั้นขอร้องล่ะ ไปตายสักที ตกลงไหม?”
ราวกับว่าในที่สุดเสียงของถังเส้าหยางก็ได้ดังเข้าไปถึงในใจของคลาวเลอร์หรือไม่ก็ดังขึ้นไปถึงสวรรค์ ในวินาทีนั้นต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นในใจของเขา
[ ยินดีด้วย! คุณได้ฆ่าผู้ดูแลอาณาเขตและจบมินิเกม: ฆ่าหรือถูกฆ่า! ]
[ คุณได้รับรางวัล สมบัติเลเวล 9 จำนวน 1 ชิ้น ,อาณาเขต (คฤหาสน์) , เลเวล +1 และอีก +1 เลเวลสำหรับคนแรกที่เล่นมินิเกมสำเร็จ! ]
[ คุณเลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
[ คุณเลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
[ คุณเลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
[ คุณเลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
ชุดการแจ้งเตือนจากเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นในหัวของเขา ถังเส้าหยางเพิกเฉยต่อเสียงหุ่นยนต์และค้นหาห้องที่ใกล้ที่สุด เขาเข้าไปในห้องและพบเตียงขนาดกลาง
เขานอนลงบนเตียงและปรับร่างกายให้อยู่ในท่าที่นอนสบาย หลังจากนั้นเขาก็ผล็อยหลับไปในทันทีด้วยร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะซึ่งมีของเหลวสีเขียวปกคลุมอยู่ เขาไม่สนใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาคือการนอน
เขาไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอยู่ในคฤหาสน์หรือไม่ คฤหาสน์หลังนี้เป็นอาณาเขตของคลาวเลอร์ ดังนั้นคนที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ก็จะต้องเผชิญกับซอมบี้ที่น่าขยะแขยงที่อยู่ที่นี่ก่อน ดังนั้นเขาจึงมั่นใจได้ว่ามันจะไม่มีใครนอกจากเขาที่อยู่ในคฤหาสน์นี้