บทที่ 15 : นางสงสัยเขา
ช่วงเวลาต่อมา ซูจื่อหยุนมองไปที่ซูจื่อโม่ อย่างแปลกประหลาด
“หม่อมข้ายังไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ฝ่าบาททรงมาเยือนคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ของหม่อมข้าในวันนี้?
ซูจื่อโม่เดินไปที่ที่นั่งหลักและนั่งลง ขณะที่เหอหยุนถิงยืนอยู่ข้างนางและเติมน้ำชาให้นางด้วยความนอบน้อมเป็นครั้งคราว
การกระทำเหล่านี้ของนางทำให้หัวใจของซูจื่อหยุนร้อนรุ่ม แม่ค้าตัวเล็กๆ ไม่ต้องพูดถึง ยังเป็นหญิงอีก ต่อหน้าองค์ชายสาม นางกล้าที่จะนั่งบนที่นั่งหลัก
นางอยากโจมตี แต่นางกลัวที่จะทำให้องค์ชายสามระคายเคือง นางทำได้เพียงแค่มองไปที่ซูจื่อโม่อย่างโหดเหี้ยม ในความเป็นจริง นางลืมไปแล้วว่าโลกนี้กำลังถูกครอบงำด้วยความแข็งแกร่ง ราชวงศ์ในวังหลวงไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงในสายตาของผู้มีอำนาจ
จากผู้คนที่อยู่ ณ ตอนนี้ สิ่งที่ผ่อนคลายที่สุดคือเหอหยุนถิง เขามองไปที่ใบหน้าของซูจื่อหยุน ซึ่งแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะฉีกซูจื่อโม่ออกเป็นพันๆชิ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“องค์ชาย ได้ยินว่าเจ้าของกลับมาวันนี้ ดังนั้นในวันนี้องค์ชายจึงมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าของในการเดินทางที่ราบรื่น”
นั่นเป็นเหตุผลเดียวของเขา คนที่มีฐานะสูงในเมืองหลวงทั้งหมดของแคว้นห่าวเยว่แทบจะไม่รู้เลยว่านางจะมาในวันนี้ แต่เขาบังเอิญผ่านมาที่นี่ เมื่อเขาเห็นรถม้าที่มีสัตว์ร้ายทางวิญญาณ เขากล้าเดาได้เลยว่านางมาถึงวันนี้
“ขอบคุณมากเพค่ะ สำหรับความห่วงใยพระองค์ แต่ดูเหมือนฝ่าบาทจะจะรอบรู้อย่างดี เจ้าของคนนี้เพิ่งมาถึงคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่เพียงหนึ่งชั่วโมง แต่ฝ่าบาทก็เสด็จมาถึงแล้ว”
ซูจื่อโม่พูดเบา ๆ แต่น้ำเสียงของนางเจื่อไปด้วยความสงสัยในความตั้งใจของจุนหลินเถียน
จุนหลินเถียนเงยหน้าขึ้นมองซูจื่อโม่ มือของเขาที่ยื่นไปจับถ้วยชาก็บีบแน่น นางสงสัยเขา
หลังจากนั้นไม่นาน จุนหลินเถียนก็เปิดปากและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าของจะเกิดความสงสัย เจ้าชายคนนี้บังเอิญผ่านสถานที่แห่งนี้ แล้วรู้ว่าเจ้าของมาถึงวันนี้ เจ้าชายคนนี้ก็เลยแวะเข้ามาเยี่ยม”
“มันเป็นความสงสัยขององค์ชายผู้นี้ เจ้าของคฤหาสน์นี้ไม่ได้ว่าอะไรใช่หรือไม่?”
แค่นี้ก็แสดงว่าท่านมีปีศาจอยู่ในใจ มิฉะนั้นท่านจะไม่รีบอธิบาย
“ถ้าเช่นนั้น วันนี้เจ้าชายคนนี้จะกลับไปก่อน หลังจากนั้นสองวันเจ้าชายคนนี้จะมาเยี่ยมอีกครั้ง”
จุนหลินเถียนลุกขึ้น ถ้าเขาอยู่นานกว่านี้ เขากลัวว่าจะลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ เจ้าของคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ไม่ได้จริงจังกับเขาเลย ตั้งแต่เริ่มต้น นางให้เขารออยู่ในห้องโถงส่วนย่อยเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง และไม่ยากที่จะเข้าใจในน้ำเสียงของนางว่าเขาไม่อยู่ในสายตานาง เมื่อเขานึกถึงสิ่งเหล่านี้ความเกลียดชังในใจของจุนหลินเถียนก็พุ่งขึ้นมาในหัวของเขาอย่างอธิบายไม่ถูก อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ยอมแพ้ ภูเขาหมิงเยว่นี้เกี่ยวข้องกับหลายกิจการค้าขาย ถ้านางร่วมมือกับเขา เขาจะได้รับผลประโยชน์มากมาย
“ได้เลย เพค่ะ! เจ้าของนี้เพิ่งมาถึงและยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ความเกียจคร้านในวันนี้……ทำให้ฝ่าบาทได้รับความล่าช้า เจ้าของคนนี้ขอให้ฝ่าบาททรงใจกว้าง”
น้ำเสียงของนางเย็นชา ไม่มีความรู้สึกอื่นใดเลย น้ำเสียงที่ไม่แยแสของนางเต็มไปด้วยความเหินห่าง โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ซูจื่อโม่พูดแต่ละคำได้ช้ามาก
จุนหลินเถียนมองไปที่ซูจื่อโม่อย่างดุร้าย ใบหน้าของเขาเข้มขึ้นและมืดลง ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิบัติกับเขาแบบนี้
จากนั้นจุนหลินเถียนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าของงานยุ่งมาก เราจะกลับไปก่อน หยุนเอ๋อร์ไปกันเถอะ”
เพียงประโยคธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความโกรธ
“อืม!” ซูจื่อหยุนมองไปที่ ซูจื่อโม่อย่างโหดเหี้ยม นางคิดว่าเจ้าของต้องเป็นผู้หญิงบ้า หลังจากนั้น นางก็หันกลับมาและเดินตามจุนหลินเถียนไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้นางก็มีความสุขมากในหัวใจของนาง ยิ่งผู้หญิงคนนั้นทำตัวแบบนี้ จุนหลินเถียนก็จะยิ่งเกลียดนางมากขึ้นเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ดวงตาของซูจื่อโม่เปลี่ยนไปอย่างไม่แยแส ขณะที่นางจิบชาของนาง จุนหลินเถียน ซูจื่อหยุน วันนี้เป็นเพียงการทดสอบเล็กๆน้อยๆ เกมที่แท้จริงเพิ่งเริ่มต้น เพียงแค่รอ!