บทที่ 14 : ทำให้พวกเขาได้รับความทุกข์ในไม่ช้าก็เร็ว
“มันเหมือนว่าจะเป็นองค์ชายของแคว้นห่าวเยว่ ขอบคุณในพระกรุณา เจ้าของเพิ่งกลับมาในวันนี้และพัวพันกับหลายสิ่งอย่าง ตอนนี้ข้าทำได้แค่หายเงียบไปและทำให้องค์ชายของนางรออยู่”
เสียงของซูจื่อโม่ไม่อบอุ่น แต่ฟังดูสดชื่น
คนที่จะต้องพบกับคนที่พวกเขาเกลียดหรือคนที่เกลียดพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเขาจะเผชิญหน้ากันหรือเลี่ยงหลบสิ่งต่างๆจากอดีตอย่างใจเย็น สำหรับนาง นางยังไม่ถึงเวลาที่จะต่อสู้กับองค์ชาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแสดงดีๆก็ยังไม่เริ่มขึ้น
เหอหยุนถิงปากกระตุก นางพัวพันกับหลายสิ่งหลายอย่าง? แล้วใครเป็นคนที่เพิ่งรับประทานอาหารแบบสบาย ๆ?
เมื่อจุนหลินเถียนได้ยินเสียง เขาเหลือบขึ้นมองทันที ดวงตาคมของเขาเบิกกว้าและลึกมากขึ้น เขาเห็นใบหน้าของซูจื่อโม่ถูกคลุมด้วยหน้ากากสีทอง นางสวมชุดสีขาวเรียบง่าย แต่นางยืนหยิ่งผยองและตั้งตรง ดวงตาที่เปล่งประกายและริมฝีปากสีแดงของนางอาจทำให้ใครๆ สงสัยได้
ยืนอยู่ข้างๆเขา ซูจื่อหยุนเป็นหนึ่งในร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ตรงกันข้ามกับนาง เห็นได้ชัดว่าเขาเปรียบเทียบซูจื่อหยุนทันที ทรงผมที่ซับซ้อนและการแต่งตัวที่มากเกินไปของนางทำให้นางดูสัปดน ขณะที่ซูจื่อโม่ให้ภาพลักษณ์ของความสดชื่น ท่าทางหยิ่งผยองและตัวตรงของนางเหมือนนกฟีนิกซ์
ซูจื่อโม่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจุนหลินเถียนตกตะลึงมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าของคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่จะเป็นหญิงสาวที่มีความครบถ้วน ตัวตนของนางเป็นปริศนาเช่นเดียวกับการปรากฎตัวของนางอย่างกะทันหัน สายลับของเขายังพบว่านางอาศัยอยู่กับลูกสามคน
เมื่อซูจื่อหยุนเห็นซูจื่อโม่ ร่างกายของนางก็ก้าวถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ ผู้หญิงตรงหน้าทำให้นางตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูก นางไม่รู้ว่าทำไมนางถึงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นนาง ราวกับว่านางไม่มีอะไรอยู่ในสายตาของหล่อนเลย
“นี่ต้องเป็นองค์หญิงสาม! ฝ่าบาทท่านโชคดีมากที่ได้มาพร้อมกับสาวงามเช่นนี้”
เมื่อมองไปที่ความประหลาดใจเล็กๆของซูจื่อหยุน ซูจื่อโม่จงใจเน้นคำว่า องค์หญิงสาม
อันที่จริง นางรู้อยู่แล้วว่าหกปีที่แล้ว ซูจื่อหยุนไม่ได้แต่งงานกับจุนหลินเถียน หลังจากที่จุนหลินเถียนยกเลิกการหมั้นกับนาง ซึ่งทำให้นางต้องทุบตัวเองกับประตูของตระกูลซู จักรพรรดิเริ่มไม่พอใจกับเรื่องนี้ จุนหลินเถียนจึงไม่กล้าเดินหน้าเรื่องแต่งงานครั้งนั้น หลังจากนั้นได้ล่าช้ามาจนหกปีผ่านไป
“เจ้าของหมิงเย่ ท่านนี้องค์ชายและคุณหนูสามแห่งตระกูลซู ยังไม่ได้แต่งงาน นางจึงยังไม่ใช่องค์หญิงแห่งองค์ชาย”
จุนหลินเถียนโพล่งออกมาอย่างไม่คิด หลังจากที่เขาพูดประโยคเหล่านั้นออกไป ก็รู้สึกเสียใจ แต่ในความคิดที่สองมันเป็นความจริงที่เกิดขึ้น
ซูจื่อหยุนมองไปที่จุนหลินเถียนอย่างเหลือเชื่อ เขาบอกความจริงว่านางไม่ใช่องค์หญิงต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ถือว่านางเป็นองค์หญิงของเขาแล้วหรือ? ในเวลาส่วนตัว คนของเขาและคนในตระกูลซูยกย่องให้นางเป็นองค์หญิงสามแล้ว แต่ตอนนี้ เขาบอกว่านางไม่ใช่องค์หญิงสามของเขาต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ ซูจื่อหยุนโกรธ นางรอเขามานานหลายปีแล้ว แต่ในใจของเขา นางยังไม่ใช่องค์หญิงสามของเขา?
เมื่อมองไปที่ดวงตาเหลือเชื่อของซูจื่อหยุน ดวงตาของจุนหลินถียนเป็นประกายด้วยความรู้สึกผิด
ซูจื่อโม่เห็นความรู้สึกของคนทั้งสองในสายตาของพวกเขา แต่นางยังคงเงียบ ไม่ช้าก็เร็ว นางจะทำให้สุนัขสองตัวนี้ทุกข์ทรมานมาก
“เจ้าของคนนี้เงอะงะเจ้าค่ะ และเข้าใจคุณหนูซูผิด”
ซูจื่อโม่พูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาใสของนางมีร่องรอยของการเยาะเย้ยและความโกรธขณะที่นางมองจ้องไปที่ซูจื่อหยุน
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของนาง ในดวงตาของจุนหลินเถียนนั้น เหมือนกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
คำพูดของนางเงอะงะและเข้าใจผิด กระตุ้นหัวใจของซูจื่อหยุนอย่างลึกสุดใจ ซูจื่อหยุนอดสงสัยไม่ได้ว่าวันนี้จุนหลินเถียนมีอะไรผิดปกติ? ตามปกติแล้ว ต่อหน้าผู้อื่น จุนหลินเถียนจะไม่พูดจาด้วยคำแบบนี้ ต่อหน้าบุคคลภายนอก พวกเขามักจะพูดจาหวานไพเราะต่อกัน