276 - พลิกไปพลิกมา
276 - พลิกไปพลิกมา
ทันทีที่พวกเขาต่อสู้ เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโจรวายุทมิฬคนนี้แข็งแกร่งกว่าคนที่เขาเพิ่งสังหารไป การโจมตีของจากโจรวายุทมิฬเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมทุกกระบวนท่า
โจรวายุทมิฬนี้ใช้ดาบสั้นเป็นอาวุธการเคลื่อนไหวของเขาก็ดุร้ายและทรงพลัง
ความสำเร็จในระดับบ่มเพาะของโจรวายุทมิฬคนนี้เหนือล้ำกว่าเอี้ยนลี่เฉียงพอสมควร ทุกการโจมตีดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ศีรษะ คอ หรืออวัยวะสำคัญในช่องท้องของเอี้ยนลี่เฉียง
การโจมตีเกือบทุกครั้งเป็นอันตรายถึงชีวิต ความประมาทแม้เพียงนิดเดียวของเอี้ยนลี่เฉียงอาจทำให้เขาถูกสังหารได้ภายในไม่กี่กระบวนท่า
เอี้ยนลี่เฉียงถูกปกคลุมไปด้วยแสงจากดาบของชายผู้นี้ สถานการณ์ของเขาเลวร้ายลงเรื่อยๆและคาดว่าไม่กี่กระบวนท่าต่อไปเขาจะถูกสังหาร
ความจริงที่ว่าเขายังคงต่อสู้ประชิดตัวกับคนๆนี้ได้ ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์รวมไปถึงความแข็งแรงของแขนเขา อย่างไรก็ตาม เอี้ยนลี่เฉียงทำได้เพียงป้องกันร่างกายในระยะสั้นๆเท่านั้น
ก่อนการต่อสู้ เอี้ยนลี่เฉียงวางแผนที่จะพึ่งพาความคมของมีดเกล็ดดำเพื่อทำลายดาบสั้นของคู่ต่อสู้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มต่อสู้กันสองสามกระบวนท่า เขาก็ตระหนักว่าดาบของโจรวายุทมิฬคนนี้ไม่ใช่อาวุธธรรมดา แม้กระทั่งหลังจากปะทะกับมีดเกล็ดดำของเอี้ยนลี่เฉียงมานานมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสียหาย
ทุกครั้งที่เอี้ยนลี่เฉียงสกัดกั้นหรือปะทะกับการโจมตีของโจร เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณที่แปลกประหลาดในอาวุธของคู่ต่อสู้
พลังปราณของโจรวายุทมิฬมีความร้อนเหมือนเหล็กที่ถูกไฟเผาและพยายามแทรกซึมเข้าหาร่างกายของเขาผ่านการปะทะกันของอาวุธ
มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าทั้งมือของเขาถูกแตนต่อยทุกครั้งที่ทำการปะทะกัน เส้นเอ็น เส้นเลือด และกล้ามเนื้อของเขาสั่นด้วยความเจ็บปวด
ความสามารถในการใช้ลมปราณในระหว่างการต่อสู้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงระดับปรมาจารย์ที่แท้จริง โจรวายุทมิฬคนนี้อาจจะยังไม่ใช่ปรมาจารย์แต่เขาเหยียบย่างเข้าไปในประตูนั้นแล้วครึ่งตัว
นี่หมายความว่าเขาเป็นยอดนักรบสูงสุดที่กำลังก้าวไปสู่การเป็นจ้าวแห่งสมรภูมิ ซึ่งมีพลังมากกว่าเอี้ยนลี่เฉียงประมาณสองระดับย่อยเพราะเอี้ยนลี่เฉียงเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับนักรบต่อสู้เท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะรากฐานอันทรงพลังของเอี้ยนลี่เฉียง ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ธรรมดาที่เพิ่งก้าวเข้าสู่นักรบต่อสู้อาจจะถูกดาบของโจรวายุทมิฬตัดศีรษะไปนานแล้ว
...
หลังจากอดทนต่อการโจมตีของโจรวายุทมิฬเป็นเวลาห้านาที เอี้ยนลี่เฉียงก็ได้รักษาบาดแผลบนร่างกายของเขาอีกสามครั้ง ทั้งหมดนี้มาจากท่าสังหารอันดุร้าย
ซึ่งเอี้ยนลี่เฉียงได้หลบเลี่ยงทุกอย่างด้วยก้าวกระบวนท่าเงาสายลม แต่ทันใดนั้นโจรวายุทมิฬก็ตะโกนเสียงดังและเริ่มหมุนแขนของเขาเป็นการเคลื่อนไหวราวกับพายุ
ดาบสั้นในมือของเขาเหมือนพายุทอร์นาโดในทะเลทราย ประกายแวววาวของมันหายไปในทันทีและกลายเป็นภาพเบลอที่ซ่อนอยู่ภายในพายุทรายที่หมุนวน
เจตนาฆ่าถูกปลดปล่อยออกมาอย่างถึงที่สุด ใบมีดล่องหนเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เอี้ยนลี่เฉียงสั่นสะท้านในหัวใจเพราะเขารู้ว่านี่เป็นท่าไม้ตายของโจรวายุทมิฬคนนี้
... ขณะที่กระโดดถอยหลังเพื่อหนี เอี้ยนลี่เฉียงจ้องไปที่ดาบคมแวววาวที่หมุนราวกับพายุทอร์นาโด โจรวายุทมิฬพุ่งตามเขามาราวกับสายฟ้า
ความแข็งแกร่งทุกอณูในร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียงปะทุขึ้นในเวลานี้ คนหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าและอีกคนหนึ่งถอยกลับ ดาบสั้นแวววาวที่คล้ายกับพายุทอร์นาโดมุ่งเข้าหาใบหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงอย่างรวดเร็ว
เอี้ยนลี่เฉียงส่งเสียงคำราม การรับรู้ที่ยอดเยี่ยมของเขาจับความตั้งใจฆ่าที่มีความเยือกเย็นมันซ่อนตัวอยู่ในพายุหมุนลูกนี้ เอี้ยนลี่เฉียงใช้กำลังทั้งหมดฟันใบมีดของเขาสวนเข้าไปในพายุ
แคร้ง...!
เกิดเสียงดังขึ้นจากภายในพายุหมุนที่รุนแรง
ในขณะนั้น เอี้ยนลี่เฉียงสามารถมองเห็นความตกตะลึงในดวงตาของโจรวายุทมิฬ เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกยินดีเขารู้ดีว่าครั้งนี้เขาลงมือประสบผลแล้ว
แต่ความเจ็บปวดจากการเผาไหม้บนแขนของเขาจากการบุกรุกของลมปราณก็ทำให้แขนของเขาแทบจะขาดออกจากกัน
ขณะที่ดาบสั้นของเขาพุ่งเข้าใส่ดาบสั้นของคู่ต่อสู้ เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยลวดเหล็กร้อนที่กำลังลุกไหม้ ลวดเหล็กร้อนพวกนี้แทงทะลุฝามือของเขามุ่งหน้าเข้าหาหัวไหล่ของเขาอย่างรวดเร็ว
แรงกระแทกอันทรงพลังทำให้เอี้ยนลี่เฉียงและโจรวายุทมิฬกระเด็นกับหลังพร้อมกัน มือของเอี้ยนลี่เฉียงซึ่งถือมีดเกล็ดดำไว้หมดสิ้นเรี่ยวแรงทันที
นี่คือระยะห่างของความเชี่ยวชาญมันถูกแสดงออกมาทันทีเมื่อทั้งสองปะทะกัน เมื่อโจรวายุทมิฬถูกกระแทกกลับเขาใช้ดาบของตัวเองยันพื้นไว้ก่อนที่จะดีดตัวกลับมาราวกับแมงป่องตวัดหาง
ก่อนที่เอี้ยนลี่เฉียงจะสามารถตอบสนองได้ทันเวลา หน้าอกของเขาก็ถูกเตะอย่างรุนแรง เขาส่งเสียงคร่ำครวญและกระเด็นเข้าไปในพุ่มไม้ด้านหลังไกลกว่าสิบวา
เวร!
เอี้ยนลี่เฉียงกระอักเลือดออกมาและพยายามลุกขึ้นอีกครั้งโดยไม่ได้คิดอะไรเลย จากหางตาของเขา เขามองเห็นโจรวายุทมิฬคนนั้นรีบตามเข้ามาในพุ่มไม้โดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ร่างสั้นที่ไม่คาดคิดก็วิ่งออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลังโจรวายุทมิฬเงียบๆ มันอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของโจรวายุทมิฬอย่างรุนแรง
เงาดำที่พุ่งออกมาจากพุ่มไม้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโกลดี้
โกลดี้รีบวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าสุนัขปกติ 2-3 เท่า เมื่อโกลดี้เข้ามาใกล้ได้ระยะแล้วมันก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของมันในการกัดเข้าไปที่เป้ากางเกงของโจรวายุทมิฬคนนั้น!
โจรวายุทมิฬไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาช่วยเอี้ยนลี่เฉียงในตอนนี้เขาจึงเปิดโอกาสให้โกลดี้ลอบทำร้ายได้สำเร็จ
เมื่อโจรวายุทมิฬรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ข้างหลังเขา เขาจึงรีบหลบหลีกให้เร็วที่สุดและพยายามหลบเลี่ยงการโจมตี ถึงกระนั้น โกลดี้ก็ยังกัดเขาอย่างแรงที่ต้นขาด้านใน
โจรวายุทมิฬอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเตะโกลดี้อย่างแรงจนมันบินไปที่พุ่มไม้ด้านข้าง... จาก
นั้นโจรวายุทมิฬก็หยุดความเคลื่อนไหวเนื่องจากได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ด้วยโอกาศที่หาได้ยาก เอี้ยนลี่เฉียงลุกขึ้นยืนทันทีและตั้งท่าตั้งรับในระยะไกล โจรวายุทมิฬสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับเดินหน้าต่อ
"โกลดี้…!"
เอี้ยนลี่เฉียงตะโกนออกมาอย่างกังวลเพราะเขาเพิ่งเห็นโกลดี้ถูกเตะเข้าไปในพุ่มไม้
เมื่อโกลดี้ได้ยินเอี้ยนลี่เฉียงมันก็สั่นขน จากนั้นก็ออกมาจากพุ่มไม้ มันหมอบร่างของมันและแยกเขี้ยวของมันเหมือนหมาป่าในขณะที่คำรามด้วยความดุร้าย
มันจ้องไปที่โจรวายุทมิฬก่อนที่มันจะเคลื่อนไหวไปรอบๆโจรวายุทมิฬพร้อมที่จะลอบทำร้ายเขาอีกครั้ง
เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะออกมาอีกครั้งหลังจากที่เห็นบริเวณเป้าของโจรวายุทมิฬมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด อย่างไรก็ตามหลังจากหัวเราะเพียงสองครั้ง เขาก็กระอักเลือดออกมา
“เจ้าและสุนัขของเจ้าต้องตาย…!”
ในที่สุดโจรวายุทมิฬก็พูดเป็นครั้งแรก แม้ว่าเสียงของเขาจะฟังดูแปลกๆเล็กน้อย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการพูดภาษาฮั่นที่มีความชำนาญพอสมควร
เขารีบกดจุดสองสามจุดบนต้นขาของเขาอย่างรวดเร็วและบาดแผลของเขาไม่มีเลือดไหลออกมาอีก
เขาหอบในขณะที่จ้องไปที่เอี้ยนลี่เฉียงและโกลดี้ ดวงตาของเขาแดงก่ำและดูเหมือนว่าเขาจะโกรธมาก
เมื่อคิดถึงวิธีที่เขาเกือบจะกลายเป็นขันทีเพราะสุนัข โจรวายุทมิฬก็ต้องการจะสับร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียงและสุนัขของเขาให้เป็นชิ้นๆ
เอี้ยนลี่เฉียงหรี่ตาและเยาะเย้ยอย่างเย็นชา
“จริงเหรอ ยังไม่แน่ว่าใครจะต้องตาย!”
แม้ว่าดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออำนวยและได้รับบาดเจ็บด้วย แต่เขาก็ยังมีไพ่เด็ดอยู่บนแขนเสื้อ
ตอนนี้ที่โจรวายุทมิฬได้รับบาดเจ็บในจุดที่สำคัญ การเคลื่อนไหวของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากทั้งคู่ยังคงต่อสู้ต่อไปในสภาพปัจจุบัน โอกาสของเอี้ยนลี่เฉียงจะปรากฏขึ้นในที่สุด
แม้ว่าขอบเขตการบ่มเพาะจะเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งส่วนบุคคล แต่ความแข็งแกร่งของเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้อยู่ในระดับบ่มเพาะเท่านั้น
โจวายุทมิฬหรี่ตามองเอี้ยนลี่เฉียงและโกลดี้ เมื่อเขากำลังจะพุ่งเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียง เอี้ยนลี่เฉียงก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกเกินจริงอย่างมาก ขณะที่มองไปข้างหลังโจรวายุทมิฬ...
"อย่าคิดว่าข้าจะหลงกล เจ้าไม่มีทาง…”
ก่อนที่โจรวายุทมิฬจะพูดจบประโยค เขาก็ส่งเสียงครวญครางเพราะในขณะนี้มีกระบี่เล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าอกของเขา
คนที่ลงมือนั้นคือศิษย์หญิงจากนิกายปราชญ์นั่นเอง