ตอนที่แล้วตอนที่ 485 สัญญา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 487 มีแต่จะต้องวิ่ง

ตอนที่ 486 ผู้อาวุโสจี


ตอนที่ 486 ผู้อาวุโสจี

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ท่วงทำนองอันไพเราะทำให้ค่ำคืนที่เงียบเหงานี้ถูกเติมเต็ม เสียงที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ช่วยทำให้ผู้ที่ได้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย แม้ว่าเสียงที่ได้ฟังสามารถทำให้สัตว์ร้ายเคลื่อนไหวตามความประสงค์ได้ แต่ด้วยความไพเราะที่มีทำให้ผู้ที่ได้ฟังไม่รู้สึกถึงความอันตราย

สัตว์ร้ายทั้งหลายค่อยๆ คืบคลายเข้ามาใกล้

ลู่โจวยกเท้าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกระทืบลงบนพื้น

แผ่นดินที่ถูกกระทืบสั่นสะเทือน!

ในตอนนั้นเองเกิดประกายแสงระยิบระยับไปทั่ว

สัตว์ร้ายที่เห็นแบบนั้นรีบวิ่งหนีไปในทันที

“เจ้าส่งฮั๊วจงหยางไปที่แท่นบูชาสวรรค์ก็เพื่อใช้สาวน้อยคนนั้นทำลายเมืองมณฑลจิงอย่างงั้นสินะ?” ลู่โจวถามออกมา

“เอ่อ...” ยู่เฉิงไห่รู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่น่าอวดอ้าง เจ้าสำนักอย่างเขาคิดจะใช้เด็กสาวไร้เดียงสาเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ ตัวเขาไม่คิดจะวิตกกังวลกับเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น ในฐานะที่เป็นผู้นำยู่เฉิงไห่จะต้องใช้เบี้ยทั้งหมดที่มีในการเอาชนะศัตรู “ถูกต้อง” ยู่เฉิงไห่ตอบ

“ข้าอยากจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง” ลู่โจวกล่าวออกมา

ยู่เฉิงไห่รู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อคิดถึงสาวน้อยที่บอกให้ตัวเขาไม่ยอมแพ้ จนถึงตอนนี้ยู่เฉิงไห่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน ตัวเขาต้องใช้ความอดทนต่อความยากลำบากทั้งหมดจนเติบใหญ่ขึ้นมาได้ ชาววู่เฉียนที่อพยพต้องถูกเข่นฆ่า พี่น้องที่เหลืออยู่ของเขาก็ถูกฆ่าตายต่อหน้า ยู่เฉิงไห่ไม่มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ตัวเขาถูกขายให้กับชาวลั่วหลาน ถูกขายในฐานะทาสผู้ใช้แรงงาน ตัวเขาที่เป็นทาสถูกปฏิบัติราวกับของเล่น ยู่เฉิงไห่ที่ถูกทรมานอย่างหนักเสียเลือดจนตาย การไม่ยอมแพ้เป็นสิ่งเดียวทื่ทำให้ยู่เฉิงไห่มีวันนี้ แล้วตัวเขาจะใช้งานสาวน้อยคนนั้นต่อได้ยังไง? ไม่มีทางเลยที่ยู่เฉิงไห่จะไม่รู้สึกเสียใจ “หกเดือน...เวลาหกเดือนเท่านั้นที่ข้าต้องการ...”

“เจ้าไม่พอใจอาจารย์ของเจ้าที่พยายามใช้เจ้าเพื่อฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอย่างงั้นสินะ?” ลู่โจวถามออกมาอีกครั้ง

คำถามนี้ทำให้ยู่เฉิงไห่นิ่งเงียบ ตัวเขาเองก็เคยคิดหาคำตอบเรื่องนี้มาแล้ว เรื่องนี้ดูเหมือนจะซับซ้อนเกินไป สิ่งต่างๆ ได้สูญหายไปตามกาลเวลา หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งยู่เฉิงไห่ก็ตอบกลับมา “ชาววู่เฉียนสามารถตายได้เพียงสามครั้งเท่านั้น...บอกตามตรง จนถึงตอนนี้ข้าได้ตายไปถึง 2 ครั้งแล้ว” ยู่เฉิงไห่พูดออกมาอย่างสงบ มันเป็นคำพูดที่ฟังดูเหมือนไม่ได้สำคัญอะไร

สายตาของลู่โจวจับจ้องไปที่ยู่เฉิงไห่ ตัวเขาแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าศิษย์คนแรกอย่างยู่เฉิงไห่ถูกจีเทียนเด๋ารับมาเป็นศิษย์ได้ไง สิ่งที่ลู่โจวพอจะจำได้อย่างเลือนรางมีเพียงยู่เฉิงไห่ต้องเผชิญกับความยากลำบากมาโดยตลอด ตัวเขาใช้ความอดทนที่มีอเย่างเหลือล้นเพื่อที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จ และเพราะสิ่งนั้นทำให้ลูกศิษย์คนนี้แข็งแกร่งมากขึ้น ลู่โจวได้ถามออกมา “ครั้งแรกที่ลั่วหลานอย่างงั้นสินะ?”

ยู่เฉิงไห่พยักหน้า

“ครั้งที่สองเป็นเพราะฝีมือจีเทียนเด๋า?” ลู่โจวพูดถึงชื่อร่างที่ตัวเขาใช้อยู่แทนที่จะเรียกว่าพี่จีหรืออาจารย์ของเจ้า ความตายครั้งที่สองของยู่เฉิงไห่เป็นสิ่งที่ลู่โจวอยากจะรู้มากที่สุด ยู่เฉิงไห่ถูกสีวู่หยาช่วยเหลือหลังจากที่เสียชีวิต นี่คือสิ่งที่ลู่โจวได้รู้มาจากบันทึกของสีวู่หยา

“เมื่อต้นเดือนที่สามของปีที่ 154 ของราชวงศ์หย่งชิงในดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่ อาจารย์ของข้ากำลังนั่งสมาธิอยู่บนหุบเขาทอง ในตอนนั้นเขาสูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะ อาจารย์ข้าได้พูดอะไรบางอย่างที่ข้าไม่อาจเข้าใจได้ก่อนที่จะฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะไปถึงขั้นที่เก้า ในช่วงกลางเดือน ในตอนที่ข้ากำลังประลองกับศิษย์น้องรองที่ทะเลสาบฟินิกซ์บนหุบเขาสวรรค์ ในตอนนั้นอาจารย์ของข้าระเบิดความโกรธออกมาและพวกเราทั้งสามคนก็ต่อสู้กัน...การต่อสู้ยาวนานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเราต่อสู้กันตั้งแต่ทะเลสาบฟินิกซ์จนไปถึงแม่น้ำเมฆาและหุบเขากล้วยไม้สีชาด ในที่สุดอาจารย์ก็เอาชนะพวกเราทั้งคู่ได้” ยู่เฉิงไห่ถอนหายใจไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “อาจารย์ของข้ากลับไปที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า ส่วนศิษย์น้องรองกับข้าพักฟื้นอยู่ที่นั่น ในระหว่างที่พวกเราทั้งคู่พักฟื้น พวกเราทะเลาะกันเป็นเวลากว่าสามวันก่อนที่ศิษย์น้องรองจะจากไปเพราะความโกรธ”

เมื่อลู่โจวได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ในตอนนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างกวนใจเขา สิ่งที่ยู่เฉิงไห่เล่าออกมาไม่มีอยู่ในความทรงจำ ตามที่ยู่ฉางตงเคยบอกเอาไว้รวมกับข้อมูลที่มี จีเทียนเด๋าได้ปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดในการฝึกฝนตัวเองให้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบในคริสตัลแห่งความทรงจำ จีเทียนเด๋าเห็นอะไรกันแน่ถึงได้ปิดผนึกความทรงจำไว้?

สายตาของลู่โจวจับจ้องไปที่ยู่เฉิงไห่ “การต่อสู้เกิดขึ้นเองอย่างงั้นเหรอ?” มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ทั้งสามคนจะต่อสู้กันอย่างไร้เหตุผล

ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว ตัวเขาไม่รู้คำตอบเช่นกัน

เมื่อเห็นยู่เฉิงไห่ไม่ได้ตอบกลับอะไรลู่โจวก็ได้พูดต่อ “เพราะแบบนั้นเจ้าก็เลยตายเพราะฝีมือเขาอย่างงั้นสินะ?”

“มันเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง...” ยู่เฉิงไห่ส่ายหัวให้ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?”

“มีคนแอบเข้ามาโจมตีข้าในตอนที่ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นั่นมันไม่สำคัญที่จะพูดถึง” ยู่เฉิงไห่พูด

“ใครโจมตีเจ้ากัน?”

ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว “ขอบคุณสำหรับความหวังดีผู้อาวุโสลู่ แต่เรื่องนั้นข้าจะต้องจัดการด้วยตัวเอง”

“ก็แล้วแต่เจ้า” ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันให้ยู่เฉิงไห่พูดเรื่องนี้ ลู่โจวตัดสินใจปล่อยให้ยู่เฉิงไห่ทำสิ่งที่อยากทำ ตัวเขาก็แค่ต้องการรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างคร่าวๆ เท่านั้น

ยู่เฉิงไห่ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างเรียบง่าย แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวก็รู้ดีว่ามันเต็มไปด้วยความยากลำบากมากแค่ไหน ยู่เฉิงไห่เป็นผู้ที่มีนิสัยไม่ชอบเล่าหรือระบายปัญหาให้กับผู้อื่นได้ฟัง ยู่เฉิงไห่เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก

ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของยู่เฉิงไห่ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่ายู่เฉิงไห่อยากที่จะครองโลกจริงๆ หลังจากที่คิดเรื่องนี้มาสักพักตัวเขาก็เอามือไขว้หลังก่อนที่จะหันกลับไป ลู่โจวเดินไปที่ชายป่า ตัวเขาไม่ได้ตอบคำถามอะไรยู่เฉิงไห่

“ผู้อาวุโสลู่!” ยู่เฉิงไห่ที่ไม่ได้รับคำตอบงุนงง

“แม้ว่าข้าจะเป็นสหายเก่าของอาจารย์เจ้า แต่ข้าก็ตัดสินใจแทนเขาไม่ได้”

ยู่เฉิงไห่ลุกขึ้น “ถ้าหากเป็นแบบนั้นก็ช่วยส่งต่อข้อความข้าให้กับท่านอาจารย์ด้วย”

ลู่โจวหยุดเดิน ตัวเขาพูดด้วยน้ำเสียงล้ำลึกโดยที่ไม่หันหลังกลับมา “รู้จักสถานะของเจ้าด้วย”

ยู่เฉิงไห่ตกตะลึง

ท้ายที่สุดแล้วยู่เฉิงไห่เป็นเพียงแค่ศิษย์ ศิษย์อย่างเขากล้าดียังไงที่ขอให้ผู้ที่อาวุโสกว่าส่งข้อความให้

เมื่อลู่โจวเดินมาถึงสถานที่ที่เกิดการต่อสู้ ตัวเขาก็เหลือบมองดวงจันทร์

เสียงท่วงทำนองหยุดลงแล้ว

เฉินเหลียงชูได้ปรากฏตัวจากรูบนกำแพง ท่ามกลางแสงจันทร์เฉินเหลียงชูได้คารวะลู่โจวก่อนที่จะพูดขึ้น “ผู้อาวุโสลู่ ท่านมีพลังที่น่าทึ่งจริงๆ”

ลู่โจวเหลือบมองไปที่คนประจบประแจงก่อนจะพูดขึ้น “เฉินเหลียงชู”

เฉินเหลียงชูดีใจมากที่ถูกเรียก “ข้าไม่คิดมาก่อนว่าผู้อาวุโสลู่จะรู้จักข้า...ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ” เฉินเหลียงชูพอใจในตัวเอง การที่ตัวเขามีชื่ออยู่บนอันดับสูงสุดของบัญชีขาวไม่ใช่เรื่องที่ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียว ผู้อาวุโสลู่ไม่รู้จักหวางซื่อเจียที่เป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่กลับรู้จักตัวเขา เฉินเหลียงชูที่คิดถึงเรื่องนี้อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจ

“เจ้าเข้าร่วมกับสำนักเผิงไหลอย่างงั้นสินะ?” ลู่โจวถามออกมา

“ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น...” เฉินเหลียงชูโค้งคำนับก่อนจะตอบกลับ “ข้าได้เข้าร่วมกับสำนักแก่นแท้แห่งหยางแล้ว ในตอนนี้ข้ากำลังพาผู้อาวุโสหวางไปส่งยาช่วยชีวิต”

“เจ้าควรจะคิดทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำให้มากกว่านี้” ลู่โจวพูดต่อ

เฉินเหลียงชูที่ได้ฟังแบบนั้นรู้สึกคลุมเครือ แต่ทันใดนั้นเองตัวเขาก็พูดออกมา “ผู้อาวุโสจีเองก็พูดแบบนั้น ช่างบังเอิญจริงๆ”

หืม?”

“คงจะมีแต่ผู้อาวุโสจีเท่านั้นที่จะเข้าถึงสิ่งที่ท่านคิดได้ ผู้อาวุโสลู่” เฉินเหลียงชูพูดต่อ

ภายใต้แสงจันทร์ในยามค่ำคืน หวางซื่อเจีย, ธิดาหอยสังข์, สีวู่หยาและฮั๊วจงหยางอยู่ใกล้ๆ กับรูบนกำแพง

ลู่โจวสังเกตเห็นธิดาหอยสังข์กำลังถือขลุ่ยสั่นอยู่ในมือ ดูเหมือนนางจะชอบขลุ่ยที่ถือมาก

ยู่เฉิงไห่ตามออกมาจากป่าเช่นกัน ตัวเขาเดินไปข้างหน้าโดยที่มีดวงจันทร์อยู่ทางด้านหลัง

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบและยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ

ลู่โจวไม่ได้หันมองกลับมา “เข้าถึงอย่างงั้นเหรอ?”

“ถูกต้องแล้ว...ผู้อาวุโสลู่...เอ๋? ใบหน้าของท่าน...” เฉินเหลียงชูที่เงยหน้าขึ้นมาถึงกับพูดไม่ออก

ภายใต้แสงจันทร์ดูเหมือนใบหน้าของลู่โจวจะดูบิดเบี้ยว

ลู่โจวยกเลิกการใช้งานการ์ดแปลงกาย

ในตอนนั้นมีแสงสว่างส่องออกมาจากตัวลู่โจวชั่วครู่ ก่อนที่ท้ายที่สุดเส้นผมสีดำที่มีและร่างกายอันเพรียวบางก็ได้หายไป ท้ายที่สุดแล้วร่างของผู้เป็นอาจารย์สุดเคร่งขรึมก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาทุกคนแทน

“ผะ...”

เฉินเหลียงชูเดินโซเซไปที่ด้านหลัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว “ผะ...ผะ...ผู้อาวุโสจี?”

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด