ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 9
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 9
.......................
"คุณได้เข้าสู่การทำสมาธิ...."
"คุณได้ทำสมาธิด้วยระดับต่ำสุดและรับรู้ได้สำเร็จ...."
"คุณประสบความสำเร็จในการเข้าสู่สภาวะทำสมาธิ!"
"พิจาณาจากการจดจ่อของคุณ คุณกำลังอยู่ในสภาวะทำสมาธิระยะต้น...."
"........"
"สิ้นสุดการทำสมาธิ"
"พิจารณาจากความก้าวหน้าในการทำสมาธิ ค่ามานาสูงสุดของคุณเพิ่มขึ้น 6 ค่ามานาปัจจุบันของคุณ 6/6"
"การทำสมาธิระยะต้นไม่ได้รับผลลัพธ์พิเศษ"
"คุณได้รับรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่อง [ผู้เริ่มต้น]"
-----------------------------------------
[ผู้เริ่มต้น]: เข้าสู่สภาวะทำสมาธิได้สำเร็จ
โบนัสพื้นฐาน: ค่าจิตวิญญาณ+2
โบนัสเพิ่มเติมเมื่อสวมใส่: ผลของการทำสมาธิเพิ่มขึ้น 10%
-----------------------------------------
หลังจากอ่านข้อความจากระบบ ร็อดก็มีความสุข ในชีวิตก่อนของเขานั้น ร็อดเองก็มี [ผู้เริ่มต้น] เช่นกัน แต่โบนัสเพิ่มเติมของมันไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรไว้ให้กับเขา
"เท่าที่จำได้รางวัลความสำเร็จของ [ผู้เริ่มต้น] ในชีวิตที่แล้วนั้นมีเพียงโบนัสค่าจิตวิญญาณ+1 นี่นา แล้วก็ไม่มีโบนัสเพิ่มเติมของการสวมใส่ด้วย ตอนนี้ไม่เพียงแต่ค่าจิตวิญญาณจะเพิ่มขึ้น แต่หลังจากใส่แล้วยังเพิ่มผลของการทำสมาธิด้วย" ร็อดพึมพำ
เปรียบเทียบกับรางวัลความสำเร็จที่อยู่ในความทรงจำดูแล้ว ร้อดก็ตระหนักได้ว่า รางวัลความสำเร็จนี้ยังเป็นรางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่องด้วย นั่นจะทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม ร็อดรู้ซึ้งดีว่าผู้ที่ปลดล็อครางวัลความสำเร็จแบบต่อเนื่องได้จำนวนมากนั้นน่ากลัวเพียงใด ผู้ที่ทำเช่นนั้นได้จะสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้โดยอาศัยเพียงค่าความสามารถพื้นฐานของตัวละคร!!
ร็อดส่ายศีรษะ เขาบังคับตัวเองไม่ให้ไปคิดถึงรางวัลความสำเร็จในเวลานี้ ตอนนี้ที่เขาต้องกังวลสนใจก็คือเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดที่กำลังใกล้เข้ามา ด้วยสกิลตาเหยี่ยวแล้ว ร็อดก็มองเห็นศัตรูได้อย่างชัดเจน
ที่เดินอยู่เบื้องหน้าก็คือทหารโครงกระดูกกลุ่มหนึ่ง ร็อดไม่ได้นับโดยละเอียด แต่กวาดดูโดยคร่าวๆแล้วก็คิดว่าพวกมันน่าจะมีมากกว่าสิบตัว ที่อยู่ตรงกลางกลุ่มก็คือ บุรุษที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำซึ่งกำลังขี่ม้าอยู่ ชุดคลุมสีดำที่คลุมทั่วร่างจนมิดชิด นี่ก็คือชุดมาตราฐานของเหล่าเนโครแมนเซอร์ คนผู้นี้น่าจะเป็นผู้บงการของอันเดดกลุ่มนี้ เนโครแมนเซอร์ฝึกหัด
ที่สองฟากข้างและที่ด้านหลังของชายคนนั้นมีนักรบโครงกระดูกเกราะหนักสี่ตัวคอยอารักขา ที่ด้านหลังของขบวนยังมีซอมบี้ตามติดมาอีกกลุ่มใหญ่ ด้วยเพราะเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าที่สุด พวกซอมบี้จึงทำได้เพียงเดินเตาะแตะตามหลัง ร็อดเดาว่าที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดจัดรูปขบวนแบบนี้ก็เพราะความเชื่องช้าของพวกซอมบี้
ร้อดมองประเมินจากบนต้นไม้อยู่เงียบๆ ตำแหน่งที่เขาซ่อนตัวอยู่นี้ปลอดภัยมาก ขณะเพียงเนโครแมนเซอร์ผู้นั้นไม่ได้ปักใจเชื่อว่ามีคนอยู่บนต้นไม้ต้นนี้และมองตรวจสอบอย่างละเอียด ร็อดก็จะไม่ถูกพบตัว
ขณะที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ร็อดก็กลั้นหายใจเพื่อลดโอกาสในการถูกพบตัว
.................
ระหว่างทาง เอลล็อตก็ครุ่นคิดไปด้วยว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปใช้กับอะไรดีหลังกลับไปที่โรงเรียนเนโครแมนเซอร์
'อย่างแรกเลยข้าจะเรียนรู้สิ่งที่ข้าไม่ได้เรียนรู้ให้หมด ความลับของการเข้าสู่สภาวะทำสมาธิ จกานั้นข้าก็จะเรียนเวทมนตร์ที่ทรงพลังสักสองสามบท หลังจากเรียนเวทมนตร์เหล่านั้นแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นเนโครแมนเซอร์ชั้นแนวหน้า จากนั้นข้าก็จะเข้าร่วมสงครามทวีป หรือไม่ก็ตั้งตัวเป็นลอร์ดที่ไหนสักแห่ง....'
ขณะที่เอลล็อตค่อยๆเข้าใกล้สุสานเข้าไปทุกที ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็กระตุกวูบ เอลล็อตไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่มันทำให้เขารู้วึกไม่สบายใจเอามากๆ
ก่อนที่เขาจะได้เข้าภายในสุสาน เอลล็อตก็ประหลาดใจและโมโหขึ้นมาเมื่อพบว่าตรงทางเข้าที่เคยถูกปิดเอาไว้ ตอนนี้มันกำลังถูกเปิดอยู่ เอลล็อตจำได้ว่าเขาได้ทิ้งอันเดดเอาไว้ปิดผนึกทางเข้าสุสาน.....
ใครกัน...ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในหัวของเอลล็อต
ตอนแรกเอลล็อตสงสัยว่าจะมีคนผ่านมาที่นี่ แต่สุสานนี้อยู่มานานโดยไม่เคยถูกใครค้นพบ ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะค้นพบสถานที่แห่งนี้โดยอาศัยดวงเพียงอย่างเดียว
หากว่าไม่มีคนอื่นอยู่ที่นี่ เช่นนั้นที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ อันเดดที่เคยหลับใหลอยู่ภายในุสสานตนนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เอลล็อตพลันได้ข้อสรุป
จากการสัมผัสผ่านดวงจิต เอลล็อตพบว่าพวกอันเดดที่เขาเคยทิ้งไว้ให้เฝ้าที่นี่ได้หายตัวไปทั้งหมด เป้นไปได้มากว่าจะถูกกำจัดจนหมดแล้ว
ไม่มีให้เขาได้เศร้าเสียดายต่อเหล่าอันเดดที่จากไป เอลล็อตครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกกับตัวเองว่าเขามีเหรียญทองอยู่จำนวนมากแล้ว หนทางที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการจากไป แลกเปลี่ยนอันเดดที่มีอยู่ให้กลายเป็นเงินทอง จากนั้นก็รีบตรงดิ่งกลับโรงเรียนเนโครแมนเซอร์
แต่ภายในหัวของเอลล็อตก็ได้ยินอีกเสียงพยายามจะเกลี้ยมกล่อมเขา และตัวเขาเองก็ไม่เต็มใจจะไปจากที่นี่ทั้งอย่างนี้ ภายในสุสานนั่นมีอันเดดที่แข็งแกร่งตัวนั้น จากการคาดเดาของเขาแล้ว เป้นไปได้สูงมากว่าอันเดดตัวนั้นจะตื่นขึ้นมาแล้วไล่สังหารสมุนของเขามากกว่าจะมีคนมาพบที่นี่
อันเดดตัวนั้นเป็นสิ่งที่เอลล็อตเฝ้าถนุถนอมมานาน เอลล็อตมั่นใจว่าด้วยความช่วยเหลือของอันเดดตัวนั้น เขาจะสามารถกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโรงเรียนเนโครแมนเซอร์ได้แน่
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะเข้าไปตรวจดูด้วยตาตนเอง คิดได้ดังนั้น เอลล็อตก็พลิกตัวลงจากหลังม้าและเริ่มส่งอันเดดเข้าไปภายในสุสาน
เริ่มแรก เอลล็อตส่งทหารโครงกระดูกทั้งหมดไปเฝ้าระวังโดยรอบ และจากนั้นจึงกระจายพวกซอมบี้ออกไปไว้วงนอกสุดเพื่อคอยตรวจหาศัตรู หลังจากจัดวางทหหารโครงกระดูกและซอมบี้แล้ว เอลล้อตก็เตรียมจะเข้าไปในสุสาน
เอลล็อตรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเขาก็มั่นใจด้วยว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ที่นี่
เป็นเพราะไม่ทราบสถานการณ์ในทางเดิน เอลล็อตจึงส่งนักรบโครงกระดูกสองตัวยกโล่นำเข้าไปเพื่อตรวจสอบดูว่าจะมีศัตรูซ่อนตัวอยู่หรือไม่
นักรบโครงกระดูกนั้นเป็นอันเดดระดับต่ำ และไม่สามารถถ่ายทอดข้อมูลที่มีรายละเอียดจำเพาะเจาะจงได้ หลังจากยืนยันว่าไม่มีสิ่งผิดปกติภายในทางเดิน เอลล็อตก็เตรียมจะเข้าไปตรวจดูด้วยตนเอง
......................
ร็อดที่อยู่บนต้นไม้เฝ้ามองดูการจัดวางกำลังของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดอย่างเงียบๆ ในใจอดปาดเหงื่อขึ้นมาไม่ได้
ก่อนหน้านี้ร็อดเคยคิดที่จะซ่อนตัวอยู่ในทางเดินเพื่อลอบสังหาร แต่เมื่อพิจารณาหลายๆปัจจัยดูแล้ว เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป เขาเกือบจะต้องเสียท่าให้กับความรอบคอบของเนโครแมนเซอร์ผู้นี้แล้ว หากไม่มีต้นไม้ต้นนี้อยู่ เขาก็คงจะไม่มีที่ให้ซ่อนตัว
ร็อดเห็นเนโครแมนเซอร์คนนั้นส่งนักรบโครงกระดูกเข้าไปในทางเดินจำนวนสองตัว นี่นับเป็นข่าวดีประการหนึ่ง ร็อดจะต้องพิจารณาให้ดี นอกจากจะจัดการกับเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นอย่างไรแล้ว เขายังต้องหาวิธีจัดการกับพวกอันเดดที่เหลืออีกด้วย
หากถูกอันเดดฝูงนี้ล้อมกรอบเอาไว้ ความน่ากลัวของพวกมันก็จะถูกผลักดันขึ้นถึงขีดสุด ด้วยนักรบโครงกระดูกจำนวนสี่ตัว แมใ้แต่เขาก็ยังยากที่จะฝ่าออกมาได้
โชคดีที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดได้ส่งนักรบโครงกระดูกสองตัวเข้าไปในสุสานแล้ว แม้ว่าอันเดดที่เหลืออยู่ข้างนอกจะมีจำนวนมาก แต่ขอเพียงไม่ถูกโอบล้อมเอาไว้ ใช้เวลาพักหนึ่งเขาก็จะสามารถจัดการพวกมันได้
ร็อดมองดูเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ และเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสสำเร็จในการลอบสังหาร ร็อดได้เปิดหน้าต่างคุณสมบัติขึ้นมาและเพิ่มแต้มคุณสมบัติที่เก็บเอาไว้ไปที่ค่าความเร็ว ทำให้ค่าความเร็วในปัจจุบันของเขาคือ 9
เป็นเพราะนี่คือการลอบสังหารจากที่สูง ดังนั้นดาบอันคมกริบและการหนุนเสริมของแรงโน้มถ่วงจะทำให้เขาสร้างค่าความเสียหายได้อย่างมหาศาล ความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังโจมตีของร็อด หากแต่เป็นความแม่นยำของการโจมตี
แม้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีพลาด แต่ร็อดก็ยังเพิ่มค่าความเร็วเผื่อเอาไว้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มความเร็วในระยะสั้นๆและความคล่องตัวในการขยับเคลื่อนไหวแล้ว ค่าความเร็วยังช่วยเพิ่มปฏิกิริยาการตอบสนอง
เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดค่อยๆเดินมาที่ปากทางเข้า เนโครแมนเซอร์ก้มมองดูภายในสุสานคราหนึ่งก่อนจะยื่นเท้าออกไป เตรียมตัวจะเข้าไปในสุสาน
ตอนนั้นเอง ขณะที่ความสนใจทั้งหมดของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดมุ่งเป้าไปที่ทางเข้าสุสาน ร็อดก็ลงมือ
ร็อดกระโดดลงมาจากต้นไม้จากระดับความสูงราวห้าหกเมตร มือทั้งสองยึดกำดาบเหล็กเอาไว้แน่นขณะที่ดาบฟันลงมา เป้าหมายของคมดาบก็คือเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดที่ก้าวเท้าเข้าไปในสุสานได้ครึ่งก้าว
เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดพลันสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง เขาหันกลับไปมองและได้เห็นร็อด ร่างกายของเขาพลันขยับโดยสัญชาตญาณ ทว่ามันกลับสายไปเสียแล้ว....เกิดแสงสะท้อนขึ้นบนตัวดาบ ในดวงตาของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดยังคงฉายแววตกใจ
ดาบของร็อดเสียบทะลุแผ่นหลังของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัด เจาะทะลวงจากกระดูกสันหลังส่วนบนก่อนจะถูกลากทแยงลงมาถึงกระดูกสันหลังส่วนล่าง ภายใต้การหนุนเสริมของแรงโน้มถ่วง ร็อดแทบไม่ต้องออกแรงอะไร ที่เขาทำก็เพียงยึดกุมดาบเอาไว้ให้มั่น และดาบเหล็กก็หลุดออกจากแผ่นหลังของเนโครแมนเซอร์....
โลหิตไหลไปตามใบดาบ แต่ก็หยุดทันทีจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เลือดอุ่นๆสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของร็อด การต่อสู้จริงไม่เหมือนกับภายในเกม การฆ่าพวกอันเดดในสุสานก็เช่นกัน ร็อดสามารถสัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นๆจากตัวอีกฝ่าย เป็นความอบอุ่น....ของสิ่งมีชีวิต