ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 8
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 8
เอลล็อตรู้สึกมาตลอดมาเขาเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่ง
หมู่บ้านของเขาเคยถูกโจรปล้นสะดมภ์เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก โจรพวกนั้นได้เผาทำลายหมู่บ้านจนเหี้ยนเตียน เอลล็อตรอดมาได้เพราะเขาซ่อนตัวอยู่ภายในบ่อน้ำที่แห้งเหือด
หลังจากนั้นเขาก็หลงเข้าไปในป่าแห่งหนึ่ง หากเปลี่ยนเป็นเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆก็คงจะอดตายหรือถูกสัตว์ป่ากินเป็นอาหารไปแล้ว แต่ในป่าแห่งนั้น เอลล็อตสามารถหาอาหารมาเติมเต็มท้องได้ตลอดด้วยความบังเอิญ บางทีเขาก็หยิบผลไม้ป่าที่ตกอยู่ได้ด้วยความบังเอิญ หรือบางทีเขาก็พบเจอศพของสัตว์ที่ถูกสัตวืป่าตัวอื่นล่าทิ้งไว้
มีครั้งหนึ่ง เอลล็อตถูกฝูงสัตว์ป่าไล่ต้อนเข้าไปภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังขดตัวนอนรอความตายอยู่นั้น เขาก็พบว่าสัตว์ป่าพวกนั้นดูลังเลที่จะเข้ามาจัดการกับเขา สุดท้ายพวกมันก็เลือกที่จะละทิ้งเนื้อสดที่เบื้องหน้าและจากไป ช่วงเวลาที่เข้าไปในถ้ำแห่งนั้น ลมหายใจอันเย็นเยียบเหล่านั้น เอลล็อตยังจดจำได้ไม่เคยลืม
จนกระทั่งเอลล็อตได้กลายมาเป็นเนโครแมนเซอร์ เขาก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี เขาพบว่าที่นี่เป็นสุสานที่ไม่ทราบว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เดือนใดปีใด และภายในนั้นก็มีอันเดดระดับกลางถึงสูงตัวหนึ่งกำลังหลับใหลอยู่
นอกจากนั้นยังมีช่วงเวลาที่เอลล็อตซึ่งหิวจนเป็นลมถูกพบเจอโดยชาวบ้าน ชาวบ้านที่มาพบเจอนั้นได้นำตัวเขากลับไปที่หมู่บ้านอันสงบสุข ชายคนที่ช่วยเขาไว้ไม่ได้รังเกียจเอลล็อตที่คล้ายกับพวกคนเร่ร่อน ชายคนนั้นกระทั่งเสนอจะอุปการะเอลล็อต เอลล็อตปฏิเสธและพักฟื้นอยู่ที่นั่นสองสามวัน จากนั้นเขาก็จากไป
หลังจากร่อนเร่เดินทางอยู่เป็นเวลานาน เอลล็อตก็มาถึงสถานที่ชุมนุมของเหล่าเนโครแมนเซอร์ 'ดีย่า' ทันกับวันที่โรงเรียนเนโครแมนเซอร์เปิดรับนักเรียนพอดิบพอดี ขอเพียงเป็นผู้ที่มีใจรักจะเป็นเนโครแมนเซอร์ คนผู้นั้นก็จะสามารถเข้าเป็นนักเรียนโรงเรียนเนโครแมนเซอร์ได้ เอลล็อตได้เข้าร่วมกับโรงเรียนแห่งนั้น
หลังจากที่กลายมาเป็นเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดแล้ว เอลล็อตก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาเคยคิดไว้ความจริงแล้วกลับไม่ง่ายดังที่คิด การเรียนรู้ศาสตร์แห่งเนโครแมนเซอร์จำเป็นต้องใช้เงิน เงินจำนวนมาก อีกทั้งโรงเรียนก็จะบังคับให้พวกเขาไปทำภารกิจบางอย่างเพื่อเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของเหล่านักเรียน
เมื่อไม่มีทั้งเงินที่จะใช้เรียนและความสามารถที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ เอลล็อตที่เคยได้อยู่ภายในโรงเรียนก็ถูกลดขั้นและส่งไปทดลองเปลี่ยนสภาพ
เอลล็อตยังจำได้ดีว่ามีเนโครแมนเซอร์ประมาณสิบคนเข้าร่วมการทดลองเปลี่ยนสภาพพร้อมกับเขา นอกจากพวกเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดที่ทำภารกิจไม่สำเร็จแล้ว เขาก็ไม่ค่อยได้พบกับเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆอีก เอลล็อตไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นช่วงที่ทำการทดลองเปลี่ยนสภาพ เขารู้แต่เพียงว่า นอกจากเขาแล้วก็มีเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้
เอลล็อตไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากผ่านกระบวนการกลายสภาพ เขารู้เพียงแต่ว่า หลังจากการทดลองนั้นจบลง ถุงขนาดใหญ่ที่ใส่เหรียญทองเอาไว้เต็มถุงก็ถูกโยนมาให้เขา
ด้วยเงินก้อนนี้ เอลล็อตได้เรียนรู้การทำสมาธิที่โรงเรียนเนโครแมนเซอร์และความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเป็นเนโครแมนเซอร์
แต่หลังจากเอลล็อตเรียนรู้เวทมนตร์ได้ไม่กี่บท เขาก็แทบจะไม่เหลือเงินอีก ไม่ได้ เพื่อที่จะเรียนรู้เวทบทต่อๆไป เอลล็อตจำต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้
ในตอนนั้นเอง สุสานที่เอลล็อตเคยพบโดยบังเอิญก็แวบเข้ามาในหัวของเขา ภายในสุสานแห่งนั้นหลับใหลไว้ด้วยอันเดดที่แข็งแกร่งตนหนึ่ง หากใช้อย่างระมัดระวัง เอลล็อตจะสามารถสร้างอันเดดได้จำนวนมาก นอกจากจะใช้ในการต่อสู้แล้ว อันเดดนั้นยังมีค่าตัวเอง ไม่ว่าเมืองไหนๆภายในดีย่าก็สามารถใช้อันเดดแปรเปลี่ยนเป็นเงินทอง
คิดได้ดังนั้น เอลล็อตก็ออกเดินทาง เป็นเพราะเวลาได้ผ่านมานานมากแล้ว เอลล็อตจึงจำเส้นทางได้เพียงลางๆ เขาจำสถานที่ตั้งอันแน่นอนของสุสานแห่งนั้นไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
แต่เอลล็อตก็ไม่ได้คิดมากอะไร ตัวเขาเคยหลุดรอดจากความตายมาได้หลายครั้ง เอลล็อตมั่นใจว่าความโชคดีของเขาจะทำให้เขาหาสุสานแห่งนั้นเจอ
และก็เป็นดังคาด เขาใช้เวลาไปเพียงไม่กี่เดือนก็ค้นพบสุสานแห่งนั้นใกล้ๆกับเมืองเอลลี่
จากนั้นเขาก็ค่อยๆสะสมทรัพยากรเช่นเดียวกับที่พวกเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆทำ เอลล็อตพยายามเพิ่มจำนวนอันเดด ไม่ว่าจะจากเหล่านักเดินทางหรือชาวบ้านในหมู่บ้านเล็กๆ เอลล็อตใช้เวทมนตร์ที่ร่ำเรียนมาจัดการสังหารพวกเขาจากนั้นก็ค่อยใช้สุสานที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเปลี่ยนสภาพศพ
เมื่อสะสมทรัพยากรได้ประมาณหนึ่ง เอลล็อตก็จะบงการเหล่าอันเดดไปบุกโจมตีและกวาดล้างหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่โดยรอบ
เพื่อที่จะจัดการกับการต่อต้านเล็กๆที่อาจเกิดขึ้น ทุกครั้งเอลล็อตจึงเลือกเข้าโจมตีในเวลากลางคืน อาศัยความไม่รู้และหวาดกลัวต่อพวกอันเดดของชาวบ้าน เอลล็อตก็สามารถบุกทำลายหมู่บ้านได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
ต่อให้พบเจอคนที่พอมีฝีมือพอจะจัดการพวกอันเดดอยู่บ้าง เอลล็อตที่คอยซุ่มดูอยู่ในเงามืดก็จะลอบโจมตีคนเหล่านั้น และด้วยเพราะคนที่พอต่อสู้ได้พวกนั้นไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอะไร การบุกโจมตีหมู่บ้านของเอลล็อตจึงไม่เคยล้มเหลวมาก่อน
หลังจากบุกโจมตีหมู่บ้านขนาดเล็กได้แล้ว เอลล็อตก็เสริมพลังให้ตัวเองด้วยการเปลี่ยนศพของเหล่าชาวบ้านให้กลายเป็นอันเดด หลังจากนั้นเขาก็ปุกหมุดไปที่หมู่บ้านธรรมดาๆแห่งหนึ่ง
หลังจากบุกกวาดล้างหมู่บ้านได้แล้ว เอลล็อตก็บังเอิญพบเด็กที่เป็นผู้กล้าโดยกำเนิดคนหนึ่งที่กำลังจะถูกอันเดดฆ่าตาย ผู้กล้าคนนี้ยังไม่ได้ผ่านการฝึกฝนใดๆ ฝีมือของผู้กล้าคนนี้ยังเทียบกับทหารโครงกระดูกตัวหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเพราะศักยภาพที่แฝงเร้นอยู่ในตัวนาง เอลล็อตรู้สึกราวกับตัวเองบังเอิญเก็บได้ขุมสมบัติ
เนโครแมนเซอร์สร้างเปลี่ยนผู้กล้าคนหนึ่งให้กลายเป็นอันเดดระดับสูง แต่ด้วยระดับในปัจจุบันของเอลล็อตแล้วมันก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน ความฉลาดของเขาได้กระซิบบอกให้เขานำตัวนางไปขาย ผู้กล้าโดยกำเนิด ค่าตัวของนางจะต้องสูงมากเพราะศักยภาพที่อยู่ในตัวนาง
หลังจากจัดการกับพวกศพในหมู่บ้าน เอลล็อตก็เดินทางไปยังเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ และขายผู้กล้านั่นให้กับองค์กรขนส่งและค้าทาสที่ใหญ่ที่สุดบนทวีป สมาคมหอการค้าอิสระ แน่นอนว่าร้านค้าที่อยู่ในเมืองอันห่างไกลนี้ก็เป็นเพียงสาขาย่อยแห่งหนึ่งเท่านั้น
เอลล็อตที่ได้รับเหรียญทองมาเป็นกอบเป็นกำรู้สึกว่าเขาโชคดีอีกแล้ว มูลค่าของของมีค่าและพวกอันเดดที่รวบรวมมาจากหมู่บ้านเล็กๆห้าหกหมู่บ้านทำเงินให้กับเขาเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญทองเท่านั้น แต่การขายผู้กล้าหญิงนางหนึ่งกลับทำเงินให้เขาได้มากถึงสี่พันเหรียญทอง
'หลังจากนี้ข้าจะใช้เงินเหล่านี้ซื้อไอเท็มที่ข้าต้องการที่สุด' ระหว่างทางกลับ เอลล็อตก็พบว่ามีคนกำลังลอบติดตามเขามา แต่หลังจากได้เห็นสมุนอันเดดของเขา คนผู้นั้นก็ถอนตัวไปเพราะไม่ทราบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา
'เงินก้อนนี้เพียงพอให้ข้าใช้เรียนจนถึงระดับเนโครแมนเซอร์เต็มตัว ข้าจะไปจัดการกับเจ้าอันเดดตัวสุดท้ายนั่นและกลับไปที่โรงเรียน' เอลล็อตคิดขณะเดินกลับไปที่สุสาน
.......................
สัญชาตญาณเตือนภัยได้ปลุกร็อดที่กำลังเข้าสมาธิให้รู้สึกตัวขึ้นมา ราวกับมีก้อนหินตกกระทบผิวน้ำ เกิดระลอกขึ้นบนผิวน้ำนั้น ร็อดรีบออกจากการทำสมาธิทันที
เมื่อลืมตาขึ้น ร็อดก็พบว่าเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นได้กลับมาแล้ว.....