ตอนที่แล้วWS บทที่ 160 นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 162 พลังที่เกินต้านทาน

WS บทที่ 161 ครอบครัวแสนอบอุ่น


อัศวินหนุ่มชื่อยาเกซ เขาได้ติดตามเลห์แมนจากเมืองแบล็กวอเตอร์มายังอาณาจักรแบล็กมูน

ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้นยาเกซเป็นพียงแค่อัศวินธรรมดา เขาไม่ได้เป็นอัศวินเกราะเหล็กและเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนักดาบธาตุ

อย่างไรก็ตามหนี่งปีผ่านไป เมอร์ลินกลับมาพบกับยาเกซอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นว่ายาเกซเติบใหญ่ขึ้นเป็นชายกล้ามใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์ พลังกายของเขามาถึงจุดสูงสุดของนักดาบธาตุระดับหนึ่งแล้ว

เมอร์ลินเข้าใจว่าสาเหตุที่ทำให้ยาเกซเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้อาจเป็นเพราะพ่อของเขาคงจะสอบกระบวนท่าลึกลับให้กับยาเกซจึงทำให้เขามีพลังกายที่แข็งแกร่งแบบนี้

ทางด้านยาเกซ เขาก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเมอร์ลิน เขาอุทานด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ “ท่านบารอน? นั่นท่านจริง ๆ หรือขอรับ?”

เมอร์ลินพยักหน้า “ใช่ ฉันกลับมาแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”

จากนั้นเมอร์ลินก็พายาเกซเข้าไปในปราสาทด้วยกัน

ซีเลียกับโคซิออนถูกสาวใช้พามาที่ห้องโถง เมื่อเมอร์ลินมาถึงยาเกซได้เข้าไปอธิบายให้สาวใช้ฟัง

สาวใช้เหล่านี้เข้ามาทำงานในปราสาทภายหลังจากที่เมอร์ลินจาก เมื่อได้ทราบว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเจ้านายที่แท้จริงของเธอ พวกเธอจึงวางซีเลียและโคซิออนอย่างรวดเร็วและโค้งคำนับให้เมอร์ลินด้วยความเคารพ

“ยินดีต้อนรับกลับเจ้าค่ะ ต้องขออภัยด้วยที่พวกเราเสียมารยาทกับท่าน”

เมอร์ลินไม่ใส่ใจในเรื่องนั้น เขาจ้องมองไปที่ซีเลียกับโคซิออน ลูกน้อยของเขาไม่กลัวคนแปลกหน้า พวกเขามองเมอร์ลินด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขาก้มลงไปและเข้าไปกอดลูกน้อยของเขา ทั้งคู่ดูเงียบและไม่ดิ้นออกมาอ้อมแขนของเขา พวกเขาดูสงสัยเกี่ยวกับเสื้อคลุมยาวสีดำของเมอร์ลินมากกว่า พวกเขาดึงเสื้อคลุมเล่น

เมอร์ลินรู้สึกอบอุ่นหัวใจนี่เป็นความของเป็นพ่อ มันไม่รู้จะหาคำอธิบายความรู้สึกนี้อย่างไร

“เมอร์ลิน!”

“เมอร์ลิน! คุณกลับมาแล้ว”

ทันใดนั้นเอง เสียงอันคุ้นเคยได้ดังขึ้น เมอร์ลินเงยหน้ามองหญิงสาวแสนสวนที่งสองคนวิ่งลงมาจากชั้นสอง พวกเธอเป็นภรรยาของเขา เชอรีสและแอวริล

เชอรีสยังคงสวยเหมือนเดิม ในขณะที่แอวริลดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ผ่านไปหนึ่งปี เธอกลายเป็นหญิงสาวเต็มตัว ใบหน้าของเธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดยิ่งกว่าเหมือนก่อน

เมอร์ลินปล่อยซีเลียและโคซิออนและหันไปยิ้มให้ภรรยาของเขา

“ใช่ ฉันกลับมาแล้ว”

เชอรีสและแอวริลเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเธอเข้ามาหาเมอร์ลินอย่างรวดเร็วและอุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนตามลำดับ

แอวริลยังคงขี้อายเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าเธอจะมีคำถามมากมายแต่เธอก็ไม่ได้ถามเขาโดยตรง

ส่วนเชอรีสที่มีความตรงไปตรงมามากกว่า เธอได้ถามเมอร์ลินไปว่า

“เมอร์ลิน เราได้รัจดหมายจากคุณซึ่งในนั้นมันเขียนว่าคุณจะกลับในสองหรือสามปีหลังจากนี้”

เมอร์ลินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “มีเรื่องนิดหน่อยในดินแดนมนต์ดำ ดังนั้นฉันจึงกลับมาเร็วกว่าที่คาดไว้แต่ฉันไม่รู้ว่าจะกลับไปที่นั่นได้เมื่อไหร่เหมือนกัน”

หลังจากนั้นเมอริ์ลนก็ถามเรื่องของซีเลียและโคซิออน เมื่อพูดถึงเรื่องเด็ก ๆ แอวริลที่ขี้อายก็มีเรื่องราวที่เล่าไม่รู้จบซึ่งเธอไม่สามารถหยุดการสนทนาได้

เมอร์ลินนั่งฟังอย่างตั้งใจ ในขณะที่มองดูซีเลียและโคซิออน ความอบอุ่นเช่นนี้มันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจ ด้วยสถานที่แห่งนี้มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างสมบูรณ์

หลังจากที่พวกเขาเริ่มพูดคุยไปได้สักพัก พวกสาวใช้ได้ทยอยออกไปอย่างเงียบ ๆ เมอร์ลินจึงถามถึงเลห์แมน

“จริงสิ ท่านพ่ออยู่ไหน เขายังอยู่ในดินแดนหรือเปล่า”

เชอรีสพยักหน้า “ใช่แล้ว ท่านพ่ออยู่ในดินแดนมาโดยตลอดเพื่อดูแลเมืองคอนซิออนแต่เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างเมืองปรากาซกับเมืองเลบิส ทำให้การจัดเก็บภาษีลดลงไปอย่างน้อยเกือบครึ่งหนึ่งในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้เชอรีสก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกและยิ่งไปกว่านั้นเลห์แมนก็อยู่แต่ในเมืองคอนซิออนตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอกับพ่อบ้านเฒ่าต้องดูแลจัดการทุกอย่างในปราสาทวิลสัน

ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าของเชอรีส ทำให้พ่อบ้านเฒ่าไม่ค่อยใส่ใจมากนักและเชอรีสจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยภายใต้การดูแลของเธอ

ดังนั้นเมื่อพูดดถึงรายได้จากภาษีในดินแดนที่อยู่นอกการควบคุมของเธอ มันจึงทำให้เธอขมวดคิ้วออกมา

“เมืองเลบิสงั้นหรือ?” เมอร์ลินนึกถึงพวกนักดาบธาตุที่ดำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ในระหว่างเดินทางกัลป์มายังเมืองปรากาซ พวกเขาเหล่านั้นต้องมาจากเมืองเลบิส

“มันเกิดอะไรขึ้น”

เมอร์ลินไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเมืองเลบิสมากนัก เขารู้เพียงแค่ว่ามันเป็นเมืองที่มีพรมแดนติดกับเมืองปรากาซ แล้วก่อนออกจากเมืองปรากาซ ความสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองก็ดูปกติดี

เชอรีสส่ายหัว “เรื่องนี้เราก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด บางทีมีเพียงเคานต์เซลินเท่านั้นที่ทราบเรื่องนี้ สถานการณ์ตึงเครียดมันเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาแล้วท่านเคานต์ยังได้ทำการรวบรวมนักเวทย์อีกครั้ง ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำสงคราม”

แอวริลเหลือบมองเมอร์ลินและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “นับตั้งแต่ที่คุณจากไปท่านเคานต์ได้คัดเลือกนักเวทย์มาสองคน โดยเฉพาะพ่อมดแบร์ส...”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ เชอรีสได้พูดขัดเธออย่างรวดเร็ว “แอวริล!”

เมอร์ลินขมวดคิ้วและมีประกายแสงในแววตาของเขา จากนั้นเขาโบกมือ “ไม่เป็นไร แอวริล พูดต่อเลย”

แอวริลไม่กล้าพูดอะไร เธอเหลือบมองเชอรีสอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของแอวริลทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เชอรีสกลายเป็นเจ้าของที่แท้จริงของปราสาทวิลสันไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมอริ์ลนไม่ค่อยพอใจในเรื่องนี้เท่าไหร่ การมีภรรยาที่มีความสามารถเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแต่ก็ไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป

“ในเมื่อแอวริลไม่กล้าพูด งั้นเชอรีส คุณบอกผมมาทีสิว่าเกิดอะไรขึ้น!”

เชอรีสทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่จริงจังของเมอร์ลินทำให้เธอตัดสินบอกเขา “...คือ เมื่อสามเดือนก่อน พ่อมดแบร์สได้รับการคัดเลือกจากเคานต์เซลิน เขาได้ยินมาว่าคุณสามารถปราบเมอแรงค์แห่งหอคอยอเวจีได้และได้รับแหวนของเขามา

นั่นทำให้เป็นสาเหตุที่เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้ามาในปราสาทวิลสันแต่เราปฏิเสธเขา เขาต้องการเขามาในปราสาทโดยหวังว่าคุณต้องทิ้งอะไรบางอย่างไว้ที่ปราสาท เขาจึงต้องการมาหาพวกมัน

แต่โชคดีที่พ่อมดฮิลล์เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ทำให้พ่อมดแบร์สถอยหนีไป...”

หลังจากเชอรีสอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด เมอร์ลินหรี่ตาและปล่อยบรรยากาศที่เย็นยะเยือกออกมา เขามองไปที่เชอรีสและแอวริลและถามอย่างนุ่มนวลว่า

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอรึเปล่า?”

พวกเธอส่ายหัวและตอบว่า “พวกเราสบายดี ต้องขอบคุณพ่อมดฮิลล์ที่ช่วยพวกเราไว้แต่ว่าตอนนี้อาการของเขาแย่ลงมากหลังจากวันนั้น เขาไม่ได้ออกจากบ้านของเขาเลยตั้งแต่วันนั้น”

เมอร์ลินพยักหน้า นี่คือเหตุผลที่เขาขอให้ชายชราดูแลครอบครัวของเขา ถ้าไม่ได้ชายชราช่วยไว้ เขาเกรงว่าปราสาทวิลสันคงไม่สงบสุขดังเช่นทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินได้รู้สถานการณ์ปัจจุบันของชายชรา แม้ชายชราจะทำให้พ่อมดแบร์สถอยไปได้แต่เขาก็มีราคาที่ต้องจ่ายกับการกระทำครั้งนี้เช่นกัน

โครงสร้างเวทมนต์ของเขาไม่เสถียรและสามารถพังได้ทุกเมื่อ

“แบร์สงั้นหรือ? ครั้งนี้ฉันเป็นหนี้พ่อมดฮิลล์อีกครั้ง...แต่ก็ดีแล้วล่ะที่พวกคุณไม่เป็นอะไร เอาล่ะ เราลืมเรื่องแย่ ๆ ไป มาสนใจเรื่องลูกของเราซีเลียกับโคซิออนดีกว่า...”

เมอร์ลินเหลือบมองพวกเด็ก ๆ ที่กำลังนอนบิดตัวอยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็เล่นกับซีเลียและโคซิออนร่วมกับเชอรีสและแอวริล เขากำลังเพลิดเพลินกับโอกาสที่หาได้ยากยิ่งที่จะใช้เวลากับครอบครัว หลังจากนั้นก็มีเสียงดังก้องมาจากห้องโถง

...

ในปราสาทของเคานต์เซลิน ทหารยามกำลังรางงานข่างการกลับมาของบารอนเมอร์ลินอย่างละเอียด

เคานต์เซลินเผยความประหลาดใจออกมา “แน่ใจจริง ๆ ใช่มั้ยว่านั่นคือบารอนเมอร์ลิน”

ทหารยามพยักหน้าอย่างจริงจัง “กระผมแน่ใจของรับเป็นท่านเมอร์ลินอย่างแน่นอน”

“ดีๆ ตอนนี้บารอนเมอร์ลินกลับมาแล้ว ทำให้เรามีตัวช่วยที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น”

เคานต์เซลินรู้สึกดีใจอย่างแท้จริง เขากังวลเกี่ยวเมืองเลบิส เมื่อไม่นานมานี้แต่เมื่อเมอร์ลินกลับมาแล้ว ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องเมืองเลบิสมากนัก

“โอ้  พ่อมดเมอร์ลินผู้ที่ช่วยเหลือเคานต์เซลินจากเมอแรงค์แห่งหอคอยอเวจีหรือไม่”

ด้านข้างเคานต์เซลิน ชายที่ดูสงบพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

เคานต์เซลินพยักหน้าและยิ้ม “ใช่แล้ว พ่อมดเมอร์ลินคนนั้ง แต่ตอนนี้เขาเป็นบารอนในเมืองปรากาซแล้ว พ่อมดแบร์ส ไม่ใช่ว่าท่านอยากพบกับพ่อมดเมอร์ลินตลอดเวลาหรือ นี่เป็นโอกาสของท่านแล้ว ข้าจะเรียกให้พ่อมดเมอร์ลินมาที่นี่”

เคานต์เซลินส่งทหารสองสามคนไปตามเมอร์ลินที่ปราสาทวิลสันทันที

“ใช่ ฉันอยากเจอพ่อมดเมอร์ลินจริง ๆ” พ่อมดแบร์สจ้องมองไปที่ประตูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระหาย

...

“ท่านบารอน มีพวกยามได้แจ้งเข้ามาว่ามีทหารถูกส่งมาจากท่านเคานต์เซลิน พวกเขาต้องการเชิญท่านบารอนไปที่ปราสาท” ยาเกซที่ดกล้ามโตก้าวเข้ามาในห้องโถงและรายงานเมอร์ลินด้วยความเคารพ

รอยยิ้มบนใบหน้าเชอรีสและแอวริลค่อย ๆ จางหายไป พวกเธอเหลือบมองไปที่เมอร์ลิน

เมอร์ลินค่อย ๆ ลุกขึ้นและตอบไปอย่างใจเย็นว่า “ในเมื่อเคานต์เซลินต้องการพบฉัน ฉันก็จะไป มันถึงเวลาที่ฉันต้องไปพบเคานต์เซลินด้วย”

ออร่ามันดำมืดได้แพร่ออกจากตัวของเมอร์ลินเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้าวเดินออกจากปราสาทและนั่งรถม้าตามอัศวินไป เขากำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาทของเคานต์เซลิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด