ตอนที่ 440 (ตอนฟรี) เลือดอันร้อนระอุของยอดยุทธรุ่นใหม่!
ตอนที่ 440 (ตอนฟรี) เลือดอันร้อนระอุของยอดยุทธรุ่นใหม่!
.
ตูมมม!
อ๊ากกกก!
เสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดดังออกมาจากปากของชายทั้งสองคน
ทุกคนต่างหันไปมองด้วยความตกใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นชายชราและชายวัยกลางคนนอนอยู่บนพื้น
"คนของหมอเทวะหวังทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!"
"ข้ารู้สึกได้ว่าชายวัยกลางคนทั้งสองคนที่เป็นผู้ติดตามของหมอเทวะหวังนั้นน่าจะฝึกฝนพลังธาตุแห่งความมืด ชายชราและชายวัยกลางคนของสำนักสวนศาลาสมุนไพรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย!"
"ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่ข้ารู้สึกว่าคนของสำนักสวนศาลาสมุนไพรนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนแอเล็กน้อย พวกเขาถูกจัดการได้ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง!"
กลุ่มผู้คนหันไปกระซิบพูดคุยกันเบาๆเมื่อเห็นว่าชายชราและชายวัยกลางคนถูกสังหารโดยคนของหวังเสียนอย่างง่ายดาย
"พะ… พวกเจ้า! พวกเจ้ากล้าสังหารคนของสำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์จริงๆอย่างนั้นรึ!"
เมื่อฮัวหมิงซานได้ยินเสียงร้องของชายทั้งสองคน เขาก็หันไปจ้องมองด้วยความตื่นตระหนกพร้อมกับคำรามออกมาเสียงต่ำ
เมื่อได้ยินคำพูดของฮัวหมิงซาน กลุ่มผู้คนที่ดูเหตุการณ์โดยรอบก็ยิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหัวด้วยความท่าทางที่เยาะเย้ย
ไม่ว่าการกระทำและคำพูดของหมอเทวะหวังราชาแห่งเมืองเจียงเฉิงจะหยิ่งผยองหรืออวดดีมากแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญ การที่เจ้าเป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้ามาหาเรื่องผู้อื่นก่อน แต่กลับกล้าบ่นออกมาเกี่ยวกับความเป็นและความตายเช่นนี้ ช่างไร้เดียงสาจนน่าตลกมากจริงๆ
"ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะภาคภูมิใจกับสำนักของตัวเองมากเกินไป จนคิดว่าคงจะไม่มีใครกล้าฆ่าพวกเขา!"
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดออกมาขณะมองไปทางฮัวหมิงซาน
"เจ้าไม่คิดว่าคำพูดของเจ้านั้นมันจะไม่น่าตลกมากไปหน่อยหรือไร?"
เสี่ยวหยูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน ขณะที่ฟันกระบี่ในมือไปทางฮัวหมิงซาน
"เจ้า!... สำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไป พวกเจ้าจะถูกตามล่าและล้างแค้นอย่างไม่มีวันที่สิ้นสุดจนกว่าพวกเจ้าทุกคนจะตาย!"
ฮัวหมิงซานตะโกนข่มขู่ออกมาเสียงดัง แต่ใบหน้าของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เขากัดฟันแน่นและโบกมือไปมาอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่แปลกๆ
ซ่าาาา!
กิ่งของต้นไม้วิญญาณค่อยๆกลับมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนามขนาดใหญ่ พุ่งออกไปตั้งรับการโจมตีของเสี่ยวหยู
"เจ้ามีทักษะการโจมตีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือไร?"
เสี่ยวหยูมองดูการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้วิญญาณด้วยความดูถูก และในทันใดนั้นกระบี่ในมือของเธอก็เฉือนไปที่หนามเหล่านั้นโดยตรง
ฉับ! ฉับ! ฉับ!
และในครั้งนี้มันก็เป็นเหมือนกับการโจมตีครั้งที่แล้ว หนามอันแหลมคมของต้นไม้วิญญาณก็ถูกฟันทิ้งอย่างง่ายดายเช่นเดิม
ฟวับบบบ!
หลังจากนั้นเสี่ยวหยูก็พลิกข้อมือของเธอกลับเล็กน้อยกระบี่ในมือของเธอนั้นก็กลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งตรงไปยังฮัวหมิงซาน
"ม่ายยยย!"
ฮัวหมิงซานตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขานั้นซีดราวกับกระดาษขาว หลังจากนั้นเขาก็รีบหันหลังวิ่งหนีออกไปด้วยความรวดเร็ว
“อยากหนีอย่างนั้นรึ? มันสายเกินไปแล้ว!”
เมื่อโม่หยวนเห็นฮัวหมิงซานกำลังหลบหนี ดวงตาของเขาก็สาดประกายอันเย็นชาออกมา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวตามไปยังทิศทางที่ฮัวหมิงซานหนีอย่างรวดเร็ว
ฉัวะ!
กรงเล็บสีดำอันน่าสะพรึงกลัวของเขาเจาะเข้าไปทีหน้าอกของฮัวหมิงซานโดยตรง
อ๊อกก! แค่กๆๆ!
ฮัวหมิงซานกลิ้งล้มลงไปกับพื้นและกระอักเลือดออกมา
เขาพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะจ้องมองไปยังหวังเสียนด้วยใบหน้าที่ซีดขาว
"ข้า…. สำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ของข้า! … ผู้อาวุโสทั้งหมดในสำนัก...จะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!"
อ๊อกกก!
ตุบบ!
หลังจากนั้นเขาก็หงายหลังล้มลงกับพื้น ร่างกายเขาสูญเสียพละกำลังไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของเขา
เมื่อฝูงชนโดยรอบเห็นว่าฮัวหมิงซานและชายชราทั้งสองคนจากสำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่าตาย พวกเขาก็รู้สึกหนาวเย็นจนขนลุกตั้งชัน
ในก่อนหน้านี้พวกเขานั้นถือได้ว่าตัวเองนั้นเป็นสาวกของสำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ ด้วยชื่อเสียงและอำนาจของสำนักของพวกเขา พวกเขาจึงมองทุกคนที่อยู่รอบตัวเหมือนชนชั้นต่ำ
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พวกเขานั้นเย่อหยิ่งจองหองจนคิดว่าคงไม่มีใครจะกล้าลงมือต่อต้านพวกเขา นั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้พวกเขาถูกสังหารลงอย่างน่าอนาถเช่นนี้
อึก!
"ขะ...แข็งแกร่งและโหดเหี้ยมมาก! โชคดีจริงๆ! ข้านับได้ว่ายังโชคดีอยู่มากจริงๆ!"
ซุนหลงเซวียนซึ่งยืนอยู่กับชายหนุ่มทั้งสองคนผู้ที่เป็นทายาทของตระกูลผู้ฝึกตนที่ซ่อนเร้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หน้าผากของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยหยดเหงื่ออันเย็นเยียบ
โชคดีที่ในงานเลี้ยงของชนชั้นสูงในมณฑลทางตอนใต้ครั้งที่แล้ว ตัวเขาสามารถเคลียร์ปัญหากับหมอเทวะหวังราชาแห่งเมืองเจียงเฉิงผู้นี้ได้ มิฉะนั้นป่านนี้ต้นหญ้าเหนือหลุมศพของเขาคงจะเขียวขจีและออกดอกบานสะพรั่งไปนานแล้ว
"น่ากลัวมาก! หมอเทวะหวังผู้นี้ไม่สามารถยั่วยุได้จริงๆ!"
ชายหนุ่มทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆซุนหลงเซวียนชำเลืองมองหน้ากัน และถอนหายใจยาวออกมา
"ฮึ! คนประเภทนี้นี่แหละที่จะตายเร็วอย่างที่สุด ในไม่ช้านี้เขาจะต้องถูกตามล่าและถูกสังหารอย่างแน่นอน!"
เฉียวฟู่จื่อที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนจ้องมองไปยังหวังเสียนพร้อมกับพูดพึมพำออกมาเบาๆอย่างดูถูก
"เฮ้อ! หลังจากนี้คลื่นลมอันร้ายกาจจะต้องโหมกระหน่ำไปยังหมอเทวะหวังผู้นี้อย่างไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว อัจฉริยะหนุ่มที่มีความสามารถมากมายเช่นนี้จะต้องจบชีวิตลงไปอีกหนึ่งคนช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!"
"สำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์คงจะไม่ยอมอ่อนข้ออย่างเป็นแน่! หากว่าข้ามีความสามารถเช่นเดียวกับหมอเทวะหวัง ข้าจะปกปิดตัวเองวางตัวให้ต่ำเพื่อรอการเติบโต คงจะไม่หยิ่งผยองเช่นนี้อย่างแน่นอน!"
"มีทางเดียวที่เขาจะสามารถรอดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ นั่นก็คือต้องหนีออกไปให้ไกลจากประเทศจีนโดยเร็วที่สุด ข้าเชื่อว่าหากเขาไม่หนีไปชะตาชีวิตของเขาจะต้องดับลงอย่างแน่แท้!"
"ด้วยข้อกล่าวหาอันไม่มีหลักฐานเช่นนั้น! แต่หมอเทวะหวังผู้นี้กลับยอมรับโดยตรง มิหนำซ้ำยังสังหารคนเพิ่มไปอีกถึงสามคน การกระทำเช่นนี้ไม่สมควรเรียกว่าหยิ่งผยอง แต่สมควรจะเรียกว่าโง่เง่าและไร้หัวคิดจะดีกว่า!"
"พวกเจ้าก็มองด้านเดียวมากกันเกินไป! ข้าเชื่อว่าผู้ที่มีความสามารถรอบด้านเช่นหมอเทวะหวังผู้นี้ไม่ได้เป็นคนโง่เขลาอย่างแน่นอน ข้าคิดว่าเขาจะต้องมีความมั่นใจในเรื่องนี้มากพอควรเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่กล้ากระทำสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน!"
เหล่าผู้ฝึกตนรอบด้านที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่างวิพากษ์วิจารณ์พูดคุยกันเกี่ยวกับการกระทำของหวังเสียน
แต่กลุ่มคนที่มีความสุขมากที่สุดนั่นก็คือเหล่ายอดยุทธรุ่นเยาว์ที่มาแข่งขันการจัดอันดับเทียนเจียวในครังนี้
พวกเขายิ้มออกมาอย่างเย็นชา และรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของหวังเสียนผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเทียนเจียวอันดับหนึ่ง
เพราะว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหมอเทวะหวังผู้นี้คงจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างแน่นอน แต่ต่อให้เขารอดชีวิตเขาก็คงจะไม่สามารถอยู่ในประเทศจีนได้อีกต่อไป
ไม่ว่าจะมองมุมไหนสิ่งเหล่านี้นั้นก็เป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับพวกเขา การกำจัดคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่อยู่ในยุคเดียวกันได้นั้นจะไม่ให้พวกเขาดีใจได้อย่างไร
“ฮ่าฮ่า น่าสนใจ ช่างน่าสนใจจริงๆ!”
นักบวชหนุ่มลึกลับจ้องมองไปที่หวังเสียนและหรี่ตาลงเล็กน้อย
"นี่สิถึงจะสมกับเป็นเทียนเจียวอันดับหนึ่ง การต่อสู้ของพวกเราหนุ่มสาวยุคใหม่จะต้องไม่หวังพึ่งกองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง ความแข็งแกร่งที่แท้จริงจะต้องพึ่งพาอาศัยกำลังของตัวเองเพียงเท่านั้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!"
"ฮึๆๆ! หากว่าเป็นข้าเขา ข้าก็คงจะทำไม่ต่างจากหมอเทวะหวังผู้นี้ การที่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ที่อ่อนแอกว่าแต่มีเบื้องหลังอันแข็งแกร่ง นับแต่ว่าไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและไม่สมควรจะเรียกตัวเองว่าผู้ฝึกตน!"
ชายหนุ่มแปลกหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ทางมุมด้านหนึ่ง พูดพึมพำออกมาเบาๆ กับกลุ่มคนที่ยืนอยู่ทางเบื้องหลังของเขาด้วยรอยยิ้ม
เขาก็คือชายหนุ่มที่นั่งมาบนเกี้ยวนั่นเอง
"นี่สินะศักดิ์ศรีของเทียนเจียวอันดับหนึ่ง! ดูท่าแล้วข้าคงจะต้องไปขอคำชี้แนะจากเขาบ้างเสียแล้วล่ะ!"
เสียงอันสดใสของเด็กสาวนางหนึ่งดังขึ้นมาขณะที่จ้องมองไปยังหวังเสียนด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
"อีกไม่นานคงจะได้เจอกันบนเวทีอย่างแน่นอน!"
ชายหนุ่มชุดคลุมดำที่ยืนอยู่ในระยะไกลพูดออกมาในขณะที่ร่างกายของเขาค่อยๆเลือนหายไปกับความว่างเปล่า
บรรยากาศการแข่งขันร้อนระอุขึ้นมาในทันที เหล่ายอดยุทธหนุ่มสาวรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นจากทั่วทุกมุมโลก จ้องมองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาย่อมมีความภาคภูมิใจในพรสวรรค์ของตัวเองอย่างสูงเช่นเดียวกัน
แม้ว่าจะเผชิญกับความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าพวกเขา พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ก่อนที่จะได้สู้อย่างสุดกำลัง
ความมุ่งมั่นความฝันและความหวังย่อมเต็มเปี่ยมอยู่ในสายเลือดอันร้อนแรงของยอดยุทธหนุ่มสาวเหล่านี้ทุกๆคน
ราชาแห่งยอดยุทธรุ่นใหม่จะต้องเป็นของพวกเขา!
……….
จบบท