ตอนที่แล้ว251 - สนทนาจริงจัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป253 - เงื่อนงำของศัตรู

252 - อันตรายอยู่ที่นี่


252 - อันตรายอยู่ที่นี่

“ทำไมการกู้คืนทุ่งหญ้าเหล่านั้นจากเผ่ารามมืดจึงง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเจ็ดเผ่าชาตู?”

ดูเหมือนว่าความสนใจของซุนปิงเฉินจะถูกกระตุ้น เนื่องจากเขาถามคำถามทันทีหลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงพูดจบ

“เนื่องจากดินแดนของเรายังมีที่มั่นของเจ็ดเผ่าชาตูที่สำคัญสองสามแห่งและการที่เราจะสามารถขับไล่พวกมันออกไปพวกเราก็ต้องโจมตีฐานที่มั่นของมันก่อน

แน่นอนว่ามันจะง่ายกว่าที่เราจะไล่ล่าเผ่ารามมืดกลับไปทางตะวันตกของภูเขาฉีหยุนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!”

“ในกรณีนั้น เราไม่ได้ทรยศเจ็ดเผ่าชาตูและเผ่าเผ่ารามมืดใช่ไหม”

“เราสามารถอยู่ในจุดเริ่มต้นและปล่อยให้เผ่ารามมืดโจมตีก่อน ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ หลังจากนั้นพวกเราค่อยไล่พวกมันกลับไปยังภาคตะวันตก ต่อให้ทุกคนรู้อยู่เต็มอกก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาว่าเราทรยศ!”

หลังจากฟังคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงซุนปิงเฉินก็เงียบ วิธีที่เขามองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงนั้นยิ่งทำให้เอี้ยนลี่เฉียงน่าขนลุกด้วยเหตุผลบางอย่าง

ซุนปิงเฉินก็ถอนหายใจ

“ถ้าเพียงเจ้าหน้าที่ระดับสูงในราชสำนักมีสติปัญญาเช่นเดียวกับลี่เฉียง บางทีโลกคงจะสงบสุขกว่านี้มาก!”

เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะแห้งๆ

“นั่นมันเป็นเพียงทฤษฎีที่ข้าคิดขึ้นโดยบังเอิญ เนื่องจากข้าสายตาแคบสั้น ข้าจึงไม่อาจมองสถานการณ์ที่ใหญ่กว่านี้ และความเป็นจริงอาจไม่เป็นอย่างที่ข้าคิด นายท่านโปรดอย่าใส่ใจเลย!”

“จากที่เจ้าพูด เจ้ากำลังหมายความว่าจักรวรรดิจะวุ่นวายในอนาคตหรือลี่เฉียง?”

เอี้ยนลี่เฉียงต้องการเล่าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นภายในและภายนอกอาณาจักรฮั่นที่ยิ่งใหญ่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จากเหตุการณ์เหล่านั้น

เขาสามารถรู้ได้จริงๆว่าอาณาจักรฮั่นจะอยู่ในความสับสนวุ่นวายมากแค่ไหน ที่พรมแดนของอาณาจักรฮั่นกับชาวชามานมีเหตุการณ์ที่เกิดจากการก่อกบฏของนิกายบัวขาวทางตอนใต้

และความจริงที่ว่าอาณานิคมสองสามแห่งได้ตัดสัมพันธ์กับอาณาจักรฮั่นเพื่อโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของราชวงศ์จันทร์เสี้ยวใหม่

จักรวรรดิฮั่นที่ยิ่งใหญ่เริ่มไม่เสถียรอย่างรวดเร็วเนื่องจากการควบคุมกิจการภายในและภายนอกของจักรวรรดิจะอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว!

แน่นอนว่าเมื่อซุนปิงเฉินถาม เอี้ยนลี่เฉียงไม่กล้าบอกอะไรเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาทำได้เพียงให้คำตอบที่คลุมเครือเท่านั้น

“ข้าไม่รู้ว่าจะวุ่นวายมากแค่ไหน มันเป็นคำถามที่ยากมากนายท่าน แต่ข้าพอจะสังเกตได้ว่าเจ็ดเผ่าชาตูในแคว้นผิงซีและแคว้นกานมีความหยิ่งยโสมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้ย่อมแสดงว่าพวกเขามีที่ถือดีอย่างแน่นอน!”

หลังจากฟังเอี้ยนลี่เฉียงแล้ว ซุนปิงเฉินก็จ้องไปที่ภูเขาไกลๆ อย่างวิตกครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาวและบอกเขาว่า

“จำไว้ลี่เฉียง หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันหรืออันตรายเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของเรา เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลกับความปลอดภัยของพวกข้าเจ้าเพียงเอาตัวรอดให้ได้ นี่คือคำสั่ง

ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเจ้าต่อจากนี้คือการไปสู่เมืองหลวงอย่างมีชีวิต

เมื่อสองวันก่อนข้าส่งมาเร็วไปที่เมืองหลวงแล้วตราบใดที่เจ้าไปถึงจุดพักม้าจุดต่อไปเจ้าจะได้รับการคุ้มกันเข้าสู่เมืองหลวงและกลายเป็นรองผู้บัญชาการกองพันองครักษ์หลวงอย่างเป็นทางการ… "

สีหน้าของซุนปิงเฉินเริ่มเคร่งขรึมอย่างมาก และเสียงของเขาก็เข้มงวดขึ้นเล็กน้อยเมื่อสิ้นสุดประโยค นี่เป็นครั้งแรกที่เอี้ยนลี่เฉียงเห็นซุนปิงเฉินด้วยสีหน้าแบบนั้น

ถ้าเอี้ยนลี่เฉียงจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้รับการเตือนเช่นนี้ คราวที่แล้วมาจากเหลียงอี้เจี๋ย เขาสามารถเตือนแบบนั้นได้ เพราะมันเป็นแค่ความกังวลเท่านั้น

แต่เมื่อมันเกิดขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยสีหน้าและน้ำเสียงของซุนปิงเฉินและคำสั่งเพิ่มเติม มันทำให้หัวใจของเอี้ยนลี่เฉียงเต้นระรัวในทันใด

เขาคิดได้เพียงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ซุนปิงเฉินจงใจเตือนเขาเช่นนี้เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่ในเส้นทางข้างหน้าและอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่?

ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงได้ยินซุนปิงเฉิน เขาก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที

....

ยอดเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้อาจดูเหมือนอยู่ไม่ไกลและสามารถไปถึงได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ใครจะรู้ว่าถนนที่คดเคี้ยวสามารถยืดระยะทางให้กว้างขึ้นทันทีเมื่อคนเริ่มเดินจริงๆ

บางครั้งเราอาจเดินเป็นระยะทางเจ็ดหรือแปดลี้ในครึ่งวันเพียงเพื่อจะพบว่าจะพบว่าผ่านภูเขาไปเพียงหลายสิบวาเท่านั้น

เนื่องจากมีรถม้าอยู่ในขบวนมากมาย ทุกคนจึงต้องใช้ทางเบี่ยงมากยิ่งขึ้น เมื่อมองดูรถม้าหนักที่ลั่นดังเอี๊ยด เอี้ยนลี่เฉียงที่เคยเลิกล้มความปรารถนาที่จะประดิษฐ์รถม้าสี่ล้อแล้ว

เขาก็อดไม่ได้ที่จะถูกจุดไฟอีกครั้ง เมื่อพูดถึงการเดินทางในระยะทางไกลเช่นนี้ ความยืดหยุ่น ความสามารถในการบรรทุก และความเร็วของรถสี่ล้อนั้นไม่สามารถเอารถมาสองล้อมาเทียบได้เลย

ความแตกต่างระหว่างยานพาหนะสองคันนี้คล้ายกับรถไฟธรรมดาและรถไฟความเร็วสูง

โชคดีที่ทุกคนในกองทหารนำอาหารและน้ำมาเพียงพอเพื่อไม่ให้ใครต้องอดอาหาร ถึงอย่างนั้นหลังจากเดินทางครึ่งวัน พวกเขาก็ยังไปไม่ถึงร้อยลี้ในตอนเย็นถ้าวัดระยะทางเป็นเส้นตรง

เอี้ยนลี่เฉียงพบกับเหลียงอี้เจี๋ยและคนอื่นๆอีกสองสามคนอีกครั้งที่ทางแยกบนถนน...

“นายท่านตอนนี้พวกเราอยู่ที่หุบเขาหมาป่า…” เหลียงอี้เจี๋ยขี่ม้ากลับมารายงานซุนปิงเฉิน เขาชี้ไปที่หุบเขาและกล่าวว่า

“หุบเขาภูเขานี้ยาวประมาณสามสิบลี้ ทันทีที่เราผ่านหุบเขาหมาป่าจะมีเมืองตลาดอยู่ข้างหน้าซึ่งเรียกว่า 'ตลาดตระกูลฮุ่ย'

เป็นถนนอีกสายหนึ่งข้างหุบเขาที่ตัดผ่านหุบเขาหมาป่า อย่างไรก็ตามการเดินทางจะมากกว่า 60 ลี้

หากเราผ่านหุบเขาหมาป่าไปได้พวกเราจะไปถึงตลาดตะกูลฮุ่ยก่อนค่ำ ถ้าเราใช้เส้นทางอื่น เราจะต้องเดินทางในความมืดก่อนที่เราจะไปถึงที่นั่น…”

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงได้ยินว่าที่นี่คือหุบเขาหมาป่าเขาก็รู้สึกตกใจ

ภูมิประเทศของหุบเขาหมาป่านั้นอันตรายเกินไป หุบเขาที่ทอดยาวล้อมรอบด้วยสันเขาทั้งสองข้าง ราวกับเขี้ยวหมาป่าที่พันกัน

มีเพียงถนนที่แคบพอที่จะใส่รถสามคันเคียงข้างกันเพื่อเดินทางระหว่างหุบเขา หากพวกเขาถูกดักซุ่มอยู่ในหุบเขานี้พวกเขาจะเป็นเหมือนปลาที่อยู่ในข้อง นอกจากจะมีปีกโบยบินไม่เช่นนั้นไม่มีทางอื่นนี้ได้

เหลียงอี้เจี๋ยรออยู่ที่นี่เพื่อให้ซุนปิงเฉินเดินทางมาทันเพราะหน่วยสอดแนมสามารถอยู่ข้างหน้าได้เพียงสิบลี้จากกองทหารหลัก

นี่เป็นระยะทางที่ไกลที่สุดที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อส่งคำเตือน

หากพวกเขาเข้าไปในหุบเขาอย่างไม่ระมัดระวังและพรรคพวกที่อยู่เบื้องหลังถูกซุ่มโจมตี มันจะไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะเตือนคนอื่นๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด