ตอนที่แล้วเล่มที่ 1 : บทที่ 1 – คำเชิญจากนาฬิกาพก (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1 : บทที่ 3 – ทิวโทเรียล (1)

เล่มที่ 1 : บทที่ 2 – คำเชิญจากนาฬิกาพก (2)


SLR : บทที่  - คำเชิญจากนาฬิกาพก2)

ข้อความสิ้นสุดลง ยอนอูอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบตรวจดูนาฬิกาพกอีกครั้งอย่างร้อนรน เผื่อจะพบร่องรอยอื่น ๆ ของน้องชายหรือหากมีข้อความอื่นถูกซ่อนอยู่ข้างในอีก แต่แล้วเขาก็ไม่พบอะไร

พรึ้บ ยอนอูทิ้งร่างนั่งลงบนโซฟาอย่างหนักและยังคถือนาฬิกาไว้ในมือไม่พูดอะไร บนตัวเรือนมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมดและไม่มีเข็มสั้น เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ประสบการณ์ที่น้องชายของเขาได้พบประสบมาจากอีกฝั่งหนึ่งได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าต่อสายตาของเขา

ยอนอูค่อย ๆ กดปุ่มบนนาฬิกาอีกครั้ง แกร๊ก

ถึงพี่ชายของผมที่จะได้ฟังเสียงนี้สักครั้งในอนาคต ถ้าพี่ได้ยินเสียงนี้...

คลิปเสียงของน้องชายเขาเริ่มเล่นอีกครั้งตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นยอนอูก็กดปุ่มอีกครั้ง

ถ้าพี่ได้ยินเสียงนี้...

ยอนอูกดปุ่มที่นาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อฟังประโยคนั้น ในแต่ละครั้ง เขาก็จะได้ยินเสียงของน้องชายข้างในความคิด เสียงเดิม โทนเดิม ไดอารี่เล่มเดิม

[เริ่มต้นกระบวนการสืบทอดตำแหน่ง]

ขณะนั้นเอง หน้าจอเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาหลังม่านตาของเขา มันคือระบบอินเตอร์เฟส เขาบังเอิญเชื่อมต่อกับหอคอย ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

ฟึ้บ! มีบางอย่างบิดไปมาในช่องท้องน้อยของเขา ราวกับมีงูขดตัวอยู่ข้างในร่างกายและชูหัวของมันขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่สดชื่น แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับว่ามีเมล็ดพันธุ์ประหลาดกำลังแตกหน่ออยู่ในร่างกาย มันคือมานา เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่มีไว้สร้างรากฐานของโลก ทั้งนี้ยังเป็นขุมพลังที่ผู้คนจากโลกอื่นและหอคอยได้รับ

ปั้ง! กลุ่มก้อนมานาระเบิดในร่างกายเขา มันแตกกระจายอย่างยุ่งเหยิงในทุกทิศทางอยู่ในร่างกาย เขารู้สึกบางอย่างข้างในเปลี่ยนไป และจากนั้น กร่อก แกร่ก ร่างกายของเขาเริ่มบิดเบี้ยวตามมาพร้อมกับความเจ็บปวดรุนแรงที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ราวกับกำลังถูกเข็มนับล้านเล่มแทงร่าง

ในโรงเรียนทหารเขาผ่านการฝึกให้อดทนต่อความเจ็บปวดมามาก แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ถึงอย่างนั้น ยอนอูก็ยังรวบรวมสติของเขาไว้แน่น ไม่มีแม้แต่เสียงครวญเล็ดออกมาจากปากของเขา เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม เล่นคลิปเสียงเดิมซ้ำไปซ้ำมาเพื่อฟังเสียงของน้องชาย

ถ้าพี่ได้ยินเสียงนี้...

กระดูกของเขากำลังเปลี่ยนไป ตามข้อต่อต่าง ๆ ถูกปรับใหม่ กล้ามเนื้ออ่อนลงและกระชับขึ้น มีสสารเน่าเหม็นสีดำไหลออกมจากผิวหนังที่ฉีกขาด สิ่งสกปรกทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกขจัดออกไป กล้ามเนื้อและโครงกระดูกในร่างกายได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด

แกร่ก! แกร่ก! เขาแสนเจ็บปวดทรมาน แต่เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่น้องชายของเขาต้องเจอมา ในที่สุดความเจ็บปวดทรมานของกระบวนการที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดก็ได้จบลง

[ปลุกพลังเสร็จสิ้น]

[กระบวนการปลุกพลังของคุณยังไม่สมบูรณ์ ความคืบหน้า: 5%]

[ร่างกายของคุณ ณ ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะดำเนินกระบวนการสืบทอดตำแหน่งให้แล้วเสร็จ ปรับแต่งร่างกายของคุณเพื่อให้กระบวนการสืบทอดตำแหน่งสมบูรณ์ เมื่อร่างกายของคุณได้รับการปรับแต่ง ความคืบหน้าของกระบวนก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน]

[สถานะของคุณตอนนี้ ‘ร่างกายมังกรยังไม่สมบูรณ์’]

[ความสามารถทางกายภาพของคุณดีขึ้นบางส่วน]

[ลักษณะนิสัยของคุณได้รับการยืนยัน]

[ทักษะของคุณได้รับการลงทะเบียน]

[คุณได้รับคุณสมบัติของผู้เล่น คุณสามารถลงทะเบียนภายในโอเบลิสก์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น]

ไม่มีเหตุผลที่จะให้ยอนอูจดจ่อกับเสียงแปลก ๆ ที่กำลังพูดอยู่ ความรู้สึกหนักอึ้งยังคงค้างอยู่ในจิตใจของเขาหลังจากผ่านความเจ็บปวดรุนแรงมา สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่กับนาฬิกาพกเรือนนั้น

ถึงพี่ชายของผมที่จะได้ฟังเสียงนี้สักครั้งในอนาคต...

ขณะที่ยอนอูหมุนนาฬิกา เขาก็ได้รวบรวมความทรงจำอันมีค่าตลอดห้าปีที่น้องชายของเขาทิ้งไว้ในไดอารี่เล่มนี้ ความทรงจำจากการพบเพื่อนร่วมทีมและก่อตั้งอาร์เธีย ความทรงจำแห่งความสุขของพวกเขาหลังจากกำจัดชั้นที่ยากที่สุดได้สำเร็จ ความทรงจำที่พกวเขาหันหลังชนกันเพื่อต่อสู้ในสงคราม ความทรงจำที่เปียกโชกไปด้วยเลือดและความรู้สึกอ่อนล้า ความทรงจำจากจูบแรกกับคนรักของเขา และความทรงจำจากคราบน้ำตาเพราะเธอคนนั้นหักหลัง ความทรงจำของการเดินไปเผชิญหน้ากับศัตรูตามลำพัง ความทรงจำเหล่านี้หลั่งไหลมาราวกับสายน้ำ และเมื่อมันถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ยอนอูก็สัมผัสได้ถึงความสุข ความเศร้า และความรู้สึกทั้งหมดที่น้องชอยของเขาเคยรู้สึก

ยอนอูได้กลายเป็น้องชายของเขา เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เสียงแปลก ๆ ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

[ผู้เล่น: ชา ยอนอู]

[ลักษณะนิสัย: เลือดเย็น]

[ความแข็งแกร่ง: 10]

[ความคล่องแคล่ว: 15]

[พลังชีวิต: 12]

[พลังเวทย์: 21]

[ทักษะ: เนตรมังกร สัมผัสพิเศษ การพยากรณ์]

ยอนอูตื่นขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ล้นเอ่อ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา แผงสีเหลี่ยมใส ๆ ก็ปรากฏต่อหน้าเขา “ทั้งหมดคือเรื่องจริง” เขาได้แต่หวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่เรื่องโกหก เขาคงจะชอบมากกว่าหากมันเป็นเพียงแค่ฝันหรือภาพหลอนเท่านั้น แต่เปล่าเลย ทั้งหมดคือเรื่องจริง

สีหน้าของยอนอูดูเคร่งขรึม ในที่สุดเขาก็ได้รับรู้ทุกสิ่งที่น้องชายของเขาเผชิญมา หรือแม้กระทั่งตัวตนของฆาตกรที่ฆ่าน้องชายของเขาด้วย รวมถึงเหตุผลที่ว่าทำไมน้องชายจึงได้กลับมาในสภาพนั้นหลังจากผ่านไปห้าปี หอคอยคือสถานที่ที่สามารถเปลี่ยนให้คนหนึ่งคนกลายเป็นพระเจ้าได้ แต่สำหรับยอนอู ที่นั่นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าดินแดนป่าเถื่อนที่ผู้คนห้ำหั่นกันเอง และน้องชายของเขาก็ถูกปีศาจที่หิวโหยกัดกินที่นั่น ‘ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็...’

เขาพูดออกมาเสียงดังลั่น “ฉันจะช่วยนายเอง” เขาจะเล่นตามกฏของพวกนั้น “ฉันจะเอาคืนให้สาสมให้ถ้วนหน้าเลย”

ยอนอูได้รับความสามารถของน้องชาย และตอนนี้เขาก็กลายเป็นผู้เล่นที่ผ่านข้อกำหนดขั้นต่ำในการพิชิตหอคอยได้ ถึงเวลาที่เขาต้องเดินไปข้างหน้า ความโศกเศร้าหายไปจากดวงตาของเขา เหลือไว้เพียงความโกรธแค้นอันเยือกเย็นไว้เบื้องหลัง

* * * * *

ยอนอูจ้องมองแผงโปร่งใสตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ “นี่คือหน้าต่างสถานะสินะ” หน้าต่างสถานะมีแท็บสามแท็บที่ระบุว่า “ลักษณะนิสัย” “แอตทริบิวต์” และ “ทักษะ”

ลักษณะนิสัยแสดงถึงบุคลิกหรือความสามารถพิเศษของผู้เล่น ลักษณะนิสัยแรกที่น้องชายของเขาได้รับก็คือ “การปรับตัวอันสมบูรณ์แบบ” เป็นความสามารถในการสื่อสารกับสิ่งที่อยู่รอบตัว น้องชายของเขาสามารถผ่านอันตรายต่าง ๆ มาได้ก็ด้วยความสามารถนี้เพื่อสื่อสารกับวัตถุหรือทักษะต่าง ๆ

แท็บแอตทริบิวต์แสดงถึงการประเมิณความสามารถของผู้เล่น และทักษะแสดงถึงทักษะมาตรฐานที่ผู้เล่นสามารถใช้ได้ภายในหอคอย ‘คล้ายเกมเลย’

เมื่อกล่าวถึงโอเบลิสก์ น้องชายของเขาพูดไว้ว่ามันอาจคล้ายเกมแต่ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องจริง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม ‘ฉันมีลักษณะนิสัย “เลือดเย็น” สินะ’

[ลักษณะนิสัย: เลือดเย็น]

[ความสามารถในการคงไว้ซึ่งความคิดที่มีเหตุผลในทุกสถานการณ์ แสดงถึงภูมิคุ้มกันที่ดีต่อการควบคุมสินใจและการสาปแช่งระดับล้างสมอง]

นี่คือลักษณะนิสัยที่ยอนอูได้มาครอบครองเนื่องมาจากการฝึกในฐานะอาชีพทหาร ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดแม้ในสถานะการณ์ที่คับขันและสั่งการแนวหน้าในกองทัพได้ ‘ไม่เลวนี่’

อันที่จริง ไม่ใช่แค่ “ไม่เลวนี่” มันสมบูรณ์แบบเลยต่างหาก การมีไพ่ตายอยู่ในมือมันเป็นอะไรที่สำคัญมากเพราะมันจะช่วยปกป้องเขาจากโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และทักษะที่แปลกประหลาดนี้ ‘แต่แอตทริบิวต์ของฉันเหมือนจะอ่อนไปหน่อยนะ’ ถึงแม้ว่าเขาจะผ่านกระบวนการปลุกพลังมาแล้วในฐานะผู้เล่นและร่างกายก็เปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ดี

เฉลี่ยแล้วแอตทริบิวต์ของเขาทั้งหมดล้วนต่ำกว่ายี่สิบแต้ม มันทำให้เขาอ่อนแอเกินกว่าจะพิชิตหอคอยที่ซึ่งมีปีศาจซุ่มซ่อนอยู่ทุกหนแห่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรน่าตกใจอยู่ดี เขาไม่รู้วิธีใช้มานา และเขาก็ไม่ได้เก่งหรือมีทักษะอะไรเด่นเป็นพิเศษเลย ความรู้ด้านทักษะก็ยังน้อยเช่นกัน สิ่งเดียวที่เขาพึ่งพาได้ก็คือสัญชาตญาณของตัวเองที่ได้รับการฝึกฝนมาจากสงคราม

ข้างล่างแท็บทักษะ เขาเห็นรายการเหล่านี้

[เนตรมังกร]

[ดวงตาของมังกร มองเห็นความจริง สามารถดูความสามารถของวัตถุหรือบุคคลได้บางส่วน]

[สัมผัสพิเศษ]

[สัมผัสทั้งห้าจะได้รับการเสริมแกร่งอย่างมหาศาล]

[การพยากรณ์ (พิเศษ)]

[สามารถมองเห็นอนาคตอันใกล้]

เนตรมังกรเป็นทักษะเดียวที่น้องชายของเขาทิ้งไว้ให้ผ่านกระบวนการสืบทอดตำแหน่งจากนาฬิกาพก ‘จองอูได้ติดต่อกับมังกรโบราณที่ชั้นสิบเอ็ดเข้าโดยบังเอิญ นี่อาจจะเป็นของที่ระลึกจากความบังเอิญก็ได้’

สายพันธุ์มังกรนั้นเย่อหยิ่งและดุร้ายโดยธรรมชาติ ทั้งยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสวงหาความจริงเช่นกัน ดูเหมือนว่าน้องชายของเขาจะความเป็นตัวเองบางส่วนออกไปทำให้เขามีดวงตาทีมองเห็นความจริงได้ อีกไม่ช้าเขาก็จะรู้เองว่าทักษะนี้มีประโยชน์ต่อเขาอย่างไรบ้าง

‘สัมผัสพิเศษดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นตามลักษณะนิสัยของฉันนะ’ มันเป็นทักษะที่จะช่วยให้เขาควบคุมประสามสัมผัสทั้งห้าได้ดีมากขึ้น: การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การดม และการรับรู้รสชาติ ยอนอูชอบทักษะนี้มากที่สุด เราไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ในสนามรบ เขาต้องค้นหาศัตรูที่อยู่นอกระยะการมองเห็นหรือตามกลิ่นน้ำมันจาง ๆ เขาอาจได้ยินเสียงฝีเท้าของศัตรูที่อยู่ห่างออกไปไกล ทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์มากเมื่อการพิชิตหอคอยเริ่มต้นขึ้น

‘ส่วนเจ้านี่ปั่นหัวฉันสุด ๆ’ ยอนอูมองทักษะสุดท้าย การพยากรณ์ เขาก้มมองนาฬิกาพกที่อยู่ในมือ ‘เพราะเจ้านี่งั้นเหรอ?’

ทักษะต่าง ๆ จะถูกมอบให้ผู้เล่นตามลักษณะนิสัยของพวกเขา แต่บางครั้งสภาพแวดล้อมหรือสิ่งของมีค่าของผู้เล่นที่มีส่วนเช่นกัน โดยเฉพาะทักษะที่ระบุเพิ่มเติมว่า “พิเศษ” จึงกล่าวได้ว่านี่คือทักษะเฉพาะตัวของเขา

‘โอเค งั้นมาลองกันเลย’ ยอนอูสูดหายใจลึก เมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เขาเริ่มต้นโดยนำไปก่อนหนึ่งก้าวจากมรดกตกทอดของน้องชาย เช่นนั้น เส้นทางของเขาจึงอีกยาวไกล คนที่ผลักน้องชายของเขามาเผชิญหน้ากับความตายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกแรงค์สูงด้วยกัน คนพวกนี้แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางคนอยู่มานานร่วมหลายร้อยปี ถ้าเขาจะจับคนพวกนี้มาลงโทษ เช่นนั้นเส้นทางที่เขาต้องเดินยังคงอีกยาวไกลนัก รูปถ่ายของน้องชายเขาผุดขึ้นมาในความคิด ‘นายแค่ต้องการให้ฉันตามหายาวิเศษนั่นใช่ไหม จากนั้นก็ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข แต่...’ เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด ‘ฉันคิดว่าฉันคงเรื่องพวกนี้ผ่านไปง่าย ๆ ไม่ได้แล้วล่ะ’

* * * * *

ยอนอูเริ่มจัดการเรื่องส่วนตัวของเขา

“จ่าชา! คุณพูดอะไรของคุณ? จู่ ๆ ก็จะขอออกจากกองทัพเนี่ยนะ?!” น้ำเสียงผู้บัญชาการของเขาบอกชัดถึงความโกรธผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แล้ว ผู้บัญชาการของเขาเพียงแค่อนุญาตให้เขากลับมายังเกาหลีหลังจากได้รับแจ้งถึงการเสียชีวิตของน้องชายเขา เขาหวังให้ยอนอูใช้เวลาเพียงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ กับตัวเองแต่ยอนอูกลับขอยื่นปลดประจำการโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ถ้ายอนอูเป็นผู้บัญชาการ เขาก็คงจะโกรธเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอนอูไม่ได้แจ้งถึงสาเหตุที่ชัดเจนในการลาออกครั้งนี้เอาไว้

“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? หรือคุณถูกตำหนิอะไรมา? ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แค่บอกผม ถ้าคุณออกผมจะทำยัง...”

“ผมต้องขอโทษด้วยครับ” ยอนอูวางสายทันทีหลังจากกล่าวขอโทษ มือถือของเขาดังขึ้นอีกครั้ง แต่เขากดปิดเครื่องและโยนมันลงถังขยะข้างถนนทันที ผู้บัญชาการดูแลเขาเหมือนกับเป็นลูกคนหนึ่ง ดังนั้นยอนอูจึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ให้ขาดแบบไร้เยื่อใย สิ่งเดียวที่เหลือคือบ้านของเขา และเขาก็เอามันเข้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว บ้านว่างเปล่าตั้งแต่เขาไม่อยู่ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ต่อ เขาไม่ต้องการให้มีสถานที่ที่ให้คิดหันหลังกลับมา

เขาซื้อของใช้มาจำนวนหนึ่ง ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ใบใหม่พร้อมเสื้อผ้าสบาย ๆ และอาหารสนามให้มากเท่าที่หาได้ เขายังเตรียมมีดหลายสิบเล่มที่เคยใช้ในกองทัพ และอุปกรณ์เอาชีวิตรอดบางอย่าง เช่น ชุดปฐมพยาบาล เขาคิดจะซื้อาวุธปืนและระเบิดจากตลาดมืดแต่ก็ยกเลิกความคิดนั้นไป ‘หอคอยสร้างขึ้นมาเพื่อทดสอบทักษะของผู้เล่น ไม่ต้องพึ่งของพวกนี้คงจะดีกว่า อีกอย่างถ้าไม่มีสเบียงทั่วไป พวกกระสุนระเบิดก็จะกลายเป็นภาระเปล่า ๆ’

เมื่อทุกอย่างพร้อม ยอนอูก็เดินออกไปที่สวนสาธารณะลำพังตั้งแต่เช้าตรู่ สวมยีนส์และเสื้อฮู้ดสีดำโดยเอาฮู้ดคลุมถึงดวงตา เขาสพายเป้ที่เต็มไปด้วยเสบียงบนไหล่ขวา เขาเผาเครื่องแบบและกระเป๋าที่ติดตัวมาเมื่อถึงเกาหลีไปแล้ว ‘ความแตกต่างของเวลาระหว่างที่นี่กับในโอเบลิสก์ คงราว ๆ หนึ่งสัปดาห์นับจากรอบล่าสุดเริ่มต้น’

การจะเข้าไปยังหอคอยได้นั้นเขาต้องผ่านสถานที่ที่เรียกว่าทิวโทเรียลก่อน มันถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบผู้เล่นที่ต้องการเข้าสู่หอคอย การเข้าช้าไปหนึ่งสัปดาห์นั้นอาจเป็นผลไม่ดี แต่ยอนอูก็ยังตัดสินใจที่จะเข้าไปอยู่ดี ‘ผู้เล่นที่เริ่มช้าก็ยังมีข้อดีอยู่ ถ้าฉันไล่ตามพวกที่เข้ามาก่อนทัน ฉันก็จะได้รับแต้มเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ลับที่จัดไว้สำหรับผู้เล่นที่เข้ามาช้าด้วย อีกอย่าง...’ แสงวาบปรากฏต่อหน้ายอนอู ‘เวลานี้สินะที่ หมอนั่น จะปรากฏ’

ขณะที่ยอนอูลำดับแผนทีละขั้นในความคิด เขาก็หมุนปุ่มนาฬิกาพกทวนเข็ม แกร๊ก ก้อนแสงขนาดใหญ่ก็ปรากฏใจกลางสวนสาธารณะ และทันใดนั้น เงาหนึ่งก็ปรากฏ มันหมุนวนไปรอบ ๆ เพื่อสร้างเป็นประตู

มันเป็นประตูสู่โลกของหอคอย ยอนอูก้าวผ่านประตูไปโดยไร้ซึ่งความลังเล สายตาของเขาเย็นชากว่าที่เคย ‘จากนี้ไป ฉันจะทำให้ผู้คนที่อยู่หลังประตูนี่ได้รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ฉัน ชา จองอู’

และประตูก็ปิดลงเมื่อเขาก้าวผ่านเข้าไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด