ตอนที่แล้วบทที่ 4 เรื่องแปลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ต้องห้าม

บทที่ 5 อุบัติเหตุ


บทที่ 5 อุบัติเหตุ

เมื่อการสืบสวนคดีไม่มีความคืบหน้า เย่ปิน เฉินฮุ่ยและจางหลาน ก็พากันไปที่บริษัทของหลิวเจียซิ่งผู้โพสต์คลิปวีดีโอ ‘รถเมล์ผี’

แล้วเย่ปินกับพวกก็มาถึงที่หมาย

“บริษัทนี้อยู่ลึกลับมาก!” จางหลานมองอาคารพาณิชย์ทรุดโทรมที่อยู่สุดปลายถนน และกล่าวขึ้นด้วยอารมณ์บางอย่าง

“ใช่! แถมยังหายากมากด้วย!” เฉินฮุ่ยยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาสามคนมาถึงที่นี่นานแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาไปมากในการค้นหาอาคารพาณิชย์ที่ซ่อนอยู่สุดปลายถนนหลังนี้

“เราเข้าไปกันเถอะ” เย่ปินพูดพร้อมกับเดินนำพวกเขาเข้าไปในอาคารพาณิชย์

แม้ว่าด้านนอกของอาคารจะดูทรุดโทรม แต่สภาพภายในที่มองเห็นไม่ได้ทรุดโทรมอย่างที่คนทั้งสามคิด

หลังจากเข้าไปสอบถาม ในที่สุดพวกเขาทั้งสามก็ได้พบ หลิวเจียซิ่งผู้โพสต์คลิปวีดีโอรถเมล์ผี ‘สาย 18’

“โอ้! พวกคุณนี่เองที่โทรมาเมื่อวาน! ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ตอนนี้มีการหลอกลวงทางโทรศัพท์มากเหลือเกิน ผมเลยคิดว่าพวกคุณเป็นคนพวกนั้น” หลิวเจียซิ่งในชุดสูทเรียบง่าย ตัวไม่สูงมาก สวมแว่นตาหนาเตอะ ให้ความรู้สึกของผู้คงแก่เรียน

“ไม่เป็นไรครับ” เย่ปินพูดเรียบๆ

“พวกคุณมาถามเรื่องรถเมล์ผีสินะครับ?” หลิวเจียซิ่งรู้จุดประสงค์ในการมาของพวกเขาอยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องรถเมล์ผี ‘สาย 18’ ดังนั้นเขาจึงถามออกไปตรงๆ

เย่ปินพยักหน้า “เราต้องการรู้เรื่องคลิปวีดีโอนั่นจริงๆ คุณเป็นคนโพสต์มันจริงๆใช่ไหม? ถ้าใช่ มันถ่ายที่ไหนและเมื่อไหร่?”

“เฮ้อ…” หลิวเจียซิ่งไม่ได้ตอบคำถามเย่ปิน แต่กลับถอนหายใจออกมา

“ทำไมคุณถึงได้ถอนหายใจ?” จางหลานถามด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ถอนหายใจทันทีที่ได้ยินคำถาม

“คุณตำรวจครับ คลิปวีดีโอนั่นเป็นเรื่องจริง แต่ผมไม่ใช่คนถ่ายคลิป เพื่อนของผมเป็นคนถ่าย”

“เพื่อนของคุณ? แล้วตอนนี้เพื่อนของคุณอยู่ที่ไหนครับ?” จางหลานรีบถามทันที

“เขา…” หลิวเจียซิ่งพูดได้แค่นั้นก็ก้มหน้าลงทำหน้าเศร้า ไม่นานเขาก็เงยหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เขาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อสองปีก่อน”

เมื่อได้ยินสิ่งที่หลิวเจียซิ่งพูด พวกเย่ปินทั้งสามคนก็ถึงกับตกตะลึง

“ตาย? เป็นอะไรตายเหรอครับ?” จางหลานถามขึ้นด้วยความกังวล

“มันเป็นเพราะคลิปวีดีโอที่พวกคุณพูดถึงนั่นแหล่ะ” หลิวเจียซิ่งกล่าวพร้อมกับมองไปที่คนทั้งสาม

“คุณหมายถึงอะไร? ที่ว่าเป็นเพราะคลิปวีดีโอเหนือธรรมชาตินั่น หมายความว่ายังไง?” เฉินฮุ่ยเป็นผู้กล่าวในครั้งนี้

“เฮ้อ…” หลิวเจียซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง แล้วค่อยๆเริ่มพูด

“คืนหนึ่งเมื่อสองปีก่อน ผมกับเพื่อนขับรถออกไปเที่ยวด้วยกัน วันนั้นเราอยู่กันดึกมาก พอ 5 ทุ่ม เราก็ออกมาจากบาร์ แต่เพราะดื่มกันมากไป เราจึงอยากจะเปิดห้องที่โรงแรมที่อยู่ใกล้ๆเพื่อพักให้สร่างเมาก่อน (เมาไม่ขับ)” พูดถึงจุดนี้สีหน้าของหลิวเจียซิ่งก็ดูเคร่งเครียดขึ้นทันที

“ระหว่างทางที่ไปโรงแรม เราผ่านป้ายรถเมล์ที่ดูเก่ามาก ข้างๆป้ายมีโคมไฟถนนที่ดูโทรมมากเหมือนกัน ผมจำมันได้ชัดเจนมาก ตอนนั้นเพื่อนของผมยังพูดว่า ไฟถนนมันกระพริบดูน่าหงุดหงิดจังว่ะ แล้วเพื่อนของผมก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์”

“จากนั้นเขาก็เอาขวดเหล้าที่ถือมาด้วยเขวี้ยงไปที่ไฟถนนจนมันแตก” หลิวเจียซิ่งกล่าวและหายใจเร็วเหมือนกำลังหายใจไม่ออก

“หลังจากไฟดับ เพื่อนของผมก็เดินกลับมาลากผมให้เดินไปที่โรงแรมต่อ แต่เราเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงรถเมล์เปิดประตูดังขึ้น แล้วเราสองคนก็หันกลับไปมองแถวๆหน้าป้ายรถเมล์ มีรถเมล์โผล่มาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” หลิวเจียซิ่งกล่าวพร้อมกับหายใจเข้าออกถี่ๆและดูเครียดมาก

“รถเมล์คันนั้นดูเก่ามาก กระจกหน้าต่างหลายบานแตกเหลือแค่ครึ่งเดียว ตัวถังเป็นสนิมทั้งคันดูน่ากลัวมาก ผมยังจำหน้าต่างหลังรถได้อย่างชัดเจนว่าที่บนกระจก มันมีรอยมือเปื้อนเลือดติดอยู่”

พอได้ยินคำบรรยายของหลิวเจียซิ่ง ทั้งเย่ปินและคนอื่นๆก็รู้สึกกระดูกสันหลังเย็นวาบ และความหนาวเย็นที่รุนแรงนั้นยังคงรุกรานพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

“พอผมกับเพื่อนเห็นแบบนั้นก็แทบสร่างเมาทันที แล้วเพื่อนของผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรถเมล์คันนั้น เพื่อนของผมถ่ายไปได้ไม่นาน โคมไฟถนนที่เขาใช้ขวดเหล้าปาจนแตกไปแล้ว ได้สว่างขึ้นและส่องแสงจางๆออกมา”

พอพูดถึงเรื่องนี้ หลิวเจียซิ่งก็เริ่มตัวสั่น มีเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากอย่างต่อเนื่อง

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” เย่ปินถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ท่าทางของหลิวเจียซิ่งดูผิดปกติไปหน่อย

“ไม่เป็นไรครับ” หลิวเจียซิ่งปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากแล้วพูดต่อ

“พอไฟถนนสว่างขึ้น จู่ๆก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าป้ายรถเมล์ ร่างนั้นค่อยๆหันมามองเรา แล้วยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาดมาก จากนั้น…” หลิวเจียซิ่งหอบ เหงื่อเย็นผุดจากหน้าผากไม่หยุด และครู่ต่อมาเขาก็กรีดร้องลั่น

“ผี! มีผี! มีผี! ผีมาแล้ว! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ฉันไม่ไป! ฉันไม่ไป!” หลิวเจียซิ่งลุกขึ้นยืน ใช้มือกระชากผมตัวเอง ร้องตะโกนดังลั่น

“เฮ้! คุณโอเคไหม!” พวกเย่ปินทั้งสามคนพอเห็นดังนั้น พวกเขาก็ดูเป็นกังวลเช่นกัน

เย่ปินก้าวออกไปล็อคตัวหลิวเจียซิ่งไว้ ในขณะนี้หลิวเจียซิ่งมีสีหน้าบ้าคลั่งหัวเราะไม่หยุด ปากบ่นพึมพำอย่างต่อเนื่อง

“ฉันไม่ไป! ฉันไม่ไป! ออกไป! ออกไป!”

“หลิวเจียซิ่ง! หลิวเจียซิ่ง!” พวกเย่ปินทั้งสามคนตะโกนเรียกชื่อหลิวเจียซิ่ง แต่ตอนนี้หลิวเจียซิ่งเป็นบ้าไปแล้ว เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งสลับกับบ่นพึมพำอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของหลิวเจียซิ่งก็กระตุก

“เฮ้! เฮ้!” เย่ปินมองหลิวเจียซิ่งพร้อมกับร้องเรียกเสียงดัง

“ฉันไม่ไป! ฉันไม่ไป! ฉัน…” จู่ๆ หลิวเจียซิ่งก็กรีดร้องลั่น หลังจากตะโกนออกมาสองสามครั้ง ร่างกายของเขาก็กระตุกขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วล้มลงไปในอ้อมแขนของเย่ปิน

“เฮ้!”

เมื่อเย่ปินมองไปที่หลิวเจียซิ่งในอ้อมแขน เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบพูดกับเฉินฮุ่ยและจางหลานว่า “เรียกรถพยาบาล!”

เฉินฮุ่ยกับจางหลานผงะไปชั่วครู่ จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือกดหมายเลขฉุกเฉิน 120

ไม่นาน รถพยาบาลก็มาถึง แต่ก่อนที่หลิวเจียซิ่งจะถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาล เขาก็ถูกแพทย์ที่มากับรถพยาบาลแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว “สาเหตุการตาย หัวใจหยุดเต้น”

พวกเย่ปินทั้งสามต่างตกตะลึง มองร่างของหลิวเจียซิ่งที่ถูกนำขึ้นรถพยาบาล ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิวเจียซิ่งจะตายต่อหน้าต่อตาอย่างลึกลับ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ตามคำบอกเล่าของแพทย์ หลิวเจียซิ่งไม่มีอาการผิดปกติใดๆ การตายครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ จากความตื่นเต้นที่มากเกินไปจนหัวใจหยุดเต้น

แม้ว่าแพทย์จะสรุปการเสียชีวิตไว้แบบนั้น แต่ พวกเย่ปินทั้งสามคน ต่างเข้าใจดีว่า การเสียชีวิตของหลิวเจียซิ่ง มันไม่ใช่แค่ “อุบัติเหตุ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด