chapter 95 (อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6)
เกราะสงตรามรุ่น 2!
เมื่อเทียบกันแล้วมันสามารถบดขยี้เกราะสงครามรุ่น 1.
แรงบัลดาลใจของแขนเหล็กทั้งสี่อยู่ด้านหลังมาจากแขนแหล็กของดร.ออตโตปุสและชุดเกราะแมงมุมเหล็ก.
การเคลือบโลหะคริปตอนทำให้เกราะสงครามรุ่น 2 ทนต่อแรงอัดได้ถึง 100 ตันโดยไม่มีการเสียรูปทรงและยังมีระบบดูดซับแรงกระแทกภายในที่ถูปรับปรุงอีกด้วย.
ปืนใหญ่ฝ่ามือก็รวบรวมกำลังและยิงได้เร็วยิ่งขึ้น.
อาวุธหลักคือแขนหุ่นยนต์สี่ข้าง ซึ่งมีความยืดหยุ่นและควบคุมโดยระบบ AI ในตัว แต่ละข้างรับน้ำหนักได้ถึง 20 ตันและยังเคลือบโลหะคริปตอนอีกด้วย.
หากจีนเห็นคงจะตะโกนว่าเสียของจริงๆ โลหะคริปตอนตอนนี้ได้พิสูจน์คุณค่ามันแล้ว แต่ไม่น่าเอามาเสียเปล่ากับสิ่งที่เรียกว่าอาวุธ.
"แขนกลแต่ละข้างรับน้ำหนักได้ 20 ตัน ซึ่งทำได้ไม่ต่างไปจากแขนมนุษย์และมีความเร็วพอที่จะต่อยออกไป 5 ครั้งต่อ 1 วินาที ความถี่การโจมตีแบบนี้ต่อให้เป็นราชาทะเลลึกก็ไม่อาจต้านทานได้."
ซอดพูด แม้ว่าพลังของหุ่นยนต์จะเกินจริง แต่ก็ไม่มีต่างอะไรไปกับฮีโร่และวายร้ายที่มีแรงเริ่มต้นหลายสิบตัน.
"แขนกลยังติดตั้งกล้องที่สามารถรับข้อมูลได้จากทุกทิศทางและมีการติดตั้งเลเซอร์พลังงานสูง มันสามารถตัดและโจมตีได้."
แขนกลก็ได้เปลี่ยนเป็นรูปกรงเล็บขนาดใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นความสามารถในการเป็นอาวุธต่อพลตรีด้วยการยิงเลเซอร์สีแดง จากนั้นก็ทะลุแผ่นเหล็กที่มีความหนา 30 มม. ออกและยังโจมตีห่างออกไป 500 เมตรด้านหน้าอย่างแม่นยำ รูที่ถูกยิงทะลุนั้นได้ละลายจนเห็นได้ชัดเจน.
"เกราะรถถังในตอนนี้ไม่อาจต้านทานเลเซอร์กำลังสูงนี้ได้เลยและปืนใหญ่ฝ่ามือก็มีระยะ 300 เมตรด้วย."
ซอดให้ข้อมูล ท้ายที่สุด การสูญเสียพลังงานนั้นร้ายแรงมากในสภาพแวดล้อมของบรรยากาศ มันดีพอแล้วที่ยิงได้ในระยะ 300 เมตรได้.
พลตรีจ้องไปที่เกราะเหล็กรุ่น 2 ด้วยสายตาที่แหลมคม มันมีค่ามาก สำหรับซอด ภายในคืนนั้น เขาได้ผลิตอาวุธที่สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดอย่างราชาทะเลลึกได้.
หน้าที่ของแขนกลหุ่นยนต์ทั้งสี่คือการแทนที่การขาดทักษะการต่อสู้แบบมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้ว มือและขานั้นสั้นไป ซึ่งเทียบไม่ได้กับสัตว์ประหลาดที่มีความยืดหยุ่นเหมือนกับราชาทะเลลึก อย่างไรก็ตาม แขนกลทั้งสี่นี้สามารถทำการเคลื่อนไหวที่ยากลำบากต่างๆด้วยความเร็วสูงมาก แม้กระทั่งซอดได้แสดงการใช้แขนกลในการสกัดกั้นกระสุนปืนกลในระยะประชิดได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุด แขนกลทั้งสี่นี้ถูกควบคุมโดย AI ขั้นสูงของเกราะสงครามรุ่น 2 ซึ่งสามารถควบคุมได้หลายรูปแบบภายในอึดใจเดียว.
"มันราคาเท่าไร?"
นายพลอดใจที่จะรอซื้อไม่ไหว.
"2,000,000,000."
ซอดพูดราคา.
"นายต้องบ้าไปแล้ว? เรือบรรทุกเครื่องบินเปล่า(รับน้ำหนักได้ 30,000 ตัน)ยังมีราคา 500 ล้านดอลลาร์ เรือบรรทุกเครื่องบินนี้มีราคา 700 ล้านดอลลาร์และเครื่องบินแต่ละลำมี 500 ล้านดอลลาร์ เมื่อรวมกันแล้วมันก็ยังมีราคาไม่ถึง 2 พันล้านดอลลาร์!"
นายพลอดที่จะพูดไม่ได้.
มันก็แค่เกราะสงคราม มีราคาเทียบเท่าเมื่อเทียบกับมูลค่าเรือบรรทุกเครื่องบินรวมทั้งเครื่องบินทั้งหมด?
"ท่านนายพล ฉันแค่รับผิดชอบในการเสนอราคา ไม่มีการต่อรอง."
ซอดพูดพร้อมกับถอนหายใจ.
"ท้ายที่สุด ผมมีหน้าที่ในการรับผิดชอบในการผลิตอาวุธและการวิจัยในการพัฒนาเท่านั้น หากอยากต่อรองให้ไปคุยกับโอลด์."
ซอดพูดกับเขา.
"แน่นอน ผมขอแนะนำเกราะสงครามอีกเครื่อง."
ซอดพาทุกำคนไปที่เกราะสงครามอันที่สองซึ่งมันดูเหมือนกับชุดเกราะต่อต้านฮัคล์ แต่ทั้งตัวของมันเป็นสีดำ.
"มันเป็นเกราะสงครามที่โครตใหญ่?"
นายพลอดไม่ได้ที่จะผงะ.
"มันมีชื่อว่า จ้าวเกราะเหล็ก ความหนาของมันเป็นสองเท่าของเกราะสงครามรุ่น 1 แต่ไม่มีการเคลือบโลหะคริปตอน มันมีแรง 50 ตันและการป้องกันก็ยอดเยี่ยม ข้อเสียเดียวคือมันบินไม่เร็วเท่ากับเกราะสงครามรุ่น 1-2 เพราะมันหนักเกินไป มือขวามีปืนกลขนาดลำกล้อง 20 มม. กล่องกระสุนอยู่ด้านหลังและแขนซ้ายสามารถยิงมิสไซล์ได้ 3 ครั้ง แกนพลังงานยังเป็นพลังงานแม่เหล็ก ของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น."
ซอดแสดงคุณสมบัติของเกราะจ้าวเกราะเหล็ก.
"มันเป็นเกราะสงครามที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด มันมีพลังมหาศาลและการป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่ข้อเสียของมันคือมันไม่เร็ว."
นายพลมองไปยังจ้าวเกราะเหล็กที่ทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกต่อเหล็กขนาดใหญ่เหล่านี้เต็มไปด้วยความตกใจ!
เขาดูเหมือนจะเห็นฉากที่มันพลิกรถถัง ไร้พ่ายในสนามรบและไม่มีใครทำอะไรมันได้.
"เท่าไร?"
นายพลถาม.
"1.5 พันล้าน."
ซอดตอบ.
นายพลถอนหายใจ.
"ฉันจะกลับไปคุยกับคนอื่น ซอด ฮีท."
นายพลไม่โทรติดต่อกลับไป ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองหรือการสั่งซื้อ.
"ยินดีต้อนรับตลอดเวลา."
ซอดพูด.
หลังจากที่พลตรีกลับมา ทหารอเมริกันก็รู้ทันทีว่าซอดได้ประดิษฐ์เกราะเหล็กตัวใหม่เพื่อออกขาย แต่มันราคาแพงมาก.
จากนั้นพวกเขาก็ได้ข่าวว่าซอดได้เสนอเกราะเหล็กของเขาไปยังประเทศอื่น.
เมื่อประเทศอื่นตกใจที่เกราะสงครามมีราคาแพง กลุ่มน้ำมันของตะวันออกกลางจึงลงมือ.
พวกเขาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังมีเงินจ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่า 2 พันล้านจะแพงเกินไป.
ซอดไม่สนใจยอดขายเกราะสงครามตัวใหญ่ ยังไงซะ มันจะราคาพุ่งในอนาคต ยอดขายจะต้องพุ่งขึ้นอย่างแน่นอน.
ท้ายที่สุดแล้ว ซอดก็ไม่อยากให้ฮีโร่หย่อนยานเกินไป.
"เบ็น เราต้องการพลังของนาย."
หลังจากเจอกับเหตุการณ์ของราชาทะเลลึก แฟนแทสติกโฟร์ทั้งสามก็ไม่มั่นใจเหมือนเมื่อก่อน.
จอห์นนี่(ตอนก่อนหลุดแปลไปเป็น ฟิลิฮัว)คิดว่าเขาไร้พ่ายในโลกนี้ แม้แต่ดาร์กไนท์ซอดก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้หลังจากที่เขาสวมเกราะ แต่เขากลับถูกสัตว์ทะเลตัวนั้นทารุณอย่างสมบูรณ์.
ดังนั้นรี้ดจึงมาหาเบ็นที่กลายเป็นคนธรรมดา.
"รี้ด รู้ไหม ฉันไม่อยากกลับไปอยู่แบบนั้นอีก..."
เบ็นกริมถอนหายใจและพูดว่า เขายังดูข่าวย้อนหลังและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น.
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาร่วมมือกับพวกเขาในการต่อต้านราชาทะเลลึก การบาดเจ็บจำนวนมากจะไม่เกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่อยากกลับไปอยู่ในรูปลักษณ์แย่ๆขนาดนั้น ท้ายที่สุด เขาก็ไม่อาจเปลี่ยนร่างกลับมาเหมือนเดิมได้.
"แต่ เบ็น เราเป็นหนึ่งเดียวกัน เราทุกคนถูกพายุรังสีคอสมิกและได้รับพลัง แม้ว่าดูมจะหายไป แต่เขาก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการได้พลังเหมือนกัน นี่คือพลังที่พระเจ้าประทานมาให้เราเพื่อปกป้องโลก!"
รี้ดไม่ยอมแพ้ เขารู้ว่าคนตรงหน้านั้นถูกชักชวนได้ง่ายแค่ไหน.
"นายคิดว่ารูปลักษณ์ของฉันเป็นของขวัญจากพระเจ้าด้วย?"
ทันใดนั้นเบ็นก็คำรามใส่รี้ด.