ตอนที่แล้ว249 - ความกดดัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป251 - สนทนาจริงจัง

250 - ไม่ต้องห่วงข้าเตรียมการไว้แล้ว


250 - ไม่ต้องห่วงข้าเตรียมการไว้แล้ว

เป็นความจริงที่เอี้ยนลี่เฉียงไม่มีเวลาหรือพื้นที่ส่วนตัวในการตรวจสอบความถูกต้องของคู่มือลับของทักษะที่เย่เทียนเฉิงเคยติดสินบนเขาในช่วงสองสามวันนี้

อย่างไรก็ตามทักษะการยิงธนูของเขาค่อยๆได้รับการยอมรับจากทุกคนในระหว่างการเดินทาง ในสายตาของพวกเขาเอี้ยนลี่เฉียงดูเหมือนจะค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการยิงธนู

เนื่องจากทักษะการยิงธนูของเขากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เอี้ยนลี่เฉียงยังสัมผัสได้ว่าตลอดการฝึกฝนของเขาไม่กี่วันนี้ เขาได้เข้าใกล้พรมแดนของระดับสวรรค์ชั้นที่สี่อย่างช้าๆ

นอกเหนือจากการยิงธนูแล้ว วิชาศีรษะเหล็กที่เขาฝึกฝน ซึ่งเป็นของขอบเขตชั้นแรกของวิชาระฆังทองกำลังจะประสบความสำเร็จ และมันก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ตามคำอธิบายจากคู่มือลับ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะศีรษะเหล็ก ในวิชาระฆังทองคุ้มกาย แม้แต่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่มีความสามารถที่สุดก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี

อย่างไรก็ตาม เอี้ยนลี่เฉียงใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองเดือนในการฝึกฝนวิชานี้ นอกจากประโยชน์ที่ได้รับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแล้วเอี้ยนลี่เฉียงก็นึกไม่ออกว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร

ยิ่งเขามีพลังมากเท่าไร โอกาสรอดของเขายิ่งมีมากขึ้นเมื่อเผชิญกับอันตรายที่กำลังจะมาถึง

เอี้ยนลี่เฉียงแอบเตรียมการในช่วงสองสามวันนี้เพื่อรับมือกับอันตรายที่เขากำลังจะเผชิญ ถ้าเขาลงเอยด้วยการเป็นศพร่วมกลบฝังกับขุนนางกังฉินอย่างเย่เทียนเฉิงนั่นคงเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าที่สุดในโลก

“ถ้าวันนี้เจ้าไม่ช่วยข้าข้าจะประกาศเรื่องที่เจ้ารับสินบนจากข้าให้คนอื่นได้รู้ เจ้าคงรู้สินะว่าผลที่ตามมาร้ายแรงแค่ไหน แม้ว่าข้าจะไม่สามารถหนีไปได้แต่เจ้าก็จะหมดอนาคตเช่นกัน ...” เย่เทียนเฉิงข่มขู่

เอี้ยนลี่เฉียงมองเย่เทียนเฉิงอย่างดูถูกเหยียดหยามและหัวเราะอย่างซุกซน

“เจ้าคิดว่าคนอื่นจะเชื่อเจ้าเหรอ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่บอกเรื่องที่เจ้าติดสินบนวิชา 'สิบการเปลี่ยนแปลงของมังกรเมฆา' ให้กับท่านซุน เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดนั้นจริงๆ?”

อารมณ์ของเย่เทียนเฉิงเริ่มหนักขึ้น “บอกมาสิ ต้องใช้อะไรเจ้าถึงจะช่วยข้า”

“ผลประโยชน์ที่สามารถจับต้องได้ อย่าพูดเรื่องในอนาคตเพราะว่าข้าไม่สนใจมัน แม้แต่ตัวท่านยังเอาไม่รอดยังจะพูดเรื่องอนาคตอะไรอีก”

เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังและหยิบเข็มเงินที่เขาซื้อมาเมื่อสองวันก่อนออกมาแล้วส่องดู

“ข้าซื้อสิ่งที่เจ้าต้องการมาแล้ว หากเจ้ามีผลประโยชน์อื่นใดก็จงรีบเสนอออกมา แล้วข้าจะโยนเข็มเงินพวกนี้เข้าไปข้างใน คิดว่าเจ้าคงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้”

เย่เทียนเฉิงกัดฟันแล้วถอยกลับอย่างเงียบๆเขานั่งลงบนพื้นและเพียงแต่จะมองดูเอี้ยนลี่เฉียงที่อยู่นอกห้องขังเป็นครั้งคราวเท่านั้น

เอี้ยนลี่เฉียงยังคงนิ่งเฉย สำหรับเขาแล้วเย่เทียนเฉิงในปัจจุบันไม่มีอะไรมากไปกว่าคนตายไปแล้วครึ่งตัว ดังนั้นเขาจึงพยายามรีดทุกอย่างของเย่เทียนเฉิงนอกเหนือจากวิชาสิบการเปลี่ยนแปลงของมังกรเมฆา

ค่ำคืนผ่านไปเช่นนั้น

เอี้ยนลี่เฉียงไม่แน่ใจว่าเย่เทียนเฉิงไม่มีอะไรจะมอบให้เขาจริงๆ หรือเขามีแผนอื่น หรือเขาแค่ต้องการทดสอบความอดทนของเอี้ยนลี่เฉียง

คืนสุดท้ายก่อนพวกเขาจะออกจากมณฑลกาน เย่เทียนเฉิงซึ่งถูกขังอยู่ในห้องขัง หยุดพยายามทำข้อตกลงกับเอี้ยนลี่เฉียง

ในทำนองเดียวกันเอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่ได้เข้าใกล้เขาเพราะต้องการวิชาเพลิงผลาญฟ้าเช่นกัน ค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างสงบ

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรับประทานอาหารเช้าง่ายๆที่สำนักงานอำเภอซื่อไห่ที่ทรุดโทรม ซุนปิงเฉินและพรรคพวกของเขาจัดกระเป๋าเดินทางและออกเดินทางทันที

ก่อนออกเดินทางซุนปิงเฉินได้สั่งเหลียงอี้เจี๋ยให้มอบเงินสองร้อยตำลึงไว้กับนายอำเภอคนนั้น

ในทางกลับกันเอี้ยนลี่เฉียงพบมือธนูคนหนึ่งในสำนักงานเขตเขารู้ว่าเขาต้องใช้ธนูเป็นจำนวนมากดังนั้นเขาจึงขอซื้อลูกธนูจากที่นี่เขาไม่ได้ขอลูกธนูจากคนอื่นเพราะเขามีแผนการเป็นของตัวเอง

เอี้ยนลี่เฉียงแขวนลูกธนูที่เพิ่งซื้อมาและกระเป๋าธนูของเขาไว้บนอานม้าเมฆพายุหิมะ จากนั้นผิวปากเรียกโกลดี้ และมันก็กระโดดขึ้นไปบนรถม้าที่บรรทุกสิ่งของด้วยตัวมันเองและนอนอยู่ตรงนั้นอย่างเชื่อฟัง

หลังจากพาเย่เทียนเฉิงไปที่รถม้าของเขาแล้ว ทุกคนก็ออกเดินทาง

เมืองในเขตเล็กๆแห่งนี้ดูเหมือนจะใหญ่กว่าอาณาเขตของตระกูลลู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาคารในเขตเมืองซึ่งถูกพายุทรายโจมตีตลอดทั้งปีนั้นผุกร่อนไปหมดแล้ว

มีคนเดินถนนไม่มากนัก มีคนเพียงไม่กี่คนที่พวกเขาพบเป็นครั้งคราวซึ่งสวมเสื้อที่บุด้วยผ้าฝ้าย และพวกเขาก็มีลักษณะที่รุงรัง พวกเขาขดตัวและตัวสั่นในความหนาวเย็นในขณะที่พวกเขาก้มศีรษะลงขณะทำมาหากินต่อไป

พวกเขาแสดงอาการเฉยเมยและไม่แยแส ดูเหมือนไม่สนใจว่าเอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆเป็นใคร

เสียงกีบเหล็กดังขึ้นข้างๆ ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงหันศีรษะไปด้านข้าง เขาก็เห็นเหลียงอี้เจี๋ยควบขับม้าแรดมาถึงด้านข้าง

“ท่านเล่ยรักษาคำพูดไว้จริงๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมาทุกอย่างล้วนสงบสุข อย่างไรก็ตาม เรากำลังออกจากแคว้นกานในวันนี้มันจะเต็มไปด้วยอันตรายอย่างแน่นอน

ไม่มีผู้คนในรัศมีหลานร้อยลี้นี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับกองทหารที่มีคนเพียงร้อยคนคาดว่ากว่าที่เมืองหลวงจะทราบข่าว พวกเราคงนอนอยู่ในหลุมไปนานแล้ว!"

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณที่เตือนพี่ใหญ่!”

“ยังมีชุดเกราะอีกสองสามชุดสำหรับผู้คุมบนรถม้า บางทีเจ้าควรจะใส่มันด้วย ลี่เฉียง…”

“แค่ก แค่ก..!”

เอี้ยนลี่เฉียงไอสองครั้ง เขามองไปรอบๆก่อนที่เขาจะดึงอกเสื้อออกจากกันและแสดงชั้นสีน้ำตาลที่อยู่ด้านใต้ให้เหลียงอี้เจี๋ยเห็น

“ไม่ต้องห่วง พี่เหลียง ทั้งร่างกายของข้าสวมทั้งชุดเกราะเหล็กและชุดเกราะหนังวัวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…” เขากระซิบ

เหลียงอี้เจี๋ยตกตะลึงเล็กน้อย “หือ? เจ้าใส่มันเมื่อไหร่”

“เมื่อวันก่อน มีร้านอาวุธและชุดเกราะอยู่ข้างจุดพักม้าในหรงอัน ข้าจึงซื้อพวกมันให้กับตัวเอง!” เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะอย่างซุกซน

"เย่เทียนเฉิงเป็นมันเผือกร้อนลูกหนึ่ง แม้ว่าท่านเล่ยสัญญาว่าจะไม่เข้ามาแทรกแซง แต่ตระกูลเย่ก็ทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและต้องทำให้คนจำนวนมากขุ่นเคือง

ดังนั้นอาจมีศัตรูสักคนของตระกูลเย่ที่กล้าเสี่ยงชีวิตบุกเข้ามาในกองทหารของเราเพื่อสังหารเย่เทียนเฉิง "

เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้กล่าวหลอกลวง เมื่อรู้ว่าเขากำลังเดินทางไปพร้อมกับระเบิดเวลา เขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะเจอผู้คนกี่คนที่ตามล่าเอาชีวิตเย่เทียนเฉิงหรือไม่

ชีวิตของมนุษย์อาจมีความยืดหยุ่นหรือเปราะบางอย่างคาดไม่ถึง ผู้โชคร้ายบางคนอาจเสียชีวิตจากลูกหลงระหว่างการต่อสู้ของคนอื่น

ชุดเกราะหนังที่เอี้ยนลี่เฉียงซื้อให้ตัวเองนั้นมีผ้าไหมสามชั้นอยู่ระหว่างหนังวัวสองชั้น แม้ว่าจะดูไม่เด่นชัดนัก แต่ก็สามารถป้องกันลูกธนูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และมีภูมิคุ้มกันบางอย่างต่อกระบี่และดาบ นอกจากนี้ยังมีแผ่นเกราะเหล็กสองแผ่นเพื่อปกป้องส่วนสำคัญตามร่างกายของเขา การสวมชุดเกราะนั้นคล้ายกับการสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและทำให้เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกสบายใจขึ้น

เมื่อเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงได้เตรียมการแล้ว เหลียงอี้เจี๋ยก็ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี ในท้ายที่สุดสิ่งที่เขาทำได้คือไอแห้งๆสองสามครั้ง

“อืม ดีใจที่รู้ว่าเจ้าเตรียมตัวมาอย่างดี ลี่เฉียงจำไว้ว่าท่านซุนบอกว่าเจ้าไม่ควรกดดันตัวเองมากเกินไปหากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ก็เพียงแค่สนใจความปลอดภัยของตัวเองเท่านั้น!”

“ก็ได้ ข้าเข้าใจแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด