[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 119 คืนนี้ต้องหนีให้ได้
ตอนที่ 119 คืนนี้ต้องหนีให้ได้
บริเวณริมถนน
สมาชิกในตระกูลหม่าซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่และยิงโต้กลับด้วยความโกรธเกรี้ยวไปที่กลุ่มนักล่าของบริษัทหลงซิ่งเภสัชกรรม ซึ่งพวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ในทุ่งหิมะโล่งในขณะนี้ ไม่มีแม้แต่ที่ซ่อน ดังนั้นพวกเขาจึงต่างคนต่างทรุดตัวลงหลบกระสุนทันที บ้างก็วิ่งหนีกระจายออกไปทุกทิศทาง
ฉินหยู่ลากหย่งตงเข้าไปหลบกระสุนในร่องหิมะและตะโกนลั่นบอกพันธมิตรของเขา “หยุดยิงโต้พวกมัน! พวกมันข้างหลังจะตามมาสมทบเมื่อได้ยินเสียงปืน รถของพวกมันอยู่ไกลจากที่นี่ เป็นโอกาสของเราแล้ว พวกเรารีบหนีกันก่อนดีกว่า!”
“เอาล่ะ หยุดต่อสู้กับพวกมันได้แล้ว!”
“ลุงหม่า ถอย!”
“……!”
หลังจากที่แมวแก่ตะโกนติดต่อกันหลายครั้ง ผู้เฒ่าหม่าก็ตะโกนกลับบอกลูกน้องใหญ่ผู้กราดเกรี้ยวของเขา หันหลังกลับและวิ่งไปที่ทางแยกบนถนนหายลับไปในความมืด
……
สองนาทีต่อมา
หยวนหัวนั่งอยู่ในรถตะโกนใส่วิทยุสื่อสารในมือ “มันอยู่ที่ไหน! พวกมันงับเหยื่อหรือเปล่า?!”
“หย่งตงมันเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว ฉันถูกถ่วงเวลาไว้ตอนที่ไล่ตามเขา” ชายหัวโล้นอ้าปากหอบเหนื่อยพลางตอบว่า “อีกพวกเพิ่งวิ่งหนีไป ฉันกำลังไปตามถนน”
“เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงปืนอยู่ข้างหน้า ถ้ามันอยู่ใกล้เดี๋ยวจะถึงแล้วครับ” ใบหน้าของหยวนหัวไม่เหลือความในเย็นเหมือนในอดีตอีกต่อไป ตอนนี้เขามีแต่ความกังวลและไม่สบายใจ “ฉันกำลังตามไปแล้วตอนนี้…”
“ระยำ!”
ในช่วงเวลาเดียวกัน ชายฉกรรจ์ผู้นำทีมล่าจากฝั่งหลงซิ่งด่าสาปแช่งด้วยเสียงหยาบคายมาทางวิทยุสื่อสาร “พวกคุณแดกอะไรกันอยู่วะ? คุณไม่ได้บอกว่าคุณจับตาดูหย่งตงอยู่เหรอ?”
หยวนหัวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “นายอยู่ที่ไหน?”
“ทันทีที่ฉันลงจากรถและไล่ตามหย่งตงทัน ก็มีคนมารับเขา พวกมันยิงโต้กลับมา คนของฉันตายไปสามคนแล้ว!” ชายฉกรรจ์หัวหน้าทีมล่าตะโกนอย่างโกรธจัด “คุณช่วยบอกฉันทีซิว่าทำไมหย่งตงถึงเกิดประสาทแดกขึ้นมาได้? เพราะดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะล่อให้พวกเราเข้าไปตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้ามชัดๆ”
หยวนหัวจ้องมองและโต้เถียง “หย่งตงแค่พยายามหาโอกาสหลบหนีเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่มีแรงจะต่อสู้กับใครได้หรอก…”
“เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเป็นคนงี่เง่า! ตอนหย่งตงพบกับอีกพวกหนึ่ง เขาไม่ยิงปืนใส่ด้วยซ้ำ” ชายฉกรรจ์หัวหน้าทีมล่าขัดจังหวะและก่นด่ากลับ “ก่อนการแลกเปลี่ยนตัววันนี้เขาต้องแอบตกลงกับอีกฝ่าย คุณดูออกหรือเปล่า?”
หยวนหัวตกตะลึงเมื่อได้เช่นนั้น
“เดี๋ยวรอสายของคุณฉิง” ชายฉกรรจ์หัวหน้าทีมล่าพูดแล้วจบการพูดวิทยุสื่อสาร
……
บนถนนใกล้หมู่บ้านหนานหยวนไลฟ์
รถทั้งสองคันรีบหันแล่นกลับและมุ่งหน้าเข้าเมือง
พี่เบิ้มฉิงนั่งอยู่ในรถ ดื่มน้ำไปครึ่งขวดด้วยสีหน้าวิตกกังวล จากนั้นจึงบ่นและสั่งลูกชายด้วยเสียงแหบห้าว “ฉันตัดสินใจพลาด...เจ้าพวกซงเจียงและพรรคพวกของมันระยำจริงๆ เจ้าสอง นายไปบอกหยวนหัว มันมาจากไหนให้กลับไปทางนั้นเลย เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีมันแล้ว”
“พ่อ มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะหนีไปจากที่นี่ แต่ฉันเกรงว่าอีกด้านหนึ่งจะมีอำนาจคอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่ ถ้าเรื่อง
ทั้งหมดรั่วออกไป แล้วจะเกิดอะไรขึ้น...?” จู่ๆ ลูกชายคนที่สองก็พูดเตือนขึ้นมา
หลังจากที่พี่เบิ้มฉิงขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกทันที
“ฮัลโหล เฒ่าฉิง?” สิบวินาทีต่อมา สายก็เชื่อมต่อ
“เฮ้ ปกติคุณงานล้นมือนี่ ตอนนี้คุณยุ่งอะไรอยู่หรือเปล่า?” พี่เบิ้มฉิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนิดหน่อย เลยพักอยู่ที่บ้านสักสองวัน เกิดอะไรขึ้น นัดเล่นไพ่อีกเหรอ?” อีกฝ่ายถามอย่างล้อเล่น
“ฉันอยากเล่นไพ่กับคุณจริงๆ” พี่เบิ้มฉิงถอนหายใจและตอบว่า “เอ้อ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกชายของฉัน โดนลักพาตัว...จริง? ฉันจะพูดเรื่องไร้สาระอย่างนี้ได้ไง หือ? เป็นเพราะการขายยาในตลาดซงเจียง ใช่ เรื่องนี้ทำให้ฉันโกรธจริงๆ ...ไม่ ฉันยังไม่ได้ติดต่อกับทางกรมเลย ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ในแผนกและอยู่ในวงการตำรวจด้วย ใช่ แต่ฉันไม่ได้กลัวอะไรอื่น แค่กลัวว่าเรื่องนี้จะรั่วออกไป มันคงมีเรื่องยุ่งตามมา โอเคแล้วไว้เจอกันทีหลังนะ ดี”
หลังจากพูดคุยกันไม่กี่นาที พี่เบิ้มฉิงก็วางสายโทรศัพท์และพูดออกมาเรียบๆ “ไปที่กองกำลังรักษาการณ์เฟิ่งเป่ย เร็วที่สุด”
“เรากำลังหาคอนเน็กชันกับกองทัพหรือเปล่า?” ลูกชายคนที่สองถาม
พี่เบิ้มฉิงพยักหน้าและตอบว่า “หยวนหัวบอกว่าพวกเฒ่าหม่ามีคอนเน็กชันเป็นผู้กำกับการตำรวจซงเจียง เพราะงั้นเราจึงไว้ใจกรมตำรวจไม่ได้ แล้วก็ไอ้พวกโจรเหล่านี้ต้องพาหย่งตงไปด้วย เพราะฉะนั้นพวกมันจะต้องรีบออกจากเมืองหลวง เราหาทหารมาจัดการเรื่องนี้ย่อมดีกว่า”
“อืม จริงด้วยครับ หากพวกเขาต้องการออกไป ก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แค่เราได้ทหารมาช่วยตรวจบัตรเข้าออกของแต่ละคน เรื่องมันจะง่ายขึ้นมากจริงๆ” ลูกชายคนที่สองพยักหน้า
ทันทีที่เขาพูดจบโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พี่เบิ้มฉิงก้มลงมองดู เมื่อเขาเห็นว่าเป็นเบอร์ของหยวนหัว เขาก็กดวางสายทันที
……
ด้านเหนือของหมู่บ้านหนานหยวนไลฟ์
ฉินหยู่สั่งพวกของเขาขณะนั่งอยู่ในรถ “เมื่อพวกลุงหม่ามาถึง เราจะละทิ้งรถทันทีและออกจากเมืองให้เร็วที่สุด”
“เราจะกลับกันแล้วเหรอ? ทำไมรีบร้อนนักล่ะ?” กวนฉีถาม
หย่งตงซึ่งนั่งอยู่ในรถด้วย เม้มริมฝีปากก่อนตอบว่า “ถ้านายไม่ไปตอนนี้ นายจะไม่ได้ออกไปน่ะสิ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินหยู่หันไปมองและถามหย่งตง “หยวนหัวคิดว่าคุณจะทำตามแผนของเขา ตอนนี้เราทุกคนอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้าเราออกไปไม่ได้ คุณก็จบไม่สวยเหมือนกันใช่ไหม?”
หย่งตงก้มหน้าลงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “หยวนหัวไม่มีคอนเน็กชันมากนักที่นี่ แต่พี่เบิ้มฉิงมี คืนนี้พวกนายไม่เพียงแต่ต้องออกจากชายแดนให้ได้เท่านั้น แต่ต่อไปยังต้องอยู่ห่างจากเฟิ่งเป่ยไว้ด้วย”
ฉินหยู่กระโดดลงจากรถหลังจากได้ฟังเช่นนั้น แล้วเดินไปด้านข้างพลางกดหมายเลขของผู้กำกับหลี่
……
สิบนาทีต่อมา
ผู้เฒ่าหม่าและคนอื่นๆ ก็มาถึงจุดนัดพบกับพวกฉินหยู่ และเตรียมที่จะทิ้งปืนและรถยนต์ของตน
ในขณะเดียวกัน
ในบ้านพักที่ซงเจียง ผู้กำกับหลี่อยู่ในชุดนอนกดโทรศัพท์ถึงใครบางคน “คุณได้รับการติดต่อหรือยัง”
“ฉันยังไม่ได้รับการติดต่อจากพวกเขาเลย งั้นคุณเอาหมายเลขที่ฉันให้ไปแล้วให้ใครสักคนโทรหาเขาแทน” ปลายสายอีกด้านเตือนด้วยเสียงแผ่วเบา “เราควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปแทรกกลางในเรื่องนี้”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่ผู้กำกับหลี่พยักหน้า เขาก็ส่งข้อความถึงโทรศัพท์เครื่องใหม่ของฉินหยู่ทันที
……
ริมถนนของหมู่บ้านหนานหยวนไลฟ์
ฉินหยู่หยิบโทรศัพท์มือถือมากดหมายเลขที่ผู้กำกับหลี่มอบให้เขา
“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด...!”
เสียงสายไม่ว่างดังขึ้นทางปลายสาย
หลังจากผ่านไปหลายสิบวินาที ไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่าย ฉินหยู่เริ่มขมวดคิ้วและโทรอีกครั้ง หลังจากรอสักพักก็ยังไม่มีใครตอบ
ผู้เฒ่าหม่ารีบเข้ามาถามเบาๆ “การติดต่อเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่มีใครรับสาย” ฉินหยู่ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “รอสักเดี๋ยว เขาอาจจะติดต่อกลับมาทีหลังก็ได้”
“ไม่ได้ตกลงกันล่วงหน้าเหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงไม่รับสายล่ะ” ผู้เฒ่าหม่ามีความกังวลเล็กน้อย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉินหยู่ส่ายหัว
ผู้เฒ่าหม่าก้มลงมองนาฬิกาแล้วเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง “เราอยู่ไม่ไกลจากจุดยิงกันเมื่อกี้ ถ้าตำรวจท้องที่มาเราจะลำบากนะ”
“ฉันจะลองอีกที” ฉินหยู่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกดหมายเลขของผู้กำกับหลี่ทันที
……
จุดตรวจทางเข้าออกของเมือง
นายทหารจ่าสิบเอกชาวยุโรปอ้วนถือถ้วยกาแฟดำเข้มข้นไว้ในมือขวาเดินขมวดคิ้วเข้าไปถามชายหนุ่มคนหนึ่ง “เฮ้ ที่นอกเมือง สถานีตำรวจส่งรายงานการสอบสวนร่วมกันเข้ามา อ้างว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งแอบขายอุปกรณ์ทางทหารระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่วนมากตรงกับเวรนายรับผิดชอบ...นายรู้ไหม?”
ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม “รถบรรทุกวัสดุทุกคันที่เวรผมดูแล จะปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง ผมจึงปล่อยมันตามระเบียบครับผม”
……………………………………………………………