272 - ยั่วยุ
1583 - ยั่วยุ
ในท้ายที่สุดสือฮ่าวก็ให้จินไท่จุนและเซียนอมตะหวังศึกษาหีบไม้ใบนั้นจนพอใจ
“รอให้เราศึกษามันอีกสักหน่อยแล้วค่อยกลับมารับมันในอีกสองวัน” ผู้สูงสุดที่มีลักษณะร่างกายเหมือนกับก้อนหินกล่าวออกมา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องการฟังประสบการณ์ของสือฮ่าวเกี่ยวกับหีบไม้ใบนี้
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสขาเดียวจากดินแดนปิดผนึกทราบเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ออกจากสถานที่แห่งนี้สือฮ่าวก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน กลุ่มคนแห่กันมารอบๆตัวเขาผู้คนเหล่านั้นล้วนกระตือรือร้นจนทำให้เขารู้สึกขนลุก
“สหายน้อยเจ้ามีคู่บำเพ็ญเต๋าหรือยัง? ข้ามีหลานสาวคนหนึ่งงดงามมากที่สุดในเมืองจักรพรรดิแห่งนี้พวกเจ้าคงเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสหัวโล้นคว้าแขนของสือฮ่าวไว้ไม่ให้เดินไปไหน
“สหายน้อยอย่าไปฟังเรื่องไร้สาระนี้ หลานสาวของเขาอายุเกือบสามหมื่นปีไม่ใช่คนรุ่นเดียวกับเจ้า” ผู้อาวุโสอีกคนเปิดเผยออกมา
สือฮ่าวรู้สึกมึนงง แม้แต่หญิงชราก็ยังถือได้ว่าเป็นหญิงงามที่สุดในเมืองจักรพรรดิและต้องการแต่งงานกับเขา? เพียงแค่ความคิดเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งกาย
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว หลานสาวของข้างดงามราวกับจันทรานางไม่ได้มีลักษณะของหญิงชราแม้แต่น้อย! ที่พวกเจ้าขัดคอก็เพียงเพราะความอิจฉา!” ผู้อาวุโสหัวโล้นคนนั้นตอบกลับ
“ขอบคุณผู้อาวุโสสำหรับความปรารถนาดี!” สือฮ่าวปฏิเสธในขณะที่เช็ดเหงื่อ
“ตระกูลของข้ามีไข่มุกอายุยี่สิบแปดปี ความงามของนางเรียกว่าไม่มีใครเทียบได้ในรุ่นเดียวกัน นางอายุใกล้เคียงกับเจ้า พวกเจ้าควรได้คุยกันก่อน!” ผู้อาวุโสอีกคนพยายามดึงเขาเข้าไป
...
เมื่อสือฮ่าวเข่นฆ่ากลับมาชื่อของเขาก็สั่นสะเทือนทั้งเมืองจักรพรรดิ เขาสามารถนำสมบัติล้ำค่ากลับมาได้ทั้งยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
เรื่องนี้ทำให้ตระกูลต่างๆล้วนเล็งเห็นอนาคตอันไร้ขีดจำกัดของเขาและต้องการที่จะผูกเขาไว้กับตระกูลของตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่พวกเขารู้ว่าสือฮ่าวมาถึงขั้นกลางของอาณาจักรแยกตนเองด้วยอายุเพียงยี่สิบห้ายี่สิบหกปีเท่านั้น
คนมากมายก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นไปอีก
เป็นเพราะว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนเขาจะต้องกลายเป็นผู้นำของเก้าสวรรค์อย่างแน่นอน
“เจ้าเด็กชั่วยังเอ้อระเหยลอยชายอยู่ที่นี่? ลูกของเจ้ากำลังร้องไห้ใหญ่แล้ว!” ในระยะไกลมีหญิงสาวคนหนึ่งตะโกนออกมา
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้สือฮ่าวตกใจเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้อาวุโสคนอื่นๆตกตะลึงอีกด้วย
“ลูกของเขา? ใครจะเป็นแม่ของลูก” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว
กระต่ายหยกจันทราลูบแก้มของนางและพูดว่า“เยว่ฉานของสำนักเซียนสวรรค์”
ปู!
ในระยะไกลเทพธิดาเยว่ฉานที่กำลังซื้อของบางอย่างอยู่แทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อนางได้ยินเรื่องนี้!
แน่นอนว่าชิงยี่ก็รู้สึกอายเช่นกันเพราะนางและเยว่ฉานเป็นหนึ่งคนสองร่าง
“อาข้าจำผิดแล้วอาจบางทีเป็นเซียนสาวของสำนักแยกฟ้าก็ได้”กระต่ายหยกจันทราคิดค้นเรื่องไร้สาระเพื่อช่วยให้สือฮ่าวหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด
มิฉะนั้นผู้อาวุโสกลุ่มนี้จะไม่ปล่อยเขาไป
ฉวีโต้ว ราชันย์สิบสมัย หลานเซียนและคนอื่นๆต่างมองดูด้วยความสนุกสนานในระยะไกล
“โอ้ให้ข้าบอกความลับทั้งหมดให้! ความจริงแล้วผู้หญิงคนนั้นคือหวังซีจากตระกูลหวังนั่นเอง” เมื่อกระต่ายหยกจันทราเห็น สือฮ่าวแยกตัวออกไปได้นางก็กล่าวทิ้งท้ายทันที
ปู!
ตอนนี้ถึงคราวของสือฮ่าวที่พ่นน้ำชาออกมาบ้าง
สำหรับหวังซีนางเต็มไปด้วยความอับอายจนแทบจะกระอักเลือด
ในสถานที่แห่งนี้เกิดการถกเถียงขึ้นอย่างรุนแรง
"ไปกันเถอะ!" สือฮ่าวรีบหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“นับเป็นเด็กหนุ่มอันยอดเยี่ยมจริงๆเมื่อข้าเป็นเด็กก็เคยเนื้อหอมเช่นนี้” ผู้อาวุโสหัวโล้นกล่าวด้วยความชื่นชม
เยว่ฉานเซียนสาวและหวังซีถูกยิงคำถามมาอย่างบ้าคลั่ง สหายเก่าเหล่านั้นต้องการให้โลกเกิดความโกลาหลหรืออย่างไร!
พวกนางได้แต่จ้องมองไปที่สือฮ่าวที่หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
“อย่าพูดไร้สาระอย่างนั้นอีก ตระกูลหวังกับตระกูลจินอาจมาสร้างปัญหาให้เจ้า! บางทีแม้แต่คนจากสำนักเซียนสวรรค์ก็ด้วย!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตักเตือน
“มาก็มาเถอะหรือข้ายังจะกลัวพวกเขา” กระต่ายน้อยตอบกลับอย่างโอหัง
เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศในเมืองจักรพรรดิ์บีบคั้นมากเกินไป ทุกคนรู้ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้าตอนนี้พวกเขาแค่สนทนาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจชั่วคราวเท่านั้น
แน่นอนว่าคนที่เคราะห์ร้ายจากการตกเป็นเป้าจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน
"เจ้ากำลังจะไปที่ไหน?" ระหว่างทางกระต่ายหยกจันทราถาม สือฮ่าว
มีหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่เดินตามมาต้องการที่จะพาเขาไปร่วมงานเลี้ยงให้ได้
“ข้าจะใช้คุณความดีของข้าเพื่อแลกกับอิสระของตระกูลหินผาให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปสักที” สือฮ่าวกล่าว เขาเชื่อว่าความสำเร็จในครั้งนี้น่าจะเพียงพอที่จะปลดปล่อยพวกเขาจากบาปของบรรพบุรุษได้แล้ว
ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่เขาสังหารทางอ้อมเพียงแค่ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่เขาสังหารก็มีมากมายหลายสิบคนแล้ว
นี่คือลานกว้างขนาดใหญ่ ที่นี่มีเวทีการต่อสู้ขนาดยักษ์โดยปกติมักจะมีคนประลองกันอยู่ที่นี่เสมอ
ในขณะเดียวกันไม่ไกลออกไปมีตำหนักพิเศษภายในเมืองจักรพรรดิ์ชั้นใน นี่คือสถานที่สำหรับแลกรางวัลคุณความดีที่ทำในสนามรบ!
“ฮวง?” ในระยะไกลมีบางคนตะโกนออกมา พวกเขายืนอยู่ที่ขอบเวทีและจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชา
“เจ้าแค่สังหารเด็กรุ่นหลังบางคน แต่ก็กล้ามารายงานความสำเร็จแล้วเหรอ? เจ้าใจร้อนเกินไปจริงๆ” ใครบางคนกล่าวเย้ยหยันออกมา
“เขารีบเร่งที่จะพิสูจน์ตัวเอง คิดว่าความสำเร็จเพียงเล็กน้อยจะสามารถอวดโอ่ในเมืองจักรพรรดิได้แล้วหรือ” อีกคนพูดอย่างเย็นชา
คนเหล่านี้ล้วนอยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองทั้งหมด
“พวกเจ้าเห่าหอนอะไรกัน?” สือฮ่าวตอบกลับยังนิ่งสงบไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย
"เจ้ากำลังพูดอะไร? เพียงฆ่าคนไม่กี่คนก็ต้องการคุยโม้แล้ว? เป็นเด็กก็ควรอ่อนน้อมถ่อมตน หากเจ้าไม่พอใจเรา เจ้าสามารถทำอะไรได้” ใครบางคนพูดออกมาพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหาร
“ความสำเร็จของข้ารับรองว่ามากกว่าบรรพบุรุษในตระกูลของเจ้ารวมกันเสียอีก หากเจ้ามาจากตระกูลจินหรือตระกูลหวังก็จงคลานกลับไปแต่โดยดีอย่าพยายามมาทดสอบความอดทนของข้า!” สือฮ่าวตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า
“บังอาจ! ข้าอยากเห็นว่าเจ้ามีความสำเร็จแบบไหนถึงกล้ามาอวดโอ่อย่างไร้ยางอายที่นี่!” มีใครบางคนจากด้านข้างเวทีตะโกนออกมา
ตอนนี้มีคนหลายคนต่างรุมล้อมเขาอยู่ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตจากหลายเผ่าพันธุ์มีทั้งอาณาจักรเทพสวรรค์ไปจนถึงผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเอง
เมื่อสือฮ่าวกลับมา สิ่งนี้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก หลายคนที่นี่รู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจในความสำเร็จของเขา
“คนเหล่านี้เป็นใคร? ส่งเสียงน่ารำคาญมาก!” กระต่ายหยกจันทรากล่าวตำหนิ
หลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างขมวดคิ้วบางคนรีบออกไปส่งข่าว คนเหล่านี้ต้องการที่จะหาเรื่องฮวงหรือไม่?
ความขัดแย้งอาจเกิดขึ้น! โดยปกติแล้วผู้ที่อยู่รอบๆเวทีการต่อสู้ล้วนแล้วแต่ชื่นชอบความรุนแรงและกระหายในสงคราม มีคนไม่น้อยที่ชื่นชอบสถานที่แห่งนี้และใช้มันในการฝึกฝนตนเอง
นั่นคือสาเหตุที่สิ่งมีชีวิตของที่นี่ถูกกระตุ้นได้ง่ายพวกเขาชอบปั่นความขัดแย้งให้เกิดการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ!
“ลังเลอยู่ทำไม?เอาศิลาคุณความดีของเจ้าออกมาและเปิดเผยความโดดเด่นของเจ้าให้เราเห็น! เรากำลังอยากรู้ว่าเจ้าสังหารใครไปบ้างถึงกล้ามาอวดโอ่ที่นี่” ใครบางคนหัวเราะเย้ยหยัน
สิ่งที่เรียกว่าศิลาคุณความดี เป็นกระดูกชนิดหนึ่งที่สามารถบันทึกจำนวนศัตรูที่ผู้ฝึกฝนในเมืองจักรพรรดิสังหารได้
สือฮ่าวจำได้อย่างชัดเจนว่าครั้งแรกที่เขาเข้าสู่สนามรบ ผู้ฝึกฝนชราในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ได้มอบสิ่งหนึ่งให้กับเขา ในตอนแรกนั้นเขาไม่รู้ว่ามันสามารถทำอะไรได้ แต่หลังจากที่เขาเริ่มการเข่นฆ่าไปมากมายมันถึงแสดงผลลัพธ์ออกมา
“รีบแสดงมันออกมาเถอะว่าศัตรูที่เจ้าสังหารมีมากแค่ไหนพวกเราทนรอที่จะชื่นชมเจ้าไม่ไหวแล้ว” หลายคนล้อเลียนไม่หยุด
สือฮ่าวมองไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชา เมื่อเขารู้ว่าคนเหล่านี้เป็นพวกเดียวกับตระกูลจินและตระกูลหวังเขาก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป